บทที่ 27 ถึงเวลาที่ควรจะมีลูกได้แล้ว
เจียงโจว บ้านตระกูลหวาง
ข้างในห้องประชุม เต็มไปด้วยความโกรธแค้น
“ไอ้สัตว์ นี่ แกต้องตาย!”
แม่บ้าน คุณป้าที่อยู่รอบๆ พอได้ยินเสียงนั้นก็รู้สึก กลัวจนหัวหด รีบออกจากที่นั่นทันที
พวกเธอรู้ดีว่า ถ้าเกิดว่าท่านเจ้าของบ้านโกรธขึ้น เมื่อไหร่ ใครก็ตามที่ทำให้เขารู้สึกรำคาญ คนนั้นต้อง ซวยแน่ๆ แล้วชีวิตที่เหลือจากนี้ก็จะน่าเวทนามาก
“เล่ยเป้า แกรู้โทษของตัวเองไหม?”
หัวหน้าตระกูลหวาง หวางเจิ้นเวย มองหน้าเล่ย เป้าที่ยืนอยู่กลางห้องโถง เขาโกรธมากจนอยากจะ กระทืบเขาให้ตาย
“การที่ไม่ได้คุ้มครองคุณชายให้ดี ขอให้คุณ ตัดสินโทษมา ผมก็เต็มใจจะยอมรับทุกอย่าง”
เล่ยเป้าคุกเข่าลงบนพื้นแล้วก็สั่นไปทั้งตัว
เขาคิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่นมาแต่ไหนแต่ไร แถม ตอนนี้ เขายังห่างจากบูโดขั้นสูงสุดอีกแค่หนึ่งขั้นเท่านั้น เขาแทบจะไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย แม้แต่ช่างจง ที่เป็นแชมป์ของนักมวยใต้ดินที่มีชื่อเสียง มากมาย เขาก็ไม่คิดจะเห็นค่าเลยด้วยซ้ำ ในสายตาของ เขา ก็มองแค่ว่าเป็นคนที่มีแรงเยอะแค่นิดหน่อยเพียงเท่านั้น
แต่ว่าหวางเจิ้นเวยที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ คือคน ที่เล่ยเป้าเลียแข้งเลียขามาโดยตลอด ไม่ยังงั้น เขาคง ไม่ได้อยู่ในบ้านตระกูลหวางมาได้นานขนาดนี้หรอก
“ฆาตกรล่ะ?”
หวางเจิ้นเวยปล่อยให้เล่ยเป้าคุกเข่าอยู่ที่พื้น อย่างไม่แยแส แล้วก็ถามออกมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
หวางฮ่าวคือลูกชายคนโตของเขา ถึงแม้ว่าจะ ทำตัวลูกผู้ดีมีเงิน แต่ว่าเขาอายุยังน้อย ถ้าฝึกฝนไปฝึก ซักสองสามปี เขาก็จะสามารถมารับช่วงต่อของตระกูล หวางได้แล้ว
แต่ว่าตอนนี้ ลูกชายของเขา ตายแล้ว
“เล่นเป้าไร้ความสามารถ รู้แค่ว่าเขาชื่อเฉินจิ้น เป็นลูกเขยของตระกูลซ่ง สามีของซ่งชิงเหย็น นอกนั้น ผมก็ไม่รู้อะไรเลยครับ”
พอพูดจบ เล่ยเป้าก็รู้สึกแสบคอ แล้วก็กระอัก เลือดออกมา
ถึงแม้ว่าเฉินจิ้นจะไม่ได้ฆ่าเขา แต่ว่าหลังจากนั้น ก็ทำร้ายเขา เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาได้รับโทษมาแล้ว
แต่ว่า เล่ยเป้าก็สงสัยว่า ถ้าเกิดว่าเฉินจิ้นไม่อยาก ให้เขากลับมาเล่าต่อ เขาก็คงต้องเจอชะตากรรมเหมือน กับหวางฮ่าว
“ซึ่งชีงเหย็น ลูกสาวของซ่งเจี๊ยนหยวน?” หวางเจิ้นเวยกัดฟันกรอด
“กำจัดตระกูลซ่งซะ แล้วจับซึ่งซึ่งเย็นกับเฉินจี้ นมาให้ฉัน ฉันจะต้องให้พวกมันชดใช้!”
หวางเจิ้นเวยพูดออกมาด้วยความโกรธแค้น ตระกูลซ่งฆ่าลูกชายของเขา เท่ากันรนหาที่ตาย “พ่อ ยังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน!”
ตอนนั้นเอง หวางเม่ยอวูที่นั่งเงียบๆอยู่ด้านข้าง ตลอดก็พูดออกมา
หวางเจิ้นเวยขมวดคิ้ว แล้วมองหน้าหวางเม่ยอว สายตาของเขาอ่อนโยนลงเล็กน้อย “ทำไม?”
หวางเม่ยอยู่เปลี่ยนท่าทีกลับมาเป็นเนือยๆ เหมือนปกติ เธอไม่ตอบคำถามของหวางเจิ้นเวยทันที แต่ว่าหันไปมองหน้าเล่ยเป้า “เล่ยเป้า การที่นายสามารถ มีชีวิตกลับมาได้จนถึงตอนนี้ เฉินจิ้นได้สั่งให้นายมาพูด อะไรไหม?”
“คุณผู้หญิงฉลาดมากเลยครับ” เล่าเป้าใจสั่นไป หมดทั้งตัว เขาพยายามจะพูดออกมาแต่ว่าตั้งนานก็พูด ไม่ออก
“พูดมา”
หวางเจิ้นเวยเห็นท่าทีของเขา ก็พูดออกมาด้วย ความโกรธ
“เฉินจิ้นบอกว่า เขาเคยเตือนพวกเราแล้ว แต่ว่า คุณชายหวางฮ่าวก็ยังกล้าไปแตะต้องผู้หญิงของเขาโทษก็คือ ต้องโดนประหารทั้งครอบครัว!”
พอพูดถึงตรงนี้ เสียงของเล่ยเป้าก็เริ่มสั่นขึ้นมา
อีกครั้ง
เขาคิดไว้ว่า หวางเจิ้นเวยต้องโกรธเป็นฟื้นเป็น
ไฟแน่นอน
“กำเริบเสิบสาน!”
ไม่ต้องเดาเลยว่า พอหวางเจิ้นเวยได้ยินประโยค นั้น ก็ระเบิดออกมาทันที
เขาตบโต๊ะลงไปด้วยความโกรธ ทันใดนั้น โต๊ะก็ แตกออกเป็นเสี่ยงๆ
ใบหน้าที่สวยงามของหวางเม่ยอว เหมือนกำลัง ถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็ง
แต่ว่าหวางเม่ยอวรู้ดีว่า เขาต้องพูดอะไรอีก แน่นอน เธอขยับริมฝีปากที่แดงระเรื่อของเธอแล้วพูดว่า “พูดต่อสิ!”
เล่นเป้ารู้สึกกลัวจนใจสั่นไปหมด กลัวว่าหวาง เจิ้นเวยจะฆ่าเขาทิ้งด้วยความโมโห แต่ว่า พอนึกถึงฝีมือ ที่น่ากลัวของเฉินจิ้นแล้วนั้น เขาก็รู้สึกเสียวไปทั้งตัว แล้วรีบพูดต่อว่า “เขายังพูดอีกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างนี้มัน เกิดเพราะว่าการกระทำของคุณชายหว่างฮ่าวเอง เพราะ ฉะนั้น เขาให้เราเตรียมชุดยาสมุนไพรที่เขาต้องการ แล้วเขาจะไม่มาอะไรกับตระกูลหวางอีก ไม่ยังงั้น…
เล่ยเป้ากลืนน้ำลายของตัวเอง เหงื่อออกหน้าผากไม่หยุด
ประโยคต่อไปนั้น เขากลัวจริงๆว่าหวางเจิ้นเวยจะ ฆ่าเขาทั้งด้วยความโกรธ
“พูด”
มันไม่เป็นเหมือนที่เล่ยเป้าคาดคิดไว้ หวางเจิ้นเว ยมีท่าทีสงบลง เพราะว่าความโกรธ จะทำให้เขาสูญเสีย การคิดอย่างมีเหตุผลและการตัดสินใจ
“ไม่งั้น ไม่งั้น….เจียงโจว จะไม่มีตระกูลหวางอีก
ต่อไป!”
ประโยคนี้หมายความว่ายังไง หมายความว่าถ้า
ตระกูลหวางไม่เชื่อฟัง เขาก็จะถอนรากถอนโคนตระกูล หวางซะ ให้หายไปจากเจียงโจวตลอดกาล “ดี ดีมาก นี่มันไม่ใช่แค่บ้ารำห่ำแล้ว แค่มันคน
เดียว ยังกล้าพูดขนาดนี้ บอกว่าจะลบชื่อของตระกูลหวา
งออกจากเจียงโจวไปงั้นเหรอ มันเป็นเพียงแค่ความเพ้อ
ฝันของคนโง่เท่านั้นแหละ!”
หวางเจิ้นเวยโมโหมากจนหัวเราะออกมา!
“คุณผู้หญิงครับ เฉินจินยังฝากผมมาบอกคุณ ด้วย” เล้ยเป้ารู้สึกว่า ความตายกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ ตัวเองมากขึ้นทุกที
แต่ว่าเขาไม่กล้าไม่พูดออกมา
หลังจากที่เขาได้เห็นฝีมือที่น่ากลัวของเฉินจิ้น แล้ว เขาก็รู้สึกกลัวจริงๆ!
ถ้าเกิดว่าเฉินจิ้นรู้ว่าเขาไม่รายงานคำพูดให้หมด กลัวว่าจะเจอสถานการณ์เหมือนวันนั้น แค่คิดเขาก็รู้สึก เสียวสันหลังแล้ว
หวางฮ่าวกับเหอเซ่า โดนทำร้ายอย่างอนาถ ภาพ นั้นยังติดตาเขาอยู่เลย แม้แต่เล่ยเป้าที่เป็นคนโหดเหี้ยม แถมยังชอบฉีกร่างศัตรูที่กำลังมีชีวิตอยู่นั้น แต่ว่าเมื่ออยู่ ต่อหน้าเฉินจิ้น กลับกลายเป็นเหมือนมดน้อยที่มองมด ตัวใหญ่
ถ้าเกิดว่าทำผิดต่อเฉินจิ้น ไม่เพียงแค่ต้องตาย เท่านั้น แต่ว่าก่อนตาย ก็ต้องถูกทรมานอย่างแสนสาหัส ในวินาทีนั้น ความตาย กลับกลายเป็นวิธีหลุดพ้นที่ง่าย ที่สุดแล้ว
เขาเต็มใจตายเองยังจะดีซะกว่า!
แล้วจะไม่กลัวได้ด้วยเหรอ?
“พูดว่าอะไร?” หวางเม่ยอวูกัดริมฝีปากตัวเอง เบาๆ
“เขา…เขาบอกว่า คุณคือคนฉลาด ย่อมรู้ดีอยู่แล้ว ว่าต้องทำยังไง แล้วอีกอย่าง ครั้งที่แล้วที่เขาบอกคุณไป เขาไม่ได้ล้อเล่น ถ้าเกิดว่ามีครั้งต่อไป เขาก็จะมาปรากฏ ตัวบนเตียงของคุณอีกครั้ง..”
พอเล่ยเป้าพูดแบบนั้นออกมา ทั้งห้องโถงนั้นก็ เงียบสงัดลงทันที!
อะไรนะ?
เฉินจิ้นเคยเจอหวางเม่ยอวมาก่อนงั้นเหรอ? เขาเคยปรากฏตัวที่เตียงของเธองั้นเหรอ? ในตอนนั้น คนสำคัญของตระกูลหวางก็ต่างเบิก
ตาโพลง ถ้าเกิดว่าตระกูลเจิ้งของเมืองจึงเฉิงรู้เข้า เขาจะ
คิดยังไง และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ พลังของหวางเม่ยอว
ยังอยู่ไหม? นี่มันเป็นปัจจัยเดียวที่ตระกูลหวางของพวกเขาจะ
ได้เกี่ยวดองกับตระกูลเจิ้งของเมืองจึงเฉิง
“ไอ้เลว ฉันจะฆ่ามัน!”
พอหวางเม่ยอวได้ยินดังนั้น ทันใดนั้นใบหน้าของ เธอก็เต็มไปด้วยความโกรธ เธอกัดฟันแน่น รู้สึกอยากจะ ฆ่าคน
“เม่ยเอ๋อ ? “หวังเจิ้นเวย และคนสำคัญของตระ กูลหวางทั้งหลายก็ต่างหันมามองหน้าหวางเม่ยอว
“เมื่อคืนเขามาเตือนหนูจริง แต่ก็แค่มาเตือน เท่านั้น!”
หวางเม่ยอวูตอบอย่างเยือกเย็น
พอได้ยินเธอพูดดังนั้น คนในตระกูลหวางก็รู้สึก
วางใจ
ถ้าเกิดว่าพลังของหวางเม่ยอวูหายไปก่อนแต่งงาน ก็เหมือนเป็นการหักหน้าตระกูลเจิ้งของเมืองจึง เฉิง ตอนนั้น ถ้าเกิดว่าทำผิดต่อตระกูลเจิ้งของเมืองจึง เฉิง นั่นแหละถึงจะเรียกว่าอันตราย ที่ตระกูลหวางจะ โดนลบออกไปจากเมืองเจียงโจว!
หวางเม่ยอวูมองหน้าพวกลุงๆของตระกูลหวาง รวมถึงพ่อแท้ๆของเธอ สิ่งที่พวกเขากังวลไม่ใช่เรื่อง ความปลอดภัยของตัวเอง แต่เป็นเรื่องที่ว่าพลังหยวน หยินของเธอยังอยู่รึป่าว เธอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก
“พ่อคะ ตกลงทำตามเงื่อนไขของเฉินจิ้นเถอะ ถ้า เกิดว่าเขากล้ามาท้าถึงหน้าประตูขนาดนี้แล้ว ก็ให้เขา เข้ามาแล้วกลับไปไม่ได้อีก!”
หวางเม่ยอวกัดริมฝีปากแน่น พอมาเป็นถึงเรื่อง ความรักของตัวเองแล้วนั้น สายตาของเธอก็เย็นชาขึ้น มาราวกับน้ำแข็ง!
ซึ่งซึ่งเหย็นกับซ่งจื่อหารโดนลักพาตัวไป เรื่องนี้ ซึ่งเจี๊ยนหยวนกับฉินเผึ้งเจียวไม่ได้รู้เรื่องเลย
พอเฉินจิ้นพาลูกสาวทั้งสองคนมาหา ซึ่งเจี้ยน หยวนกับฉินเฝิ้งเจียวก็รีบต้อนรับอย่างกระตือรือร้น
“จิ้นเอ๋อ ลูกไปไหนมาหนะ? ทำไมถึงพึ่งกลับมา ตอนนี้ล่ะ?”
ซึ่งเจี๊ยนหยวนมองหน้าเฉินจิ้น ก็รู้สึกเป็นกังวล ขึ้นมา
เขารู้สึกเป็นห่วงเฉินจิ้นจากใจจริง ยิ่งไปกว่านั้น ครั้งนี้ที่เฉินจิ้นช่วยชีวิตเขา ก็เลยทำให้เขาเห็นเฉินจิ้นเป็นเหมือนลูกแท้ๆ
ฉินเฝิ้งเจียวก็มีสีหน้าเป็นห่วง ตอนนี้ เธอรู้สึก พอใจในตัวลูกเขยคนนี้มาก
พอใจมากเกินไปด้วยซ้ำ
สำหรับผู้หญิงที่มีอำนาจมากอย่างฉินเฝิงเจียวนั้น เฉินจิ้นไม่ได้รู้สึกชอบใจเท่าไหร่นัก แต่ว่าซ่งเจี๊ยนหยวน เขาดีกับเฉินจิ้นมากจริงๆ
ดังนั้น เฉินจิ้นก็ยิ้มออกมาแล้วตอบว่า “ข้างนอกมี เรื่องนิดหน่อย ตอนนี้พึ่งจัดการธุระเสร็จครับ!”
“ฮ่าๆ ก็ดี ผู้ชายก็มีธุระของตัวเองให้ต้องจัดการ อยู่แล้ว จัดการธุระเสร็จแล้วก็อย่าลืมมาดูแลคนใน ครอบครัวด้วยนะ”
ซึ่งเจี๊ยนหยวนพูดออกมาอย่างสนิทสนม
เขาได้ยินจากฉินเส็งเจียวแล้ว เพราะว่าเรื่อง เข้าใจผิด ซ่งชีงเหย็นก็เลยต้องการหย่ากับเฉินจิ้น
หลังจากได้ยินต้นตอของเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ซ่งเจี๊ยนหยวนก็ตำหนิฉินเฝิงเจียวออกไปทันที
ยิ่งไปกว่านั้น ซ่งเจี้ยนหยวนที่เป็นคนหัวโบราณ เขาก็คิดว่า การที่ลูกสาวได้แต่งงานกับผู้ชายคนนั้น นั่น หมายถึงตลอดชีวิต อยู่ๆจะมาหย่าได้ยังไง แถมยังต้อง ไปหาผู้ชายคนอื่นอีกงั้นเหรอ
ในตอนนั้น ซ่งเจี้ยนหยวนก็แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง
ราวอะไร
“ใช่สิ จิ้นเอ๋อ ซึ่งเหย็น พวกเธอก็แต่งงานกันมา สามปีแล้ว น่าจะถึงเวลาที่จะมีลูกได้แล้วสินะ? อาศัย ตอนที่เรายังสุขภาพแข็งแรงอยู่ พวกเธอก็สามารถยุ่งกับ ธุรกิจต่อไปได้ เราก็จะได้เลี้ยงลูกให้แทน”
ซึ่งเจี๊ยนหยวนพูดพลางหัวเราะออกมา
พอพูดออกมา ใบหน้าของซ่งซึงเหย็นก็แดงก่ำ ขึ้นอีกครั้ง!
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ