evil spirit นายปีศาจบอกให้รัก

ตอนที่ 148 ไม่มีแม่



ตอนที่ 148 ไม่มีแม่

นีรชาเจอทางออกแล้ว เธอกดโทรศัพท์ไป ที่ที.เอส พร็อพเพอร์ตี้กรุ๊ป

ปลายสายตอบกลับมา เป็นเสียงของเวธนี เลขาท่านประธาน นีรชาถอนหายใจอย่างโล่งอก

“สวัสดีค่ะคุณเวธนี ดิฉันนีรชา จากเอฟเอ สนะคะ พอดีวันนี้ฉันไปที่บริษัทคุณ แล้วเผลอลืม เล่มโปรเจกต์เอาไว้บนโต๊ะคุณภัสกรณ์น่ะค่ะ รบกวนคุณช่วยหยิบเอามาไว้ที่ล็อบบี้หน่อยได้มั้ย คะ ? เดี๋ยวอีกสักครู่ฉันจะเข้าไปเอาค่ะ

เวธนี้รู้สึกประหลาดใจ แต่ก็รับปากเธอ : ได้ค่ะ เดี๋ยวดิฉันหยิบมาแล้วจะเอาวางมาไว้ที่ล์ อบบี้ให้นะคะ ไว้คุณค่อยเข้ามาเอาแล้วกันนะคะ

นีรชากล่าวขอบคุณเวธนี : ” ขอบคุณมาก เลยค่ะ รบกวนด้วยนะคะ ”

” ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องเล็กน้อยเอง ” เวธนี้พูด จบก็วางสาย

Ohyeah ! แผนการสำเร็จ ! เธอแค่เดิน ไปเอางานที่ล็อบบี้ด้านล่าง ไม่ต้องเจอหน้าภัส กรณ์แล้ว !
นีรชายิ้มได้ไม่ทันไร มีอถือที่วางอยู่บนโตะ ก็ดังขึ้น

“ฮัลโหล สวัสดีค่ะ !” นีรชารับสายอย่าง อารมณ์ดี เสียงของเวธนี้ลอดมาตามสาย : ” คุณ

นีรชาคะ คุณภัสกรณ์บอกว่า ให้คุณเข้ามาเอางาน ที่ลืมไว้ด้วยตัวคุณเองน่ะค่ะ”

นีรชาเอ๋อไปเล็กน้อย พูดตะกุกตะกักกลับ ไปว่า : “เมื่อกี้คุณพูดว่า….คุณ เอ่อ คุณภัสกรณ์ ให้ฉัน เอ่อ .. ให้ฉันเข้าไปด้วยตัวเอง อย่างงั้น เหรอคะ ?”

“อึม เห็นคุณภัสกรณ์บอกว่า ยังมีเรื่องที่ อยากจะคุยกับแบบละเอียดๆอีกน่ะค่ะ ”

คุยกับแบบละเอียดๆ งั้นรี ? คุยบ้าอะไร ล่ะ ! นีรชาเริ่มโกรธควันออกหู ! ตาบ้านั่นคิดจะ ทำอะไรอีกนะ ยังไม่พออีกใช่มั้ย !

หลังจากวางสาย นีรชาเกาหัวยิกๆ ด้วย ความมึนงง หาทางออกไม่เจอ

คิดแล้วคิดอีก ทำไงดีๆๆ ! ทำอย่างไงถึง จะหลบเลี่ยงที่จะเข้าไปในห้องทำงานของภัส กรณ์ได้ ?
คิดยังไงก็คิดไม่ออก !

รอจนนาทีสุดท้าย นี่ก็เกือบจะได้เวลาเลิก งานละ โปรเจกต์นั้นคืนนี้ต้องรีบแก้ให้เสร็จ เพราะ พรุ่งนี้ต้องใช้ตอนประชุมอีก

นีรชาหมดหนทาง จำใจต้องพาตัวเองไปที่

ที.เอส พร็อพเพอร์ตี้กรุ๊ป ภาวนาขอให้ภัสกรณ์

เลิกงานแล้วทีเถอะ สาธุ เพี้ยงงงง !

พอไปถึงหน้าห้องทำงานของภัสกรณ์ เห็น คุณเวธนีเลขาเดินออกมาพอดี นีรชารีบถามด้วย ความตื่นเต้น : “คุณเวธนีคะ คุณภัสกรณ์เลิกงาน แล้วหรือยังคะ ?”

เวธนีมองดูนีรชาแบบแปลกๆ : ” ก็วันนี้คุณ ภัสกรณ์มีเรื่องต้องคุยกับคุณไม่ใช่เหรอคะ แล้ วจะเลิกงานเร็วได้อย่างไงล่ะคะ ?”

เวธนี้ได้เห็นหน้านีรชาซีดเป็นไก่ต้ม ก็พูด ปลอบใจเธอว่า :” คุณนีรชา วันนี้คุณภัสกรณ์แก อารมณ์ดีค่ะ ไม่ต้องกังวลไปนะคะ

คุณภัสกรณ์อารมณ์ดี ? แต่ฉันอารมณ์ไม่

ดี !

นีรชาถอนหายใจยาว ก่อนจะยกมือขึ้นเคาะ ประตูห้องทำงานภัสกรณ์
เสียงข้างในนันตอบกลับมาทางลำโพงที่

ติดตรงประตู : ” เข้ามา ”

เสียงประตูเปิดออก นีรชายืนนิ่งอยู่ตรง ประตูห้องขารู้สึกก้าวไม่ออก

” มัวยืนชักช้าทำไมอยู่ ? ตกลงว่าอยากได้ โปรเจกต์งานคืนรึเปล่า ?” ภัสกรณ์นั่งอยู่บน เก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน เดิมทีหน้าตาก็ยิ้มแย้ม แต่ พอเห็นอาการของนีรชา หน้าก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา ขึ้นมาทันที

นีรชาไม่ยอมเข้าไปข้างใน เธอยืนอยู่ตรง ประตู มือเกาะขอบประตูเอาไว้ไม่ให้ประตูมันปิด

: “คุณภัสกรณ์ โปรเจกต์ฉันอยู่ไหนคะ ? รบกวน คุณช่วยหยิบให้ฉันที่ได้มั้ยคะ ?

ภัสกรณ์มองดูท่าทางที่เธอยืนจับขอบประตู อยู่อย่างนั้นอย่างขบขัน : พร็อพเพอร์ตี้กรุ๊ป จำกัด คุณเป็นคนแรกที่กล้า ออกคำสั่งกับผม !

ที่บริษัทที.เอส

นีรชาแอบสะอื้นไห้

” เข้ามา ! ถ้าคุณยังจะยืนอยู่ตรงประตูนั่น กรณ์ข้างหนึ่งถือโปรเจกต์งานของนีรชา อีกมือ

ผมจะเผาโปรเจกต์ของคุณซะ !” ในมือของภัสหนึ่งถือไฟแช็ค ทำท่าจะจุดไฟ

” เฮ้ ! อย่านะ ! ” นีรชาเริ่มร้อนใจ คน อย่างนายภัสกรณ์ทำได้ทุกอย่าง !

นีรชารีบเข้าไปหาภัสกรณ์ ประตูด้านหลัง ปิดไปอย่างเงียบๆ ไม่มีซุ่มมีเสียง

“คุณภัสกรณ์ คืนโปรเจกต์ของฉันมาเถอค่ะ นีรชาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

ภัสกรณ์ยิ้มมุมปากอย่างจอมวายร้าย : เอาคืนให้คุณเหรอ ? คืนไปแล้วจะได้อะไร ?” 11

นั่นไง ว่าละ ! นีรชานึกๆอยากจะกัดเขาอีก

สักที !

ทำไมทุกครั้งที่ได้เจอภัสกรณ์ เธอต้องรู้สึก ไม่มีเรี่ยวมีแรงไปซะทุกที ? ดูเหมือนจะหมด ปัญญาที่จะใช้วิธีการพูดคุยแบบที่มนุษย์ปกติ ธรรมดาเค้าคุยกัน

ภัสกรณ์มองดูนีรชาที่เริ่มโกรธจนหน้าแดง ทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย

ได้เห็นเธอ ได้แกล้งเธอ มันช่างมีความสุ ขจริงๆ !

‘นีรชา คุณมีเวลา 10 วินาทีที่จะตอบคำถามผม ” ภัสกรณ์หยิบงานของเธอขนมา อีก มือก็ถือไฟแช็คขึ้นมาจุดเล่นเสียงดังแช๊ะ แช๊ะ

นีรชากัดฟันกรอดๆ มองไปที่เขา !

“1 ,2 ,3… ” ภัสกรณ์เริ่มนับ นีรชารีบพูดโพล่งออกมา : ” เดี๋ยว เดี๋ยว ! แล้วที่ว่าอะไรดีของคุณ มันคือ อะไร ? !”

ภัสกรณ์ภูมิใจที่เอาชนะได้ เขาโยนโปรเจ กต์กลับไปวางไว้บนโต๊ะ รอยยิ้มแบบซาตานอยู่ บนใบหน้าหล่อเหลา เฉลียวฉลาดของเขา : ” คืน นี้ไปกินข้าวกับผม

อย่าแม้แต่จะคิดเชี่ยว ! นีรชานึกด่าเขาอยู่ ในใจ ปากรีบตอบแบบขอไปที่ : “วันนี้ฉันต้องทำ ล่วงเวลาน่ะ ไม่ใช่นัดกันไว้วันเสาร์แล้วนี่ ? ถึง ตอนนั้นก็ค่อยไปกินก็ได้”

ภัสกรณ์ได้ยินที่นีรชาพูดถึงนัดวันเสาร์ หัวใจก็พองโต

เขาเริ่มยิ้มได้ขึ้นมาหน่อย นัยน์ตาเหมือ นมีแสงไฟสว่างลุกโชน : “วันนี้ดูว่านอนสอนง่าย นะ ยังจำนัดวันเสาร์ได้ซะด้วย”

น้ำเสียงของเขาฟังดูสนิทสนมเป็นกันเองราวกับว่าระหว่างเขาและเธอ ไม่เคยผ่านเรืองราว ของช่วงเวลา 5 ปีนั้นมาก่อน

ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง

แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่นีรชาคิดเอาไว้ ตอนนี้เธอ กลับพบว่า การที่เธอเลือกที่จะกลับมาจากเมือง นอก และเลือกที่จะกลับมาอยู่เมือง C เธออาจจะ คิดผิดจริงๆ

เขาเห็นนีรชานิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ภัสกรณ์ กระดิกนิ้วเรียกนีรชาให้เดินมาหา : ” มานี้หน่อย

สิ”

นีรชารู้สึกตื่นตัวขึ้นทันที : “คุณจะทำ

อะไร ?”

ภัสกรณ์ขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดรำคาญใจ

: ” นีรชา คุณอย่าทำตัวเป็นเม่นได้มั้ย ยังไม่ทัน ไรก็รีบพองขน เตรียมจะสลัดขนแหลมๆใส่ศัตรู ไม่ได้เจอกันมาตั้งห้าปี จะรำลึกความหลังหน่อย

ไม่ได้รึไง !”

นีรชาดูผ่อนคลายลง : “จะรำลึกอะไรล่ะ คุณก็ว่ามาสิ เดี๋ยวฉันฟัง ”

คำพูดของนีรชาทำให้เขาอดขำไม่ได้ ภัส กรณ์กำลังจะพูดต่อ เสียงมือถือบนโต๊ะก็ดังขึ้น
ภัสกรณ์มองไปที่จอมือถือก่อนจะรับรับสาย

” ไฮ. ปาล ! อืม ปะป๊ากำลังทำงานอยู่ โอเค ปะป้าเลิกงานแล้วเดี๋ยวจะซื้อกลับไปให้ ปะป๋าก็คิดถึงปาล ! อย่าดื้อล่ะ อย่าดื้อกับน้า แขรู้มั้ย .. อื้อๆ จับหน่อยๆ . บ้ายบาย ! ”

ปาล เหรอ ? นีรชานึกถึงเด็กน้อยหน้าตา น่ารักเฉลียวฉลาดขึ้นมาได้ หัวใจรู้สึกอบอุ่นขึ้น ทันควัน จะว่าไปก็แปลกมาก ตลอด 5 ปีที่อยู่ เมืองนอก เธอเองก็ฝันถึงเด็กน้อยอยู่บ่อยๆ !

%31 ” น้องปาล โทรมาหาคุณเหรอ ? ปาลคงจะ โตขึ้นเยอะแล้วใช่มั้ย ? ” นีรชาอดไม่ได้จริงๆ เลยเอ่ยปากถามออกไป

ภัสกรณ์ยิ้มอ่อน : “อึ๋ม น้องปาลโทรมาน่ะ คุณชายน้อยขอให้ผมซื้อรถให้เค้าคันนึงนะ !”

นีรชาก็อดขำไม่ได้ มีความรู้สึกอ่อนโยน พลุ่งพล่านอยู่เต็มหัวใจ : “คุณมีรูปของปา ลมั้ย ? ขอฉันดูหน่อยได้มั้ย !”

5 ปีมาแล้ว เด็กน้อยที่ดูดนมจากเต้าของ เธอในตอนนั้น ไม่รู้ป่านนี้จะโตขึ้นเป็นยังไงบ้าง แล้ว

ภัสกรณ์มองดูนีรชาที่ตอนนี้ใบหน้าเต็มไปเปิดดู ด้วยรอยยิ้มละมุน แววตาอ่อนโยน เข้าเลือนเป็ด รูปในมือถือ ก่อนจะส่งให้นีรชา : ” รูปในนี้ใช่ ทั้งหมดเลย คุณลองดูสิ ดูสิว่าจะยังจำเค้าได้ มั้ย ?”

นีรชารีบรับมือถือจากภัสกรณ์ ก้มหน้าก้ม ตา ค่อยๆเลื่อนเปิดดูไปทีละรูป ๆ

น่ารักน่าชังจังเลยลูก ! ดวงตาคู่นั้นดำขลับ กลมโตดังลูกองุ่น แววตาสดใสเป็นประกาย ปาก เล็กๆสีชมพูแดงระเรื่อที่เห็นแล้วอยากจับชักที ใบ หน้าเล็กๆขาวอมชมพู ที่แก้มมีลักยิ้มทั้งสองข้าง

นีรชายิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ชี้ไปที่ลักยิ้ม น้อยๆตรงมุมปากของปาล แล้วหันไปพูดกับภัส กรณ์ : “คุณดูลักยิ้มนี่สิ เหมือนคุณยังกับ แกะ ! ”

นีรชาไม่ได้สังเกตว่า ตอนนี้ภัสกรณ์กำลัง ยืนดูรูปอยู่ข้างๆเธอ เธอกับเขาอยู่ห่างกันเพียง นิ้วเดียว

ภัสกรณ์มองที่รูปที่ มองที่นีรชาที แล้วก็พบ ว่า ปาลช่างดูคล้ายกับนีรชาเอามากๆ !

ไม่ว่าจะเป็นเค้าโครงรูปหน้า ดวงตา จมูก โด่งเป็นสัน ไม่มีอะไรที่ไม่เหมือน !
ภัสกรณ์รู้สึกตกใจขึ้นมาในทันที

“ภัสกรณ์ คุณไม่ค่อยมีเวลาดูแลลูกใช่ มั้ย ? ทำไมดูปาลไม่ค่อยยิ้มเลยล่ะ ?” นีรชา ถามเขาอย่างสะเทือนใจ ปาลเพิ่งจะแค่ห้าขวบ เอง แต่กลับดูเหมือนมีแต่ความเศร้าหมอง

ภัสกรณ์เองก็ไม่เคยฉุกคิดมาก่อนจนได้ยิน ที่นีรชาพูด ก็เลยรู้สึกผิดจริงๆ : ” ผมคงยุ่งเกินไป ไม่มีเวลาให้ลูกเลยจริงๆ แต่ว่า ผมซื้อของเล่นให้ เค้าเยอะแยะเลยนะ ! ที่บ้านผมมีสามห้องเลยนะ ที่เต็มไปด้วยของเล่นของปาลนะ !”

นีรชาโมโห : ” ภัสกรณ์ คุณนี่ไม่รู้เลยใช่

มั้ยว่าเป็นพ่อคนต้องทำยังไง ? ! ของเล่นมัน จะแทนที่ความรักจากพ่อแม่ได้ยังไงกันล่ะ ?”

ภัสกรณ์สีหน้าสลด แอบรู้สึกหดหู่ : ” ความรักจากพ่อแน่นอนว่าผมพยายามมอบให้เค้า เต็มที่ แต่ปาลไม่มีแม่ ความรักจากแม่ ผมก็ไม่รู้ จะหามาให้เขายังไง..”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ