evil spirit นายปีศาจบอกให้รัก

ตอนที่140 เกราะคลุมตนเอง



ตอนที่140 เกราะคลุมตนเอง

หน้าผากของนีรชาถูกขีดข่วนจนเลือดไหล ซิบ มือของชายจรจัดเลื่อนมาถึงหน้าอกของนีรช า!

นีรชาร้องไห้อย่างคนสิ้นหวัง สายตาเต็มไป ด้วยความเกลียดชัง ทันใดนั้น! เธอพบว่าตัวเอง ทำอะไรไม่ถูก

คนที่บอกว่ารักเธอ กลับส่งเธอไปอยู่ใน เงื้อมมือของมาร เป็นเพราะภัสกรณ์คนเดียว ผู้ชายคนที่เคยบอกกับเธอว่า “รักเธอ”!

“ภัสกรณ์ คุณไม่ตายดีแน่! คุณมันไม่ใช่ คน ! ฉันเกลียดคุณ!” นีรชาถูกชายจรจัดที่อยู่ทาง ด้านหลังดันเธอติดกำแพงที่เย็นเยือก เลือดบน ศีรษะของเธอไหลปนกับน้ำตาจนสายตามองเห็น ไม่ชัดเจน

เสียงเหมือนสัตว์ร้ายตัวน้อยที่กำลังหมด

หนทาง สิ้นหวังเพราะความรัก ! ภัสกรณ์ยืนซึ่งยืนอยู่ที่นอกประตูกัดฟันแน่น

กรอด กำราวบันไดโลหะไว้แน่น ร่างกายสั่น

สะท้านขึ้นเล็กน้อย
ทันใดนั้นเขาก็ยกกำปั้นขึ้น กระแทกลงสุด แรงที่ราวบันไดโลหะนั้น เหล็กกล้าที่แข็งแกร่ง ปะทะกับหมัดที่หนักหน่วง ข้อต่อของมือเขาก็เต็ม ไปด้วยเลือด !

การล่วงละเมิดภายในห้องก็ยังดำเนินต่อ ไป นีรชาหมดแรงต่อสู้แข็งขึ้น เธอถูกชายจรจัด โยนลงไปกองอยู่ที่พื้น เสื้อผ้าด้านบนถูกฉีดขาด เผยให้เห็นผิวสีขาวซึ่งขณะนี้ออกมาสัมผัสกับ อากาศ…

นีรชาไม่ต่อต้านอีกต่อไป ชายจรจัดคิดว่า เธอคงจะยอมรับชะตากรรมแล้ว

เขายิ้มอย่างสมหวัง “คิดจะมาสู้กับผม รี เธอ ยังอ่อนหัดเกินไป !”จากนั้นเขาก็เคลื่อนปากอัน สุดแสนเหม็นเข้าใกล้ใบหน้าของนีรชา พยายาม ที่จะประทับจูบบนริมฝีปากที่ซีดจนไม่มีสีเลือด

นีรชารู้สึกขยะแขยงจึงเบนศีรษะหนี แต่ริม ฝีปากของชายจรจัดกลับแนบลงบนซอกคอของ เธอ นีรชาอ้าปากกัดที่หูของชายจรจัด!

ใช้กำลังที่เหลือทั้งหมดที่มีไม่ยอมแพ้ กัดหู ของชายจรจัดแน่นไม่ยอมปล่อย ! หนึ่งในสาม ของใบหูถูกกัดขาดในทันใด ! เลือดไหลนองเต็ม ไปทุกหนแห่ง !
ชายจรจัดร้องเสียงหลงใช้หลังมือซัดไปที่ ใบหน้าของนีรชา !

“นั่งผู้หญิงแพศยา! นังผู้หญิงสำส่อน ! ” ชายจรจัดจิกหัวนีรชาเอาไว้แล้วตบซ้ายที่ขวาที่ จนในหูของนีรชาได้ยินเสียงดังกึกก้อง ช่วงแรกๆ เธอยังได้ยินคำกรุ่นด่าสาปแช่งของชายจรจัด แต่ หลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้ยินอะไรอีกเลย !

เสียงตบดัง “ผั้ว ผัว ตั้ว” ได้ยินไปถึงหูของ ผิว ภัสกรณ์อย่างชัดเจน นัยน์ตาของเขาแดงกำ! หู เขาตั้งขึ้นพยายามเงี่ยหูฟัง แต่กลับไม่ได้ยินเสียง ของนีรชาอีกเลย !

“ปัง” เสียงประตูถูกภัสกรณ์ถีบเปิดออก “ท่านประธานภัสกรณ์ครับ..”ชายข้างถนน ยังไม่ทันพูดจบก็ถูกภัสกรณ์เตะเขากระเด็นไป!

ภัสกรณ์มองไปที่ใบหน้าซีดขาว แต่ดวงตา กลับเบิกโตของนีรชา เธอเพ่งมองอย่างไร้จิต วิญญาณไปที่เพดาน ใจก็หายวาบทันที!

“ลุงตรัย เข้ามาในห้องหน่อยครับ!” ภัสกรณ์ ร้องเรียกจากภายในห้อง เสียงดังจนกำแพงสั่น สะเทือน

ลุงตรัยรีบเข้ามาก็ได้เห็น เขาสัมผัสได้ถึงความเย็นวาบ ทุกที่ในห้องเต็มไปด้วยเลือด! เขา เสียงสั่นอย่างตกใจ “นายท่าน เรียกผมหรือครับ”

“จัดการมันเดี๋ยวนี้อัดมันให้เละแล้วโยนทิ้ง ไปซะ!” ภัสกรณ์ชี้ไปที่ชายจรจัดที่ร้องโอดโอย อยู่ที่มุมห้อง เสียงของเขาดุร้ายราวกับปีศาจจาก นรก

ภัสกรณ์หันกลับมามองที่นีรชา เขาเจ็บปวด หัวใจมากจนแทบจะหายใจไม่ได้!

บนหน้าผาก บนร่างกาย มีแต่เลือดเต็มไป หมดทุกที่ ร่างกายส่วนบนแทบจะเปลือยเปล่า มี ส่วนที่ถูกปกปิดอยู่บ้าง เธอเหมือนตุ๊กตาผ้าขี้ริ้วที่ ไม่มีความโกรธใดๆหลงเหลืออยู่ จะเป็นหรือตาย ดูเหมือนจะไม่สำคัญกับเธออีกต่อไป

นีรชาใบหน้าแดงบวมจนเขาไม่สามารถจำ เค้าโครงหน้าเดิมของเธอได้ ดวงตาเธอจ้องมอง ที่เพดานดูเหมือนจะสูญเสียการรับรู้ทั้งหมดไปจน สิ้น!

ภัสกรณ์รู้สึกแสบจมูกขึ้นมา ดวงตาร้อนผ่าว และรู้สึกเจ็บแปลบ น้ำตาหยดลงบนใบหน้าของ นีรชา อาการของเธอสาหัสมาก

ภัสกรณ์อุ้มร่างของนีรชาที่เย็นชีดขึ้นมาเขาอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมาดังๆ “น้ำ! ฉัน ขอโทษ! ฉันขอโทษ! ฉันมันไม่ดีเอง! ฉันมันไม่ใช่ คน! คุณดีฉันสิ! ด่าฉันสิ! น้ำ ฉันขอโทษ! …ฉันหึง จนเป็นบ้า! ฉันอิจฉาสมภพ! ฉันอิจฉาเขา! ฉันหึงที่ คุณรักเขามานานหลายปี! ฉันหึงจนเป็นบ้าไป แล้ว! ฉันทนไม่ได้ที่คุณไปนอนกับผู้ชายคนอื่น! น้ำ…. ฉันไม่ดีเอง! ตีฉันสิ!”

ภัสกรณ์ยกกำปั้นที่เลือดยังไหลซิปทุบไปที่ หัวตัวเองอย่างแรง เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีทุบไปที่ หัวของตัวเอง!

น้าแขได้ยินข่าวก็รีบรุดมายืนรออยู่ที่หน้า ประตู เธอมองคนทั้งสองที่อยู่ข้างในห้อง แต่เธอ กลับพูดอะไรไม่ออก

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นี่เป็นครั้งที่สองที่ ภัสกรณ์ร้องไห้ ครั้งแรกที่เขาร้องคือตอนที่เขา เจ็ดขวบตอนที่คุณผู้หญิงเสียชีวิต

“น้ำ ตอบฉันสิ ตอบฉันสิ อย่าทำให้ฉันตกใจ สิ!” เสียงร่ำไห้ของภัสกรณ์ฟังดูปวดร้าวและ ขมขึ่น แม้แต่คนที่ใจแข็งเป็นหินพอได้ยินก็ต้อง หลังน้ำตา

นีรชายังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ ถึงแม้ ว่าว่าภัสกรณ์จะโอบกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขนเขาหอมเบาๆบนใบหน้าที่บวมแดงและผมที่ ยุ่งเหยิงของเธอ

ดวงตาเธอยังคงเบิกกว้างจ้องมองเพดาน อยู่อย่างนั้นราวกับไม่มีจิตวิญญาณหลงเหลืออยู่ ข้างในร่างกาย

“นายน้อยคะ ล้างเนื้อล้างตัวให้คุณนีรชา ก่อนเถอะค่ะ ดิฉันจะได้ทำแผลให้เธอ!” น้าแข เช็ดน้ำตาตัวเองแล้ว เดินเข้ามาอย่างทนดูไม่ได้

นายน้อยเป็นคนที่เธอเลี้ยงดูมาจนโต เธอ เห็นเขาเป็นเหมือนลูกในไส้ของเธอเอง พอเห็น นายน้อยและนีรชากลายเป็นเช่นนี้ ในใจเธอก็ รู้สึกเสียใจเกินจะรับไหว

ดูเหมือนจะเป็นความฝันที่ยาวนาน เดินทาง มาไกลเหลือเกิน เมื่อนีรชาตื่นขึ้นมา ทันใดนั้นเธอ ก็รู้สึกเหมือนเธอแก่ขึ้นอีกสิบปี

มีโคมไฟส่องสว่างอยู่ที่หัวเตียง ภัสกรณ์

หลับอยู่ที่ข้างเตียง

มือของเขามีผ้าพันแผลพันอยู่หนา หน้า นิ่ว คิ้วขมวดราวกับมีเรื่องทุกข์ใจมากมาย ดูเหมือน เขาจะนอนหลับอย่างทุกข์ทรมาน

หน้าผากของนีรชาก็ถูกพันด้วยผ้าพันแผลเช่นกัน เธอนอนในท่าที่ไม่สบาย จึงพลิกตัวไปมา เธอไม่อยากเห็นหน้าภัสกรณ์จึงพยายามที่จะ เบือนหน้าหนีไปทางฝั่งหน้าต่าง

พอนีรชาพลิกตัว ภัสกรณ์ก็ตื่นขึ้นมา

“น้ำ คุณตื่นแล้วรี ในที่สุดคุณก็ตื่นแล้ว” ภัส กรณ์รวบมือนี้รชามากุมไว้อย่างตื่นเต้น “คุณหลับ มาหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ”

นีรชาต้องการดึงมือออกจากภัสกรณ์ แต่ เธอก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ !

นีรชามองดูปากที่ขยับของภัสกรณ์ราวกับ เขากำลังพูดกับเธออยู่ แต่เธอกลับไม่ได้ยินอะไร เลยแม้แต่สักนิดเดียว !

ความกลัวขนาดมหึมาเข้าปกคลุมจิตใจของ นีรชา เธอพยุงร่างตัวเองขึ้น พยายามที่จะดันตัว ไปที่ปลายเตียง มองไปที่ภัสกรณ์อย่างหวาดกลัว

ภัสกรณ์คิดว่านีรชายังคงหวาดกลัวเขา เขา จึงปฏิบัติต่อเธอด้วยความอ่อนโยน ช้อนมือของ นีรชาขึ้นเพื่อจับที่ใบหน้าของเขา ดวงตาแดงก่ำ เต็มไปด้วยความเวทนาและสำนึกผิด “น้ำ! ฉัน ขอโทษ! ฉันมันไม่ใช่คน! คุณตบฉันเลยสิ!” เขา จับมือของนีรชา ตบไปที่ใบหน้าของตัวเอง
นีรชากรีดร้องและหดมือของตน ! เธอค้น พบว่า – ตัวเองหูหนวกแล้ว ! เธอจะไม่ได้ยิน เสียงอะไรอีกต่อไปแล้ว !

ภัสกรณ์ยังเข้าใจว่านีรชายังคงกลัวตน เขา จึงกอดนีรชาไว้ในอ้อมอก กอดเธอจนแน่น “น้ำ ฉันไม่ดีเอง… ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วนะ…. ต่อไป ฉันจะไม่ทำกับคุณแบบนี้อีกแล้วนะ …. อย่ากลัวไป เลย”

นีรชารู้ว่าภัสกรณ์กำลังพูดอยู่กับตน เธอ สัมผัสได้ถึงไออุ่นจากลมหายใจของเขาที่ต้นคอ ของเธอ ภัสกรณ์กอดเธอไว้แน่น เธอรู้สึกถึงการ สั่นสะเทือนของเส้นเสียงในลำคอของเขา แต่เธอ กลับไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย !

เป็นอย่างนี้ ก็ดีเหมือนกัน แค่เพียงเธอ หลับตา เธอก็ไม่ต้องรับรู้อะไรในโลกนี้อีกต่อไป แค่เพียงหลับตา ภัสกรณ์ก็จะดับหายไปแล้ว…

นีรชาเอาหัวหดลงมุดในผ้าห่ม หลับตา ไม่ พูด ไม่ขยับ ราวกับถ่านก้อนหนึ่งที่กำลังมอดไหม้

ที่เขี่ยบุหรี่ในห้องนั่งเล่นเต็มไปด้วยขี้บุหรี่ ภัสกรณ์ดวงตาแดงก่ำนั่งอย่างนิ่งเงียบสูบบุหรี่อยู่บนโซฟา ผ่านไปครู่หนึ่งที่เขี่ยบุหรี่ทั้งสอง อันก็เต็มไปด้วยขี้บุหรี่

น้าแขยกถาดเข้ามาอาหารในถาดยังเต็ม อยู่และไม่มีร่องรอยของการรับประทานแม้สักนิด

เธอมองดูอาการโศกเศร้าของภัสกรณ์ แล้ว น้าแขก็ส่ายศีรษะ “นายน้อยคะ คุณนีรชายังไม่ ยอมทานอะไรเลยค่ะ”

ภัสกรณ์มองน้าแขอย่างหมดอาลัยตาย อยาก เขาจ้องมองไปที่น้าแข “ถ้าเธอไม่กินน้าก็ หาวิธีให้เธอกินสิครับ!”

“นายน้อย ฉันลองมาหมดทุกวิธีแล้วค่ะ ฉัน ชักแม่น้ำทั้งห้าแล้วแต่ก็ไร้ประโยชน์ค่ะ … คุณ นีรชาไม่ทานอะไรมาสองวันแล้วนะคะ น้าแขพูด ไปก็กลัวว่าจะทำให้ภัสกรณ์อารมณ์เสียเข้าไปอีก

เมื่อเช้าที่นีรชาไม่ยอมทานข้าว ภัสกรณ์ก็ ขว้างปาข้าวของเก่าแก่โบราณในห้องนั่งเล่นจน เสียหายหมด..

“ถ้ามื้อเย็นนีรชายังไม่กินละก็ ให้ไล่คนครัว ออกไปให้หมด!” ภัสกรณ์บี้กันบุหรี่แล้วเดินไป ทางห้องของนีรชา

“นายน้อย!” น้าแขเห็นภัสกรณ์กำลังจะมุ่งหน้าไปยังห้องของนีรชาจึงรีบเข้ามาหยุดเขาเอา ไว้อย่างรวดเร็ว ณ ขณะนี้คนที่นีรชาไม่อยากเห็น หน้าเป็นที่สุดก็คือภัสกรณ์ใช่ไหมล่ะ

“ว่าไง!” ภัสกรณ์หันมามองน้าแข

น้าแขพูดไม่ได้ว่าคุณนีรชาเกลียดคุณ คุณ อย่าเพิ่งเข้าไปทำให้เธอหงุดหงิดเลย พอเห็น หน้าภัสกรณ์หันมาแล้วน้าแขจึงได้แต่เอ่ยออกไป ว่า “นายน้อยคะ ดูเหมือนว่า…หูของคุณนีรชา….”

“หูของนีรชาเป็นอะไร” ภัสกรณ์เบิกตากว้าง ความกลัวและความกังวลบังเกิดขึ้นในใจ

น้าแขสูดหายใจเข้าและพูดอย่างระมัดระวัง “หูของคุณนีรชาดูเหมือนจะฟังไม่ค่อยได้ยิน เมื่อ สักครู่น้าเดินเข้าไปจนถึงข้างตัวของเธอ เธอถึง กับตกใจสะดุ้ง ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นน้าปิดประตูดัง มาก เธอน่าจะรู้ตัวตั้งแต่ตอนที่น้าเดินเข้าไปใน ห้องแล้วด้วยซ้ำ”

“เธอพูดอะไรนะ พูดใหม่อีกรอบสิครับ” ภัส กรณ์รีบมุ่งไปหาน้าแขและจับที่เสื้อด้านหน้าของ เธอไว้

น้าแขเป็นแม่นมของภัสกรณ์ เขาจึงปฏิบัติ กับเธอด้วยความสุภาพเสมอมา วันนี้ที่มีท่าทีต่อน้าแขเช่นนี้ น่าจะเป็นเพราะเขาตื่นตระหนกมาก จริงๆ!

แพทย์ทั้งหมดในแผนกโสตศอนาสิกวิทยา ในเมืองC ถูกเรียกตัวไปที่บ้านของภัสกรณ์

ผู้เชี่ยวชาญทุกท่านหลังจากวินิจฉัยโรค แล้วกลับส่ายศีรษะกันหมด ล้วนบอกกับภัสกรณ์ ว่านีรชานั้นหูหนวกแล้ว

เมื่อภัสกรณ์ถามพวกเขาว่าสามารถรักษา ให้หายได้หรือไม่ พวกเขากลับก้มหน้าไม่กล้า สบตาและไม่พูดอะไร

มีเพียงแพทย์หนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างนุ่ม นวล “เธอมีอาการหูหนวกครับ ถึงแม้ว่าจะเป็น ผลกระทบภายนอกซึ่งเกิดจากความเสียหายของ เส้นประสาท แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ อาการทาง จิตใจ เธอต้องการใช้อาการหูหนวกเป็นเกราะ กำบังเพื่อที่จะหลบหนีจากบางสิ่งบางอย่าง เป็น สัญชาตญาณในการป้องกันตัวของเธอครับ”

ภัสกรณ์ไม่ต้องการทนฟังเรื่องราวทางการ แพทย์ จึงขัดจังหวะการพูดของคุณหมอท่านนั้น ขึ้นมา “สามารถรักษาให้หายได้ไหมครับ”

แพทย์หนุ่มลังเลอยู่เล็กน้อย “ความเสียหายของเส้นประสาทสามารถรักษาให้หายขาด ได้ แต่ปัญหาทางจิตใจเป็นเรื่องยากที่จะกล่าว ต้องรู้ว่าสาเหตุที่แน่ชัดว่าเพราะอะไรทำให้เธอ เป็นเช่นนี้ จึงจะสามารถค่อยๆรักษาไปครับ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ