ตอนที่ 240 เป็นหมาที่ฉันเลี้ยงเท่านั้น
ดวงตาของปาลนั้นต้องไปตรวจติดตามอาการที่ โรงพยาบาล ดังนั้นหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ เรียบร้อย ภัสกรณ์จึงพานีรชาและปาลไปที่โรงพยาบาล
หลังที่แพทย์ตรวจดูอาการอย่างระมัดระวัง เขาก็ แจ้งกับภัสกรณ์และนีรชาว่า ดวงตาของปาลฟื้นตัวได้ดี มาก เข้ารับการรักษาอีกสองครั้งก็จะหายเป็นปกติ
ภัสกรณ์พอได้ฟังก็อารมณ์ดี แขนซ้ายโอบปาล แขนขวาโอบนีรชา “ไป พวกเราไปกินอาหารมื้อใหญ่ ฉลองกัน!”
นีรชามองเขาครู่หนึ่ง ลังเลเล็กน้อยแล้วกระซิบ “ถ้าอย่างนั้นคุณไปบริษัทเถอะค่ะ ฉลองมือใหญ่กันตอน เย็นก็ยังทันนะคะ”
ระหว่างที่ปาลรับการตรวจอยู่นั้น ภัสกรณ์มีสาย โทรศัพท์เข้าหลายสาย ดูเหมือนว่าที่บริษัทจะมีปัญหา อะไรบางอย่าง
ภัสกรณ์คาดไม่ถึงว่านีรชาจะเป็นคนมีน้ำใจเช่นนี้ เขาจึงหอมไปที่แก้มของเธอเบาๆ “ภรรยาที่ดี! ถ้าอย่าง นั้นฉันไปจัดการธุระที่บริษัทก่อน ตอนเย็นจะกลับเร็ว หน่อย เรียกถิรามา แล้วพวกเราไปฉลองด้วยกัน!”
นีรชาจับมือน้อยของปาล แล้วพยักหน้าอย่างว่า ง่าย “ได้ค่ะ พวกเรารอคุณที่บ้านนะคะ”
ภรรยาและลูกรออยู่ที่บ้าน ความรู้สึกนี้ช่างมีความสุขนัก ภัสกรณ์ขับรถพาสองแม่ลูกกลับบ้านแล้วก็รีบไป ที่บริษัทเพื่อจัดการกับธุรกิจ
หลังจากตรวจร่างกายอยู่ทั้งบ่าย หลังจากปาล ทานอาหารกลางวันก็ง่วงหลับไป หลังจากที่กล่อมปาล นอนหลับแล้ว นีรชาก็ค่อยสบายใจ
คนในบ้านส่วนใหญ่ก็จะไปงีบหลับ บ้านหมื่นสา ใหญ่โตโอ่อ่าแต่ทุกที่กลับเงียบสงัด
ตั้งแต่ที่ปาลยอมรับเธออารมณ์ของนีรชาก็อยู่ใน สภาวะตื่นเต้นมาโดยตลอด จริงๆแล้วเธอไม่รู้สึกง่วงเลย สักนิด
เธอไปที่ห้องหนังสือของภัสกรณ์เพื่อที่จะหา หนังสือสักเล่ม เตรียมที่จะไปอาศัยร่มเงาบริเวณระเบียง อ่านหนังสือสักนิดหน่อย
ระเบียงของบ้านหมื่นสานั้นร่มรื่นสะดวกสบาย มาก อยู่ที่ด้านนอกของห้องนั่งเล่นชั้นล่าง อยู่ใต้ร่มเงา ของต้นการบูร หากนั่งเล่นในฤดูร้อนช่างแสนร่มรื่นนัก
อ่านหนังสือสักพัก เธอก็รู้สึกง่วงเล็กน้อย นีรชา ปิดหนังสือลงแล้วเดินลากกระโปรงยาวขึ้นไปยังห้อง นอนชั้นสอง
บันไดหินอ่อนขนาดใหญ่แสนเย็นสบาย นีรชา ค่อยๆปีนขึ้นไปทีละขั้นทีละขั้น
เมื่อเธอก้าวไปถึงขั้นสูงสุดของบันได เท้าของ นีรชากลับลื่นในทันที เธอมีปฏิกิริยาตอบสนองที่รวดเร็ว คว้าจับราวบันไดเอาไว้ เท้ากระแทกกับบันได หัวเข่ากระแทกกับเหล็กของราวบันได ผิวหนังเธอเป็นรอยแยก เธอรู้สึกปวดแสบปวดร้อน
นีรชาคว้าราวบันไดเพื่อทรงตัว แล้วเงยหน้าขึ้น มองที่บันได แน่นอนว่ามีคนจงใจที่จะทำร้ายเธอ เงาวับที่ ขั้นบันไดนั้นจะเป็นอะไรไปได้ถ้าไม่ใช่น้ำมัน
มีคนเทน้ำมันลงบนขั้นบันไดเพื่อต้องการแกล้ง
เธอ
บุคคลนี้คือใครกัน ใช้หัวแม่เท้าคิดก็ยังคิดออกได้ นีรชาจ้องไปที่คราบน้ำมัน ใบหน้าเริ่มบูดเบี้ยวขึ้นเรื่อยๆ
นีรชาคิดว่าถิราแค่มีอารมณ์เอาแต่ใจตามประสา ลูกคุณหนู ไม่ได้คิดว่าหล่อนจะงี่เง่าขนาดนี้
วิธีการเด็กๆแบบนี้ยังกล้าเอาออกมาใช้ แกล้งเธอ น่ะไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าหากว่าปาลตื่นขึ้นมาแล้วเดิน ตามหาเธอ แล้วเกิดเหยียบลื่นขึ้นมาล่ะก็
นีรชาเดินอ้อมไปอย่างระมัดระวัง เดินปวกเปียก ตรงไปทางห้องนอนของถิรา
เมื่อไปถึงด้านข้างห้องนอนของถิรา เธอยกมือขึ้น และกำลังจะเคาะประตู ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงอีกทึก คึกโครมของชายในห้องนอนแขกฝั่งตรงข้าม นีรชา
ตกใจและหยุดก้าวในทันที
ได้ยินเสียงถิราดังลอดออกมา “ไม่ได้! วันนี้ไม่ ได้! นีรชายังอ่านหนังสืออยู่ที่ระเบียง! เดี๋ยวถ้าหล่อนขึ้น มาจะได้ยินเข้า!”
ฝ่ายชายดูกังวลเล็กน้อย “คุณนี่มันไร้ยางอาย! ยั่ว ให้คนโมโห! ยังจะมาทำตัวเป็นสาวบริสุทธิ์! ผมรับรองจะ ไม่ทำให้คุณเสียเวลา”
ถิราหัวเราะเบาๆ “ยั่วแกก็ไม่ได้แปลว่าฉันคิดจะ ทำนะ! แกคิดให้ดี แกเป็นแค่สุนัขรับใช้ตัวหนึ่งในบ้าน ฉันจะทำหรือไม่ทำ ฉันเป็นคนสั่งเท่านั้น!”
จากนั้นก็มีเสียงดังจากธรณีประตู ดูเหมือนว่าชาย คนนั้นจะโกรธและจับถิรากดไว้ที่ประตู
นีรชาไม่สามารถทนฟังพวกเขาได้อีกต่อไป เธอ ยกมือขึ้นเคาะประตู “ถิรา! เธออยู่ข้างในรึเปล่าเปิดประตู ให้ฉันหน่อย!”
ถิราถูกชายผู้นั้นล้อมตัวเอาไว้ ทันใดนั้นก็ได้ยิน เสียงนี้ชาเคาะประตู เธอตกใจกลัวขึ้นเล็กน้อย ผลัก ผู้ชายคนนั้นเข้าไปซ่อนในตู้เสื้อผ้า
จัดเสื้อผ้าและทรงผมให้เรียบร้อย ถิราก็ไปเปิด ประตูด้วยท่าที่สูงส่ง
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ