บทที่ 170 เธอรอก่อน ฉันจะไปฆ่าคนอีกไม่กี่คน

เงินจีนใช้จิตเสินสแกนออกไป มุมปากยิ้มเยาะ

เจ็ดอย่าง

คิดไม่ถึงว่าจะมีลมปราณเจ็ดอย่างของแดนเสินพุ่งมาที่เขา หลังจากรู้สึกได้ถึงลมปราณเหล่านี้ เฉินจิ้นก็หยุดในทันที

เขาพาเชียวเสวี่ยนรีบเหาะไปบนท้องฟ้า

เมื่อพบว่าเฉินจิ้นหยุตลง เชียวเสวี่ยนก็เงยหน้ามองมาทาง เฉินจิ้น ดวงตาสวยฉายแววสงสัย

แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร

“เธอรอก่อน ฉันจะไปฆ่าคนอีกไม่กี่คน!”

เฉินจิ้นพูดเบาๆ

เขาพูดว่าฆ่าคนง่ายเหมือนการกินข้าวดื่มน้ำอย่างไรอย่าง

นั้น

แม้ว่าเชียวเสวี่ยนจะมีจิตใจไร้เดียงสา แต่เติบโตมาใน สถานที่เช่นเขตสามเหลี่ยมภายใต้การคุ้มครองของปู่ สำหรับการฆ่าคนนั้น แม้เชียวเสวี่ยนแทบจะ ไม่เคยเห็นด้วยตาตัวเอง แต่เชียวเสวี่ยนก็ใช่ว่าจะไม่คุ้นเคย

กับคำสองคำนี้

“ระวังตัวด้วย”

เชียวเสวี่ยนเอ่ยปากทันที

ในขณะที่พูด หน้าก็แดงเล็กน้อย

เฉินจิ้นพยักหน้า จากนั้นก็พาเชียวเสวี่ยนลงสู่พื้นดิน

หลังจากจัดวางเชียวเสวี่ยนเรียบร้อยแล้ว เฉินจิ้นก็เขย่ง เท้ากระโดดขึ้นไปในอากาศอีกครั้ง

ทะยานขึ้นไป

เมื่อเชียวเสวี่ยนเห็นภาพนี้ สายตาก็เปี่ยมไปด้วยความ

เลื่อมใส

ในขณะเดียวกันก็แฝงไปด้วยความเสียใจและอิจฉา

เธอเองก็อยากเป็นเหมือนปู่ เหมือนเฉินจิ้น แต่เธอไม่มี พรสวรรค์ในการฝึกฝน

ด้วยเหตุนี้ปูจึงปกป้องเธออย่างดี
หลังที่ยอดเขจากที่เฉินจิ้นทะยานในอากาศอีกครั้ง

ลมปราณทั้งเจ็ดอย่างของแดนเสินในเวลานี้ได้ปรากฏขึ้น แล้วในขอบเขตการมองเห็นของเฉินจิ้น

ขายหกหญิงหนึ่ง

เฉินจิ้นรู้จักตัวตนเทพทั้งเจ็ดจากแดนเสินโดยไม่ต้องใช้

ความคิดเลย พวกเขาทั้งหมดมาจากตระกูลใหญ่ของครอบครัวที่ซ่อน

อยู่

ที่ยอดเขาเขียวลูกศิษย์จำนวนมากได้ลงนามสัญญา วิญญาณกับเฉินจิ้น โดยมีแดนเสินชั้นสูงอยู่เบื้องหลังตระกูล

“เฉินจิ้น ถึงนายจะไม่รู้ว่าเราเป็นใคร แต่ก็คงจะเดาสถานะ ของเราได้”

เมื่อคนเหล่านี้เห็นเฉินจิ้น เฉินจิ้นก็เอาไพล่หลังเผชิญหน้า กับเจ็ดแดนเสินที่รวมตัวกัน เขาไม่ได้หนีและไม่ได้ประหลาด ใจเลยแม้แต่น้อย

เฉินจิ้นโหดเหี้ยมมากและมีพลังที่แข็งแกร่ง
จากข้อมูลที่พวกเขารับรู้มา สามารถพูดได้ว่าเฉินจิ้นเป็น คนอวดดีเป็นที่สุด

เงินขึ้นยิ้มเยาะ “ก็เป็นเพียงหมูหมากาไก่ของครอบครัวที่ ซ่อนอยู่เท่านั้น!”

ทันทีที่เฉินจิ้นพูดออกไป เจ็ดแดนเสินก็มองมาที่เขาด้วย การแสดงออกที่แตกต่างกัน แต่บนตัวของทุกคนกลับระเบิด ไอสังหาร

“นายอยากรนหาที่ตายจริงๆ ใช่ไหม?”

ในเวลานี้แดนเสินหญิงเพียงคนเดียวในบรรดาเจ็ดแดนเสิ นก็พูดออกมาด้วยความเยือกเย็น

เธอก็คือผู้อาวุโสซอมิ่งคอง ซึ่งเป็นตระกูลซอแดนเสินจาก ครอบครัวที่ซ่อนอยู่ เฉินจิ้นยิ้มเยาะไปตรงๆ “คนสุดท้ายที่พูดกับฉันแบบนี้ก็

คือท่านอาวุโสสามแห่งเย่าเก๋อ ถ้าเธอต้องการจะตามรอย เขา ฉันจะจัดการให้เอง” ทันทีที่เฉินจิ้นพูดออกไป แดนเส้นชั้นสูงเจ็ดคนก็ถึงกับผงะ

เฉินจิ้นโหดเหี้ยมจริงๆ หยิ่งยโสเกินไปแล้ว

ท่านอาวุโสสามแห่งเย่าเก๋อที่อยู่บนยอดเขาเขียวถูกเฉิน

จีนสังหาร เรื่องนี้ได้แพร่กระจายออกไปนานแล้ว

ต่อหน้าเจ็ดแดนเส้น เฉินจี้นยังกล้าซู่และยังกล้าเกรี้ยว กราดถึงขั้นนี้

“เฉินจิ้น นายเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากในเย้นเชี่ยของฉัน ในรอบหนึ่งร้อยปีหรือถึงขนาดหนึ่งพันปี ไม่ใช่เรื่องง่ายที่คน อย่างนายจะปรากฏตัวบนโลกด้วยพรสวรรค์อันน่าที่ง แต่ นายต้องไม่ทำผิด”

“เรื่องที่นายบังคับให้คนรุ่นหลังของฉันลงนามสัญญา วิญญาณก่อนหน้านี้ ขอเพียงนายยอมตกลงกับเราและคืน สัญญาวิญญาณที่พวกเขาลงนาม ก็ถือว่าพวกเราเลิกแล้วต่อ กัน เป็นไง?”

ขอมิ่งคอง ลู่หยุนให่ คนอื่นๆและชนรุ่นหลังของครอบครัว ที่ซ่อนอยู่ถูกเฉินจิ้นบังคับให้ลงนามสัญญาวิญญาณ หลัง จากกลับตระกูล ท่านอาวุโสในตระกูลก็จัดการทันทีเพราะ ต้องการจะลบสัญญาวิญญาณ ทว่าแม้พวกเขาจะอยู่ในแดน เสิน ถึงขนาดที่บรรพบุรุษเป็นถึงแดนเส้นอันดับสูงสุด ก็ไม่มี ทางแก้ไขสัญญาวิญญาณนี้ได้

ในท้ายที่สุดครอบครัวที่ซ่อนอยู่เหล่านี้พร้อมด้วยซอมิ่ง ตองและคนอื่นๆก็ได้ออกตามหาตระกูลเกิ่งที่เชี่ยวชาญเรื่องตาถา วิญญาณ การเช่นไหว้ เป็นต้นเพื่อขอให้ตระกูลเกิ่งดำเนินการแก้ไขสัญญาวิญญาณ

ที่เงินจีนบังคับให้พวกเขาลงนาม

ขอมิ่งของและคนอื่นๆไม่ได้กลัวที่เฉินจิ้นบังคับให้พวกเขา

ลงนามสัญญาวิญญาณมากมายขนาดนั้น สิ่งที่พวกเขาสนใจมากกว่าคือความอับอาย

ที่พ่ายแพ้เฉินจิ้นและถูกบังคับให้ลงนามการกู้ยืมที่ไม่เป็น ธรรมด้วยความอัปยศอดสู

เพราะตระกูลเกิ่ง พวกเขาจึงไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องสัญญา วิญญาณพวกนี้

อย่างไรก็ตามเมื่อผู้อาวุโสแตนเสินในตระกูลไม่สามารถ ทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ จึงทำให้คนเหล่านี้หวาดวิตก

แต่ก็ไม่ได้กังวลเกินไป

เพราะทุกคนไว้วางใจในตระกูลเกิ่งอย่างมากกับเรื่องพวก

นี้

อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นซอมิ่งคอง หรือคนรุ่นหลังคน อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการลงนามสัญญาวิญญาณ หรือผู้อาวุโสแดนเสินของครอบครัวที่ซ่อน อยู่เหล่านี้ล้วนไม่ได้คาดคิดมาก่อน

เมื่อพวกเขาไปที่ตระกูลเกิ่ง

ในท้ายที่สุดกลับคาดไม่ถึงว่าตระกูลเกิ่งก็ตอบกลับมาว่า ไม่มีทางแก้ไขได้

ควรรู้ไว้ว่าความเชี่ยวชาญของตระกูลเกิ่งในด้านสัญญา วิญญาณ การเซ่นไหว้ และคาถาอื่นๆ หากตระกูลเกิ่งเป็น อันดับสอง ในเย้นเซี่ยก็ไม่มีใครกล้าเป็นอันดับหนึ่ง

นอกจากพ่อมดแห่งภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ที่อยู่ใน ระดับเดียวกับตระกูลเกิ่ง ไม่มีอำนาจใดในโลกที่จะประสบ ความสำเร็จเช่นนี้ได้

หลังจากที่ตระกูลเกิ่งแห่งตระกูลที่ซ่อนอยู่บอกว่าพวกเขา ไม่มีหนทางที่จะจัดการได้ นั่นก็หมายความว่ามีเพียงเฉินจิ้น เท่านั้นที่แก้ไขได้

วันนั้นที่ยอดเขาเขียวที่ถูกเฉินจิ้นบังคับให้ลงนามสัญญา วิญญาณ ทุกคนต่างเป็นลูกศิษย์คนรุ่นหลังที่มีพรสวรรค์ที่สุด ในครอบครัวที่ซ่อนอยู่ พวกเขาล้วนเป็นลูกศิษย์สายเลือด โดยตรงของตระกูลที่ใช้ทรัพยากรและประสบการณ์ มากมายมาบ่มเพาะเลี้ยงดู

มิฉะนั้นจะเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะเป็นครึ่งแดนเส้นแห่ง แดนเดินตั้งแต่อายุน้อยๆ และกล้าลงมือกับเฉินจิ้น

ถ้าหากสัญญาวิญญาณไม่ถูกแก้ไข นั่นก็เท่ากับว่าทำให้ อัจฉริยะผู้สืบเชื้อสายด้านจิตวิญญาณอย่างพวกเขาเหล่านี้ ผูกติดกับบ่วง ซึ่งเกือบจะเทียบเท่ากับการทำลายเส้นทางสู่ แตนเงิน

นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร

แต่ถ้าต้องให้พวกเขาติดค้างเทียนซ้ายตี่เป่าตามสัญญา วิญญาณอย่างว่าง่าย การชดใช้ให้เฉินจิ้นจึงเป็นไปไม่ได้เด็ด

ขาด

ความอยากของเฉินจิ้นมีมากจนน่าตกใจ

เกือบทุกตระกูลต้องใช้เส้นสนกลในอย่างน้อยหนึ่งใน สามของทั้งตระกูล ถึงจะสามารถเติมเต็มหนี้ที่คิดค้างใน สัญญาวิญญาณของเฉินจิ้นได้
อย่างไรก็ตามนี้ไม่ใช่แค่ปัญหาเรื่องเทียนข้ายตีเป่าเท่านั้น นอกจากนี้ยังเกี่ยวกับศักดิ์ศรีของครอบครัวที่ซ่อนอยู่ด้วย ความแข็งแกร่งของเฉินจิ้นเผยแพร่มาจากยอดเขาเขียว

ในช่วงอายุ 20 ต้นๆ เขาสามารถเผชิญหน้ากับ ปรมาจารย์แดนเสินชั้นสองของเย่าเก๋อซึ่งประลองกันแบบ หนึ่งต่อสอง สังหารไปหนึ่ง ส่วนอีกคนกลายเป็นทาสด้วยวิธี การที่น่าตกใจ

จนเป็นที่เขย่าขวัญ

ไม่ว่าครอบครัวที่ซ่อนอยู่ตระกูลใหน ล้วนไม่ยอมเผชิญ หน้ากับเฉินจิ้นตามลำพัง

ดังนั้นตระกูลที่ที่โดนเฉินจิ้นบังคับให้ลงนามสัญญา วิญญาณจึงทำตามข้อตกลงทันที

แต่ละตระกูลล้วนเป็นแตนเส้นชั้นสูง

อย่างน้อยก็เป็นแตนเสินชั้นสอง

เจ็ดตระกูลจึงผนึกกำลังกันเอาชนะเฉินจิ้น หลังจากเฉินจิ้นได้ยินกลับยิ้มเยาะ “อยากเรียกคืนสัญญาให้มันได้ผลนั้นง่ายมาก ติดหนี้คืนเงินเป็น เรื่องสอบธรรม พวกนายเอาของที่อยู่ในใบยืมหนี้ทั้งหมดให้ ฉัน แน่นอนว่าใบยืมหนี้ก็จะไม่มีประโยชน์”

หลังจากพูดจบ เฉินจิ้นก็หันมาเผชิญหน้ากับสู่เฟยหยาง และชายวัยกลางคนที่มีลมปราณคล้ายกันอย่างลู่หยุนให้ พลางพูดว่า “ตระกูลอื่นเป็นหนี้ฉันส่วนหนึ่ง แต่ตระกูลู่ มี่ น้องสองคนติดหนี้ฉันทั้งก่อนและหลัง”

เฉินจิ้นไม่พูดก็ยังดี

หลังจากพูดจบ ลู่ห้านหยุ่งแห่งตระกูลที่เป็นแดนเสินชั้น สาม ดวงตาแทบจะลุกเป็นไฟ ไอ้บ้านบังคับให้พี่น้องของเขาลู่เฟยหยางและลู่หยุนให่ลง

นามใบยืมหนี้ก่อน

คู่เฟยหยางไม่ได้พูดอะไร มีเพียงลู่หยุนให่คนเดียวเป็นคน ที่เห็นว่าเฉินจิ้นทำใหู้่หยุนไห่กระอักเลือดเพื่อบังคับให้ลง นามใบยิมหนี้

ตั้งแต่นั้นมาเทียนฝู ของเขาเรียกได้ว่าผิดปกติตลอดมา พลังถูกครอบงำด้วยครึ่งแดนเสิน ลู่หยุนให่ผู้กำลังจะเข้าใกล้ ครึ่งแดนเสือย่างไร้คู่ต่อกลอนกลับต้องมาปิดกั้นตัวเอง

ใช่แล้ว หลังจากตื่นจากอาการโคม่าก็ปิดกั้นตัวเอง

ถูกเฉินจิ้นดีจนปิดกั้นตัวเอง

หากลู่หยุนให้ไม่สามารถฝ่าอุปสรรคทางจิตใจหรือก้าว ข้ามอุปสรรคนี้ได้ สู่หยุนไห่ก็ไม่มีหวังที่จะทำลายกระจกเข้าสู่ แดนเสิน

ก่อนหน้านี้ลู่หยุนไห่มีความสามารถและทรงพลังอย่างยิ่ง ในบรรดาครอบครัวที่ซ่อนอยู่ในวัยเดียวกัน ไม่มีใคร สามารถเอาชนะเขาได้ แม้ฝีมือจะพอๆกัน แต่ก็มีเพียงไม่กี่

คน

ความพ่ายแพ้เช่นนี้ถือว่าเป็นความล้มเหลวและจังหวะไม่ ดี

หากลู่หยุนไห่สามารถฝ่าอุปสรรคในใจของเขาและก้าว ข้ามอุปสรรคนี้ได้ แดนเส้นก็จะอยู่ตรงหน้าเขา

ในอนาคตก็ถูกลิขิตให้เป็นผู้แข็งแกร่งไม่มีใครเทียบ แต่ถ้าหากไม่สามารถข้ามผ่านมันมาได้ นั่นก็ไร้ประโยชน์
คู่ห้านยุ่งอยากจะกลืนเนินขึ้นจนแทบทนไม่ไหว

“เฉินจิ้น ถ้าวันนี้นายตอบตกลงและคืนสัญญาวิญญาณ ของพวกเขา นับแต่นี้เป็นต้นไปพวกเราจะไม่ยุ่งกันอีก…”

มีคนหนึ่งในนั้นเอ่ยปากออกมาอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม เฉินจิ้นยังหัวเราะเยาะ “ในเมื่อพวกนายก ล้าลงมือกับฉัน งั้นก็เตรียมตัวตายให้ดีเถอะ ฉันไม่ได้ฆ่าพวก เขา ให้โอกาสพวกเขาแล้ว ใช้เงินมาซื้อชีวิตก็ถือว่าเป็น ความเมตตาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นติดหนี้คืนเงินเป็นเรื่องซอบ

ธรรม

“นายจะปฏิเสธงั้นสิ?”

ทุกคนต่างมองมาทางเฉินจิ้น

ในเวลานี้เจ็ดแดนเส้นได้กระจายตัวกันไปล้อมเฉินจิ้นทุก ทิศทางเพื่อดักเฉินจิ้นไว้ตรงกลาง

ปิดเส้นทางหลบหนีที่เป็นไปได้

เฉินจิ้นเห็นการเคลื่อนไหวของพวกเขาแต่กลับไม่ได้ห้าม

ในสายตาเฉินจิ้น คนเหล่านี้ไม่ต่างอะไรจากหมูหมากาไก่

เจ็ดแดนเสิน สี่คนเป็นแดนเสินชั้นสาม อีกสามคนเป็น แดนเสินชั้นสอง

ไม่มีแม้กระทั่งแดนเส้นอันดับสูงสุดแม้แต่คนเดียว

ผู้ร่วมกระบวนดังกล่าวไม่เข้าตาเฉินจิ้นเลย

“ปฏิเสธแล้วยังไง ฉันบอกแล้วว่าติดหนี้คืนเงินเป็นเรื่อง ชอบธรรม”

ในขณะนี้เสียงของเฉินจิ้นเย็นลงอย่างสมบูรณ์

ทันใดนั้นบนตัวเขาก็ระเบิดกลิ่นอายที่สั้นสะเทือนเลือนลั่น

“ช่างกล้า!”

สู่ห้านยุ่งตะโกนอย่างรุนแรง

ในเวลานี้เจ็ดแดนเดินไม่ได้ลังเลอีกต่อไป

เมื่อเผชิญหน้ากับเฉินจิ้นคนเดียว แม้เฉินจิ้นจะเคยต่อสู้ แบบหนึ่งต่อสองมาแล้วก็ตาม

ท่านอาวุโสสามกับท่านอาวุโสสี่แห่งเย่าเก๋อก็เป็นแค่แดน เงินชั้นสอง
แต่ตอนนี้พวกเขาเจ็ดแตนเงิน อย่างต่ำที่สุดก็เป็นแดน

เงินชั้นสอง

เงินจีนสามารถต่อสู้หนึ่งต่อสอง หนึ่งต่อสาม หรือถึง ขนาดหนึ่งต่อห้าใต้อย่างไร

ตอนนี้พวกเขามีถึงเจ็ดแตนเงิน

ในหมู่พวกเขามีสี่คนเป็นแดนเสินชั้นสามที่มีความ

แข็งแกร่งขั้นสุดยอด ผู้ร่วมกระบวนนี้รวมตัวกันสู้กับคนคนเดียวเป็นเรื่องที่หา

ได้ยากในรอบหลายสิบปี

“ในเมื่อเหล้าค่านับไม่ยอมดื่ม จะดื่มเหล้าลงทัณฑ์ งั้นก็ อย่าโทษที่พวกเรารังแกคนผู้น้อย”

แน่นอนว่าเจ็ดแดนเส้น ก็รู้เช่นกันว่ามีความเป็นไปได้มาก ที่เฉินจิ้นจะไม่ให้ความร่วมมือ

จึงทำได้เพียงใช้มาตรการรุนแรงเท่านั้น

“เฉินจิ้น นายตายเพราะหาเรื่องเอง”

แตนเส้นหญิงตระกูลซอกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาทันที จากนั้นทุกคนก็ลงมือไปทางเฉินจิ้น
แน่นอนว่าในความคิดของพวกเขา แม้ว่าเฉินจิ้นจะทรง พลัง แต่จะรับมือกับเจ็ดแดนเสินที่ลงมือในเวลาเดียวกันใด้ หรือ?

หากเปลี่ยนเป็นแดนเส้นอันดับสูงสุดคนหนึ่งก็ยังพอไหว

เฉินจิ้นยังไม่มีคุณสมบัตินี้

มีอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้แดนเสินเหล่านี้ลงมือ และยังเป็น ปัจจัยสำคัญที่แดนเส้นชั้นสูงเหล่านี้เต็มใจทำงานอย่างไม่รู้ จักเหนีดเหนื่อยเพื่อร่วมมือกันสังหารเฉินจิ้น

นั่นก็คือบนตัวเฉินจิ้นมียาครอบจักรวาล

แม้แต่ของล้ำค่าของเย่าเก๋อ ตะข่ายสวรรค์ก็มีอยู่บนตัว เฉินจิ้นด้วย

แม้พวกเขาจะได้ตะข่ายสวรรค์มา แต่เพื่อไม่เป็นปรปักษ์ กับเย่าเก่อ ครอบครัวที่ซ่อนอยู่เหล่านี้จะคืนมันไป ซึ่งเย่าเก๋อ จะต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างแน่นอน ในขณะเดียวกันก็จะได้ กระชับความสัมพันธ์กับเย่าเก๋อให้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นแดนเสินชั้น สูงเหล่านี้จึงพยายามอย่างเต็มที่และคำนวณสถาการณ์ไว้ แล้วอย่างดี

---

เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ