จักรพรรดิมารหวนคืน

บทที่ 55 งานเลี้ยง



บทที่ 55 งานเลี้ยง

เมื่อเร็วๆนี้ เมืองเจียงโจวได้เกิดเรื่องมากมาย

ประการแรกคือมหาเศรษฐีตระกูลเหอในเจียงโจว ได้หายตัวไปทั้งหมดในชั่วข้ามคืนและตระกูลเหอก็ได้ เปลี่ยนหัวหน้าคนใหม่

จากนั้นก็เป็นการเปลี่ยนแปลงของตระกูลหวาง หวางเจิ้นเวยสละราชบังลังก์ ส่งให้กับลูกสาวของเขา หวางเม่ยหว

หลังจากนั้นก็เป็นการตายที่น่าเศร้าของสมาชิก แก๊งเทียนกิ่ง การต่อสู้เกิดขึ้นที่ถนนบาร์และพื้นที่ถูกแบ่ง โดยกองกำลังใต้ดินจากทุกด้าน

มหาเศรษฐีของเมืองเจียงโจว ได้กลิ่นอายผิด ปกติ

บางที เจียงโจวซึ่งสงบมานานกำลังจะเกิดเรื่อง ขึ้นอีกครั้ง

แต่เฉินจิ้นตัวเอกที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เหล่านี้ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นอีกเลยในสองวันที่ผ่านมาและ ได้อุทิศตัวเองอย่างสุดใจให้กับการฝึกฝน

เมื่อถึงวันฉลองครบรอบของมหาวิทยาลัยเจียง

โจว

เฉินจิ้นไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมในช่วงกลางวันของ

โรงเรียน
ภายใต้การเชิญที่หนักแน่นของท่านอธิการถาง เจิ้งหยางและความคาดหวังของซ่งชิงเหย็น เฉินจิ้นออก จากการฝึกในคืนฉลองวันครบรอบของโรงเรียน มุ่งไป ยันโรงแรม และได้ร่วมงานงานเลี้ยงสัมมนาของ โรงเรียน

ในทุกๆปีของการจัดงานฉลองของมหาวิทยาลัย เจียงโจว เชิญผู้สำเร็จการศึกษาที่ประสบความสำเร็จ กลับมา รวมทั้งผู้นำในเมืองเจียงโจวหลายคน

ดังนั้น คนส่วนใหญ่ที่ได้รับจดหมายเชิญจะมา ร่วมงาน ไม่ว่าจะว่างหรือไม่ก็ตาม

แน่นอนว่าเป้าหมายไม่ใช่มาร่วมกิจกรรมเฉลิม ฉลองของมหาลัย แต่เพื่อมาสารสัมพันธ์และทำความ รู้จักกับผู้มีอำนาจ

เกือบทุกปีของมหาวิทยาลัยเจียงโจว ได้ส่งเสริม ความร่วมมือมากมายในการประชุมแลกเปลี่ยนในงาน เลี้ยงนี้

เมื่อเฉินจิ้นมาถึงการประชุมแลกเปลี่ยนอาหารค่ำ ได้เริ่มขึ้นแล้ว

หลังจากส่งการ์ดเชิญแล้ว บริกรก็พาเฉินจิ้นไปที่ ห้องจัดเลี้ยง

เวลานี้ ในห้องจัดเลี้ยงมีผู้คนเดินไปมา ทุกคน ดูหรูหรา การสนทนาดูสูงส่งและสง่า

ในทางตรงกันข้าม เฉินจิ้นที่สวมเสื้อผ้าตลาดนัด ดูเหมือนจะไม่อยู่ในสถานที่เล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม เฉินจิ้นไม่รู้สึกอายและเดินตรง เข้าไป

เขากำลังมองหาว่าซ่งชึงเหย็นอยู่ที่ไหน ซ่งชึง เห็นคือจุดประสงค์หลักของเขาในการเข้าร่วมงาน เลี้ยงนี้ เพราะว่าซ่งซึงเย็นเฝ้ารอคอยงานนี้มานานแล้ว ด้วยเหตุนี้ เธอจึงพาเขาไปซื้อเสื้อผ้าราคาแพงหลายชิ้น

แต่เสื้อผ้าเหล่านั้นไม่เหมาะสำหรับการฝึกฝน หลังจากที่เฉินจิ้นสวมมันขณะลองเสื้อผ้า เขาก็ไม่ได้ สัมผัสมันอีกเลย

วันนี้เฉินจิ้นฝึกฝนเสร็จอีกครั้ง เขาก็ตรงมาที่งาน เลี้ยงและไม่มีโอกาสที่จะเปลี่ยน

เฉินจิ้นไม่พบซ่งชิงเหย็น แต่ถูกหลายคนเรียกไว้

” นี่เฉินจิ้นไม่ใช่เหรอ?”

เมื่อเฉินจิ้นเดินผ่านโต๊ะที่มีขนมหวานต่างๆ จู่ๆก็มี คนพูดขึ้น

เฉินจิ้นหันหน้าไปมองและเห็นชายหญิงที่แต่ง ตัวดีหลายคนมองมาที่เขาในเวลานี้

อายุราวๆเขา

จากความทรงจำของ “นี่คือเฉินจิ้น” คนเหล่านี้ ล้วนเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนในมหาวิทยาลัยของเฉินจิ้น ตอนอยู่มหาลัย เขารู้ว่าคนเหล่านี้ล้วนเป็นเด็กรุ่น

สอง

ในหมู่พวกเขา มีคนคนหนึ่งที่เฉินจิ้นรู้จักเขาเป็นอย่างดี

นั่นก็คืออู่ฉินเวย

ในตอนนี้ สายตาที่เขามองไปที่ดวงตาของเฉิน จิ้นเต็มไปด้วยความไม่ปราณี

เมื่อเห็นเขา เฉินจิ้นก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มที่มุมปาก ของเขาด้วยความเย็นชา ถ้าอู่ฉินเวยรู้ว่าตอนนี้เขาติด เอดส์ ไม่รู้ว่าเขาจะสิ้นหวังแค่ไหน!

เมื่อเฉินจิ้นเห็นคนเหล่านี้แค่ประหลาดใจเล็ก น้อย พวกเขาไม่ได้มีเจตนาที่จะเชิญชวนให้เขาไปพูด คุยกัน

จากนั้นเขาพยักหน้าให้เพื่อนร่วมชั้นเหล่านี้และ ถือว่าได้กล่าวทักทายกันแล้ว

“ป้าดโธ่ หยิ่งอะไรหยิ่ง?” ผู้ชายใส่แว่นคนหนึ่ง

พูดออกมาอย่างไม่พอใจ

“ถ้าไม่ใช่เพราะโชคดี เข้าสู่ตระกูลซ่งและกลาย เป็นลูกเขยแต่งเข้าไปบ้านผู้หญิงของซ่งชิงเหย็น ใคร จะจำเขาได้?” ชายอ้วนอีกคนก็พูดเสริม

“แต่ว่า ผมจำได้ว่าดูเหมือนจะไม่มีเขาในกิจกรรม ตอนกลางวันนะ?ทำไมถึงมางานเลี้ยงอาหารค่ำในตอน กลางคืนละ?” สาวสวยในชุดราตรีขมวดคิ้วเล็กน้อย

ท่าทีของเฉินจิ้น ทำให้พวกเขาไม่พอใจเล็กน้อย

กิจกรรมช่วงกลางวัน ผู้ที่สำเร็จการศึกษา จะได้ รับการจัดแบ่งตามชั้นเรียนของมหาวิทยาลัย รวมถึงอาหารค่ำก็เช่นกัน โดยทั่วไปจะจัดที่นั่งตามชั้นเรียนของ มหาวิทยาลัย หากคุณต้องการพบปะผู้คนอื่นๆ คุณ สามารถเดินไปมาได้

ในตอนกลางวัน พวกเขาไม่เห็นเฉินจิ้นเลย

“เป็นไปได้ไหมที่คุณแอบเข้ามาโดยไม่ได้รับ

การ์ดเชิญ”

อู่ฉินเวยยิ้มเล็กน้อย

สายตาที่มองเฉินจิ้นเต็มไปด้วยความรังเกียจและ

ดูถูก

ถ้าลู่เทียนไม่ถูกฆ่าตาย เรื่องการลักพาตัวซ่งชึง เห็นและวางยาเธอไม่ฟังไปก่อน ในเวลานี้ สายตาที่ เขามองไปที่เฉินจิ้นคงเหมือนกับว่าซีเหมินซิ่งมองอู่ต้า หลัง

“แอบเข้ามาคงไม่ใช่หรอก เพราะเขาได้แต่ง เข้าไปในตระกูลซู่ซ่ง บางทีเขาอาจเข้ามาด้วยสถานะสา มีของซ่งชิงเหย็นก็ได้!”

ทุกคนพูดกันไปมา ไม่ได้เห็นเฉินจิ้นอยู่ในสายตา

เลย

จริงที่พวกเขาไม่ได้เห็นเฉินจิ้นอยู่ในสายตา

ในสายตาของพวกเขาเฉินจิ้นเป็นเพียงลูกเขยที่ โชคดี เขาไม่มีภูมิหลังและไม่มีทักษะที่เก่งจริง หากซ่ง ชิงเหยินอยู่ที่นี่ พวกเขาก็จะยังคงสนทนากันอย่างสุภาพ

เมื่อฟังคำพูดเหล่านี้ของพวกเขา เฉินจิ้นยิ้มเล็กน้อยและไม่สนใจพวกเขา

เมื่อเห็นเฉินจิ้นหันกลับมาและกำลังจะจากไป อู๋ ฉินเวยก็รู้สึกไม่พอใจในทันที

ในเวลานี้ ในวงการลูกคนรวยเหล่านี้ เห็นได้ชัด ว่ายาจกอย่างเฉินจิ้นเป็นแค่ตัวประกอบ

ช่างเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เหยียบเฉินจิ้นในเวลานี้

เฉินจิ้นกล้าทำให้เขาอับอายในห้างสรรพสินค้า ดังนั้น ตอนนี้ถึงเวลาที่เขาจะแก้แค้น เขาต้องการให้เฉิน จิ้นรู้ว่า ตัวเรือดคือตัวเรือด ยาจกก็คือยาจก เขาจะไม่มีวัน เป็นคนที่ไม่สามารถให้คนอื่นยอมรับได้

” เฮ้ เฉินจิ้น คุณอย่าพึ่งไปสิ เป็นเพื่อนร่วมชั้นเก่า กันหมด มาแสดงความเคารพและชนแก้วกันหน่อย ไหม?”

อู่ฉินเวยเรียกเฉินจิ้นทันที แต่ไปเน้นหนักคำว่า “เคารพ”

เฉินจิ้นได้ยินคำนั้นและมองไปที่ดวงตาของอู่ฉิน เวยและความเย็นชาก็ปรากฏขึ้น”คุณ คู่ควรเหรอ?”

คำพูดของเฉินจิ้น ทำให้ใบหน้าของคนร่ำรวย เหล่านี้ดูแย่

แม้ว่าจะเป็นอู่ฉินเวย แต่ก็เห็นได้ชัดว่าอู่ฉินเวยอ ยู่วงเดียวกันกับพวกเขา เฉินจิ้นพูดสิ่งนี้ ก็ถือว่าพูดถึง พวกเขาด้วย

ท่าทีของเฉินจิ้น แม้ว่าอู่ฉินเวยจะไม่พอใจ แต่ก็มีความสุขที่ไม่อาจบรรยายได้ในใจของเขา

ในหมู่พวกเขา นอกจากคนที่ร่ำรวยแล้ว ยังมีจ้าว เทียนเผิงที่ไม่พูดอะไรที่เป็นลูกหลานของนักการเมือง

ช่วยไม่ได้ พ่อของจ้าวเทียนเผิง เป็นผู้บังคับ บัญชามือขวาของสำนักบางแห่งในเมืองเจียงโจว ส่วน จ้าวเทียนเผิงอายุแค่นี้ ก็เป็นถึงผู้จัดการของบริษัทที่มี มูลค่าหลายสิบล้านแล้ว

คนร่ำรวยรุ่นที่สองเหล่านี้ แม้ว่าครอบครัวของ พวกเขาจะมีมูลค่าหลายสิบล้านหรือหลายร้อยล้าน แต่ พวกเขาไม่ใช่ลูกที่ร่ำรวยเหมือนตระกูลเหอและตระกูล หวาง แน่นอนว่าพวกเขาต้องการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ คนอย่างจ้าวเทียนเผิง

หลังจากเห็นสีหน้าของจ้าวเทียนเผิง ดูแย่จริง ด้วย อู่ฉินเวยก็พูดอีกครั้งทันที”เฉินจิ้น พูดดีๆไม่ชอบใช่ มั้ย คุณคิดว่าคุณจ้าวไม่คู่ควรเหรอ?เพื่อนร่วมชั้นเก่า อย่างพวกเรา ไม่คู่ควรให้คุณมาชนแก้ว?”

“แม้ว่าซ่งชิงเหย็นภรรยาของคุณจะอยู่ที่นี่ ก็ต้อง มาที่นี่เพื่อมาชนแก้ว …”

เมื่อเห็นอู่ฉินเวยดึงตนเองเข้าไปมีส่วนร่วมกับเขา จ้าวเทียนเผิงรู้สึกไม่มีพอใจเล็กน้อย แต่เขาก็ยังคงพูด ว่า “เฉินจิ้น เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนเก่ากันทั้งนั้น มาดื่มกัน สักแก้วเถอะ!”

น้ำเสียงของจ้าวเทียนเผิง มีบางอย่างที่ไม่ สามารถปฏิเสธได้
แน่นอนว่าเขาไม่อยากดื่มกับเฉินจิ้นจริงๆ เฉิน นมีสิทธิ์อะไร?

เพียงแค่ว่าอู่ฉินเวยดึงเขาเข้ามาเกี่ยวข้องกับ เรื่องนี้ด้วย ถ้าเฉินจิ้นไม่ยอมให้หน้า เขาก็จะเสียหน้า เช่นกัน

เฉินจิ้นหัวเราะอย่างเย็นชา

หากมันขึ้นอยู่กับมิตรภาพของเพื่อนร่วมชั้นและ ต้องการดื่มร่วมกัน เฉินจิ้นจะไม่ปฏิเสธ

แต่เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่!

*พวกคุณ ไม่คู่ควร!”

คราวนี้เฉินจิ้นไม่ได้ถามอีก แต่ให้คำตอบที่ยืนยัน

โดยตรง

“คุณคิดว่าคุณเป็นใคร?”

อู่ฉินเวยกล่าวอย่างเคร่งขรึมทันที

ครั้งนี้ เฉินจิ้นใช้คำว่า “พวกคุณ” ซึ่งทำให้เพื่อน ร่วมชั้นรวยรุ่นที่สองเหล่านี้จ้องมองด้วยความโมโหทันที

เฉินจิ้นไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย

แต่อู่ฉินเวย คราวนี้เฉินจิ้นวางแผนที่จะไม่ปล่อย เขาไปแล้ว

เดิมที่ต้องการรอให้เขาพบมันอย่างช้าๆแล้วก็สิ้น

หวัง

เฉินจิ้นตัดสินใจประกาศจุดจบล่วงหน้า
“ผมอะไรก็ไม่ใช่ แต่ผมขอแนะนำให้คุณไปตรวจ

ที่โรงพยาบาลดีกว่านะ!” เฉินจิ้นมองไปที่อู่ฉินเวยและหัวเราะเยาะ

” คุณหมายความว่าไง?” อู๋ฉินเวยผงะไปชั่วขณะ จากนั้นมองไปที่การจ้องมองของเฉินจิ้นด้วยความระแวง

เขากังวลว่าเฉินจิ้นจะทำอะไรอีก ทำให้ขาสอง ข้างของเขาชา อยู่ในสถานที่แบบนี้ ถ้าเสียหน้าไปก็เอา กลับมาไม่ได้อีกแล้วนะ “ไม่ได้หมายความว่าอะไร ได้ยินมาว่าสองวันก่อน

คุณได้หาสาวอเมริกันมาสองคน แต่คุณไม่รู้คุณรู้ไหมว่า

สาวสองคนนั้นติดเชื้อเอชไอวี คุณไม่รู้เหรอ?”

เฉินจิ้นยิ้มเล็กน้อย เสียงของเขาดังมาก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ