บทที่ 76 เฉินจิ้นลาศีล

เมืองเจียงโจว หมู่บ้านเสิ่น

” นายลาศีลได้เมื่อไหร่?” เหอเหล่าซานถามอย่างกังวล และรีบร้อนใจ

ปีศาจลามกเว่ยอูซินและฮุย โสงต่างก็สายหัว

ทั้งคู่ได้มาฝึกฝนที่นี่กับเฉินจิ้น

อย่างไรก็ตาม เฉินจิ้นเก็บตัวถือศีลอยู่ในห้อง

อีกอย่าง พวกเขาได้รับคำสั่งตายตัว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม้ว่าท้องฟ้าจะตกลงมาพวกเขาก็ไม่ควรไปรบกวนเขา

ไม่เพียงแค่นั้น เฉินจิ้นยังจัดค่ายประสาทหลอนรอบห้อง แม้ว่าจะเป็นปีศาจเว่ยอูชินและฮุยโสงก็ไม่สามารถเข้าไปได้

“ตกลงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

ฮุยโสงถาม

เหอเหล่าซานจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้พวกเขาฟัง

“แม่งเอ้ย ทูตผีแห่งดินฟ้าหาที่ตายชัดๆ!”

เมื่อฮุยโสงรู้ว่าได้สังหารหวงฉวน ได้ปล้นซ่งซึ่งเหย็น จาก นั้นก็กำจัดแถ่ฉวน จะระเบิดทันที
ปีศาจลามกเว่ยอูซินนิ่งกว่า”คุณสามารถเอาชนะพวกเขา ได้หรือไม่?”

หลังจากฝึกฝนคัมภีร์หมอจึง ตอนนี้ฮุยโสง เป็นแค่บูโตขั้น สูงสุด ขาหนึ่งข้างได้ก้าวเข้าสู่อาณาจักรปรมาจารย์จ่วย

กล่าวอีกนัยหนึ่งว่า ขาหนึ่งครึ่งได้ก้าวเข้าสู่การฝึกฝนชั้น แรกนั่นคือ “แดนเหนี่ยวนำ” และไม่ใช่คู่ต่อสู้ของทูตผีแห่ง ดินฟ้าแน่นอน

ปีศาจลามกเว่ยอูซิน ตอนนี้เขา ได้เข้าสู่ขั้นแรกของการ ฝึกฝนนั่นคือ “แดนเหนี่ยวนำ” ตามที่นายกล่าว แดนบูโด ก็ คือปรมาจารย์จ่วย

แม้ว่าเป็นเขา เผชิญหน้ากับทูตผีแห่งดินฟ้าที่มีชื่อเสียงอยู่ แล้ว เขามั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะหนึ่งในนั้นได้ แต่ต้อง เผชิญหน้ากับทูตผีแห่งดินฟ้าทั้งสองในเวลาเดียวกัน เขาไม่ แน่ใจเลยว่าจะสามารถชนะได้ไหม

” ไม่รู้ว่านายจะออกมาเมื่อใด แต่นายหญิงและคุณหวาง นั้นไม่สามารถรอได้ ไม่มีใครรู้ว่าเจิ้งตงหยางเป็นคนแบบ ไหน” เว่ยอูซินพีมพำ” ผมคนเดียว ไม่แน่ใจ แต่ถ้าเพิ่มเสิ่นเสี้ ยงหรุง มีหวัง! ”

แต่ถึงแม้จะมีเสิ่นเสี้ยงหรุง เว่นอูซินก็ไม่ได้มั่นใจร้อยเปอร์ เซ็น
เพราะว่า เขาก็ได้ยินมานานแล้วเกี่ยวกับชื่อเสียงของทูต

แห่งดินฟ้า

ชื่อเสียงของสองคนนี้ ในโลกแห่งบูโดนั้นไม่น้อยกว่าหลี่ เฉิงเย่ แม้กระทั่งมีข่าวลือว่าทูตผีแห่งดินฟ้าร่วมมือกัน ไม่แพ้ หลี่เฉิงเย่คนแรกภายใต้ปรมาจารย์

แต่ยังไงก็ต้องไปลองดู

ปีศาจลามกเวยอูซินก็ได้ไปหาเงินเลี้ยงหรุงทันที

เสิ่นเสี้ยงหรุงรู้ว่าปีศาจลามกเว่ยอูซินมาเยี่ยม เขาก็ยุติ การฝึกฝนและออกมาต้อนรับเว่ยอูซินทันที

แม้ว่าเว่ยอูซินจะเป็นทาสของเฉินจิ้น ยอมรับว่าเฉินจิ้นเป็น เจ้านาย แต่เมื่อเว่ยอูซินได้ทะลุเป็นปรมาจารย์จ่วย เสิ่นเสี้ยง หรุงก็มองเขาเป็นระดับเดียวกัน

มีส่วนของเฉินจิ้น

แต่ส่วนมากก็เป็นเพราะตัวเว่ยอูซินเอง

หลังจากที่เว่ยอูซินเข้าสู่ปรมาจารย์จ่าย ทั้งสองคนก็เคย ประลองฝีมือกัน อย่างไรก็ตาม เว่ยอูซินแข็งแกร่งกว่าที่เขา คิดไว้มาก ในฐานะปรมาจารย์จ่วยที่ผ่านศึกมามากมาย อย่างเสิ่นเสี้ยงหรุงกลับแพ้ให้เว่ยอูซิน!

“คุณเสิ่น เรามีบางอย่างอยากจะขอ!” ปีศาจลามกว่ยอูซิ นกล่าวอย่างตรงไปตรงมา
“ถ้าเป็นสิ่งที่ผมทำได้ ผมจะไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน!” เสิ่น เสี้ยงหรุงกล่าวอย่างรวดเร็ว

เว่ยอูซินเป็นคนที่เฉินจิ้นเชื่อใจที่สุด มีเรื่องขอความช่วย เหลือจากเขา เขารู้สึกมีความสุขด้วยซ้ำ

ตอนนั้นเฉินจิ้นกล่าวว่า เสิ่นหรัวสามารถเข้าสู่บูโดขั้น สูงสุดภายหนึ่งสัปดาห์ พวกเขาทั้งหมดเชื่อในสิ่งที่เฉินจิ้น ปรมาจารย์ผู้มีความสามารถพูด แต่ลึกๆ แล้วพวกเขาก็อต ไม่ได้ที่จะไม่เชื่อ

อย่างไรก็ตาม ความจริงก็คือเสิ่นหรัว ทะลุเข้าสู่อาณาจัก รบูโดขั้นสูงสุดภายในหนึ่งสัปดาห์ เร็วกว่าปกติสามถึงห้าปี ทำให้ทุกคนในตระกูลเสิ่นตกใจ สิ่งนี้ทำให้ทุกคนในตระกูล เสิ่นเริ่มเชื่อที่เฉินจิ้นบอกว่าจะให้เสิ่นหรัวเข้าสู่ปรมาจาร ย์จ่วยภายในหนึ่งปีอย่างแท้จริง หากเป็นเช่นนั้น ถึงตอนนั้น ตระกูลเสิ่นจะมีปรมาจารย์จ่วยสองท่าน เพิ่มความแข็งแกร่ง เป็นสองเท่า

ไม่เพียงแค่นั้น ปีศาจลามกเว่ยอูซินที่ติดตามเฉินจิ้นได้ ทะลุเข้าไปในอาณาจักรเป็นปรมาจารย์จ่วยเมื่อสิบวันก่อน สิ่งนี้ทำให้คนในตระกูลเสิ่น ดูเคารพเฉินจิ้นเหมือนเทพ! เฉินจิ้นไม่เพียงแต่มีพรสวรรค์ท่านั้น ร้ายกว่าเจิ้งตงหยาง แห่งตระกูลจิ้งในช่างจิง เขายังสามารถทำให้ทุกคนรอบตัว เขาแสดงปาฏิหาริย์ได้ตลอดเวลา
สิ่งนี้ทำให้เสิ่นเสี้ยงหรุงตัดสินใจอย่างเด็จขาดว่า ไม่ว่าจะ เกิดอะไรขึ้น ตระกูลเสิ่นก็จะพึ่งพาเฉินจิ้นเรือลำใหญ่นี้

นอกจากเสิ่นหรัวที่เป็นศิษย์ของเฉินจิ้นแล้ว เสิ่นเสี้ยงหรุง ยังหวังว่า เขาจะสามารถติดต่อกับทายาทสายตรงของเฉิน จิ้นได้มากขึ้น เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้ใกล้ชิดสนิทกันมากขึ้น เว่ยอูซินจึงได้รีบบอกทุกอย่างให้กับเสิ่นเสี้ยงหรุง รวมถึง สิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญคือตระกูลเจิ้งในช่างจิง นี่คือสิ่งสำคัญที่สุด

ไม่ว่าเสิ่นเสี้ยหรุงจะตอบรับคำเชิญของเว่ยอูซิน ที่จะไปฆ่า ทูตผีแห่งดินฟ้าด้วยกันหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าเขาเต็มใจที่จะ ยืนอยู่ข้างพวกเขาจริงๆ หรือไม่ เขามีความกล้าที่จะเผชิญ หน้ากับตระกูลเจิ้งในช่างจิงกับพวกเขาหรือไม่

สิ่งนี้จะเป็นตัวตัดสินอนาคตของตระกูลเสิ่นโดยตรง

หลังจากที่เสิ่นเสี้ยงหรุงฟังจบ เขาครุ่นคิดสักสองสาม วินาทีแล้วเขาก็ตอบตกลง

เจิ้งตงหยางเดินไปทางใต้ เอาชนะปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ สองคนติดต่อกัน เขารู้ดี

แต่หลังจากได้เห็นพลังของเฉินจิ้น เขาเชื่อว่า เฉินจิ้นร้า ยกาจและแข็งแกร่งกว่าเจิ้งตงหยางที่อยู่ในช่างจิ้ง!
อีกอย่าง นี่ เป็น โอกาสที่ยอดเยี่ยม การยืนอยู่ข้างเฉินจิ้น ในเวลานี้ ต่อไปเฉินจิ้นจะปฏิบัติต่อตระกูลเสิ่นอย่างดี แน่นอน

เมื่อเห็นเสิ่นเสี้ยงหรุงตอบตกลง ปีศาจลามกเว่ยอูชินและ เสิ่นเสี่ยงหรุงจึงออกเดินทางทันที

ด้วยกองกำลังของตระกูลเสิ่น ควบคู่ไปกับตระกูลในเมือง เจียงโจว ตระกูลเหอ หวาง และกองกำลังหวงฉวนอื่นๆ ใน ไม่ช้าพวกเขาก็รู้ร่องรอยของทูตผีแห่งดินฟ้า

อย่างไรก็ตาม เมื่อเว่ยอูซินและเสิ่นเสี้ยงหรุงจากไป ก็ไม่มี

ข่าวคราวของพวกเขาอีกเลย

วันรุ่งขึ้น เจิ้งตงหยางและเวินหงอี้ต่อสู้กันในเจียงหนาน การต่อสู้ครั้งนี้ ดำเนินการอย่างเปิดเผยในตระกูลเวิน ดำเนินอย่างเปิดเผยในแดนบูโดเย้นเชี่ย

เมื่อทุกคนคิดว่าเจิ้งตงหยางจะแพ้พ่ายในครั้งนี้ หยุด หัวใจที่คิดว่าไม่มีคู่ต่อสู้ในบูโด แต่แล้ว ความจริงก็ได้ตบ หน้าพวกเขาแรงๆ

การต่อสู้ระหว่างเจิ้งตงหยางและเวินหงอี้กินเวลาหกชั่ว

โมงเต็มๆ
หลังจากทำลายคฤหาสน์ทั้งหมดของตระกูลเวินแล้วเรื่อง

นี้จึงจะจบลง

ผลลัพธ์ที่ได้เกินความคาดหมายของทุกคน

เจิ้งตงหยางไม่ชนะ

แต่เขาก็ไม่แพ้เช่นกัน

หลังจากหกชั่วโมงของการต่อสู้ที่หนักหน่วง เจิ้งตงหยาง กลับสู่สีเงินหงอี้ที่อยู่ชั้นกลางปรมาจารย์

ผลลัพธ์นี้ ทำให้ทุกคนตกใจ

ในวันนั้น ได้เกิดแผ่นดินไหวอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ในแดนบูโด

เจิ้งตงหยางที่เพิ่งเข้าสู่ปรมาจารย์ในเวลาไม่ถึงเดือน ได้ เอาชนะปรมาจารย์ขั้นต้นผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองคนติดต่อกัน แม้ว่ามันจะน่าแปลกใจ แต่ก็ไม่ยอมรับไม่ได้

อย่างไรก็ตาม สามารถสูสีกับเวินหงอี้ที่เป็นชั้นกลาง ปรมาจารย์ สิ่งนั้นทำให้ทุกคนต่างตกตะลึงกันหมด

ต้องรู้ว่า ชั้นต้นและชั้นกลางปรมาจารย์นั้น แตกต่างกัน ราวฟ้ากับดิน

ตัวอย่างเช่นปรมาจารย์คนเก่าชาโป๊เยินในเมืองเย็น ตลอดชีวิตของเขา หยุดอยู่ในช่วงชั้นต้นปรมาจารย์เท่านั้นส่วนเจิ้งตงหยาง ที่เพิ่งเข้าสู่ปรมาจารย์ สามารถสูสีกับชั้น กลางปรมาจารย์เวินหงอี้ แทบจะกล่าวได้ว่าเป็น ประวัติการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนและในอนาคตก็คงไม่มีการ

เกิดขึ้นอีก! จนถึงเวลานี้ ทุกคนจึงเข้าใจว่า เหตุใดเจิ้งตงหยางจึง

ยืนยันที่จะเดินทางต่อไปทางใต้เพื่อท้าทายเวินหงอี้

เพราะว่า เขามีความมั่นใจนี้

เมื่อเผชิญหน้ากับเวินหงอี้ซึ่งอยู่ชั้นกลางปรมาจารย์ เขา ไม่ได้แสวงหาชัยชนะ เพียงแค่ไม่แพ้ หัวใจที่ไร้คู่ต่อสู้ ก็ยังคง มั่นคงไม่หวั่นไหว

ในวันนี้ ชื่อของเจิ้งตงหยาง ดังก้องไปทั่วแดนบูโดเย็น

เชี่ยว

เกือบทุกคนที่รู้ชื่อนี้ ชื่อนี้ จะทิ้งร่องรอยที่แข็งแกร่งในแด นบูโดเย็นเซี่ย

ในอนาคต เขาจะเป็นผู้นำในแดนบูโดเย็นเซี่ยอย่าง

แน่นอน

คาดว่าจะทะลุการมีอยู่ของปรมาจารย์

ในตอนนี้ เฉินจิ้นยังคงอยู่ในช่วงเก็บตัวถือศีล
การทะลุของเขา ใช้เวลานานกว่าที่เขาคิด

เพราะว่า หลังจากการเกิดใหม่ เขาได้ฝึกฝนพลังหวนด้วน ในขั้นตอนนี้ พลังหวนต้วนทั้งหมดที่เขาได้รับ ได้มาจากการ เปลี่ยนแปลงของมุกหวนด้วนที่เปลี่ยนเป็นเรกิแห่งดินฟ้า

พลังหวนตัวนเล็กน้อย ก็ต้องใช้การเปลี่ยนร้อยเท่าของ เรกิแห่งดินฟ้า

ความเร็ว ช้ากว่าที่เฉินจิ้นคาดไว้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ เมื่อห้าวัน ก่อน เฉินจิ้นได้ทะลวงจากขั้นที่สองของ “แดนฝึกลม” ไปยัง ชั้นที่สามของ “แดนทงเสิน” แล้ว

เมื่อคุณเข้าสู่แดนทงเส้น ก็จะแสดงความเก่งกาจออกมา!

เฉินจิ้นรู้สึกแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน มีสองเหตุผลที่เฉินจิ้นไม่ได้ลาศีล

ประการแรก เพราะเขาทะลุไปถึงแดงทงเส้น มุกหวนต้วน จึงเปลี่ยนไปตามลำดับ

เฉินจิ้นค้นพบว่า ครั้งนี้ มุกหวนตัวนสามารถตอบสนองกับ

จิตใจของเขาได้

เขาสามารถสื่อสารกับมุกหวนตัวนได้

จากนั้น เขาก็ค้นพบว่าภายในมุกหวนตัวน มีโลกที่แห้งแล้งอยู่ในนั้น พื้นที่กว้างใหญ่มาก!

เขาไม่รู้ว่าสามารถใช้อะไรอีกได้บ้าง แต่มุกหวนด้วน สามารถใช้เป็นแหวนเก็บของได้

อีกอย่าง เนื่องจากมีโลกที่แห้งแล้งอยู่ข้างใน จึงมีพื้นที่ที่ กว้างใหญ่ไพศาล!

แม้จะมีความรู้เกี่ยวกับเจ้าแห่งโลกปีศาจ แต่เขาก็ไม่เคย เห็นของล้ำค่าที่มีพื้นที่เก็บข้อมูลขนาดใหญ่เช่นนี้

ดังนั้น เฉินจิ้นจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ในการศึกษามุกหวนต้

ประการที่สอง หลังจากก้าวไปสู่แดนทางเดินแล้ว เฉินจิ้นใช้ เวลาในการหลอมแต่งชิ้นส่วนที่ได้จากการประมูลในเจียง ที่ ดูเหมือนทองคำ แต่ไม่ใช่ทองคำ เหมือนหิน แต่ไม่ใช่หิน ไม่รู้ว่าเป็นของอะไร

หลังจากก้าวไปสู่แดนทอง เสิน เฉินจิ้นก็ค้นพบว่าเขา สามารถหลอมปรับแต่งมันได้จริง

จึงกลั่นมันออกมาเป็นกระบี่ปีศาจที่ดำ!

หลังจากทำทั้งหมดนี้เสร็จ เฉินจิ้นจึงลาศีล

อย่างไรก็ตาม หลังจากลาศีลแล้ว เฉินจิ้นก็ไม่พบปีศาจเว่ ยอชินและฮุยโสง
แต่เป็นศิษย์ของเขาที่มีแค่นามเสิ่นหรัว ยืนอยู่ข้างนอก

ค่ายรอเขาอย่างกระวนกระวาย

---

เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ