จักรพรรดิมารหวนคืน

บทที่ 29 มาเยี่ยมหัวหน้า



บทที่ 29 มาเยี่ยมหัวหน้า

สายตาของทุกคนต่างไปกองกันอยู่ที่เฮินจิ้น

แม้แต่ญาติอย่างซูนเจ๋อ พอรู้ว่าซ่งเจี๊ยนหยวน ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ก็รู้จักที่จะเตรียมของขวัญ ราคาแพงเพื่อมาต้อนรับ เพื่อให้ร่างกายเขากลับมาแข็ง

แรง

แต่ว่าเฉินจิ้นล่ะ ลูกเขยแท้ๆของเขา ทำอะไรให้ เขาบ้าง?

เฉินจิ้นที่โดนทุกคนจับจ้องอยู่นั้น ไม่ได้สนใจเลย แม้แต่นิดเดียว

แถมเขายังคลี่ยิ้มออกมาอย่างเย็นชา “ผมไม่ได้ เตรียมของขวัญอะไรให้เลย!”

ไร้สาระ

ในบรรดาทุกคนที่อยู่ที่นี่ มีใครไม่รู้บ้างว่าเขาไม่ ได้เตรียมของขวัญอะไร

สุดท้าย ประเด็นสำคัญก็คือ เขาไม่ได้เตรียมของ ขวัญอะไรให้ แถมยังพูดออกมาอย่างมั่นอกมั่นใจอีก ช่างไม่มีความละอายใจเลยจริงๆ

“เฉินจิ้น ทำไมยังมีหน้าพูดออกมาอย่างมั่นอก มั่นใจขนาดนี้อีกงั้นเหรอ?”

ลุงคนหนึ่งของซ่งชีึ่งเหย็นพูดออกมาอย่างทนไม่

ไหว
เฉินจิ้นกลับยิ้มกว้างกว่าเดิม แต่ว่า มันกลับเป็น รอยยิ้มที่เยือกเย็นมาก

สายตาที่มองเขามานั้น ราวกับว่ากำลังมองคน ปัญญาอ่อนยังไงยังงั้น

หลังจากนั้น เฉินจิ้นก็พูดออกมานิ่งๆว่า “ผมไม่ได้ เตรียมของขวัญอะไรมา แต่ว่ายังดีกว่า เอาของขวัญที่ เอาออกมาจากหลุมศพมาให้คนอื่นเป็นไหนๆ”

“หรือว่าพวกคุณไม่รู้สึกว่า พวกสร้อยข้อมือ หรือ พวกหยกต่างๆที่เขาให้นั้น แต่ว่ามันกลับมีพลังปีศาจ?”

“ถ้าเกิดว่าอยากตายล่ะก็ ก็ทำตัวเป็นเด็กน้อย ชอบใส่เครื่องประดับต่อไปเถอะครับ!”

อะไรนะ?

หลังจากเฉินจิ้นพูดออกไป สถานการณ์ก็ปั่นป่วน ขึ้นมาทันที

คุณป้าคนหนึ่ง ที่ใส่ข้อมือหยกอยู่นั้น ก็รีบถอดมัน ออกทันที ตอนที่ใส่ข้อมือหยกนั้น ก็รู้สึกเหมือนเย็นๆ แต่

ตอนแรกเธอก็นึกว่าเป็นที่อุณหภูมิร่างกายของตัวเอง

เธอกลัวจนรีบถอดข้อมือออกทันที

“เฉินจิ้น นี่นายกำลังพูดอะไรไร้สาระอยู่หนะ?” ซุนเจ๋อสีหน้าและน้ำเสียงเย็นชาทันที

“ฉันกำลังพูดอะไรอยู่ ตัวนายเองก็ควรจะรู้ดีที่สุด ไม่ใช่เหรอ?” เฉินจิ้นยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น
ตั้งแต่ที่ซูนเจ๋อหยิบของขวัญพวกนี้ออกมา เฉิน นก็สามารถรับรู้ได้ถึงพลังปีศาจทันที

แล้วอีกอย่าง เฉินจิ้นยังเห็นอีกว่า ของพวกนี้มี

ควันสีดำล้อมรอบอยู่ ถ้าเกิดว่ามันไม่ได้เอามาจากศพ ก็คงไม่ได้มีพลัง

ปีศาจติดมาด้วยแบบนี้หรอก

พอเห็นว่าเฉินจิ้นมั่นใจขนาดนี้ สีหน้าของซูนเจ๋อ ก็เปลี่ยนไปทันที

ของพวกนี้ เขาซื้อมาจากพ่อค้าตลาดมือสองที่ ราคาขายต่ำกว่าราราตลาดหลายเท่า พูดได้ว่า มันก็ออก

มาจากหลุมศพจริงๆนั่นแหละ

แต่ว่า เรื่องพวกนั้น เขารู้ได้ยังไง

“สามารถมองเห็นพลังปีศาจได้ นายคิดว่านาย เป็นนักบวชในศาสนาเตาหรือยังไง? คิดว่าจะแกล้งว่าตัว เองเป็นภูติผีปีศาจงั้นเหรอ?”

“เฉินจิ้น ถ้าเกิดว่านายอยากจะใส่ร้ายฉันเพราะว่า ตัวเองไม่ได้เตรียมของขวัญมาให้พ่อตาของตัวเองนั้น ฉันก็จะดูถูกนายมากนะ”

หวางเจ๋อรีบพูดออกมา เพื่อที่จะเปลี่ยนหัวข้อ

สนทนา

ใช่ไง

พวกญาติๆก็ต่างพากันคิดว่า เฉินจิ้น เฉินจิ้นจะรู้ เรื่องราวพวกนี้ แต่ว่าพวกเขามองไม่ออกงั้นเหรอ?
ได้แต่พูดฉอดๆปากเปล่า

แน่นอนว่ามันต้องเป็นเพราะว่าเฉินจิ้นไม่ได้ เตรียมของขวัญมาให้ ก็เลยจงใจใส่ร้ายคนอื่น

เฉินจิ้นคนนี้ ช่างเป็นคนชั้นต่ำจริงๆ

เมื่อก่อนก็แค่ได้ยินมาว่าเฉินจิ้นที่แต่งงานเข้า บ้านฝ่ายหญิงมานั้นเป็นแค่คนไร้ประโยชน์ แต่ไม่คิดเลย

ว่า ยังเป็นคนไม่มีคุณธรรมอีกด้วย

ในตอนนี้ สายตาของญาติหลายๆคนที่มองเฉินจ์ นก็เปลี่ยนไป

ไม่ชอบ!

รังเกียจ!

“เฉินจิ้น ครั้งนี้นายก็ทำไม่ถูกนะ ถ้าเกิดว่าไม่ได้ เตรียมของขวัญมาจริงๆก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร เลย แต่ว่ากลับมาใส่ร้ายซุนเจ๋อแบบนี้ นายไม่ได้แค่ ทำให้ตัวเองเสียหน้านะ

ลุงของซ่งชิงเหยินหัวเราะออกมา

“เจี้ยนหยวน ดูแลลูกเขยตัวเองให้ดีๆหน่อยนะ อย่าให้เขาไปทำให้ตระกูลซ่งต้องขายหน้าต่อหน้าคน อื่น!”

“ถูกต้อง ลูกเขยของเธอสองคนต่างกันมากเลย

นะ!”

“ตัวเองไม่เป็นการเป็นงาน ก็ไม่ต้องมาทำเป็นเก่ง ไม่งั้นมันจะกลายเป็นตัวตลกแบบนี้”
ซึ่งเจี๊ยนโก๋ที่อยู่ข้างๆ ได้ยินเรื่องพวกนี้ ก็รู้สึก เหมือนจะตัวลอยอย่างมีความสุข

สบายใจ!

สบายใจมากจริงๆ!

ฉินเฝิงเจียว ซึ่งชึงเหย็นกับซ่งจื่อหารสามแม่ลูก ก็ต่างพากันโกรธจนหน้าแดงก่ำไปหมด

ถ้าเกิดว่ารู้ให้เร็วกว่านั้น พวกเขาก็จะไม่มีวันเชิญ พวกญาติพวกนี้มาแน่นอน

พวกเธอก็รู้สึกว่า ถ้าเฉินจิ้นพูดแบบนี้ แสดงว่า

หยกพวกนั้นมีปัญหาจริงๆ ตอนนี้ พวกเธอเชื่อใจเฉินจิ้นเต็มร้อย!

ในตอนนี้ ฉินเฝิ้งเจียวก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป

เฉินจิ้นมอบของขวัญที่ดีที่สุดให้เจี้ยนหยวน นั่น ก็คือการช่วยชีวิตเขากลับมา จะมีของขวัญอะไรที่มันมี ค่ามากกว่านี้อีกล่ะ?”

พอฉินเฝิ้งเจียวพูดออกไปตามนั้น ญาติทุกคนก็ อึ้งทันที

รวมถึงซ่งเจี๊ยนโก่ที่กำลังมีความสุขอยู่นั้น เขาก็ อึ้งไปเหมือนกัน!

เมื่อกี้เขาได้ยินอะไรนะ?

เหมือนว่าเมื่อกี้เขากำลังได้ยินเรื่องที่น่าขำที่สุด เท่าที่เขาเคยได้ยินมาตลอดชีวิตเลย
“พี่สะใภ้ ถึงแม้ว่าเธออยากจะช่วยรักษาหน้าให้ เฉินจิ้น แต่ว่าก็ไม่ควรโกหกแบบนี้นิ? เขาเป็นหมองั้นเห รอ? หรือเขารู้ไหมว่าอะไรที่เรียกว่าการรักษา? รู้จักการ ช่วยรักษาคนด้วยงั้นเหรอ?”

ใบหน้าของซ่งเจี้ยนโก๋เต็มไปด้วยรอยยิ้มเหยียด

หยาม

ฉินเฝิ้งเจียวจ้องหน้าเขา แล้วพูดต่อว่า “แม้ว่า หมอเทวดาอย่างซุนโก๋อาน ยังมาขอร้องให้เฉินจิ้นช่วย รักษาเขา นายคิดว่าไงล่ะ?”

ตอนที่พูดถึงตรงนี้ ใบหน้าของฉินเฝิ้งเจียว ก็เต็ม ไปด้วยความภาคภูมิใจ

อะไรนะ?

หมอเทวดาอย่างซูนโก๋อาน ขอให้เฉินจิ้นช่วย รักษาเขายังงั้นเหรอ?

คำพูดพวกนี้ ทำให้ทุกคนอึ้งไปเลย

แม้แต่ซ่งเจี๊ยนโก๋ที่อยู่ไกลถึงเมืองเจียงหนาน ก็ ยังรับรู้ถึงชื่อเสียงของซูนโก๋อานเลยเหมือนกัน

นั่น คือหมอที่เป็นตำนานของวงการการแพทย์งั้น

เหรอ

ฮว่าถัวที่ยังมีชีวิตอยู่!

คนแบบนั้นน่ะรหอ ที่มาขอร้องเฉินจิ้น?

นี่มันช่างเป็นเรื่องที่น่าตลกเกินไปแล้ว
“เฉินจิ้น นายเป็นหมอเหรอ?” ทันใดนั้นก็มีคน หยอกล้อออกมา

พอเฉินจิ้นได้ยินดังนั้นก็ส่ายหัว “ไม่ใช่!”

เขาไม่ได้เป็นหมอจริงๆ!

“ฮ่าๆ พี่สะใภ้ ดูสิ แม้แต่เฉินจิ้นยังยอมรับว่าตัวเอง

ไม่ใช่หมอเลย..”

ซึ่งเจี๊ยนโก่รู้สึกสะใจมาก

เขารู้สึกเหมือนได้หักหน้าคนหลายฉากเลย

การที่เฉินจิ้นฉีกหน้าแม่ยายของตัวเอง เป็นเรื่อง

ที่เกินความคาดหมายของเขาเหมือนกัน

แต่ว่า ยิ่งเป็นแบบนี้ เขายิ่งสะใจ

ตอนที่ซ่งเจี๊ยนโก๋เผชิญหน้ากับคู่ของซ่งเจี้ยน หยวน ไม่เคยมีความรู้สึกมีความสุขขนาดนี้มาก่อนเลย

“ผมไม่ใช่หมอ แต่ผมก็มองออกว่าคุณป่วย!” เฉิน จิ้นพูดออกมาอย่างเย็นชา

อะไรนะ?

ซึงเจี๊ยนโก่นิ่ง

พอซูนเจ๋อได้ยินดังนั้น ก็รีบด่าเฉินจิ้นออกมา ทันที “เฉินจิ้น นายนี้มันยังไงกันแน่? ตอนนี้กำลังแช่ง ผู้ใหญ่ว่าป่วยงั้นเหรอ!”

เฉินจิ้นมองหน้าซูนเจ๋อ สายตาของเขาเต็มไป ด้วยความกระหายเลือด
เขาพูดต่อ “ไม่ได้แค่ป่วยนะ แต่นอกจากลูกเขย อย่างนายแล้ว พวกนายก็ป่วยกันทั้งบ้านเนี่ยแหละ!”

“ถ้าเกิดว่าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง พวกคุณ ทั้งสามคน อยู่รอดได้ไม่เกินสามปีหรอก!” หลังจากเฉินจิ้นพูดออกไป ทุกคนก็เงียบลงทันที

ทำไมทุกคนถึงนึกไม่ถึงเลยว่า เฉินจิ้นจะบ้าระห่ำ ได้ขนาดนี้

หลังจากโดนคนจับได้แล้วก็พาลโกรธ แถมยังมา แช่งครอบครัวของซ่งเจี๊ยนโก๋อีก

“พอแล้ว เฉินจิ้น นายนี่มันได้คืบจะเอาศอกเกิน ไปแล้ว แถมยังกล้าแช่งครอบครัวฉันอีก!

หวางเจ๋อด่าออกมาทันที

ในขณะเดียวกัน ก็มีความรู้สึกสับสนเกิดขึ้นในใจ

“เป็นแค่คนหนุ่มที่โง่เขลา แถมยังกล้ามาแช่ง พวกเราอีก พี่ใหญ่ ดูลูกเขยแสนดีที่พี่เลือกมาสิ! ยอด เยี่ยมจริงๆเลย!”

ตอนนั้นซ่งเจี้ยนโก๋ ไม่สนใจเรื่องที่สะใจหรือไม่ สนใจแล้ว ตอนนี้เขาโกรธแล้วจริงๆ

“ใครบอกว่าเขาแช่งคุณงั้นเหรอ?”

ในตอนนั้น ด้านหลังของคนพวกนั้น ก็มีเสียง หัวเราะดังขึ้น

“ใคร?”
ซึ่งเจี๊ยนโก๋หันหน้าไปมอง แล้วก็เห็นคนที่ผมขาว ทั้งหัว แต่ว่าใบหน้าแดงเรื่อ แล้วก็เดินเข้ามาในห้อง ของพวกเขาอย่างช้าๆ

“เขา เขาคือหมอเทวดา ซูนโก๋อาน!”

ลุงของซ่งชึ่งเหย็นพูดออกมาด้วยความตกตะลึง เขาเคยเห็นการสัมภาษณ์ของซุนโก่อาน พอเห็น ก็เลยจำได้ทันที

อะไรกันนะ?

ซูนโก๋อาน ?

หลังจากทุกคนพยายามมองอย่างละเอียด ก็ เหมือนว่าจะเป็นแบบนั้นจริงๆ เขาไม่ค่อยต่างจากที่เคย เห็นในข่าวเท่าไหร่

ซูนโก๋อานมองหน้าคนพวกนั้น ราวกับว่ากำลัง มองพวกพิการทางปัญญา

แต่ว่า อารมณ์ของเขากลับรู้สึกดีมาก

เมื่อก่อน ใบหน้าแดงระเรื่อของเขานั้น เป็น สัญญาณก่อนความตาย

แต่ว่าตอนนี้ ใบหน้าแดงระเรื่อของเขา มันสื่อถึง สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง

โรคที่รบเร้าเขามาหลายปี แต่เฉินจิ้นสามารถ กำจัดมันออกไปได้อย่างง่ายดาย ทำให้ซูนโก๋อานรู้สึก ชื่นชมเฉินจิ้นมากจริงๆ
“ใครบอกว่าเขาแช่งคุณงั้นเหรอ?”

“คุณ ป่วยจริงๆ!”

“พวกคุณทั้งสามคน ป่วยทั้งหมด!”

ซูนโก๋อานเดินเข้ามา แล้วก็มองหน้าพวกซ่งเจี๊ยน โก๋ หลังจากนั้นก็หัวเราะออกมา

ครั้งนี้ ทุกคนก็ต่างตกใจอย่างมาก

โดยเฉพาะซ่งเจี๊ยนโก๋ เขารู้สึกตกใจอย่างมาก

เขาจะป่วยได้ยังไง?

ร่างกายเขาแข็งแรงจะตาย

ตอนที่เฉินจิ้นพูดออกมานั้น เขารู้สึกเหมือนแค่ว่า เฉินจิ้นกำลังแช่งเขาอยู่

แต่ แต่ว่าตอนนี้ คำพูดเหล่านั้นมันออกมาจาก หมอเทวดาอย่างซุนโก๋อาน

จะไม่เชื่อก็ไม่ได้

เรื่องนี้ก็แล้วไป หลังจากซูนโก๋อานเข้ามาในห้อง นี้ เขามองหน้าทุกคนแล้วก็เอ่ยออกมานิ่งๆว่า “ของพวก นี้ไม่สะอาด ผมเตือนว่าพวกคุณไม่ควรจะใส่ไว้ใน ร่างกาย ไม่งั้น การบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยอาจจะก่อให้ เกิดโรคร้ายแรงได้!”

ครั้งนี้ พวกญาติทุกคน ก็อึ้งอีกครั้ง

เมื่อกี้ที่เฉินจิ้นพูดออกมา พวกเขาก็รู้สึกแค่ว่าเฉิน จิ้นพยายามจะใส่ความหวางเจ๋อ
แต่ว่าตอนนี้ แม้แต่หมอเทวดาอย่างซุนโก๋อานก็ พูดเหมือนกันงั้นเหรอ?

“แล้วก็โสมจีนอันนี้อีก ดูผ่านๆเหมือนว่าคุณภาพดี มาก แต่ว่าจากกลิ่นดินที่ติดมาด้วยนั้น มีกลิ่นของ ซากศพติดมาด้วย เดาว่า คงจะปลูกในสุสาน ไม่ควรจะ กินเข้าไปเด็ดขาด ไม่ยังงั้นก็จะเป็นอันตรายต่อร่างกาย อย่างมาก!”

ซูนโก๋อานพูดต่อ

เวลานี้ ทุกคนไม่เพียงแต่ตกใจ สายตาของทุกคน ที่มองซูนเจ๋อก็เปลี่ยนไป

และยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาก็หยิบของขวัญที่ซูน เจ๋อมอบให้ออกมาอีกครั้ง

หลังจากพูดพวกนี้จบ ซูนโก๋อานก็เดินไปหยุดอยู่ ตรงหน้าซ่งเจี้ยนหยวน

แล้วก็หยิบกล่องเล็กๆออกมา

“ซูนโก๋อาน ขอยินดีด้วยที่คุณกลับมาแข็งแรง และได้ออกจากโรงพยาบาล ของขวัญเล็กน้อยจากผม เพื่อแสดงความยินดี!”

นี่ นี่มัน..

นี่ทุกคนก็กำลังเห็นอะไรอยู่?

หมอเทวดาอย่างซุนโก๋อาน ก็มาแสดงความยินดี กับซ่งเจี้ยนหยวนด้วยงั้นเหรอ?

ต้องรู้ไว้ว่า ขนาดข้าราชการใหญ่ของเมืองเจียงโจว ถ้าอยากจะพบซุนโก๋อาน ก็ยังเป็นเรื่องยากเลย

แต่นี่ ซ่งเจี๊ยนหยวน เขาไปเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ ขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?

เรื่องนั้นช่างมันก่อน หลังจากนั้นซูนโก่อาน ก็หัน ไปมองหน้าเฉินจิ้น

โค้งคำนับด้วยความเคารพ “ซุนโก๋อาน มาเยี่ยม เจ้านายครับ!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ