ตอนที่ 175 เศร้าโศก
ชีวิตกลับเข้าสู่สภาวะเงียบสงบเหมือนปกติ เงียบ ซะจนขาดชีวิตชีวา
หลังจากที่จันทร์ฉายรู้ว่านีรชาและภัสกรณ์ยุติ ความสัมพันธ์ลงแล้ว ก็กระโดดโลดเต้นดีใจ “น้ำ ดีจัง เลย อารมณ์ของเธอสองคนแรงเกินไป อยู่ด้วยกันก็มีแต่ ต่างฝ่ายต่างเจ็บเปล่าๆ เลิกกันน่ะดีแล้ว ถ้างั้นพรุ่งนี้ฉัน นัดเรวัตให้เธอดีกว่าไหม”
นีรชาทอดสายตาอ้างว้างของเธอนั่งจมเบาะอยู่ที่ โซฟา เหม่อลอยมองหัวไชเท้าสีเขียวที่ริมหน้าต่าง “ไม่ เอาหรอก ตอนนี้ฉันเลิกสนใจผู้ชายแล้วล่ะ”
จันทร์ฉายส่งเสียงเกินจริง “อะไรนะ เธอเปลี่ยน รสนิยมเป็นเลสหรือ ฉันบอกเธอไว้ก่อนเลยนะ อย่าได้มา หลงรักฉันเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นเธอจะต้องเสียใจไป ตลอดชีวิต เพราะว่าฉันน่ะ ชอบผู้ชาย.”
นีรชาแอบยิ้มแล้วมองจันทร์ฉายที่นึ่ง “วางใจ เถอะ ขนาดเธอเปลือยกายต่อหน้าฉันยังไม่รู้สึกอะไร เลย”
“โอ้โห น้ำ เทอนี่ทะลึ่งจริงๆ ในสมองคิดแต่เรื่อง พวกนี้หรือไง นั่นแน่ ต้องเป็นภัสกรณ์แน่ๆที่ทำให้เธอ เปลี่ยนไปขนาดนี้” จันทร์ฉายทำท่าตะลึง
ภัสกรณ์ … สายตาของนีรชามืดมัวไปชั่วครู่ รีบเปลี่ยนประเด็นเรื่องคุย “อาทิตย์หน้าเธอก็จะเข้าพิธี แต่งงานแล้วสินะ เตรียมการเรียบร้อยหรือยัง”
จันทร์ฉายพยักหน้า “เรียบร้อยแล้วล่ะ เหลือเพียง เป็นห่วงเรื่องเลือกเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวนี่ล่ะ”
จันทร์ฉายมีเพื่อนเจ้าสาวทั้งหมด 4 คน หนึ่งใน นั้นคือนีรชาและนภนัย
ภัสกรณ์ก็เป็นหนึ่งในเพื่อนเจ้าบ่าวเช่นกัน
นีรชาลากเก้าอี้เข้ามาใกล้เพื่อตกแต่งหูกระต่าย ก้มหน้าไม่พูดอะไร
จันทร์ฉายรีบร้อน “นี่ เธอคงไม่คิดจะทิ้งฉันหรอก นะ เธอกับภัสกรณ์นี่เหมือนกันไม่มีผิด ทั้งอารมณ์ แปรปรวน และชอบทิ้งคนอื่น”
“ภัสกรณ์ไม่ได้เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวหรือ” นีรชารีบ ถามด้วยน้ำเสียงสบายๆ
“อืม เมื่อวานเขายังโทรหานรุตม์บอกว่าอาทิตย์ หน้าจะไปต่างประเทศ คงไม่ได้มาร่วมงานแต่ง หี นี่มัน เพื่อนประสาอะไรหา ช่วงเวลาสำคัญอย่างนี้ทั้งกันซะ ดื้อๆ ฉันกะจะบอกให้นรุตม์เลิกคบกับภัสกรณ์ไปเลยดี กว่า” จันทร์ฉายพิมพ์แบบไม่ค่อยพอใจ
“ถ้างั้นฉันคงไม่ทิ้งเธอหรอก เธอไม่ต้องไปหา เพื่อนเจ้าสาวแล้วล่ะ” ท่าทีของนีรชากลืนไม่เข้าคายไม่ ออก
อยากเจอเขาไหม ไม่อยากเจอเขางั้นหรือทั้ง2คำถามนี้ต่างไม่มีคำตอบทั้งคู่
หลังจากมีปากเสียงกันที่โรงแรมวันนั้น เขาก็พูด จริงทำจริง ไม่มาให้เธอเห็นหน้าอีกเลย
ไม่มีเลยสักครั้งที่ได้ยินเสียงโทรศัพท์แล้วใจของ เธอเต้นรัว รีบๆร้อนๆหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูหน้าจอ แต่ว่า สายที่โทรเข้ามาปรากฏบนมือถือ ทุกครั้งไม่ใช่เขาเลย
เขาได้หายไปแล้วจริงๆ ได้หายไปจากชีวิตของ เธอแล้วจริงๆ
จันทร์ฉายออกไปแล้ว นีรชานั่งดูทีวีอยู่คนเดียว สักพัก ขณะกำลังปิดทีวียังจำไม่ได้เลยว่าดูรายการอะไร อยู่
เธอเริ่มหิวข้าว จึงต้มบะหมีทานคนเดียวอย่าง เดียวดาย ขณะนั่งลงที่โต๊ะเล็กๆเริ่มทานบะหมี่ร้อนๆจาก เตานั้น ทันใดนั้นก็หวนนึกถึงค่ำคืนนั้นก็เป็นแบบนี้ ภัส กรณ์นั่งอยู่ตรงข้ามเธอ เขากุลีกุจอเอาไข่เจียวในชามตัว เองส่งให้เธอ “กินเยอะๆหน่อย ผอมแบบนี้ พาไปไหน ขายหน้าผมหมด”
ไข่เจียวสีเหลืองทองอร่าม ส่งกลิ่นหอมน่ากิน เหมือนกันท่ามกลางแอร์ที่เปิดไว้ในห้อง เพียงแต่ฝั่ง ตรงข้ามไม่มีคนคนนั้น ที่คอยเสียสละให้เธอ ให้เธอทาน เยอะๆ จะได้อ้วนหน่อย
ในใจแสนจะทุกข์ระทม ไม่อยากจะกินอะไรอีก นีรชาเอาบะหมี่ที่เพิ่งทำเสร็จเททิ้งไป โทรศัพท์ที่วางบน โซฟาก็ดังขึ้น
5ทุ่มกว่าแล้ว จันทร์ฉายตอนนี้กำลังเลี้ยงเด็กอยู่ ทุกคืนเข้านอนเวลา 4 ทุ่มตรง ใครกันนะที่โทรหาเธอดึก ป่านนี้
นีรชาเลือดสูบฉีดไปทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า วิ่งไป กระโดดไปตรงไปยังโซฟา แต่กลับลังเลไม่กล้าดูที่หน้า
จอ
ในมือยังคงถือโทรศัพท์ที่ส่งเสียงเรียกต่อเนื่อง เอาไว้ นีรชามือสั่นเทายกโทรศัพท์ขึ้นดู ชื่อชื่อหนึ่งส่อง เข้าตาพอดี ภัสกรณ์
ศรีษะของเขา รอยยิ้มที่ส่งมาให้เธอ จมูกโด่งเป็น สัน ริมฝีปากบาง แล้วยังสายตาที่หยิ่งยโสเอาแต่ใจ อย่างนั้น
ทันใดนั้นในหัวใจก็เปี่ยมล้นไปด้วยความปิติยินดี นีรชาสูดลมหายใจเข้าลึก กลั้นมันเอาไว้จนแสบจมูก ตอบรับด้วยเสียงอันเบา “ฮัลโหล”
“คุณน้านีรชาครับ น้องปาลคิดถึงจังเลยครับ ทำไมไม่มาหาผมบ้างเลยครับ หรือว่าไม่รักน้องปาล แล้ว…”
บทสนทนาเริ่มขึ้น เสียงเล็กๆอันสดใสของน้อง ปาลรู้สึกไม่เป็นธรรม นีรชาทั้งตกใจและตื่นเต้น คิดไม่ถึงว่าน้องปาลจะ
โทรหาเธอ
น้ำตาถูกบีบคั้นออกมา “เด็กดี น้า…เอ่อคือช่วงนี้ น้ายุ่งมาก เลยไม่มีเวลาไปหาหนูเลย ไม่ใช่ว่าน้าไม่รักหนูนะจ๊ะ หนูเป็นเด็กดีขนาดนี้ น่ารักขนาดนี้ น้าต้องรัก หนูมากอยู่แล้วล่ะจ๊ะ”
นีรชาเป็นคนปากแข็ง คำพูดอ่อนหวานแบบนี้ เธอไม่เคยพูดมาก่อน แต่กับน้องปาล จำเป็นต้องพูด ออกมาอย่างไม่มีทางเลือก
“น้านีรชาครับ ร้องไห้หรือเปล่าครับ บังเอิญจัง เลย วันนี้คุณพ่อก็ร้องไห้เหมือนกัน” น้องปาลพูดเหมือน ผู้ใหญ่
ภัสกรณ์ร้องไห้ นีรชาอดทวนคำถามไม่ได้ “คุณ
พ่อของหนูร้องไห้หรือครับ ทำไมละครับ แย่งลูกอมกับ
น้องปาลแพ้หรือครับ”
น้องปาลหลุดขำคำพูดของนีรชาแป๊บนึง จึง ปฏิเสธอย่างเศร้าๆว่า ” ไม่ใช่ครับ ช่วงนี้คุณพ่อของผม ดื่มเหล้าเมาทุกวัน เมื่อวานดื่มเหล้าเมาแล้วก็ร้องไห้ น้า นี่ครับ ตอนที่น้านภูเช็ดหน้าให้คุณพ่อ คุณพ่อยังเพ้อ เรียกชื่อน้านี้ด้วยนะครับ น้านภโกรธมากเลย ถลึงตามอง ผม น่ากลัวมากเลยครับ”
ถลึงตามองน้องปาล นีรชาได้ฟังดังนั้นก็ปวดใจ รีบปลอบเด็กน้อยว่า “เด็กดี น้านภคงจะอารมณ์ไม่ค่อยดี จึงทำอย่างนั้น ไม่ใช่ว่าเธอไม่รักหนูหรอกจะ น้องปาล ออกจะน่ารัก ใครเห็นใครก็รักทั้งนั้นแหละจะ”
น้องปาลพยักหน้า “น้านีครับ น้าอยู่ที่ไหนครับ ผมอยากไปเล่นกับน้าจังเลย”
เด็กน้อยอยากหาตน ใจของนีรชาเบิกบานทันทีถามอย่างตื่นเต้น “งั้น….คุณพ่อของหนูรู้เรื่องนี้ไหมจะ คุณพ่อของหนูให้หนูโทรมาหาน้าหรือจ้ะ”
“ไม่ทราบครับ คุณพ่อเมาอีกแล้ว ผมคิดถึงน้ามาก เลยครับ เลยแอบเอาโทรศัพท์ของคุณพ่อมาโทร” น้องปาลเพิ่งพูดจบ นีรชากำลังจะพูดต่อ สายถูก
ส่งต่อไปให้นภนัย “น้องปาล หนูกำลังคุยโทรศัพท์กับ ใครครับ อย่าเอาโทรศัพท์ของคุณพ่อมาโทรเล่นแบบนี้สิ ดื้อจังเลยเด็กคนนี้”
น้ำเสียงทั้งแข็งกระด้างและเย็นชา
นีรชารีบถือโทรศัพท์มาใกล้หู ใจตุ้มๆ ต่อมๆ นภ นัยทำกับน้องปาลอย่างนี้ได้อย่างไรกัน เธอไม่สบายใจ เลย กับเด็กแค่ 5 ขวบ ต้องจริงจังขนาดนั้นเลยหรือ
“น้านภครับ” นีรชาได้ยินเพียงประโยคนี้ประโยค
เดียว สายก็หลุดไป
เสียงสายหลุดที่ว่างเปล่า ดังเช่นมือที่มองไม่เห็น เข้ามาบีบหัวใจเธออย่างแรงจนเจ็บปวดอย่างไม่มีวันสิ้น
สุด
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ