จักรพรรดิมารหวนคืน

บทที่ 192 จุดชี้



บทที่ 192 จุดชี้

เอ๊?

สายตาของหนูอ้วน ทันใดนั้นก็ถูกแหวนวงนั้นดึงดูดความ

สนใจ

นาทีต่อมา หนูอ้วนก็ได้หายตัวไปจากที่เดิม มาโผล่ที่ข้าง

แหวน

หลังจากที่หยิบแหวนขึ้นมา นัยน์ตาฉายความสงสัยออก

มา

กลิ่นอายที่คุ้นเคย

เป็นใครกัน?

ทำไมถึงได้มีกลิ่นอายที่คุ้นเคยขนาดนี้นะ?

แต่ว่า วินาทีต่อมา ใบหน้าของหนูอ้วน ได้เผยความดีใจ

ออกมา

บนนั้น เขาได้กลิ่นของผู้หญิง

แหวนวงนี้ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นของผู้หญิง

หรือว่า จะเป็นหญิงงามอีกคน

หนูอ้วนคิดอย่างมีความสุข
ภายนอก หลังจากที่เฉินจิ้นเก็บเอาแหวนเก็บของ ก็ได้ไป จากตาหนักของเทพหิมะที่อยู่ลึกสุด

ทั่วทั้งตำหนักเทพหิมะ นอกจากตำหนักด้านในแล้ว ยังมี ตำหนักอื่นๆอีกหลายตำหนัก

แต่ว่า ก่อนหน้านี้นานแล้ว หลังจากที่เฉินจิ้นใช้จิตเสิน สแกนไปทั่วทั้งตำหนัก ก็ได้ค้นหาอย่างละเอียดแล้วรอบหนึ่ง

ต้านใน ของที่เฉินจิ้นต้องการมีไม่มากนัก

ทั่วทั้งตำหนักเทพหิมะ มีเพียงแค่บ่อน้ำทิพย์บ่อนั้น ที่มี ประโยชน์กับเฉินจิ้นมากที่สุด

แต่ว่า ตอนนี้เฉินจิ้นไม่รีบร้อนที่จะดูดซับน้ำทิพย์เพื่อฝึกฝน

หลังจากที่ไปจากตำหนักเทพหิมะแล้ว ทันใดนั้น เฉินจิ้นก็ ได้ปรากฏตัวในอีกตำหนักหนึ่ง

อีกทางตำหนักหนึ่ง เทียบกับตำหนักเทพหิมะแล้ว เล็กกว่า

มาก

ในนั้น ยังมีอาวุธวางอยู่เล็กน้อย แต่ว่า ที่ชำรุดแล้วก็มีไม่

น้อย

แต่ว่ายังมีอยู่สองอย่างที่สมบูรณ์แบบ อันหนึ่งเหมือนกับว่าเป็นกระบี่ที่ทำมาจากคริสตัล เปล่งแสงออกมา ยังมีอีกอัน หนึ่ง แส้ที่เหมือนกับกิ่งหลิว

ล้วนแล้วแต่เป็นอาวุธในการโจมตี อีกทั้งยัง ในบรรดา อาวุธที่โจมตี ถือเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุด แม้จะอยู่นอกเหนือ ขอบเขตของอาวุธโจมตีวิเศษ

แต่อาวุธโจมตีระยะไกล ยังเป็นระยะไกลไม่มากนัก

ถ้าจะคำนวณแล้ว กลายเป็นอาวุธวิเศษที่แม่นย่า อาจจะ แม่นยำมาก

แต่ไม่ได้อยู่ในสายตาของเฉินจิ้น

แต่ก็ยังยื่นมือออกไปจับ อาวุธโจมตีที่สมบูรณ์ทั้งสองอันนี้ เก็บไว้ในกระเป๋า

ถึงอย่างไร แม้ว่าเขาจะไม่ใช้ เขาให้ลูกน้องคนอื่นได้ ก็ยัง มีประโยชน์

หลังจากที่เก็บอาวุธวิเศษแม่นยำทั้งสองแล้ว เฉินจิ้นได้ ตรวจดูตำหนักที่อยู่ด้านขวานี้อย่างละเอียดอีกครั้ง

แต่ก็ไม่พบอะไร

ทางด้านนี้ นอกจากจะเป็นตำหนักจัดเก็บเหล่าอาวุธแล้ว ยังมีห้องฝึกฝน ประเภทหินทิพย์ขับเคลื่อน นอกจากนี้แล้ว ก็ คือตำหนักนอน
ดูเหมือนว่า ที่นี่ น่าจะเคยเป็นสถานที่ฝึกฝนสำหรับเหล่า

ศิษย์วิมานเทพหิมะ และใช้เป็นที่พักผ่อน หลังจากที่ดูทางด้านนี้เสร็จแล้ว เฉินจิ้นได้หายตัวไปใกล

แล้ว

เหมือนกับสายฟ้ายังไงอย่างนั้น ไปโผล่อีกครั้งที่ ตำหนัก นั้นที่ซาควนอยู่

ที่อยู่ตรงข้ามตำหนักตะวันตกที่เฉินจิ้นเพิ่งเข้าไปเมื่อครู่ ตำหนักนี้ มีชื่อว่าตำหนักทิศตะวันออก

การตกแต่งส่วนใหญ่ไม่แตกต่างไปจากตำหนักตะวันออก เพียงแต่ว่าทางด้านนี้ไม่มีคลังอาวุธ แต่กลับมีห้องหนึ่งที่

จัดเก็บหนังสือ เวลานี้ ชาควนก็ได้อยู่ในห้องนี้

จ้องมองหนังสืออย่างตั้งใจ

จิตเสินของเฉินจิ้นสแกนไป ในมือของชาควน หยิบ หนังสือ (วิชากระบี่โพ่เม่)

เวลานี้ คิ้วของชาควน ขมวดเข้ามา

ที่เขาฝึกฝนไม่ใช่วิชากระบี่

หัตถ์ของพระเจ้าชาควน ที่เขาฝึกคือวิชาฝ่ามือ

แม้ว่าจะไม่ได้ฝึกวิชากระบี่ แต่ลองดูก็ไม่เสียหาย เขาเรียน

รู้บางอย่างจากมัน
หลังจากที่เห็นเฉินจิ้นปรากฏตัวอย่างกะทันหัน ชานควน

ตกใจ

เฉินจิ้นเข้ามาได้ยังไง คิดไม่ถึงว่าเขาไม่รู้สึกเลยแม้แต่

น้อย

นี่ก็หมายความว่า ถ้าหากว่าเฉินจิ้นคิดจะเอาชีวิตเขาละก็ ต้องการโจมตีเขา

เขาไม่ได้สังเกตเห็นมันด้วยซ้ำ

“วิชากระบี่ โพเม่ สามารถเอามาศึกษาได้ เล่มนี้ คัมภีร์ หมัด ตงหวง น่าจะมีประโยชน์สำหรับคุณอย่างมาก”

หลังจากที่เฉินจิ้นเข้ามา ใช้จิตเสินสแกน ก็ได้พบกับ

(คัมภีร์หมัดตงหวง) เล่มหนึ่ง เห็นซานควนใคร่ครวญ เฉิน จิ้นยื่นมือออกมาขยับ คัมภีร์หมัด ตงหวง ก็ได้ปรากฏอยู่ตรง หน้าของชาวน

ซาควนอึ้ง

“ฉัน…ฉันไม่รู้จักอักษรเหล่านี้….*

ชาควนเก้ๆกังๆเล็กน้อย

ขณะเดียวกัน นอกจากนี้ยังตกใจที่เฉินจิ้นรู้จักอักษรทั้งสี่ ตัวบนนั้น ยังตกใจอีกก็คือ เผชิญหน้ากับซีกงตำราโบราณ คิดไม่ถึงว่าเฉินจิ้นจะใจกว้าง
หรือพูดได้ว่า ดูเหมือนไม่ได้อยู่ในสายตาแต่อย่างใด?

ชาควนไม่มั่นใจ แต่ในเมื่อเฉินจิ้นสามารถเลือกเล่มนี้ออก มาให้เขาได้ นั่นก็หมายความว่า น่าจะมีประโยชน์สำหรับ เช้ามาก

อีกทั้งยัง เขาไม่รู้จักตัวอักษรเหล่านี้ ไม่ได้หมายความว่า เฉินจิ้นไม่รู้จัก

ในใจของเฉินจิ้น ไม่ได้มีเจตนาจะดูถูกแต่อย่างใด

คัมภีร์หมัดตงหวง อักษรที่ใช้ในนั้น เป็นอักษรที่ใช้ในโลก ฝึกเซียน ซาควนไม่ใช่คนของโลกฝึกเซียน การที่ไม่รู้จักก็ เป็นเรื่องปกติ

“หากคุณเชื่อฉัน เปิดความรู้ในสมอง ฉันจะถ่ายทอดให้ คุณ”เฉินจิ้นพูดเบาๆ

ใบหน้าของชาควนเผยความลังเลแวบหนึ่ง

เปิดเผยความรู้ให้กับคนอื่นรู้ นั่นเป็นข้อห้าม

โดยเฉพาะเผชิญหน้าต่อผู้แข็งแกร่งอย่างเฉินจิ้น แต่ ประชันฝีมือธรรมดา ภายใต้กระบวนท่าเดียว เฉินจิ้นฆ่าตัว เองไม่ได้แน่ แต่ถ้าหากว่าตัวเองเปิดเผยความรู้จิตเสินของ เฉินจิ้นยังแข็งแกร่งอีก

เพียงแค่เฉินจิ้นคิดร้ายกับตัวเอง ในพริบตาเดียวพลังจิต อันทรงพลังสามารถระเบิดออกมาได้ ทำให้ความรู้ของตัว12309

เองแตกเป็นเสี่ยงๆ หรือไม่ก็สับสนได้

เผชิญหน้ากับเหตุการณ์แบบนี้ นั่นก็มีเพียงรอตายอย่าง

เดียว

หลังจากที่เฉินจิ้นเอ่ยขึ้นมาประโยคหนึ่ง ก็ไม่ได้สนใจชา

ควนอีก

จะมีโอกาสนี้หรือไม่ ก็ต้องดูซาควนเองแล้ว

หลังจากผ่านไปหลายวินาที ทันใดนั้นซาควนก็มองไปทาง

เฉินจิ้น พูดอย่างจริงจังว่า: “ฉันเชื่อนายเพื่อนตัวเล็ก”

พูดจบ ก็ได้รุกที่จะเปิดความรู้ในสมองของตัวเองออกมา เฉินจิ้นแข็งแกร่งมาก แข็งแกร่งกว่าธรรมดาทั่วไป ถ้า

หากว่าจะฆ่าเขาจริงๆ เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้อยู่ดี

ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากว่าเฉินจิ้นต้องการที่จะฆ่าเขาจริงๆ แล้วละก็ หลังจากที่ได้ข่าวโบราณสถานแล้วละก็ คงได้ลงมือ ฆ่าไปนานแล้ว ไม่เก็บไว้จนถึงตอนนี้ จะทำให้มันยุ่งยาก ทำไม

เฉินจิ้นเห็นแบบนี้แล้ว มุมปากได้ฉีกยิ้มออกมา

จากนั้น ยื่นมือออกมาจุด

ทันใดนั้น ในสมองของชาควน ก็ได้ปรากฏภาพเหมือนกับ หนังสือเลือนรางยังไงยังนั้นที่แท้ก็คือ (คัมภีร์หมัดตงหวง)

ตัวอักษรก่อนหน้านี้ที่ชาควนไม่รู้จัก ตอนนี้ เปลี่ยนเป็น พลังจิตโดยสิ้นเชิง ทันใดนั้นก็ทำให้ซาควนรู้จักความหมาย ในนั้น

ในสายตาของซาควน ฉายแววตาที่น่าทึ่งออกมา

ทันใดนั้น ก็ได้หลับตาลงทันที ไปสัมผัสกับคัมภีร์หมัดตง หวงแล้ว

ในขณะที่ซาควนสัมผัสอยู่นั้น เฉินจิ้นก็ได้ออกไปจาก

ตำหนักตะวันออก

ด้านในมีพวกซี่กงจำนวนมาก แต่ว่า เห็นแบบนี้แล้ว ไม่ใช่ ซีกงของเทพหิมะ

แต่เป็นการรวบรวมมาเก็บไว้เป็นซีกงของสำนักพรรค

อื่นๆ

ของเหล่านี้สำหรับเฉินจิ้นแล้ว ไม่มีค่าพอที่จะเอ่ยถึง

ไม่ได้อยู่ในสายตาเขาโดยสิ้นเชิง

หลังจากที่ออกจากตำหนักตะวันออก คิ้วของเฉินจิ้น ได้ ขมวดเข้าเล็กน้อย

วิมานเทพหิมะ ดูเหมือนจะไม่มีของดีอะไร

เฉินขึ้นกลับไม่รู้ว่า ถ้าหากให้แตนเสินอันดับแข็งแกร่งที่อยู่ภายนอกนั้นรู้ความคิดของเขาแล้วละก็ แทบอยากจะฟาด ให้เขาตายคาที่

ซีกงเหล่านี้ที่อยู่ที่นี่ ไม่มีชิ้นไหนไม่ใช่ของดี รั่วไหลออกไป ไม่แน่ว่าต้องเกิดการนองเลือดกันอย่างแน่นอน เพียงแค่เล่ม หนึ่งในนั้น สามารถใช้เป็นมรดกตกทอดได้ บังเกิด ครอบครัวหนึ่งขึ้นมาได้

ในขณะเดียวกัน อาวุธแม่นยำวิเศษสองชิ้นที่เฉินจิ้นเก็บไว้ นั้น เทียบได้กับตะข่ายสวรรค์ อยู่ในระดับสมบัติของตระกูล ก็ว่าได้

ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ยังมีแหวนเก็บของของเทพหิมะหนึ่งวง

เทพหิมะ ในเมื่อเป็นเทพหิมะ บรรดาศักดิ์เป็นเทพ คิตว่า ด้านในแหวนเก็บของ ต้องมีของดีไม่น้อย

ยังมี บ่อน้ำทิพย์หนึ่งบ่อ

แน่นอน เฉินจิ้นไม่แน่ใจว่า พวกเขาเข้ามาในวิมานเทพ หิมะ สถานที่โบราณแห่งนี้ เทียบกับที่อื่นๆ ไม่ค่อยเหมือนกัน

วิมานเทพหิมะ แม้ว่าจะดูแล้ว ทรุดโทรมเล็กน้อย แต่ถ้า จะคิดดูแล้วจริงๆ สิ่งที่ทรุดโทรมเหล่านั้น ไม่ได้เสียหายอะไร
วิมานเทพหิมะ ยังคงเป็นที่สวยงามอยู่

เพราะว่ามีบ่อน้ำทิพย์บ่อนั้นดำรงอยู่ ลึกเข้าไปในวิมาน เรกิยังเหลือล้นอยู่

สามารถพูดได้ว่า วิมานเทพหิมะ ไม่เหมือนกับโบราณ สถานที่ปรักหักพัง

และชาควน แม้ว่าจะเป็นแดนเสินอันดับแข็งแกร่งที่แก่แล้ว แต่พลังของเขา ล้วนแล้วแต่ตัวเขาเองที่ฝึกมาทีละขั้นๆ และก็ เป็นเพราะแบบนี้ ซาดวนอยู่ในแดนเสิน ในระดับเดียวกัน กำลังก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน

แต่ว่า แม้ว่าชาควนจะได้ยินเรื่องโบราณสถานบ่อยๆ แต่ ว่าเขายังไม่เคยไปที่โบราณสถานอื่นๆเลย

วันนี้ หลังจากที่ติดตามเฉินจิ้นมาที่วิมานเทพหิมะ แม้ว่าชา ควนจะตกใจ แต่เป็นเพราะว่าไม่เคยชมโบราณสถานอื่นๆ เหมือนกับวิมานเทพหิมะ

หลังจากเฉินจิ้นไปเยี่ยมชมวิมานเทพหิมะแล้ว ก็ไม่ได้หยุด อยู่ตรงนั้น

กลับไปที่ห้องเทพหิมะอีกครั้ง ภายในห้อง

ขณะนี้ เชียวเสวี่ยนกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ในบ่อน้ำทิพย์
เฉินจิ้นไม่ได้ไปรบกวนเธอ และก็ได้หาสถานที่อื่นๆ แล้วนั่ง

ขัดสมาธิลงไป

มองดูเทพหิมะ

พูดเบาๆว่า: “วันนี้ ยืมบ่อน้ำทิพย์ของคุณ ถ้าหากว่าคุณ ยังไม่ตายจริงๆ วันข้างหน้าหากได้พบ ก็จะยื่นมือเข้าไปช่วย

คุณ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ