จักรพรรดิมารหวนคืน

บทที่ 66 ขอความช่วยเหลือ



บทที่ 66 ขอความช่วยเหลือ

สีหน้าของเสิ่นหมิงเจินหลากหลายความรู้สึก อย่างมาก ตอนที่เขาตอบตกลง ก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลย

ว่า จะแพ้ได้

แต่คนของตระกูลเสิ่น ใจนักเลงอยู่แล้ว เสิ่นหมิง เงินตอบกลับในทันที : “เดิมพันแล้วก็ต้องยอมรับความ พ่ายแพ้ได้!”

เฉินจิ้นจึงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

เวลานี้ จู่ๆในสนามก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา: “หมิง เจิน เจ้าทำได้ไม่เลว คนตระกูลเสิ่นของข้า มีความ ทระนงในศักดิ์ศรีของตนเอง แพ้ก็คือแพ้”

เฉินจิ้นหันไปมองตามที่มาของเสียง เห็นที่ด้าน นอกของสถานที่แข่งบูโด ปรากฏร่างหนึ่งที่มีผมหงอก ไปทั่วทั้งศีรษะ

เป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งที่ดูสุขภาพดี สวมชุดฝึกซ้อม สีขาว แล้วยังดูเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถมากที เดียว

หลังจากปรากฏตัวออกมา ร่างของเขาเปลี่ยนไป หลายระดับ ราวกับดำดินรุกคืบ ในชั่วพริบตา ก็ปรากฏอยู่ บนเวทีแข่งบูโดแล้ว

หลังจากลูกหลานมากมายของตระกูลเสิ่นได้เห็น ก็หายใจเร็วขึ้นมาทันที
ปรมาจารย์จ่วยของพวกเขาตระกูลเสิน ก็คือเส้น เสี้ยงหรุงที่ได้รับการยินยอมให้เป็นหัวหน้าครอบครัว ไม่ นึกว่าจะปรากฏตัวออกมาแล้ว

ปกติแล้ว คนรุ่นหลังของตระกูลเสิ่นพวกนี้ ช่วง เวลาหนึ่ง ก็มักจะไม่ได้เห็นหน้าเขาสักเท่าไหร่

ในตระกูลเสิ่น เสิ่นเสี้ยงหรุงเป็นคนที่ได้รับความ เคารพนับถืออย่างชัดแจ้ง

จิตใจที่ตั้งมั่นของเขา ไม่มีใครสามารถต่อต้านได้

“ท่านพ่อ!” เสิ่นหมิงเจินเรียกอย่างตกใจขึ้นมา ทันที “ท่านออกมาแล้วหรือ?”

เสิ่นเสี้ยงหรุงพยักหน้า แล้วหันไปมองเฉินจิ้น : “เจ้าหนุ่มอ่อนวัยนัก ไม่นึกว่าจะมีพละกำลังเช่นนี้ คน หนุ่มมีพลังที่พร้อมจะแซงหน้าผู้เฒ่าอยู่เสมอสินะ เกรง ว่านอกจากพวกปีศาจตระกูลใหญ่ในเมืองหลวงพวกนั้น ก็จะไม่มีใครสู้ด้วยได้แล้ว!”

เฉินจิ้นได้ยินอย่างนั้น กลับไม่ได้อธิบายอะไร

ปีศาจของตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง? คงจะพูด ถึงเจิ้งตงหยางสินะ

อย่างไรก็ตาม ในสายตาของเฉินจิ้น คนพวกนั้น ก็ เป็นเพียงแค่คนที่ไม่มีความสามารถอย่างที่ล่ำลือกันมา จะนำมาเปรียบเทียบกับเขาได้อย่างไร

แต่เฉินจิ้นก็ไม่ได้แก้ไขให้ความกระจ่าง ท่านผู้เฒ่าคนนี้ จนกระทั่งถึงตอนนี้ ก็ยังคงให้ความรู้สึกที่ไม่เลวแก่เขา

“ในเมื่อพวกท่านแพ้การเดิมพัน ยาเพ้ยหยวนสาม เม็ดนั้น ก็ยังคงเป็นของพวกข้า นอกเสียจากว่า ข้ายัง ต้องจ่ายค่าเช่าให้แก่พวกท่าน!” เฉินจิ้นพูดอย่างวางเฉย

ยาเพ้ยหยวนสามเม็ดนั้น ล้ำค่าก็คือล้ำค่า แต่ใน สายตาของเฉินจิ้นแล้ว ก็ไม่ได้สำคัญอะไร

“พูดจริงหรือ?” เสิ่นหมิงเจินส่งเสียงตื่นเต้นออก มาทันที

อยากให้รู้ว่า เหตุผลที่สำคัญมากข้อหนึ่งที่เขา ตกลงประลองฝีมือครั้งนี้ ก็อยู่ที่ยาเพ้ยหยวนสามเม็ดนั้น นั่นเอง

“เจ้าแห่งโลกปีศาจ พูดออกไปแล้ว ทำจริง แน่นอน!” เฉินจิ้นพูด

เสิ่นหมิงเจินกลั่นกรองคำพูดที่ฟังไม่เข้าใจก่อน หน้านี้ของเฉินจิ้นโดยอัตโนมัติ เพียงแค่จับสี่คำสุดท้าย นั้นเอาไว้สี่คำนี้ ตอนที่เขาได้ยิน ก็เหมือนกับเป็นเสียง ของธรรมชาติอย่างนั้น

มียาเพ้ยหยวนที่ยอดเยี่ยมสามเม็ดนี้ ก็แสดงว่าจะ มียอดฝีมือบูโดขั้นสูงสุดเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อยสามคน พลังของพวกเขาตระกูลเสิ่น ก็จะสูงขึ้นอีกขั้น

แล้วก็หมายความว่า ต่อไปความเป็นไปได้ที่ตระ กูลเสิ่นจะปรากฏปรมาจารย์จ่วยก็มีมากขึ้นแล้ว

“เจ้าหนุ่ม หมิงเงินแพ้แล้ว อาณาเขตของหมู่บ้านเสิ่นเจ้าเลือกอาณาเขตได้ตามใจเลยนะ แต่ว่า….เส้น

เสี้ยงหรุงหยุดชะงักเล็กน้อย ทอดถอนใจ แล้วจึงพูดต่อ:

“พวกข้ารับปากเจ้าแล้ว แต่ถ้าในกี่วันนี้ ตระกูลเสิ่นมีการ เปลี่ยนแปลงเจ้าของ การทำธุรกิจนี้ อาจจะรักษาเอาไว้ ไม่ได้แล้ว”

“หะ?” ใบหน้าของเฉินจิ้นแสดงรอยยิ้มที่ครุ่นคิด ออกมา

แววตาเสิ่นเสี้ยงหรุงเปล่งประกาย: “เจ้าหนุ่ม คงจะเป็นปรมาจารย์จ่ายสินะ?”

เฉินจิ้นได้ยินอย่างนั้น ก็ไม่ได้ตอบอะไร

เขาไม่ใช่ปรมาจารย์ แล้วก็ไม่ใช่ปรมาจารย์จ่วย เขาเป็นผู้ฝึกฝนพลังเวทย์มนต์แดนที่สอง “แดนฝึกลม” ที่เกือบจะได้พึ่งพาผู้ฝึกฝนพลังเวทย์มนต์ของค่ายจูหลิง ที่เข้าโจมตีแดนที่สาม “แดนเดินทาง”

และพลังบูโดที่แบ่งแยกบนโลกนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ ต้องรายงานตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

เขาก็ไม่เคยพบปรมาจารย์ แต่ปรมาจารย์จ่วยที่อยู่ ในมือของเขา ก็ไม่ใช่เรื่องที่เขียนขึ้นมามั่วๆ

เฉินจิ้นคิดๆดู พลังแดนฝึกลมของเขา จะเท่ากับ ปรมาจารย์บูโดของโลกได้อย่างไร บางทีอาจจะ แข็งแกร่งกว่าปรมาจารย์เสียอีก

ความเงียบของเฉินจิ้น สำหรับเสิ่นเสี้ยงหรุงและ เฉินหมิงเจินแล้ว ก็ถือเป็นการยอมรับไปโดยปริยาย
เงินเลี้ยงหรุงยังดีที่เขาเคยเห็นคนที่เหมือน ปีศาจมากกว่าเฉินจิ้นมาแล้ว ดังนั้น เมื่อรู้ว่าเฉินจิ้นอายุ แค่ยี่สิบกว่าปีก็เป็นปรมาจารย์จ่ายแล้ว แม้จะมีความ ตกใจอยู่บ้าง แต่ก็เตรียมใจมาบ้างแล้ว

แต่เสิ่นหมิงเจิน สายตาที่มองเฉินจิ้นนั้น สับสน อย่างไม่มีอะไรมาเปรียบได้

ในตระกูลเสิ่น พรสวรรค์ของเขา ถือว่าไม่เลวเลย เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่หวังว่าจะได้ปะทะกับ ปรมาจาร ย์จ่วยที่สุด แต่ตอนนี้เขาสี่สิบกว่าปีแล้ว เพิ่งจะมีพละ กำลังอย่างวันนี้

อย่างไรก็ตาม เฉินจิ้น ชายหนุ่มที่อายุยี่สิบกว่าปี คนหนึ่ง ก็เป็นปรมาจารย์แล้ว เกินกว่าที่เขาคาดการณ์ เอาไว้ไปมาก เปรียบเทียบกับคนอื่น ก็น่าโมโหเสียจริง

เสิ่นเสี้ยงหรุงพูดต่อ: “ไม่ปิดบังเจ้าหนุ่มแล้วกัน ตระกูลเสิ่นของข้าช่วงนี้ประสบปัญหาเล็กน้อย ยี่สิบปี ก่อน คนถ่อยคนหนึ่งโดนขับไล่ออกจากตระกูลเสิ่น วันนี้ กลายเป็นปรมาจารย์จ่วยแล้ว หวนกลับมามีอำนาจอยาก จะยึดตระกูลเสิ่นกลับไป จึงหวังว่าเจ้าหนุ่มจะสามารถ ช่วยเหลือตระกูลเสิ้นของข้าได้ เพียงแค่เจ้าหนุ่มยืนยัน ว่าจะช่วยเหลือ นอกจากศาลบรรพบุรุษของตระกูลเสิ้น แล้ว อาณาเขตของหมู่บ้านเสิ่นเจ้าเลือกได้ตามใจเลย ในเวลาเดียวกัน ข้าก็จะพยายามสนองความต้องการใน เงื่อนไขอื่นของเจ้าด้วย!”

หลังจากที่ยืนยันแล้วว่าเฉินจิ้นเป็นปรมาจารย์จ่วย ที่อายุยี่สิบกว่าปี ท่าทางของเสิ่นเสี้ยงหรุง ก็ยิ่งสุภาพมากขึ้น

ปรมาจารย์จ่วยที่อายุยี่สิบกว่าปี ต่อไปคงไม่มี โอกาสเหมือนกับเจิ้งตงหยางตระกูลเจิ้งในเมืองหลวง แล้ว ก่อนสามสิบปีก็สามารถโจมตีขั้นปรมาจารย์ได้ ถ้า สำเร็จ ไม่ว่าก่อนหน้านี้เฉินจิ้นจะไม่มีชื่อเสียงขนาดไหน แต่ก็ทำให้คนตื่นตกใจได้ในชั่วพริบตา

ไม่ว่าจะเพื่อการพัฒนาในอนาคตของตระกูลเสิ่น หรือจะเป็นความยากลำบากที่อยู่ต่อหน้าตอนนี้ เสิ่นเสี้ ยงหรุงก็หวังว่าเฉินจิ้นจะเป็นคนลากรถรบของพวกเขา

“ข้าไม่มีเงื่อนไขอื่น สำหรับอาณาเขต ข้าก็ไม่

เลือก เพียงแค่พวกเจ้าตระกูลเสิ่นยอมแบ่งอาณาเขตสัก ที่หนึ่งให้ข้าก็พอแล้ว ค่าเช่า ต่อไปข้าสามารถให้ยาเพ้ย หยวนหนึ่งเม็ดแก่พวกเจ้าได้ในทุกๆเดือน!”

เฉินจิ้นยิ้มเล็กน้อย

ส่วนการเปลี่ยนแปลงเจ้าของของตระกูลเสิ่น แม้ว่าความรู้สึกที่เขามีต่อตระกูลเสิ่นตอนนี้จะไม่เลวเลย แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เขาจะยื่นมือเข้าไปช่วย เหลือเรื่องของตระกูลเสิ่น

ต้องการเพียงแค่ตอนนี้เสิ่นเสี้ยงหรุงแบ่ง อาณาเขตให้เขาตามที่วางเดิมพันเอาไว้ ถึงมือของเขา แล้ว ต่อไปแม้ว่าตระกูลเสิ่นจะเปลี่ยนเจ้าของ ในแต่ละ เดือนยาเพ้ยหยวนหนึ่งเม็ดก็จะเป็นของกำนัลเบื้องต้น เชื่อว่าถ้าอีกฝ่ายไม่ใช่คนโง่ คงไม่ใช้อำนาจขับไล่เฉินจิ นออกไปอย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้น อาณาเขตที่อยู่ในมือของเฉินจีน แล้ว ถ้าเขาไม่ยินยอมจะไป ใครจะกล้าบังคับ?

แค่เสิ่นเสี้ยงหรุงได้ฟัง แววตาก็ปรากฏความผิด หวังออกมา

เฉินจิ้น นี่คงเป็นการปฏิเสธคำขอร้องของเขา อย่างมีมารยาทสินะ

แต่ เดิมพันแล้วก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ ถึง เฉินจิ้นจะปฏิเสธเขา เสิ่นเสี้ยงหรุงก็ไม่ได้คิดจะกลับคำ

พูด

คุณค่าของยาเพ้ยหยวนที่ยอดเยี่ยมพวกนี้ ก็ เพียงพอแล้ว

โดยเฉพาะนี่ยังเป็นยาเจียหยวนที่ยอดเยี่ยม สำหรับพวกเขาตระกูลใหญ่แล้ว โดยพื้นฐานก็เท่ากับ ของราคาสูงที่ไม่มีคนซื้อ

ยิ่งไปกว่านั้น อาศัยบัญชีของปรมาจารย์จ่วย พึ่งพาได้หรือ?

เพียงแค่เฉินจิ้นอยู่ในหมู่บ้านเสิ่น เส่นเสี้ยงหรุงก็ ไม่เชื่ออยู่แล้ว หากว่าหมู่บ้านเฉินเจอกับวิกฤต เฉินจิ้นจะ นั่งดูเฉยๆไม่ช่วยเหลือได้จริงๆหรือ?

“ได้ พื้นที่ในหมู่บ้านที่ไม่มีคนอยู่ เจ้าเลือกได้ตาม ต้องการ!” เสิ่นเสี้ยงหรุงตอบ

หลังจากบรรลุเงื่อนไขเพียงหนึ่งเดียว เฉินจิ้นก็ เดินเล่นรอบๆหมู่บ้านเสิ่นอีกครั้ง จากนั้นก็เลือกพื้นที่รกร้างแห่งหนึ่งที่อยู่ด้านตะวันออกของหมู่บ้าน

หลังจากเลือกอาณาเขตเรียบร้อยแล้ว เฉินจิ้นก็ ไม่ได้อยู่ทำอะไรในหมู่บ้านเสิ่นอีก ออกจากหมู่บ้านเสิ่น ไปพร้อมกับปีศาจลามกเว่ยอูซินและฮุยโสง

หลังจากแยกกับตระกูลเสิ่น เฉินจิ้นก็ไม่รีรอกลับ เจียงโจวทันที

จากนั้น เฉินจิ้นก็เรียกตระกูลเหอ ตระกูลหวางมา ชุมนุมกันเริ่มแสวงหาพลังงานมาเก็บรวบรวมเอาไว้เพื่อ เขาจะได้จัดการหยกขนาดใหญ่ของค่ายจูหลิงได้

ตอนที่เฉินจิ้นเตรียมตัว ก็ให้คนที่ฝึกฝนพลังเวทย์ มนต์ข้างกายเขาเหล่านั้น ไปที่หมู่บ้านตระกูลเสิ่นกัน ทั้งหมด ฝึกฝนพลังเวทย์มนต์อยู่ที่ค่ายจูหลิง อย่างนี้ พลังวิชาของพวกเขาถึงได้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว

จึงสามารถตามฝีเท้าของเฉินจิ้นได้เล็กน้อย ต่อไป ถึงจะสามารถดำเนินการเพื่อเฉินจิ้นได้ดี กว่าเดิม

แม้ว่าจะใช้พลังของตระกูลเหอและตระกูลหวาง ในเจียงโจว ก็ยังเสียเวลาไปตั้งสามวัน ถึงจะรวบรวมได้ จนเฉินจิ้นพึงพอใจ จัดการวัสดุหยกของค่ายจู้หลิง

หลังจากรอจนวัสดุเสร็จสมบูรณ์ เฉินจิ้นก็ไม่รอช้า แม้สักวินาทีเดียว ให้ปีศาจลามกเว่ยอูซิน ฮุยโสง เถ่ฉวนสามคน นำหยก ไปกับพวกเขาด้วยทันที เดินทางไปหมู่ บ้านเสิ่นที่เป็นที่อยู่ของตระกูลเสิ่นในเจียงโจวอีกครั้ง

แต่ ครั้งนี้ หลังจากที่เฉินจิ้นถึงหมู่บ้านเสิ่นแล้ว กลับพบว่า ทางเข้าของหมู่บ้านเสิ่น ไม่มีคนที่คอยดูแล ป้องกันคนนั้นแล้ว

ไม่เพียงเท่านั้น กระทั่งหลังจากที่พวกเฉินจิ้น เข้าไปในหมู่บ้านเสิ่น ก็พบว่า ไม่มีใครสักคนเลย

ครั้งที่แล้วที่พวกเขามา ตอนที่ชายคนนั้นพาพวก เฉินจิ้นไปที่สถานที่แข่งบูโด ระหว่างทางยังพบเจอคน ของตระกูลเสิ่นมากมาย

แต่ครั้งนี้ คนของตระกูลเสิ่นหายไปหมดเลย

ฮุยโสงเห็นเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น: “นาย ท่าน คงไม่ใช่ คนของตระกูลเสิ่น โดนคนถ่อยคนนั้นที่ เงินเลี้ยงหรุงพูดถึงฆ่าตายไปหมดแล้วนะขอรับ?”

เฉินจิ้นยิ้มๆสายหัว

“แต่ ตระกูลเสิ้น คงจะพบกับความลำบากอยู่

จริงๆ!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ