จักรพรรดิมารหวนคืน

บทที่ 204 พันธนาการแดนเสิน



บทที่ 204 พันธนาการแดนเสิน

“คุณไม่มีคุณสมบัติ”

เฉินจิ้นพูดเสียงเย็น ใส่เผียวหมิงเซิ่ง

เผียวหมิงเซิ่งตะลึงงัน ประโยคนั้นของเฉินจิ้นก็คือคำ

ตัดสินโทษตายของเขา!

“เพราะอะไร?”

เผียวหมิงเซิ่งอุทาน

“ชาติหน้าเกิดเป็นคนเย็นเชี้ยว!”

เฉินจิ้นพูดอย่างไม่ใส่ใจ

เผียวหมิงเซิ่งไม่โง่ เข้าใจความหมายของประโยคนี้ในชั่ว

พริบตา “ต่อให้ฉันต้องตาย ก็จะไม่ยอมให้คุณได้อยู่ดี!”

เซียวหมิงเซิ่งในตอนนั้นก็ระเบิดขึ้นมาทันที แต่ว่า เขากลับไม่ได้ไปทางเฉินจิ้น

เขารู้ว่าต่อให้เขาระเบิดอีก อย่างมากก็ได้แค่สร้าง บาดแผลให้เฉินจิ้น แม้กระทั่งแค่สร้างบาดแผลให้เฉินจิ้นยัง ลำบาก
ในเมื่อก่อนหน้านี้คนที่อยู่กับเฉินจิ้นยังมีอีกสองคน

คิดแล้ว จะต้องสนิทชิดเชื้อกับเฉินจิ้นเป็นแน่!

เช่นนั้นก็ฆ่าพวกเขาสองคนแล้วกัน

“ฉันฆ่าคุณไม่ได้ เช่นนั้นฉันก็ฆ่าคนที่คุณใส่ใจ!” เผียวหมิงเซิ่งคล้ายกับจะเป็นบ้า ไปลงมือกับเชียวเสวี่ย

นก่อน

เขาคิดว่าหญิงงามอย่างเซียวเสวี่ยนอาจจะเป็นผู้หญิงของ

เฉินจิ้น

สังหารเฉินจิ้นไม่ได้ เช่นนั้นก็ไปสังหารผู้หญิงของเขา

เฉินจิ้นใส่ใจสตรีนางนี้ ถ้าเช่นนั้นเฉินจิ้นก็ทุกข์ใจไปเถอะ

ต่อให้ไม่ใส่ใจ ก็ถือเป็นการตบหน้าเฉินจิ้น

หรุงชิงฉือถอนหายใจออกมาครั้งหนึ่ง

ไม่ต้องคิดนางก็รู้การก่อเหตุของเผียวหมิงเชิ่งศครั้งนี้จะ

สำเร็จแน่นอน!

เฉินจิ้นเห็นเผียวหมิงเซิ่ง นึกไม่ถึงว่าคิดจะลงมือกับเชียว

เสวี่ยน

ความปรารถนาที่จะสังหารในดวงตาปะทุขึ้นทันได
เฉินจิ้นก้าวออกไปหนึ่งก้าว ความเร็วราวกับเคลื่อนไหวใน ชั่วพริบตา ปรากฏอยู่หน้าเชียวเสวี่ยน

จากนั้นเตะไปที่เผียวหมิงเซิ่งที่พุ่งมาทางเขียวเสวี่ยนปลิว!

จากนั้น!

ถูนิ้วกลายเป็นกระบี่ ยื่นออกไป!

กระบี่เจ็ดปีศาจ กระบวนท่าที่เจ็ด ว่างเปล่า!

เฉินจิ้นสะสมพลังไว้แต่แรก!

“ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ไปได้?”

“ฉันไม่ยอม ไม่ยอม!”

ก่อนหน้านั้น ฉากที่จึงช่างสื่อหลงหายไปฉายซ้ำอีกครั้งบน ตัวของเผียวหมิงเชิ่ง

เซียวหมิงเซิ่งเค้นสมองคิดทุกวิถีทางแล้ว อยากจะยับยั้ง สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้

แต่ทว่าเขาใช้มาหมดทุกวิธีแล้ว แต่ก็ยังเปลี่ยนแปลง อะไรไม่ได้เหมือนเดิม

เชี่ยโหวหยุน หรุงชิงฉือ รวมถึงซอถึงคงเห็นเหตุการณ์นี้ก็ ตื่นกลัวกันจนถึงขีดสุด

แต่ละกระบวนท่าที่เฉินจิ้นแสดงให้เห็นล้วนแต่น่าหวาด กลัวทั้งนั้น
ก่อนหน้านี้เป็นเพราะทุกคนรุมโจมตีเฉินจิ้น เฉินจิ้นฟัน กระบี่ไปที่จึงช่างสื่อหลงหนึ่งครั้ง ลมหายใจของจึงช่างสื่อ

หลงก็ค่อย ๆ หายไป

ทุกคนล้วนรับรู้ได้

แต่กลับไม่มีกะจิตกะใจมากมายจะไปให้ความสนใจอย่าง ละเอียด

แต่ว่าตอนนี้ พวกเขาสามคนสามารถมองเห็นสถานการณ์ ของเผียวหมิงเซิ่งได้อย่างชัดเจนเต็มสองตา

แม้ว่าพวกเขาจะได้เห็นมากรู้มากกว่านี้ ก็ไม่สามารถที่จะ เข้าใจกระบี่ของเฉินจิ้น!

และอีกอย่าง พวกเขาก็รู้ว่า กระบี่เจ็ดปีศาจ” ของเฉินจิ้นนี้ ไม่ได้รับมันมาจากในวิมานเทพหิมะ

เมื่อก่อน ตอนที่เฉินเพิ่งจะออกลายอยู่ที่เจียงโจวก็เคยใช้

วิชากระบี่ไม่กี่ท่าก่อนหน้านี้!

เฉินจิ้น ตกลงมีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่?

ในตอนนี้ในใจของทุกคนอดที่จะคาดเดาไม่ได้

“เผียวหมิงเซิ่งจากเกาหลี แดนเสินอันดับสูงสุด คนที่เก้า

จุติลง!”
“คารวะคุณเฉิน!”

หลังจากที่เผียวหมิงเพิ่งจุติลงไป เชี่ยโหวหยุนกับหรุงชิง ฉือสบตากันครั้งหนึ่ง

รีบไปพูดแสดงความนับถือ ประคองมือเคารพตรงหน้า

เฉินจิ้น

ในโลกใบนี้ ศักยภาพทางด้านศิลปะการพูดถือเป็นที่สุด เฉินจิ้นแข็งแกร่งเกินไป พวกเขาจำเป็นต้องยอมก้มหัวให้

“ซิงฉือ เป็นตัวแทนเย่าเก๋อ ณ ที่นี้ ขอบพระคุณบุญคุณที่ แต่ก่อนคุณเฉินเคยมอบใบท่ายาให้!”

หรุงชิงฉือพูดอีก

คิดอยากจะกระชับความสัมพันธ์กับเฉินจิ้นให้แนบแน่นขึ้น

อีกหน่อย

เฉินจิ้นพยักหน้า

ความคิดของเย่าเก่อสองคนนี้ เฉินจิ้นจะไม่เข้าใจได้

อย่างไร

แต่ว่า ยังนับว่าพวกเขาฉลาด!

สำหรับการขอบคุณบุญคุณที่ให้ใบทำยา เฉินจิ้นมองว่า เป็นเรื่องที่สมควร
ใบทำยาที่เขาให้ไป เขาเคยปรับแก้มาก่อน เหมาะกับบน

โลกมนุษย์

ตัวเป็นคุณแห่งโลกปีศาจ อย่าว่าแต่โลกมนุษย์เลย ต่อให้ มองออกไปทั้งจักรวาล มีอีกแค่ไม่กี่คนที่ได้รับเกียรติอัน สูงส่งเช่นนี้

“ก่อนหน้านี้ได้ยินที่พวกคุณพูดถึงพันธนาการแดนเสิน เกิดอะไรขึ้นหรือ?”

เฉินจิ้นถามขึ้น

คนไม่กี่คนตรงหน้ารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เฉินจิ้นไม่ได้ เผชิญหน้ากับพันธนาการแดนเสินหรือ?

แต่ว่าประหลาดใจก็ส่วนประหลาดใจ ไม่แน่ใจก็ส่วนไม่ แน่ใจ

ในตอนนี้เองซอถึงคง ผู้นำตระกูลชื่อ รีบพูดออกมา “เรียน นายท่าน จากที่ค้นพบในบันทึกสมัยปัจจุบัน เทพหิมะอาจจะ เป็นเซียน คนสุดท้ายของดินแดนมหัศจรรย์บนโลกใบนี้ อย่างน้อยก็เป็นคนสุดท้ายตั้งแต่มีการบันทึกมา

หลังจากเทพหิมะแล้ว แม้ว่าทุก ๆ คนจะมีพรสวรรค์ที่แตก ต่างกันออกไป ฝึกฝนจนถึงแดนเส้นอันดับสูงสุด หลังจาก เดินทางถึงขั้นสุดแล้ว ก็จะพบว่าไม่มีทางข้างหน้าให้เดินต่อ ไปอีกแล้ว พูดได้ว่าทางขาดแล้ว และก็ยังพูดได้อีกอย่างว่าทางถูกปิดกั้นแล้ว

นี่คือสิ่งที่ทุกคนพูดว่าเป็นพันธนาการแดนเส้นขอรับ!

สรุปคือร้อยปีมานี้ ไม่มีใครสามารถทะลวงพันธนาการนี้ แล้วเดินต่อไปได้ ก้าวออกไปจากลำดับชั้นของแดนเสินอัน ดับสูงสุด หรือแม้แต่เพียงจะก้าวก้าวหนึ่งเข้าสู่ตินแดน มหัศจรรย์ในตำนาน

นี่อาจจะเป็นสาเหตุว่าทำไมในข่าวลือที่ว่า เขตสามเหลี่ยม โบราณสถานแห่งนี้ อาจจะเป็นด้านหลังของวิมานเทพหิมะที่ ถึงดูดแดนเสินชั้นสูงมากม มากมายมาที่นี่”

ได้ยินอย่างนั้น หัวคิ้วของเฉินจิ้นก็ย่นลงเล็กน้อย ตอนนี้เขาก้าวเข้ามาในระดับยอดแดนเสินทงแล้ว แต่เขากลับไม่รู้สึกถึงพันธนาการอะไรเลย

หรือบางทีจะเป็นเพราะบูโดที่ฝึกกับที่พวกคนบนโลกนี้ฝึก มีระบบการฝึกที่ไม่เหมือนกันหรือ?

แต่เห็นได้ชัดเจนว่า เทพหิมะไม่ได้ฝึกบูโต แต่เป็นฝึกฝน

เชียน!

เทพหิมะกลับฝากข้อความไว้อีกว่า

“นักฝึกรุ่นหลัง เสินไห่ขาดแคลน! เรก็แห้งเหือด เส้นทาง

แห่งเซียนแตกดับ! มือมีดหลังฉากอาจจะเป็น..”
มือมีดคือใคร?

บรรดานักสู้ที่อยู่บนโลกเหล่านี้ ฝึกฝนจนถึงแดนเสินอัน ดับสูงสุด เส้นทางถูกปิดกั้นไว้แล้ว ที่ยากจะก้าวหน้าขึ้นไป อีกคือสิ่งที่มนุษย์สร้าง?

ปิดกั้นเส้นทางฝึกฝน

วิธีการเช่นนี้ ควรค่าที่จะถูกเรียกว่าเก่งมากอยู่แล้ว!

ในจักรวาลก็ยังพบได้ไม่มากนัก!

น่าสนุกนิดหน่อย!

เฉินจิ้นลอบยิ้มมุมปาก!

หลายคนที่เห็นเฉินจิ้นลอบยิ้มออกมา ในใจก็พากันงงงวย

แต่ก็ไม่กล้าถามมาก

ในตอนที่เฉินจิ้นฆ่าเก้ามหาผู้แข็งแรงแดนเสินอันดับสูงสุด อย่างต่อเนื่องที่วิมานเทพหิมะ

น่านน้ำแห่งหนึ่งบนโลกมนุษย์!

บางที่กลางอากาศ ท้องฟ้าปลอดโปร่ง หมื่นลี้ไร้เมฆ เกิด ระลอกคลื่นระลอกหนึ่งฉับพลัน
จากเล็กไปใหญ่

ระลอกคลื่นใหญ่ขึ้นทุกที ๆ

ก่อตัวเป็นรูปร่างเหมือนกับประตูบานหนึ่ง

พลังงานผันแปรอย่างต่อเนื่อง

จนกระทั่งเกือบจะหนึ่งนาทีหลังจากนั้น จึงนับว่าเสถียร

แล้ว

พริบตาต่อมา ประตูก็กลายเป็นเหมือนคลื่นทะเลในฉับ พลัน เกิดเป็นระลอกคลื่นอีกระลอกแล้วระลอกเล่า

หลังจากนั้นก็มีขาข้างหนึ่งก้าวออกมาจากตรงกลาง

ต่อจากนั้น เงาคนร่างหนึ่งก็ปรากฏออกมาจากความว่าง

เปล่า!

คนที่ปรากฏตัวนี้สวมชุดสีขาวเข้ารูป ประณีตทั้งตัว! ดูแล้วรูปงามหาใดเปรียบ!

หลังจากปรากฏกาย หัวคิ้วของเขาก็ยับย่นในพริบตา จากนั้น ในความว่างเปล่า ประตูที่ดูเหมือนมีและดูเหมือน

ไม่มีบานนั้น มีคนหนึ่งคนก้าวออกมาอีกครั้ง

รอจนหลังจากคนคนนั้นปรากฏกายออกมา ประตูบานนั้น

ก็สั่นสะเทือนในชั่วพริบตา
จากนั้น พังทลายในชั่วพริบตา

หายไปจากจุดเดิม!

“ศิษย์พี่ท่านไม่เป็นอะไรนะ”

บุรุษชุดขาวรูปงามที่ปรากฏกายก่อน มองไปทางบุรุษชุด ด่าที่ออกมาที่หลัง พลางถาม

ชายชุดดำที่ออกมาทีหลังได้ยินแล้วส่ายหน้า แต่บน ใบหน้ายังปรากฏเค้าความหวาดกลัว

“ประตูแห่งอวกาศนี้ไม่เสถียรเอาเสียเลย หากไม่ระวังสัก หน่อย ก็อาจจะต้องซัดเซพเนจรจนอวกาศแตกสลายอยู่ข้าง ใน ดวงของพวกเรานับว่าไม่เลว!”

บุรุษชุดดำพูดออกมาเล็กน้อย

บนใบหน้าปรากฏแววดีใจในความโชคดีของตน

“บนโลกใบนี้เรกิอ่อนจางมาก นี่มันซวยจริง ๆ อาจารย์ให้ พวกเรามาอยู่บนโลกมนุษย์!”

ใบหน้าของบุรุษชุดขาวปรากฏร่องรอยความไม่พอใจ

ชายชุดดำได้ยินแล้วก็ยิ้มและพูดว่า “ศิษย์น้อง คุณอย่า บ่นไปเลย ถึงแม้ว่าบนโลกมนุษย์เรกิจะอ่อนจาง แต่ว่ามีเรื่อง น่าสนุกไม่น้อยเลย ไม่ใช่ว่าคุณพร่ำบ่นว่าในจงเหมินน่าเบื่อ หรอกหรือ รอถึงคราวหน้าที่ประตูแห่งอวกาศเสถียร ยังมีเวลาอีกสักพัก พวกเรารีบทำภารกิจให้สำเร็จ คุณยังจะได้ไป เที่ยวเล่นรอบโลก ไม่ดีหรือ?”

“ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้บนโลกมนุษย์ตอนนี้เรกิจะอ่อนจาง แต่จากตำราในสำนักเราที่บันทึกไว้ ปีนี้จะมีของดี ๆ มากมายตกทอดอยู่บนโลกมนุษย์ ทำไมจะไม่ใช่โอกาสของ เราล่ะ”

บุรุษชุดขาวจึงพยักหน้าอย่างพอใจ “ก็จริง!”

“นึกไม่ถึงว่าจะมีปฏิกิริยาตอบโต้? ฉันนึกว่าร้อยปีผ่านไป แล้ว สิ่งต่าง ๆ บนโลกนี้อาจเปลี่ยนแปลงไปมากมายนาน แล้ว แผนที่ที่คนในสำนักเราให้มาอาจจะใช้ไม่ได้แล้ว อยาก จะตามหาที่ตั้งของวิมานเทพหิมะไม่แน่ว่าอาจจะต้องสิ้น เปลืองความคิดสักครั้ง นึกไม่ถึงว่าเพิ่งจะออกมาก็มีปฏิกิริยา ตอบสนองแล้ว ศิษย์น้อง ครั้งนี้จะต้องมีเวลาให้คุณได้เที่ยว เล่นแน่!”

บุรุษชุดดำใบหน้าปีติขึ้นฉับพลัน

หลังจากนั้นในมือก็ปรากฏกระจกเงาบานหนึ่ง

ในกระจกเงามีจุดสีแดงเบาบางปรากฏขึ้นฉับพลัน

ตำแหน่งของจุดสีแดงก็คือแหล่งที่อยู่ของปราณของเทพ

หิมะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ