จักรพรรดิมารหวนคืน

บทที่ 62 พี่ชาย สุดยอดไปเลย!



บทที่ 62 พี่ชาย สุดยอดไปเลย!

“ในเมื่อเจ้าอยากตาย ข้าจะช่วยให้เจ้าสมหวัง

เอง!”

นักเลงพวกนั้น มองเฉินจิ้นไม่นึกว่าจะกำเริบเสิบ สานเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ไม่เกรงกลัวสักนิด ในทางตรงกัน ข้ามสีหน้ากลับคึกคักตื่นเต้น

แต่ละคนที่ก่อความวุ่นวายนั้น เพียงแค่มองเฉิน จิ้น เป็นสิ่งของที่น่ารังแกเหลือเกิน ผอมแห้ง บอบบาง ลงมือขึ้นมา ก็ต้องสำเร็จแน่นอนอยู่แล้ว

“ใครจะเริ่มก่อน?” หัวหน้านักเลงกำลังมองเฉินจ้ นอย่างครุ่นคิด

“พี่ใหญ่ ให้ข้าแล้วกัน ข้าอยากให้เขารู้สักหน่อย ว่าการยุ่งเรื่องของคนอื่นมันต้องแลกมาด้วยความเจ็บ ปวด!”

พูดจบ นักเลงคนนั้นก็หยิบอิฐก้อนหนึ่งที่พื้นขึ้น มา ถอยหลังไปสองก้าว แล้ววิ่ง จากนั้นก็กระโดดขึ้น เพื่อใช้แรงทุบอิฐไปที่เฉินจิ้น

เฉินจิ้นมองเขา ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มที่โหดเหี้ยม ออกมา

ก็ตอนที่นักเลงคนนั้นคิดว่าจะสำเร็จได้ด้วยการ เคลื่อนไหวนี้เพียงครั้งเดียว ตอนที่จะทำให้หัวของเฉิน จิ้นได้เลือด เขาเพิ่งจะพบว่า ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่นึกว่า

เฉินจิ้นจะหายไปต่อหน้าต่อตาเขาแล้ว
“ระวัง!”

ตอนนี้ จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงพี่ใหญ่เดือนขึ้น เขายังไม่ทันได้ตอบสนอง ก็รู้สึกได้ถึงแรง

มหาศาลที่แผ่มาที่ด้านหลัง

จากนั้น แค่เสียงพลักดังขึ้น เขาก็หมดสติไป

หัวหน้านักเลงเห็นน้องชายของตนเองโดน

กระแทกเข้าไปในกำแพง ก็เบิกตาโพลงอดไม่ได้ที่จะ กลืนน้ำลาย ไม่กล้าจะเชื่อตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เจ้า…เจ้าหนุ่มนั่น เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึง ปรากฏตัวอยู่ด้านหลังของน้องชายเขาอย่างกะทันหัน ที่

น่ากลัวไปกว่านั้นคือ ไปเอาพละกำลังที่มากมายขนาด นั้นมาจากไหน แค่เท้าเดียวก็เตะน้องชายของเขาเข้าไป ในกำแพงได้แล้ว

ทั้งร่างจมหายเข้าไปในกำแพง ไม่รู้ได้ว่าเป็น หรือตาย!

“เจ้า….เจ้าจะทำอะไร?”

หัวหน้านักเลง เสียงค่อนข้างสั่นเครือ

“แน่นอนว่าส่งพวกเจ้าไปตายไง!” มุมปากของ เฉินจิ้นปรากฏรอยยิ้มขึ้น

อย่างไรก็ตาม สายตาที่มองนักเลงพวกนั้น ราวกับเป็นรอยยิ้มของมัจจุราช

“แม่เอ้ย อย่าไปกลัวเว้ย เข้าไปด้วยกันเลย จัดการมันให้ตาย!”
หัวหน้านักเลงกัดฟัน แล้วตัดสินใจ

นักเลงพวกนั้นที่อยู่ข้างหลังเขา ได้ยินคำพูดของ พี่ใหญ่แล้ว ก็รีบพุ่งเข้าไปที่เฉินจิ้น

แต่ หัวหน้านักเลงกลับหมุนตัวแล้ววิ่งหนี

เขาแฝงตัวอยู่ในพื้นที่นี้มาหลายปี ยังถือว่ามี ประสบการณ์และความรู้กว้างขวางอีกด้วย ทักษะของ เฉินจิ้นเมื่อครู่ แค่เขามองก็รู้แล้วว่า พวกเขาจัดการไม่ได้ แน่นอน

ถึงกำลังคนจะเยอะ แต่ไม่มีประโยชน์อยู่แล้ว

หัวหน้านักเลงวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าว ก็ได้ยินเสียงร้อง ที่น่าเวทนาดังขึ้นจากด้านหลังตนเองไม่หยุดหย่อน

เขาไม่กล้าหันไปมองอยู่แล้ว วิ่งไปตามซอย ใช้ เรี่ยวแรงที่มีอยู่วิ่งออกมาอย่างเต็มกำลัง

แต่เขาเพิ่งจะวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าว เสียงร้องที่น่า เวทนาจากด้านหลังก็หยุดลงแล้วจากนั้น เขาเพียงรู้สึก เหมือนกับมีสายลมที่พุ่งเข้ามาข้างกาย ต่อด้วย ด้าน หน้าของเขา ก็ปรากฏคนๆหนึ่งออกมา

ขณะนี้ ในหูของเขา มีประโยคหนึ่งลอยเข้ามา: “ตอนนี้ ตาเจ้าแล้ว!”

ได้ยินประโยคนี้ หัวหน้านักเลงก็ตัวสั่นไปทั่วทั้ง

ร่าง

หยุดลงทันที

เขาหันไปมองด้วยจิตใต้สำนึก อยากจะเห็นจุดจบของพวกพี่น้องตนเอง

อย่างไรก็ตาม ไม่เห็นก็ดีแล้ว แต่แค่ได้เห็น ก็ ทำให้เขาตกใจจนฉีราดทันที

ในซอยด้านหลัง เหลือสาวน้อยที่กำลังปิดหูปิด ตาอย่างเชื่อฟังแค่คนเดียว ยังมีร่างของพวกพี่น้องเขา อีกที่ไหนกัน

เพียงแต่ เขามองแค่เล็กน้อย ก็พบร่องรอยที่ว่า พวกพี่น้องของเขานั้น ไม่ได้อยู่ในซอย

แต่กลับอยู่ในกำแพงทั้งสองด้านในซอยแล้ว

โดนกระแทกเข้าไปอย่างรุนแรง ก็ไม่รู้ว่าเป็นตาย ร้ายดีอย่างไร

แต่ที่ชัดเจน โดยพื้นฐานแล้วคงจะไม่รอดแน่ๆ

“พี่ชาย ข้าผิดไปแล้ว ขอร้องล่ะปล่อยข้าไปสัก ครั้งเถอะ เจ้าต้องการอะไร ข้ายอมทั้งนั้น!”

หัวหน้านักเลงตอนนี้แม้กระทั่งความกล้าหาญที่ จะหมุนตัววิ่งหนีอีกครั้งก็ไม่เหลือแล้ว

รีบคุกเข่าลง หมอบไปทางเฉินจิ้นแล้วพูดขึ้น

“ท่าทางยโสโอหังของเจ้าเมื่อครู่ล่ะ? ไม่ใช่ว่าจะ ทำให้ข้าสมหวังหรอกหรือ?” เฉินจิ้นยิ้มเย็นชา

“นั่นข้าก็พูดสุ่มสี่สุ่มห้า ข้าสมควรตาย ข้ามันปาก เสีย!” หัวหน้านักเลงยื่นมือออกมา ตบเข้าไปที่หน้า ตนเองอย่างรุนแรง ราวกับว่าไม่ใช่ใบหน้าของตนเอง อย่างนั้น ตบแรงขึ้นๆ ปากก็พูดไม่หยุด “ได้โปรดท่านมีพละกำลังมากมาย คิดเสียว่าข้าเป็นเพียงลมทิผายออก มาเถอะนะ เพียงแค่ปล่อยข้าไป ไม่ว่าเงื่อนไขอะไรข้าก็ จะยินยอมท่านทั้งนั้น!”

“น่าเสียดาย เจ้าไม่มีค่าสำหรับข้าเลยสักนิด!” เฉินจิ้นทอดถอนใจ “ลงมือกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ยิ่งเป็น ความผิดที่ไม่น่าให้อภัย! แต่ข้าก็ไม่อยากให้กั่วกัวต้อง เห็นเลือด ดังนั้น ข้าก็เลยต้องควบคุมพละกำลังให้ดี สำหรับที่จะมีชีวิตอยู่ต่อได้หรือไม่นั้น ก็ต้องดูความโชค ดีของเจ้าเองแล้ว!”

“อะไรนะ?” หัวหน้านักเลงเบิกตาโพลง ตอนนี้ไม่ เข้าใจความหมายที่เฉินจิ้นพูด

แต่อย่างรวดเร็ว เขาก็เข้าใจขึ้นมาแล้ว

หลังจากที่มีปฏิกิริยากลับมา หัวหน้านักเลงรู้แล้ว ว่าเฉินจิ้นคงไม่ปล่อยตนเองไปแน่ๆ จึงตัดสินใจรีบยืน ขึ้น กลับตัวแล้ววิ่งไปทางกั่วกัว

เพียงแค่ควบคุมกั่วกัวเอาไว้ได้ เจ้าหนุ่มนี่ ก็คงไม่ กล้าทำตามอำเภอใจแล้ว วินาทีนี้ หัวหน้านักเลงถึงกับรู้สึกภูมิใจ ในความ

เฉลียวฉลาดของตนเองขึ้นมาแค่ชั่วพริบตา

ทำไมถึงแค่ชั่วพริบตาล่ะ?

เพราะ ในวินาทีที่เขาปีนขึ้นมาหมุนตัว เขาก็รู้สึก ว่าทั้งร่างกายของตนเองลอยขึ้นมาแล้ว ความคิดของเขาถึงกับยังไม่ได้ตอบสนองกลับมาเขาก็รู้สึกราวกับว่าตนเองชนเข้ากับรถไฟความเร็วสูง ขบวนหนึ่ง

อวัยวะเส้นเอ็นและกระดูกทั้งร่างกาย ราวกับ แตกหักไปหมด

ความเจ็บปวดที่รุนแรงมัวนอยู่ทั่วทั้งร่างกาย สะเทือนเส้นประสาทของเขา

เขาเจ็บจนอยากจะร้องออกมา แต่สุดท้ายก็พบว่า ไม่นึกเลยว่าแม้กระทั่งเสียงเพียงเล็กน้อยตนเองก็ร้อง ไม่ออก

เขาเพิ่งจะมีปฏิกิริยากลับมา ไม่นึกว่า ตนเอง…ตนเองจะถูกฝังเข้าไปในกำแพงแล้ว

“พยายามเข้านะ พยายามมีชีวิตอยู่จนกระทั่งมีคน มาเจอเจ้าล่ะ บางที เจ้าอาจจะยังเก็บชีวิตกลับมาได้”

เฉินจิ้นเห็นพลังชีวิตของหัวหน้านักเลงไม่นึกว่า จะยังแข็งแกร่งใช้ได้เลย อย่างนี้ยังไม่ตายอีก ยิ้มเล็ก น้อยพูดขึ้น

หัวหน้านักเลงได้ยินคำนี้ กลับยิ่งรู้สึกหมดหวัง มากขึ้นแล้ว

ความเจ็บปวดที่ไม่มีขอบเขต รวมกับความหมด หวังที่ไม่มีที่สิ้นสุด ในช่วงสุดท้ายก่อนที่เขาจะหมดสติ ไป หัวหน้านักเลงมีเพียงแค่ความคิดเดียว ถ้ายังได้เกิด ใหม่ ข้าจะหลีกหนีจากสาวน้อยทุกคนให้ไกลๆเลย!
“กั่วกัว ลืมตาได้แล้ว แล้วก็ปล่อยมือได้แล้วล่ะ!”

เฉินจิ้นเดินกลับไปที่ด้านหน้าของสาวน้อย แล้ว นั่งยองๆลงไป ยื่นมือไปลูบๆหัวของเธอ

สาวน้อยถึงรู้สึกตัวได้ว่าเฉินจิ้นกลับมาแล้ว

“พี่ชาย กั่วกัวปิดตา แล้วก็ปิดหูอย่างเชื่อฟังเลย!” สาวน้อยเสียงหวานๆ พูดอย่างว่าง่าย

“กั่วกัวเป็นเด็กดีจริงๆเลย” เฉินจิ้นลูบหัวของเธอ อีกครั้ง กำลังมองสาวน้อยที่ค่อนข้างสกปรก แต่ยังคง สวยมากๆอยู่ สายธนูที่อยู่กลางใจ ราวกับโดนสัมผัสเข้า แล้ว

นี่เป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยมีมาก่อน

ถ้าหน้าตาท่าทางนี้ของเฉินจิ้น โดนเหล่าผู้มี อิทธิพลในจักรวาลที่มีพลังพิเศษเห็นเข้าล่ะก็ ต้องตกใจ มากแน่ๆ

เจ้าแห่งโลกปีศาจ ไม่นึกว่ายังมีมุมที่อ่อนโยนเช่น

นึกไม่ถึงจริงๆเลย!

นี้

“พี่ชาย แล้วพี่ๆพวกนั้นเมื่อครู่ล่ะ?” ตาโตๆของกั่ วกัวที่แค่ลืมตาทั้งคู่ ก็ค่อนข้างพร่าเบลอ

“คนพวกนั้นเมื่อครู่เป็นคนไม่ดี พวกเขาโดนข้าไล่

ไปหมดแล้ว!” รอยยิ้มของเฉินจิ้นอ่อนโยนมากขึ้น
ตั้งแต่ได้พบกัวกัวในวินาทีนั้นเฉินจีนก็รู้สึกว่าสาว น้อยคนนี้ เหมือนกับเป็นพรหมลิขิตของตนเองที่ต้อง หลงใหลเธออย่างนั้น

ไม่อย่างนั้น เฉินจิ้นก็คงไม่ตั้งใจให้เธอปิดหูปิดตา หรอก ถึงกับเปลืองแรงเล็กน้อย ควบคุมพละกำลังให้ดี แล้วก็เตะนักเลงพวกนั้น เข้าไปในกำแพงแล้ว

ก็ไม่อยากให้สายตาที่ใสซื่อบริสุทธิ์ของกั่วกัวนั้น ได้เห็นฉากที่โหดเหี้ยมเกินไป

ไม่อยากให้จิตใจที่อ่อนโยนของเธอ มีเงามืดอยู่ ข้างใน!

“พี่ชาย พี่สุดยอดไปเลย!” เห็นเฉินจิ้นบอกว่าไล่ คนไม่ดีไปแล้ว กั่วกัวก็ดีใจขึ้นมาทันที กระพริบตาโตๆที่ สวยงามของตนเองคู่นั้น แล้วก็ปรบมือให้เฉินจิ้น

จากนั้น ก็เหมือนกับคิดอะไรได้บางอย่าง

กั่วกัวรีบก้มตัวลง เก็บลูกอมสองเม็ดที่พื้นด้าน ข้างขึ้นมา แล้วใช้สองมือประคองเอาไว้ ส่งให้เฉินจิ้น “พี่ชาย ให้พี่!”

ครั้งนี้ ไม่เสียดายเหมือนกับตอนที่เผชิญหน้ากับ

นักเลงพวกนั้น แววตาพึงพอใจ ให้ของที่มีค่าที่สุดของ

ตนเอง!

เฉินจิ้นยิ้มแล้วพยักหน้าพูดขึ้น: “อิ้ม ขอบใจนะ วกัว พวกเราแบ่งกันคนละเม็ดดีไหม?”

กั่วกัวกลอกตาดำขลับไปมา ลังเลเล็กน้อย แล้วก็ตอบรับ: “กั่วกัวกับพี่ชาย คนละเม็ด!”

เฉินจิ้นก็ไม่ได้รังเกียจที่เก็บขึ้นมาจากพื้น ยังแกะ เปลือกลูกอม แล้วก็กินจริงๆอีกด้วย

กั่วกัวเห็นอย่างนี้ ก็กระพริบๆตาสวยๆคู่นั้น แกะ เปลือกลูกอมอีกเม็ดหนึ่ง แล้วป้อนเข้าปากของตนเอง

ในตอนที่รู้สึกถึงความหวานที่แพร่เข้ามาที่ปลาย ลิ้น ก็ยิ้มอย่างเปล่งประกายทันที

ราวกับว่าได้กินของที่อร่อยที่สุดบนโลกใบนี้

“กั่วกัว เจ้ารู้ไหมว่าพ่อแม่ของตนเองเป็นใคร?” เฉินจิ้นถาม

ใบหน้าของกั่วกัวปรากฏความสับสนเล็กน้อย แล้วก็ส่ายหัว: “กั่วกัวไม่มีครอบครัว”

“งั้นอยากไปกับข้าไหม?” เฉินจิ้นถามขึ้นอีกครั้ง

ตอนนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของกั่วกัวยิ่งเปล่ง ประกายมากขึ้น แล้วก็พยักหน้าอย่างเต็มกำลัง

เฉินจิ้นได้ยินในสิ่งที่เธอพูดแล้ว ลุกขึ้นยืน จูงกั วกัว เดินออกไปนอกซอย

แววตา เปล่งประกายระยิบระยับ!

ตั้งแต่วันนี้ ร่างกายอากาศธาตุที่หมื่นปีก็ยากจะ ได้เห็น ได้เกิดใหม่แล้ว!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ