บทที่ 17 ตบหน้าตัวเองสิบครั้ง
ลุงสกปรกซกเป็นความเฉื่อยชาเป็นความจริงจัง แล้วพูดกับเฉินจิ้น
ปฏิกิริยาการโต้ตอบของเขานั้น เกินความคาด หมายของทุกๆคนมาก
ในสายตาของทุกคน เหอเซ่าที่เป็นลูกเศรษฐีนี่ บอดี้การ์ดของเขายังไงก็ต้องเป็นคนที่เก่งกาจน่าเกรง ข้าม
และลุงสกปรกซกคนนี้ไม่ได้เหมือนบอดี้การ์ดคน อื่นที่แต่งตัวเรียบร้อย แต่กลับแต่งตัวรุ่ยร่าย ยิ่งทำให้คน รู้สึกว่าเขาเป็นนักต่อสู้ชั้นเลิศ เพราะยังไงในละครมันก็ จะเป็นแบบนี้อยู่แล้ว
คนอย่างเฉินจิ้นแบบนี้ เขาไม่ลืมตาก็สามารถต่อย เขาจนคุกเข่าขอร้องเลย
เดิมทีพวกที่คิดจะไปก็ไม่ไปแล้ว อยากอยู่ต่อดู ละครฉากนี้
แต่ว่าละครฉากนี้กลับไม่เหมือนยังที่คิดไว้
ฉากที่พวกเขาอยากดูคือ หนุ่มต่ำต้อยไม่รู้ร้ายรู้ดี ไปตบหน้าลูกเศรษฐี สุดท้ายกลับโดนบอดี้การ์ดของลูก เศรษฐีนั้นต่อยจนคุกเข่าขอร้อง
แต่ฉากละครในตอนนี้เหมือนเป็นหนุ่มต่ำต้อย พลิกชีวิต ตบหน้าลูกเศรษฐีอย่างบ้าคลั่ง
ละครแบบนี้ก็สนุกดีอยู่
ปกติเราต้องไปประจบนายอยู่แล้ว แต่ตอนนี้มีไอ้ หมอบ้าคนหนึ่งมาตบนาย พวกเราก็ดีใจสิ
ทุกคนยืนข้างๆเหอเซ่า และจ้องเขม็งไปยังเฉิน จิ้น ในใจก็คาดหวังให้ฉกเด่นรีบมา
“ลุงเหอ นี่ลุงยังยืนนิ่งทำไมฮะ”
เหอเซ่าเห็นลุงเหอไม่ได้ทำตามคำสั่งของเขาไป ต่อยเฉินจิ้น แต่กลับทำท่าเคารพเขาที่ควบคุมอารมณ์ อยากจะรักษาความสุภาพของตนเองนั้นสุดท้ายก็ ควบคุมไม่ได้อีก ระเบิดออกมาทันที
ต่อหน้าผู้คนมากมาย แต่บอดี้การ์ดตนเองกลับไม่ ฟังคำสั่งจะให้เขาไว้หน้าตรงไหน
ยิ่งไปกว่านั้น เฉินจิ้นตบหน้าเขาไปหนึ่งฉาด ถ้า
วันนี้ไม่ต่อยให้มันยอมแพ้ ทีหลังเขาจะต้องกลายเป็นตัว ตลกในวงการลูกเศรษฐีเจียงโจวแน่นอน
กล้าตบหน้าเขา เฉินจิ้นคนนี้เขาไม่ปล่อยแน่
“แกยังรออะไรอีก แกไปตบหน้ามันให้บวมก่อนสิ”
เหอเซ่าออกคำสั่งอีกครั้ง
เพียวแต่คราวนี้ลุงเหอยังคงไม่ขยับ
เฉินจิ้นจ้องไปที่ลุงเหอแล้วพูดอย่างเฉยเมย “ให้ เขาตบหน้าตนเองสิบที เรื่องวันนี้ฉันก็ถือว่ามันผ่านไป
แล้ว”
อะไรนะ ?
เหอเซ่าเบิกตากว้าง
บ้าระห่ำ ! บ้าระห่ำจริงๆ
“ไอ้เหอซาน”
ตอนนี้เหอเซ่าโกรธถึงที่สุด สุภาพบุรุษเชี่ยอะไร อีก สำหรับบอดี้การ์ดคนนี้ เขาไม่มีความเคารพอีก เรียก ชื่อเขาออกมาเต็มๆ
คราวนี้ เหอซานมีปฏิกิริยาขึ้นมาแล้ว
เห็นแบบนี้ อารมณ์ของเหอเซ่าค่อยดีขึ้นเล็กน้อย เหอซานคนนี้ เขาเองเคยได้เห็นความเก่งกาจของเขา กับตาเอง แม้ปกติเขาเป็นคนสกปรกซก แต่ถ้าเขาโหด ร้ายขึ้นมา สามารถฉีกคนด้วยมือเปล่าได้ เมื่อก่อนเขาคน เดียวเคยทำลายแก๊งที่ชื่อดังในเจียงโจว จากนั้นเชื่อ เสียงของเขาก็เริ่มโด่งดัง ถ้าไม่ใช่พ่อของเขามีบุญคุณ แก่เขา เขาต้องไม่มาเป็นบอดี้การ์ดของเขาแน่
เพียงแค่เหอซานลงมือ ถ้าเฉินจิ้นจะเก่งแค่ไหน วันนี้ก็ต้องคุกเข่าขอร้องแน่
เหอซานขยับแล้วก็จริง แต่เป็นหันหน้ามาให้เขา แล้วพูดอย่างจนใจว่า “คุณชาย คุณตบหน้าตนเองสิบที่ เถอะ”
“ว่าไงนะ ?”
เหอเซ่าอึ้งไปหมดเลย
คนอื่นๆที่ในห้องก็อึ้งไปเหมือนกัน
เพียงแต่คราวนี้เหอเช่าสงบลงแล้ว
เหอซานไม่มีทางทรยศเขาแน่ และจะไม่ตั้งใจ แกล้งเขาแน่
อีกทั้งท่าทีที่เหอซานมีต่อเฉินจิ้นนั้นเคารพมาก
“คุณชาย ตบเถอะ”เหอซานเตือนอีกครั้ง น้ำเสียง ของเขาฟังจริงจังมาก
เฉินจิ้นก็มองเหอเซ่าด้วยความสนใจ
ก็ดูที่ลูกเศรษฐีคนนี้จะฉลาดขึ้นมาไหมแล้ว
ถ้าฉลาด จะมีชีวิตต่อได้
ถ้าโง่เง่ต่อไป งั้นก็ตายเลย
ได้ ! ”
เกินความคาดคิดของทุกคนจริงๆ แม้สีหน้าของ เหอเซ่าไม่น่าดูมาก แต่เขาก็ไม่ได้ระเบิดออกมา
เขามองไปที่เฉินจิ้นด้วยความคัดแค้น
ต่อมา
เพีย !
เพีย !
เพีย !
เสียงตบหน้าที่ดังๆก็ดังออกมาต่อเนื่อง
“ต่อไปแกตั้งสติไว้อย่าให้โดนหลอกใช้อีก ไม่งั้น แกตายแน่”เฉินจิ้นพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
การตบหน้าสิบที่ก็เหมือนรอยแดงแห่งความ อัปยศอดสูที่ประทับอยู่บนหน้าเขา ชาตินี้ก็ไม่สามารถ ล้างมันไปได้
หลังตบหน้าไปสิบที เหอเซ่าก็จากไปเลยทันที เหอซานพยักหน้ากับเฉินจิ้นแล้วก็เดินตามไป คุณชายคนนี้ชาตินี้ไม่เคยได้รับความอัปยศอดสู แบบนี้ เขากลัวว่าเขาจะคิดสั้น
“เหอซาน วันนี้ถ้าแกไม่ให้คำอธิบายที่ดีแล้วก็ ฉัน จะเอาเรื่องในวันนี้ไปบอกพ่อผมแน่นอน”
เหอซานตามทันเหอเซ่าแล้ว สายตาของเหอเซ่า ที่มองมาที่เขาเต็มไปด้วยความโกรธเคือง
“คุณชาย ถึงคุณจะไม่บอกคุณท่าน ผมก็ไปบอก
เองเหมือนกัน”
“หวัง เจ๋อ คุณชายตระกูลหวางโดนหักแขนขา ซ่างจุงราชามวยของเจียงโจวก็โดนต่อยให้พิการแล้ว เรื่องนี้คุณรู้ไหม”
เหอซานถอนหายใจ
“ฉันรู้ เป็นเขาทำหรือ ? เขาก็คือเฉินจิ้น ? “เหอ
เซ่าตกใจ
“ถูกต้อง”
“แต่ซ่างจุงก็ไม่ใช่คู่แข่งของคุณนี่”เหอเซ่ายังคง โกรธอยู่ วันนี้เป็นวันที่น่าอาบอายที่สุดของเขา
“ช่างจึงไม่ใช่คู่แข่งของผมก็จริง แต่ตั้งแต่ที่เฉิน จิ้นปรากฏตัว ผมก็รับรู้ถึงความกดดันที่ไม่เคยมีมาก่อน สัญชาตญาณของผมบอกผมว่าถ้าสู้กับเขา ผลของผม ต้องแย่กว่าซ่างจุงแน่ ถ้าทำให้เขาโกรธขึ้นจริงๆ เกรงว่า วันนี้เราสองคนตายที่นั่นแน่”
จนถึงตอนนี้ เหอซานก็ยังรู้สึกหวาดกลัว
เมื่อเผชิญหน้ากับเฉินจิ้นก็เหมือนกับกำลังเผชิญ หน้ากับปีศาจเหมือนกับว่าเขาจะฆ่าเขาตายในทุกเมื่อ ก็ เพราะเหตุนี้ เหอซานเลยไม่กล้าลงมือ
“เขาเก่งกาจขนาดนี้เลยหรอ”เหอเซ่าไม่เคยเห็น เหอซานเกรงกลัวคนหนึ่งแบบนี้มาก่อน
“ไม่ใช่เก่งกาจ แต่เป็นโหดร้าย อายุน้อยขนาดนี้ แต่ความสามารถกลับลึกจนไม่อาจคาดเดาได้ ถ้าตอนนี้ ยังบอกว่าเขาเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาที่แต่งเข้าบ้านหญิง ใครไปหลงเชื่อใครก็จบเห่เลย”
“ผมจะไปแจ้งคุณท่านทันที คนนี้พวกเราอย่าไปมี เรื่องกับเขา วันนี้คุณชายคุณโดนหลอกใช้ไป โชคดีที่ เขาปรากฏตัวไว คุณยังไม่ทันได้ทำอะไรกับหญิงน้อย คนนั้น ไม่งั้น …
เมื่อคิดถึงจุดนี้ เหอซานก็ยังรู้สึกกลัว
“เจ้านายจะจัดการเธอยังไงดีครับ” ฮุยโสงมองโจวเหม่ยฉีที่ตัวสั่นเพราะความกลัวและขอคำสั่งจากเฉินจิ้น
“ควรจัดการยังไงก็จัดการตามนั้นเลย”
เสียงของเฉินจิ้นทั้งเย็นชาและทั้งไร้อารมณ์ “อย่าฆ่าฉัน พวกคุณอยากรู้อะไร ฉันล้วนบอกให้ หมด”
โจวเหม่ยฉีมองฮุยโสงที่ร่างยักษ์ใหญ่ ก็อดไม่ ได้ที่จะสั่นขึ้นมา
“เธอนอกจากจะบอกผมว่าเอเป็นรับเงินของตระ กูลหวางไป แล้วตั้งใจหลอกซ่งจื่อหารออกมาแล้วยัง บอกผมอะไรได้อีกหละ”
เฉินจิ้นไม่มองเธอแม้แต่น้อย แล้วเดินไปยังซ่งจื่อ หารที่นอนอยู่บนโซฟา
“พวก…วหนายรู้แล้วหรอ?”
โจวเหม่ยฉีคาดไม่ถึงว่าความลับของตนเองจะ โดนเปิดเผยออกมาง่ายๆ
“พวกเราอยากรู้มากกว่านี้ แต่เธอไม่สามารถให้ คำตอบได้ ในเมื่อเธอรับเงินไปและทำสิ่งชั่วๆแบบนี้ออก มา ก็ควรจะคิดถึงกรรมที่ต่อมาบ้าง”
“สิ่งที่ฉันเกลียดมากที่สุดก็คือการทรยศ”
คำพูดของเฉินจิ้นทำให้ตัวฮุยโสงสั่นไปเล็กน้อย เขาแอบสาบานในใจว่า ชาติจะไม่มีวันทรยศเจ้า
นาย
จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปยกตัวของโจวเหม่ยฉีขึ้น มาเหมือนกับจับไก่ตัวน้อยอยู่ แล้วเดินออกไปข้างนอก
เจียงโจว ตระกูลหวาง
“คุณหนูใหญ่ ไม่ดีแล้ว แผนของเราล้มเหลวแล้ว”
พ่อบ้านหลังได้รับโทรศัพท์แล้วก็พูดกับผู้หญิงที่ นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ
“เป็นเหอเซ่าไม่มีความสนใจต่อซ่งจื่อหาร หรือ เป็นเหอซานกับเฉินจิ้นไม่ได้ต่อสู้ขึ้นมา”
ผู้หญิงวางหนังสือลงเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย แล้วถามขึ้น
“คุณหนูใหญ่เดาไม่ผิดเลยจริงๆ เป็นเหอซานไม่ ได้ต่อสู้กับเฉินจิ้น แถมยังยืนมองเหอเช่าตบหน้าตนเอง ไปสิบที่”
“น่าสนุกจริงๆ เดิมที่ยังอยากจะใช้เหอซานไป ทดลองความสามารถของเฉินจิ้นสักหน่อย คาดไม่ถึง เขากลับไม่ได้ลงมือ ดูท่าเฉินจิ้นเก่งกาจกว่าที่ฉันคิดไว้ ตอนนี้เกรงว่าฉานลางก็ไม่ใช่คู่แข่งของเขาแล้ว”
ใบหน้าที่งดงามของผู้หญิงเผยความสนใจออก มาเล็กน้อย
“งั้นให้ส่งเล่ยเป้าไปลองหน่อยไหมครับ”พ่อบ้าน ตระกูลหวางเป็นตระกูลใหญ่ในเมืองเจียงโจว มี
ถามนักต่อสู้ชั้นเลิศมากมาย อยู่เหนือซ่างจุงมีฉานล่าง อยู่ เหนือฉานลางมีเล่ยเป้า อยู่เหนือเล่ยเป้ายังมีเสวียนหู ขวางซื่อ ชิงหลง ทุกคนล้วนมีความสามารถพิเศษของ ตนเอง
ไม่ ถ้ายังไม่เข้าใจอีกฝ่ายพอก็อย่าไปลงมือก่อน ลองอีกต่อไป”
“แกจับตามองหวางฮ่าว หวางเจ๋อให้ดี อย่าให้ พวกเขาไปหาเรื่องเฉินจิ้นอีก ถ้าเขาแข็งแกร่งพอ สามารถให้ตระกูลหวางของเราใช้ได้งั้นความสามารถ ของบ้านเราจะก้าวหน้าขึ้นไปมากๆ ถ้าไม่ให้พวกเราใช้ งั้นทีหลังยังมีโอกาสเยอะให้พวกเขาไปแก้แค้น…”
ผู้หญิงกัดริมฝีปากตนเอง ตอนนี้เธอคาดหวังวัน
นั้นจริงๆ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ