จักรพรรดิมารหวนคืน

บทที่ 46 ไม่ขาดแม้แต่คำเดียว



บทที่ 46 ไม่ขาดแม้แต่คำเดียว

เมื่อเฉินจิ้นพูดจบ ผู้หญิงสองคนที่เดินไปยังหวาง เม่ยอวเตรียมจะเอาตัวเธอไป ก็หยุดก้าวเท้าทันที

ในเวลานี้ พวกเธอสองคนรู้สึกเหมือนตัวเอง กำลังโดนยมราชจ้องมองอยู่ยังไงอย่างนั้น

ความรู้สึกแบบนั้น ดูเหมือนว่า ขอเพียงแค่ตัวเอง ขยับตัวอีกสักนิด ก็อาจจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆได้

เจิ้งเทียนเฉิงมองไปยังเฉินจิ้น ความอาฆาตสาด ส่องผ่านแววตาออกมาชัดเจน “เดิมทีอยากให้คุณมีชีวิต อยู่ต่ออีกสักหน่อย ในเมื่อ คุณรนหาที่ตายขนาดนี้ งั้นฉัน จะช่วยเติมเต็มให้คุณเอง !”

พูดจบ เจิ้งเทียนเฉิงก็อยากที่จะลงไม้ลงมือ จัดการเลย

คิดไม่ถึง ในตอนนี้ก็มีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นอีก แล้ว

เมื่อเจิ้งเทียนเฉิงเตรียมที่จะฆ่าเฉินจิ้นและคนรับ ใช้ทั้งสองนั้น เพียงแค่เห็นไกลๆ ก็มีเสียงแพร่ผ่านเข้า มา : “โย่ กำเริบเสิบสานขนาดนี้ ฉันก็ว่าเป็นใคร ? แท้ที่ จริงแล้วก็เป็นผู้ที่เคยพ่ายแพ้ในอดีตนี้เอง ! ”

เสียงที่พูดยิ่งเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ

ก็เป็นชายชราคนหนึ่ง และพวกอีกหลายคน เดิน มายังที่นี่
“ชายชราเฮยซิน คุณมาที่นี่ได้ยังไง ?”

เมื่อเจิ้งเทียนเฉิงเห็นคนที่มาเยือน รูม่านก็หดตัว ลงทันที

“ทำไม ที่นี่เป็นบ้านคุณเหรอ คุณมาได้ ฉันมาไม่

ได้

ชายชราเฮยซิน เดินตรงเข้ามา พูดเยาะเย้ย

หลังจากที่ชายชราเฮยซินปรากฏตัว สีหน้าของ เจิ้งเทียนเฉิง ก็มืดมนลงทันที หลังจากที่เขาเข้ามาขั้นปรมาจารย์จ่วย ก็เคยมี

การต่อสู้กับชายชราเฮยซินมาแล้ว สุดท้ายแล้ว เขาก็

แพ้ !

แต่แค่แปบเดียว เจิ้งเทียนเฉิงก็ราวกับว่าพบเรื่อง ที่น่าสนใจยังไงอย่างนั้น ทันใดนั้นก็หัวเราะออกมา

“ฮ่าฮ่าฮ่า คิดไม่ถึง ชายชราเฮยซินผู้ที่มีชื่อเสียง โด่งดังอย่างคุณ จะโดนหักแขนไปข้างหนึ่ง คงเป็นเวร กรรมแน่ๆ รบกวนคุณช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหม เป็น อาวุโสท่านไหน ที่ลงมืออย่างมีความเมตตา ไว้ชีวิตให้ แก่ท่าน ? วันไหนว่าง ฉันจะต้องไปเยี่ยมเยียนเขาสัก หน่อย ! ”

เจิ้งเทียนเฉิงพูดพร้อมยิ้ม

สีหน้าที่มืดมนบนใบหน้า หายไปหมดแล้ว !

สำหรับเขาแล้ว สามารถหักแขนชายชราเฮยซิน ได้จะต้องเป็นเซียนระดับปรมาจารย์แน่ๆ
และสามารถเข้าถึงขั้นปรมาจารย์ ไม่ว่าจะอายุเท่า ไหร่ ผู้ที่บรรลุได้ก่อน ก็จะเป็นผู้อาวุโส !

“อ่อ ? คุณต้องการไปเยี่ยมเยียน ? ” บนใบหน้า ของชายชราเฮยซินเกิดรอยยิ้มที่ไม่ชอบมาพากลออกมา “งั้นก็ไม่ต้องไปวันอื่นแล้ว ตอนนี้ก็ได้ ฉันเกรงว่าไม่ เพียงแค่อาวุโสจะไม่ยอมรับการเยี่ยมเยียนของนายแล้ว เป็นไปได้ว่า ยังจะฆ่าให้นายตายอีกด้วย ! ”

อั้ม ?

คำพูดของชายชราเฮยซินนี้ ก็ทำให้เจิ้งเทียนเฉิง เกิดความสับสนเล็กน้อยไปชั่วขณะ

หลังจากนั้นเขาก็เห็นภาพฉากที่แปลกประหลาด

เกิดขึ้น

หลังจากที่ชายชราเฮยซินพูดกับเขาจบแล้ว ก็ เดินเข้าไปตรงหน้าของเฉินจิ้น โค้งคำนับ ใบหน้าที่เต็ม ไปด้วยความเคารพ “อาวุโส ครั้งที่แล้วผมมีตาหามีแวว ไม่วันนี้ จึงมาขอให้คุณยกโทษให้”

เฉินจิ้นมองไปที่ชายชราเฮยซิน ใบหน้าที่ไร้ความ

รู้สึก

แต่ว่า ในใจของเขากลับรู้สึกประหลาดใจเล็ก

น้อย

เขาคิดว่า หลังจากที่ชายชราเฮยซินได้หลบหนี ไปแล้ว ในช่วงเวลานี้คงไม่กล้ามาที่เจียงเป่ยอีก หลัง จากที่ได้เจอเขา คงจะต้องหนีไปทันทีอย่างแน่นอน เกรงว่าจะถูกเขากล่าวโทษ
กลับคิดไม่ถึงว่า จู่ๆชายชราเฮยซินจะปรากฏตัว ออกมาอย่างเปิดเผยแล้ว

แล้วยังมาขอร้องให้เขาให้อภัยอีก

ในสายตาของเฉินจิ้น ที่สาดส่องความอาฆาต ออกมา หลังจากนั้นก็ค่อยๆหายไป

หลังจากที่สัมผัสถึงความอาฆาตนั้น พูดได้ว่าชาย ชราเฮยซินถึงกับอกสั่นขวัญแขวนเลยทีเดียว สัมผัสได้ โดยตรง ความอาฆาตที่ปกคลุมอยู่บนตัวของตัวเองนั้นก็ ค่อยๆหายไป เขาถึงจะถอนหายใจอย่างโล่งอก ดูแล้ววิธี การที่ตัวเองทำนั้นถูกต้องแล้ว หลังจากนั้น ก็ไม่ต้อง

กังวลว่าจะมีศัตรูที่น่ากลัวขนาดนี้แล้ว

ในตอนนี้ เหงื่อของเขาไหลเต็มไปทั่วหน้าผาก

“ขอบคุณอาวุโสมากที่ไม่ฆ่าผม ! ” ชายชราเฮยซิ นรีบพูดออกมาทันที

“มานี่ มาขอโทษอาวุโสสะ ! ”

หลังจากนั้น ชายชราเฮยซินก็รีบเรียกเมิ่งจื่อจี้น ให้เข้ามาทันที

เมิ่งจื่อจิ้นมองไปที่เฉินจิ้นที่อยู่ตรงหน้า ในใจตุ้ม ๆ ต่อมๆ

“อา….อาวุโส ก่อนหน้านี้ผมผิดเอง คุณโปรดยก โทษให้ผมด้วย !

ในตอนนี้เมิ่งจือจิ้นจะอยู่แก๊งมังกรดำได้อย่างไร กัน ยุยงส่งเสริมให้คุณปู่แก้แค้น จึงรีบมาพูดขอโทษอย่างเคารพนบนอบทันที

ที่จริงแล้ว แม้แต่ปู่ของเขา ชายชราเฮยซินขั้นปร มาจารย์จ่วยอย่างนี้ ต่างก็ก้มหัวพร้อมเรียกอาวุโสต่อ หน้าของเฉินจิ้นแล้ว เขาไม่เคารพก็คงไม่ได้ !

“รู้ผิดแล้วแก้ไข นับว่ายอดเยี่ยมมาก ในเมื่อนาย ได้ชุดใช้แล้ว งั้นฉันก็จะยกโทษให้แก่นาย ! ”

เฉินจิ้นพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ

ได้ยินประโยคนี้แล้ว เมิ่งจื่อจิ้นก็เกือบจะกระอัก เลือดออกมาแล้ว นี้ช่างเป็นการทำให้ขายขี้หน้าสะเหลือ เกิน

แต่ว่า เขาจะกล้าแสดงออกมาให้เห็นได้อย่างไร

กัน

ตอนนั้นทำได้เพียงพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า

รู้สึกซาบซึ้งในพระคุณเป็นอย่างยิ่ง !

และในเวลานี้ เจิ้งเทียนเฉิงที่อยู่ข้างๆเมื่อเห็น ภาพฉากนี้แล้ว ก็ตกตะลึงไปเลย ท้ายที่สุดก็มีปฏิกิริยา ตอบสนองกลับมาแล้ว

หลังจากนั้น นัยต์ตาที่มองไปยังชายชราเฮยซิน เต็มเปี่ยมไปด้วยเสียงหัวเราะที่ประชดประชัน : “ฮ่าฮ่าฮ่า จู่ๆคุณก็ก้มหัวพูดขอโทษกับเด็กหนุ่มคนนี้ คุณอย่าบอก นะ ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ของขั้นปรมาจารย์ช่วยอย่างคุณ โดนเด็กหนุ่มคนนี้หักแขนหนึ่งข้าง….

ชายชราเฮยซิน มองไปที่เจิ้งเทียนเฉิง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ประหลาดใจ ไม่พูดไม่จาอะไร

ค่อยๆทีละน้อย รอยยิ้มของเจิ้งเทียนเฉิง ค่อยๆ แข็งที่ออยู่บนใบหน้า

เพราะว่า เขาสัมผัสได้ถึงความอาฆาตและพลัง อำนาจที่น่ากลัว !

“ตอนนี้ คุณยังจะพาหวางเม่ยอวไปอีกไหม ?” คำพูดของเฉินจิ้น ผ่านเข้าไปยังรูหูของเขา เลือดแทบ พุ่งออกมาด้วยความตกใจ สีหน้าที่ซีดขาว

หลังจากนั้น เจิ้งเทียนเฉิงนัยต์ตาที่หวาดผวา ยิ่ง เพิ่มมากขึ้น

ความรู้สึกแบบนี้ เขาเคยรู้สึกกับปรมาจารย์ของ ตระกูลเจิ้งเท่านั้น แต่ แต่เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า เป็นหนุ่มในวัยกว่า

ยี่สิบปี มีพลานุภาพที่น่ากลัวอย่างนี้เช่นกัน !

และมือข้างนี้ เสียงที่ส่งมาในอากาศ พ่นคำพูดที่ ทำร้ายคน ทั้งหมดนี้ต่างก็เป็นวิธีการของปรมาจารย์ทั้ง สิ้น !

นี้จะเป็นไปได้ยังไง ?

ทุกคนก็น่าจะทราบดี เจิ้งตงหยาง ตระกูลเจิ้งที่มี มากว่าร้อยปี เป็นผู้ที่มีความสามารถด้านศิลปะการต่อสู้ มากที่สุด อายุแก่กว่าเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าหลายปีด้วย ซ้ำ แต่ตอนนี้อยู่แค่ขั้นปรมาจารย์จ่วยเท่านั้น ก็มีความ สามารถที่น่าเกรงขามมากๆแล้ว
“คุณคงรู้ว่าฉันเป็นใคร ?” เจิ้งเทียนเฉิงพูดด้วย น้ำเสียงที่เคร่งขรึม

ในเวลานี้ เขาเชื่อแล้ว เชื่อชราเฮยซิน ว่าถูกชาย หนุ่มที่อยู่ตรงหน้านี้หักแขนข้างหนึ่ง แม้ว่าเฉินจิ้นจะยัง ไม่ออกกระบวนท่าอะไรเลยก็ตาม แต่เขาก็ได้ตัดสินเป็น ที่เรียบร้อยแล้ว เขาไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้ของเฉินจิ้น

ทุกคนต่างรู้ดี ชายชราเฮยซินก็พ่ายแพ้ให้แก่เขา ถูกหักแขนแล้ว แม้แต่ชายชราเฮยซิน ก็ยังสู้ไม่ได้แม้แต่ น้อย !

เพียงแค่หวังว่า จะสามารถผ่านตระกูลเจิ้งใน เมืองหลวง เพื่อมาปราบคนได้ !

“เป็นใครก็แล้วแต่ ผมไม่สนว่าคุณเป็นใคร !” นัยต์ตาของเฉินจิ้นสั่นสะท้าน

หลังจากนั้น ก็ค่อยๆยกมือขวาขึ้นมาอย่างช้าๆ ในเวลานี้ เจิ้งเทียนเฉิงสัมผัสได้ถึงวิกฤตที่ร้าย

แรงถึงชีวิต

และชายชราเฮยซินที่ยืนอยู่ข้างๆ ในใจก็สั่นระ ริกๆเช่นกัน หลังจากนั้นดวงตาก็เบิกกว้าง จ้องไปที่เฉินจ นอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่อยากจะละสายตาแม้แต่นิด เดียว

มือของเขา ก็ถูกตัดขาดด้วยกระบวนท่าของเฉิน

จิ้น !

“ฉันคือหนึ่งในตระกูลเจิ้งในเมืองหลวง เป็นลูกพี่ลูกน้องของผู้ที่ดูแลวงศ์ตระกูล ในนามของตระกูลเจิ้ง มาเพื่อพาหวางเม่ยอวไปเมืองหลวง คุณต้องการจะรั้งไว้ จริงๆ ? ”

ในเมื่อสัมผัสถึงวิกฤตที่ร้ายแรงถึงชีวิต เจิ้งเทียน เฉิงยังคงกัดฟันที่จะพูด หวังว่าจะสามารถนำชื่อของวงศ์ ตระกูลมาบังคับใช้ความประนีประนอมกับเฉินจิ้นได้

เขาอยู่ที่นี่ เป็นเวลานานมากแล้ว

เจิ้งตงหยางปะทะกับปรมาจารย์ทันที จำเป็นต้อง รีบพาหวางเม่ยอวกลับไปยังตระกูลเจิ้ง ไม่อย่างนั้น หากว่าพลาดไปแล้ว งั้นเขาก็จะมีความผิดที่ใหญ่หลวง

“ตระกูลเจิ้งในเมืองหลวง ไม่ได้อยู่ในสายตา ของฉันเลย ! ”

เฉินจิ้นพูดออกมาอย่างเยือกเย็น

ตระกูลเจิ้งในเมืองหลวง บางที่อาจจะอยู่ที่หวา เสี้ย เป็นสัตว์ที่ใหญ่มหึมาตัวหนึ่ง

งั้นสำหรับในทวีปเอเชียละ?

สำหรับโลกทั้งใบละ?

แต่ในสายตาของเฉินจิ้น คืออยู่ที่นอกโลก ใน จักรวาลที่เต็มไปด้วยดวงดาว

ในโลกใบนี้ ในสายตาของเฉินจิ้น เล็กมากเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นอย่าไปพูดถึงตระกูลเจิ้งในเมืองหลวงเลย

เจิ้งเทียนเฉิงสัมผัสได้ถึงการดูถูกนั้นของเฉินจิ้น
ดูถูกอย่างมากเลยจริงๆ

คิ้วของเขา ขวดแน่นมาก เป็นคนแบบไหนกัน

แน่?

แม้แต่ตระกูลเจิ้งในเมืองหลวง ก็ไม่อยู่ในสายตา

ในตอนนี้ เฉินจิ้นยกมือขวาขึ้นมา งอนิ้วทั้งสามลง มีนิ้วกลางและนิ้วชี้ที่แนบชิดกัน เป็นรูปดาบ !

ในเวลานี้ เจิ้งเทียนเฉิงก็สัมผัสถึงลมหายใจแห่ง ความตายแล้ว

ไม่ทำตัวหยิ่งยโสแบบเมื่อก่อนแล้ว

เขารู้ดี มีเฉินจิ้นอยู่ตรงนี้ ตัวเองยังยืนกรานทำต่อ ไป ก็คงพาหวางเม่ยอวไปไม่ได้แล้ว ถึงขั้นกับ ยังจะเอา ตัวเขาเอง และเด็กหนุ่มตระกูลเจิ้งที่มากับเขาด้วยนั้น พลอยเดือดร้อนไปด้วย

เจิ้งเทียนเฉิงก็ตัดสินใจทันที ถอนกำลังออกไป

ก่อน

แล้วรีบไปแจ้งตระกูลเจิ้ง ให้ปรมาจารย์มาที่นี่ !

“ได้ ในเมื่อตระกูลเจิ้งในเมืองหลวง ไม่ได้อยู่ใน สายตาของคุณ งั้นเรามาดูกัน ! ”

พูดจบ เจิ้งเทียนเฉิงก็พาคนออกจากที่นี่ทันที

และในเวลานี้ มุมปากของเฉินจิ้น ก็เผยรอยยิ้มที่ เย็นชาออกมา : “ที่ของตระกูลหวาง จริงๆแล้วนายอยาก มาก็มา อยากจะไปก็ไป ? หวางเจิ้นเวยผู้ดูแล้วงศ์ตระกูล คุณว่าใช่ไหม ? ”
หวางเจิ้นเวยได้ยินประโยคนี้ที่เขาเคยพูดกับเฉิน จิ้นแล้วนั้น ก็โมโหจนเกือบจะขาดสติไปแล้ว

“คุณคิดว่าไง ?” เดิมทีเจิ้งเทียนเฉิงคิดจะออกไป แล้ว แต่เขากลับพบว่า ความอาฆาตที่ห่อหุ้มบนตัวเขา อยู่นั้น เกือบจะกลายมาเป็นความจริงแล้ว ทำให้เขาไม่ กล้าจะขยับอีก

น้ำเสียงที่เยือกเย็นของเฉินจิ้น : “อย่างง่ายดาย ปีศาจ พูดคำพูดเมื่อกี้ของนายอีกครั้งซิ !”

หลังจากที่ฟังปีศาจลามกพูดจบ ก็ฉีกยิ้มออกมา : “เดิมที ในฐานะที่เป็นคนรับใช้ ฉันไม่ควรที่จะมายกไม้ ยกมือออกท่าทางต่อหน้าเจ้านายอย่างนี้ แต่ทนดูตัว ตลกกระโดดโลดเต้นไปมาไม่ได้จริงๆบวกกับ คุณ สามารถทำให้ฉันขายขี้หน้าได้แต่จะทำกับเจ้านายไม่ได้ ดังนั้น คนอย่างพวกคุณควักลูกกระตาและตัดลิ้นของตัว เองเสียเถอะ แล้วฉันจะไม่ถือสาอะไรอีก ! ”

พูดจบ ไม่ขาดแม้แต่คำเดียว !


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ