จักรพรรดิมารหวนคืน

บทที่ 30 ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของพ่อตา



บทที่ 30 ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของพ่อตา

“ซูนโก๋อาน มาเยี่ยมเจ้านายครับ!”

หลังจากคำพูดนี้ดังออกมา ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็ เงียบสนิท ราวกับเกือบจะได้ยินเสียงเข็มหล่น

ทุกคนมองหน้าเฉินจิ้นด้วยสายตาหวาดผวา

ถ้าเกิดว่าบอกว่า หมอเทวดาอย่างซุนโก๋อานมาที่ นี่เพื่อมอบของขวัญให้ซ่งเจี้ยนหยวน อวยพรให้เขาแข็ง แรง คนอื่นก็ยังรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่เข้าใจได้ ไม่แน่ว่า ซ่งเจี๊ยนหยวนกับซูนโก๋อานอาจจะเป็นเพื่อนกันก็ได้

แต่ แต่ว่าภาพที่เห็นเมื่อกี้นี้ มันคืออะไรกันแน่?

ซูนโก๋อานไม่ได้เรียกชื่อของเฉินจิ้น

แถมยังไม่ได้เรียกเฉินจิ้นว่าเสี่ยวโหย่วตาม ประสาเพื่อนต่างวัย

ยิ่งถ้าให้เหลือเชื่อยิ่งกว่านั้นอีก ถ้าหมอเทวดา อย่างซูนโก๋อานคิดจะเรียกเฉินจิ้นด้วยความเคารพแล้ว นั้น จะเรียกว่าคุณเฉินก็ได้

แต่ว่า เขากลับเรียกว่าเจ้านาย!

แถมยังโค้งคำนับอีกด้วย!

ลุงของซ่งซึงเหย็น เบิกตาโพลงจนลูกตาแทบจะ หลุดออกมาจากเบ้า เขาอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงไป อย่างเหลือเชื่อ
เมื่อกี้ เขาเยาะเย้ยเฉินจิ้น ดูถูกเฉินจิ้น

ถ้าเกิดว่าเฉินจิ้นเป็นเจ้านายของซูนโก่อานจริงๆ ล่ะก็ ถ้าเกิดว่าซูนโก๋อานพูดอะไรออกมาล่ะก็ ชีวิตของ เขาที่เมืองเจียงโจวก็จบลงแล้ว เขาคงไม่สามารถอยู่ที่นี่

ได้อีกต่อไป

เฉินจิ้นเหลือบมองซูนโก๋อาน แววตาดูแปลก

ประหลาด

ซูนโก๋อานคนนี้ ไหวพริบดีจริงๆ

ที่แท้ก็รู้ว่าวันนี้พวกเขาจะจัดการกันที่นี่ แถมยัง เตรียมของขวัญมาด้วยตัวเองอีก เพื่อมายินดีกับซ่งเจี๊ยน หยวน

“เป็นไงบ้าง สมุนไพรทั้งหมดที่ผมให้ไปเตรียม เตรียมไว้พร้อมรึยัง?”

เฉินจิ้นถามออกมา

ตอนแรก ทุกคนที่อยู่ในตรงนั้นก็ได้แต่เหม่อลอย อยู่ในจินตนาการ ไม่แน่ว่าเมื่อกี้พวกเขาอาจจะแค่ตาฝาด ไป ไม่แน่ว่าหมอเทวดาอย่างซูนโก๋อานอาจจะล้อเล่น ก็ได้

อย่างไรก็ตาม คำถามของเฉินจิ้นเมื่อกี้นี้ ได้ฉีกสิ่ง ที่พวกเขากำลังจินตนาการเข้าข้างตัวเองอยู่ออกเป็น

ชิ้นๆ

ท่าทางแบบนี้ ก็สามารถอธิบายเรื่องราวได้ กระจ่างหมดแล้ว
เฉินจิ้น กำลังทำตัวเหมือนเป็นเจ้านายเขาจริงๆ

หมอเซียนซูน ที่กำลังเผชิญหน้าอยู่กับเฉินจิ้นอยู่ นั้น ก็เหมือนกับว่ากำลังเผชิญหน้ากับเจ้านายตัวเองอยู่ ยังไงยังงั้น

พอซูนโก่อานได้ยินดังนั้น ก็หายใจฟีดฟัดด้วย ความตื่นเต้นทันที “เตรียมพร้อมหมดแล้วครับ!”

ก่อนหน้านี้ เฉินจิ้นมอบหมายให้เขาไปเตรียม สมุนไพรมาทำยา

ไม่มีอันไหนที่เป็นของล้ำค่าหายากขนาดนั้น แต่ ว่า ขั้นต่ำคือต้องมีอายุมากกว่า20กว่าปี

เรียกได้ว่า ต้องกลั่นยาลูกยาเพ้ยหยวน

ลูกยาเพ้ยหยวน ยาตามปรัชญาโบราณของจีน! สำหรับคนที่ต้องการฝึกฝนแล้วนั้น ก็ต้องฝึก ตั้งแต่พื้นฐาน เพื่อที่จะได้รู้ผลที่แท้จริง

เฉินจิ้นยังไม่ค่อยพอใจความเร็วของการฝึกครั้งนี้ เท่าไหร่นัก เขาต้องหาวิธี เพื่อที่จะเร่งเวลาการฝึกฝน เพื่อให้พลังของเขามันฟื้นคืนกลับมาได้เร็วมากกว่าเดิม

หลังจากซูนโก๋อานเข้าใจถึงผลกระทบของลูกยา เพ้ยหยวนแล้วนั้น ก็รู้สึกประหลาดใจ

นี่ นี่เป็นเพียงยาอายุวัฒนะที่มีอยู่ในตำนานของ แพทย์ในตำนาน

เขาคิดไม่ถึงเลยว่า เฉินจิ้นจะสามารถปรับแต่งยา ลูกยาเพ้ยหยวนได้ แถมผลของมันยังดีกว่าสูตรในตำราโบราณอีกด้วยซ้ำ

การที่ซูนโก่อานได้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ เขา รู้สึกมีความสุขมากจริงๆ

รวมถึงการที่เฉินจิ้นรักษาโรคที่ทำให้เขาลำบาก มานานหลายปี ทำให้ซูนโก๋อานยอมรับในตัวเฉินจิ้นทัน ที่เขารู้สึกว่า การมีเจ้านายแบบนี้ เป็นไปได้มากกว่า มัน จะไม่ใช่การที่เป็นเรื่องน่าอาย แต่ในอนาคต มันจะถือว่า เป็นเกียรติแก่ตัวเขาเองด้วย!

เพราะว่า ฝีมือการรักษาของเฉินจิ้นนั้น เกือบจะ อยู่ในระดับพระเจ้า ที่ต้องบันทึกลงในตำราของแพทย์

ถ้าเกิดว่าเฉินจิ้นยอมชี้แนะเขา ไม่แน่ว่า เขาอาจ จะได้กลายเป็นตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ได้ เขาสมควรได้รับการปฏิบัติอย่างยอดเยี่ยม! แบบนั้นแล้ว เขาถึงจะมีโอกาส ได้ลบกลิ่นเหม็น เน่านี้ออกไปได้

นั่นต่างหาก ที่เรียกว่าหมอเทวดาที่แท้จริง!

ยังไงก็ตาม หลายปีมานี้ เขาไปทั้งเมืองหวาเสี้ย ตามหา “หมอเทพ”ที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่ในโลกนี้ แต่ว่าเขา ไม่ได้เห็นแม้แต่ใบหน้าของพวกเขาด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น เรื่องที่จะได้รับคำชี้แนะนั้นยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย เพราะว่า มีคุณสมบัติไม่เพียงพอ

การแสดงออกของซูนโก๋อานนั้น ทำให้ทุกคนที่ อยู่ในที่ตรงนั้น นอกจากพวกซ่งซึงเหย็นทั้งสี่คนที่รู้เรื่องดีอยู่แล้ว และก็นอกจากซ่งเจี๊ยนโก๋ที่ไม่ได้ตะลึง

เพราะว่า ตอนนี้เขากลัวจนช็อกไปแล้ว

สำหรับการที่ซุนโก่อานคำนับเฉินจิ้นนั้น เขาไม่ ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย

เขาสนใจแต่เรื่องที่หมอเซียนซูนพูดเมื่อกี้นี้

เท่านั้น

“คุณ ป่วยจริงๆ!”

“พวกคุณสามคน ป่วยทั้งหมด!”

แล้วเขาก็คิดย้อนกลับไปถึงคำพูดของเฉินจิ้นที่ ว่า “ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง พวกคุณทั้งสาม คนจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินสามปี!”

ซึ่งเจี๊ยนโก๋ยังจะไปมัวมีใจไปสนใจเรื่องอื่นอีกได้ ยังไงกันล่ะ

เรื่องที่อยากจะมาเสแสร้งต่อหน้าซ่งเจี๊ยนหยวน หรือจะเรื่องที่จะอวดว่าลูกเขยของตัวเองดีกว่าลูกเขย เขาล้านเท่า หรือว่าเรื่องที่คนอื่นๆในตระกูลซ่งชื่นชมเขา เพื่อจะเอาคืนต่อความโกรธแค้นที่เขาสะสมมานาน หลายปี แต่ว่าตอนนี้เขาไม่สนใจเรื่องพวกนั้นเลยแม้แต่ นิดเดียว

ถ้าเกิดว่าไม่มีชีวิตอยู่แล้ว เรื่องอื่นๆ ก็ไม่มีความ หมายอีกต่อไปแล้ว!

ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว หมอเทวดาอย่างซูนโก๋ อานก็ยืนยันแล้ว เขาจะไม่เชื่อก็ไม่ได้
ซูนโก๋อานเป็นหมอมาทั้งชีวิต และไม่เคยวินิจฉัย พลาดมาก่อน

ถ้าเกิดเขาลอกว่าป่วย ถ้ายังงั้นก็แสดงว่าป่วย จริง!

ซูนโก๋อานนิ่งไปพักนึง แล้วก็รีบเดินไปหยุดอยู่ ตรงข้างซูนโก๋อาน แล้วก็ถามออกมาด้วยความหวาด กลัวว่า “หมอเซียนซูน เมื่อกี้ที่คุณบอกว่าผมป่วย รบกวน

บอกผมหน่อยได้ไหมว่าร่างกายผมมันผิดปกติตรง

ไหน?”

ซูนโก๋อานมองหน้าเขา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออก

มา

ตลอดชีวิตของซูนโก๋อาน ครึ่งแรกของชีวิตเขา นั้น ขอแค่มีคนป่วยมาหาเขา เขาก็ยินดีจะรักษาอย่าง กระตือรือร้น

แต่หลังจากที่อายุเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซูนโก๋อานก็ เริ่มรู้ทันจิตใจของผู้คนในโลกใบนี้แล้ว ดังนั้น คนที่เขา เต็มใจจะช่วยรักษานั้นก็น้อยลงเรื่อยๆ จนถึงตอนที่เขารู้ ว่า ชีวิตของเขานั้นได้ช่วยผู้คนมานับไม่ถ้วน แต่ว่า สุดท้าย ตัวเองกลับมาเป็นโลกที่รักษาไม่ได้ ไม่ว่าเขาจะ ทำยังไงก็หาทางรักษาไม่ได้เลย ทำให้ซูนโก๋อานเลือด เย็นขึ้นเรื่อยๆ

ผู้ชายคนนี้ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาเลย ถ้า เกิดว่าเป็นเวลาปกติแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องสนใจเขาด้วย ซ้ำ และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อกี้คนๆนี้พยายามจะเหยียบย่ำเฉินจิ้น เขายิ่งไม่มีวันรักษาเด็ดขาด

ที่เขาออกปากเดือนไปว่าคนๆนี้ป่วยจริงๆ ก็เพราะ จะช่วยยืนยันคำพูดของเฉินจิ้นต่างหาก เพื่อที่จะช่วยเจ้า นายฉีกหน้าทุกคน

“หมอเซียนซุน….”

ซึ่งเจี๊ยนโก๋สั่นไปทั้งตัว แล้วก็เรียกเขาออกมาอีก

ครั้ง

เฉินจิ้นเห็นท่าทางของซ่งเจี๊ยนโก๋ก็ส่ายหน้าออก มา ต่อหน้าความเป็นความตายแบบนี้ ก็ยังไม่มีใครดูออก เลย

“บอกเขาไปเถอะ!”

เฉินจิ้นพูดออกมานิ่งๆ

“รับทราบครับ!”ซูนโก๋อานรีบตอบเขาอย่างเคารพ ท่าทางของซูนโก้อาน ทำให้ซ่งเจี๊ยนโก๋อึ้งไป

เลย

เขาถึงได้สติกลับมา เมื่อกี้ตอนที่เขามัวแต่อึ้งอยู่ นั้นเหมือนเขาได้ยินลอยๆว่าซูนโก๋อานพูดเกี่ยวกับเจ้า นาย ตอนนั้นเขากำลังใจร้อย ก็เลยไม่ได้คิดอะไร มากมาย แต่เหมือนว่าตอนนี้เขารู้แล้วว่า เมื่อกี้เขาไม่ได้ หูฟาดไปเอง

ที่แท้ ความจริงมันก็เป็นแบบนี้นี่เอง! ซึ่งเจี๊ยนโก๊กลีนน้ำลาย
ลูกเขยของซ่งเจี๊ยนหยวน ที่แท้ก็เป็นหัวหน้าของ ซูนโก๋อาน นี่มัน…

นี่มัน…

ถ้าเทียบกันแล้ว ลูกเขยที่เป็นรองผู้อำนวยการ ของเขา เทียบไม่ติดเลยแม้แต่นิดเดียว

“ผมเห็นว่าแววตาของคุณบางครั้งก็ไม่มีแววตา แถมสีหน้าก็ดูซีดๆ ถ้าเกิดว่าพูดเยอะๆโดยที่ไม่ดื่มน้ำล่ะ ก็ คุณก็จะรู้สึกเหมือนริมฝีปากเผาไหม้…ถ้าเกิดว่ายัง เป็นแบบนี้ต่อไป ไม่เกินสามปี คุณก็จะเสียชีวิตเพราะ ความอ่อนเพลีย..

ซูนโก๋อานค่อยๆพูดออกมาช้าๆ

พอซ่งเจี๊ยนโกได้ยินดังนั้นก็ยืนนิ่ง

สิ่งที่ซูนโก่อานพูดทั้งหมดคือความจริง

ตอนแรกเขาก็คิดว่า เพราะว่าช่วงนี้เขาไม่ค่อยได้ พักผ่อนเต็มที่ และบางครั้งก็เพราะว่าเขารู้สึกโกรธบ่อยๆ

“ช่วยชีวิตผมด้วยเถอะนะครับหมอเซียนซุน!”ซ่ง เจี้ยนโก๋กลัวจนฉี่เกือบแตก

เขาเกือบจะคุกเข่าขอร้องซูนโก๋อานแล้ว

ขอแค่ซูนโก๋อานพูดออกมาว่าให้เขาคุกเข่า เขาก็ จะคุกเข่า ซึงเจี้ยนโก๋จะคุกเข่าอย่างไม่ลังเลเลยซักนิด

เพราะว่าความเกลียดชังไม่พอใจ ไม่อยากจะอยู่ใต้ร่มเงาของซ่งเจี๊ยนหยวน หลายปีมากนี้ เขาก็เลยย้าย ไปอยู่ที่เจียงหนาน แล้วก็ทำงานอย่างหนเพื่อให้มีธุรกิจ หลายพันล้าน กลายเป็นคนที่ร่ำรวย จะยอมตายไปง่ายๆ ได้ยังไง

ครั้งนี้ ซูนโก๋อานก็เงียบลงอีกครั้ง

ซึ่งเจี๊ยนโก๋เห็นซูนโก๋อานไม่สนใจเขาอีกต่อไป ก็ หันหน้าไปอีกทางนึง ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว ซูนโก๋อาน เรียกเฉินจิ้นว่าเจ้านาย ถ้าเกิดว่าเฉินจิ้นไม่สั่ง ซูนโก๋อาน ก็ไม่มีวันตอบตกลงเขาแน่นอน

เขารีบมองไปยังเฉินจิ้นทันที

ตอนนั้น สายตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสน วุ่นวาย

ก่อนหน้านี้ เขายังเหยียบย่ำเฉินจิ้นอยู่แล้ว พยายามใช้เขาเพื่อหักหน้าซ่งเจี้ยนหยวน แต่ว่าเพียง แค่พริบตาเดียว ตัวเองกลายเป็นต้องมาอ้อนวอนเขา แล้ว

ตัวเขาเองเทียบกับซ่งเจี๊ยนหยวนไม่ได้เลยซัก นิดไม่ว่าจะทางไหน ตอนนี้ ยังต้องมาขอร้องลูกเขยของ ซึ่งเจี๊ยนหยวน ให้ช่วยชีวิตเขาอีก

ซ่งเจี้ยนโก่รู้สึกเสียใจที่ได้ทำเรื่องราวทั้งหมดลง

ไปก่อนหน้านี้

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ เหมือนกับว่าเมื่อกี้ที่ เขาได้พยายามเหยียบย่ำเฉินจิ้นและฉีกหน้าซ่งเจี๊ยน หยวน มันเป็นหมัดที่กระแทกกลับมาโดนหน้าเขาซะเอง
แต่ว่า ต่อให้ต้องทนทุกข์อีกครั้ง ซึ่งเจี้ยนโก๋ก็ ยอมรับมัน

เพราะว่า เขาไม่อยากตาย

“เฉินจิ้น….” ซึ่งเจี้ยนโก๋หันหน้าไปมองเฉินจิ้น สายตาของเขาเต็มไปด้วยความวิงวอนขอร้อง ซึ่งเจี๊ยนโก้ที่พยายามเหยียบย่ำเฉินจิ้นเมื่อกี้นี้ ตอนนี้เหมือนกับเป็นคนละคนกัน

เฉินจิ้นหัวเราะในใจอย่างเย้ยหยัน แต่ว่าเขากลับ แค่พูดออกมาว่า “ผมเป็นแค่คนรุ่นหลัง เรื่องทั้งหมดให้ พ่อตาเป็นคนตัดสินใจดีกว่า!”

ถึงแม้ว่าเฉินจิ้นเป็นคนที่ต้องล้างแค้น ใครที่กล้า มายั่วแหย่เขา เขาจะทำลายให้หมดทั้งครอบครัว แต่ว่า ใครที่ดีกับเขาแล้วเขาก็จะตอบแทนให้มากกว่าหลาย เท่า

แล้วซ่งเจี๊ยนหยวนก็ดีกับเฉินจิ้นมาก ตอนนี้ แน่นอนว่าเขาต้องรักษาหน้าของซ่งเจี๊ยนหยวนด้วย อย่างที่คาดคิดว่า ทันทีที่ซ่งเจี๊ยนหยวนได้ยินดัง

นั้น ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรมากมาย แต่ว่า เขากลับรู้สึกมีความสุขมาก ก่อนหน้านี้ไม่ว่าซ่งเจี๊ยนโก๋ จะพยายามหักหน้าเขายังไงเขาก็ได้แต่อดทนและไม่ สนใจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะชอบให้คนอื่นมา หักหน้าแบบนั้นนะ

ซ่งเจี๊ยนหยวนยังรู้สึกแบบนั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฉินเฝิ้งเจียวเลย

ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกเย่อหยิ่งขึ้นมาทันที

เมื่อกี้ซ่งเจี้ยนโก๋หักหน้าพวกเธอ บวกกับพวก ญาติๆพวกนั้นที่เย้ยหยันพวกเธอ มันทำให้ฉินเฝังเจียว โกรธมาก

สายตาของฉินเฝิ้งเจียวที่มองเฉินจิ้นในตอนนี้ เหมือนกับกำลังมองลูกชายแท้ๆของตัวเองอยู่

เมื่อก่อนทำไมเธอถึงไม่รับรู้เลยนะว่าเฉินจิ้นดี ขนาดนี้? ยังดีที่เธอยังไม่ได้ให้ซ่งซึงเหย็นกับเฉินจิ้น หย่ากันจริงๆ ไม่ยังงั้นเธอคงรู้สึกเสียดายจนตายแน่เลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ