ตอนที่ 132 แต่งงานกับฉัน
ณ ตอนนี้ นีรชาเริ่มรู้สึกไม่ปกติ ร่างกาย ร้อนระอุ ศรีษะเริ่มมึนงงเล็กน้อย ไม่ใช่ ไม่ใช่ แบบนี้ นีรชาพยายามทำให้สติตัวเองกลับคืนมา
เมื่อกี้ยังดีๆอยู่ ไหงดื่มไวน์ของภัสกรณ์แค่ แก้วเดียวกลับเป็นแบบนี้ไปได้ หรือว่าภัสกรณ์ใส่ อะไรลงไปในเหล้า
เธอมันใสซื่อเกินไป ไม่ควรหลงเชื่อภัส กรณ์ง่ายๆแบบนี้เลยจริงๆ เขาเป็นคนยังไง เธอ ก็ควรจะรู้ดีอยู่แก่ใจ
ดวงตาอันสวยงามคู่หนึ่งของนีรชาเริ่มพล่า มัว แก้มสีชมพูทั้งสองข้างลอยขึ้นมาบนใบหน้า ที่ซีดเผือก ทั้งตัวเธอหวานเยิ้มถึงขีดสุด
เสียงแหบแห้งเหมือนคนเป็นใบ้ อยากจะ ดื่มน้ำเย็นสักแก้วเพื่อดับความร้อนในร่างกาย
นีรชาเอ่ยปาก “ภัสกรณ์ คุณทำบ้าอะไร เนี่ย คุณใส่อะไรลงไปในเหล้า”
ได้ฟังเสียงแผ่วเบาของนีรชา ภัสกรณ์ทน ไม่ไหวแล้ว ผลักเก้าอี้ออก เดินไปหานีรชา
นี่รชาอยากจะลุกหนี้ แต่ว่าร่างกายของ เธอกลับอ่อนแรง ไม่มีกำลังเลยสักนิด
ภัสกรณ์ไม่ทนอีกต่อไป ก้มตัวลง ล็อคริม ฝีปากชมพูของเธอ จูบเธออย่างดูดดื่มสุดขีด จูบอันเร่าร้อนและโหยหา พลางกระซิบ
เสียงต่ำว่า “น้ำ ฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน เธอ รู้ตัวไหม ฉันคิดถึงเธอมาก ฉันคิดถึงมากจน เกือบจะบ้าอยู่แล้ว”
เขาบอกความในใจที่ข้างหูนีรชาซ้ำแล้วซ้ำ เล่า “นีรชา ทำไมคุณใจร้ายกับผมนัก บอกว่า จะไม่พบกันอีกก็ไม่ยอมมาพบกันอีก คุณนี่ปิศาจ ตัวน้อยชัดๆ ไม่คิดถึงผมจริงหรือ ไม่แม้แต่ วินาทีเดียวเลยหรือ…
นีรชาเริ่มรู้สึกสับสน เดิมเธอไม่ได้ฟังสิ่งที่ ภัสกรณ์พูดเลย
รู้เพียงว่าเสียงของเขาเต็มไปด้วยความ ขมขื่นและยินดีในขณะเดียวกัน และความทรงจำ
ในอดีตที่ฝังลึกในหัวใจของเธอ
จันทร์ฉายกับนรุตม์กำลังเดินไป คุยไป พอหันกลับมาอีกทีก็ไม่เห็นนีรชาเสียแล้ว
จันทร์ฉายกังวลใจ “แถวนี้มิดตอติญ่า หลงทางหรือเปล่านี้ เราไปตามหาเธอกันเถอะ”
ไม่เป็นไรหรอก ที่นี่เป็นของบริษัทเรา รปภคุมเข้ม นีรชาไม่เป็นไรหรอก คุณไม่เห็น หรือ เธอไม่อยากเป็นก้างขวางคอเราหรอก” นรุตม์ยิ้มอย่างมีเลศนัย
“ก้างขวางคออะไรกัน คุณก็พูดเพ้อเจ้อ” จันทร์ฉายฟังนรุตม์พูดนอกเรื่อง ออกอาการเขิน หน่อยๆ ดีที่คืนนี้ฟ้าสลัว นรุตม์ไม่ทันเห็นสีหน้า ของเธอ
เกล็ดหิมะค่อยๆตกลงมาจากไฟถนน ช่าง เหมือนภาพวาดเสียนี่กระไร
จันทร์ฉายมีนิสัยทะโมนแบบเด็กผู้ชาย หน่อยๆ รู้สึกสนุก อยากเดินขึ้นเดินลงแผ่นไม้ เหยียบหิมะที่พื้นเล่น
นรุตม์มองดูจันทร์ฉายเล่นตามใจ กระโดด ลงพื้นก่อน ค่อยยื่นมือไปรับจันทร์ฉาย
ใบหน้าของจันทร์ฉายเขินอายเล็กน้อย ถลึงตาใส่นรุตม์ “ทำอะไร คิดอยากจะแตะเนื้อ ต้องตัวฉันหรือ”
นรุตม์หัวเราะร่ามองจันทร์ฉาย “ใช่แล้ว แม่ดอกไม้บานรีบลงมาให้คุณชายคนนี้แตะหนอย เร็ว”
ทั้งหมดนี้ก็คือเกี้ยวพาราสี จันทร์ฉายปัดมือ นรุตม์ออก กระโดดลงพื้นที่มีหิมะแบบไม่ได้มอง
ผู้คนที่มาน้ำพุร้อนต่างสวมรองเท้าไม้กัน
พื้นของรองเท้าไม้ไม่มีความยืดหยุ่น จันทร์ฉาย
กระโดดลงมาเร็วเกินไป ร่างของเธอจึงเซเกือบ ล้ม
บังเอิญนรุตม์เอื้อมมือจับไว้ทัน รับจันทร์ ฉายไว้ในอ้อมแขนของตนได้อย่างมั่นคง
“นี่ ทำอะไรน่ะ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ” จันทร์ฉาย ไม่รู้สึกขอบคุณถึงความหวังดีที่นรุตม์รับเธอไว้ อย่างมั่นคง รู้แต่แรกแล้วว่าผู้ชายคนนี้คิดไม่ซื่อ
ไม่ปล่อย ผมหนาวมาก ร่างกายคุณอุนอุ่น” นรุตม์ยิ้มนัยน์ตาหวานซึ้งมองดูจันทร์ฉาย
“ทำไมล่ะคะ ร่างกายคุณดูอุ่นกว่าฉันเยอะ เลย จริงไหม” จันทร์ฉายยื่นมือออกไปแตะหน้า อกนรุตม์อย่างโง่ๆ
ดูสิ อุ่นจะตาย อุ่นกว่าร่างกายฉันตั้งเยอะ
แน่ะ
ในใจนรุตม์อยากจะหัวเราะแทบตาย เด็กน้อยคนนี้ช่างหลอกง่ายดีจัง ยังคงแตะไปท่วตัว เขา
“เด็กน้อยเอ๋ย คุณรู้ตัวไหมว่าทำอะไรอยู่” นรุตม์เตือนด้วยความหวังดี “หี.” จันทร์ฉายเงยหน้าขึ้นทันที มองเห็น
สายตาเป็นประกายของนรุตม์ ถึงรู้ตัว
ตกหลุมพลางเสียแล้ว
“คุณมันขี้โกง ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ” จันทร์ ฉายรอดออกมาจากอ้อมแขนของนรุตม์จนได้
“ใครขี้โกงกันแน่ เมื่อกี้นี้คนที่แตะเนื้อต้อง ตัวก็คือคุณนั่นแหละ” นรุตม์รู้สึกว่าได้ต่อล้อต่อ เถียงกับเธอสนุกดี ได้รสชาติไปอีกแบบ “ช่างน่า สงสารจริง ผมอุตส่าห์เก็บความบริสุทธิ์มา27ปี คุณมาทำลายลงแบบนี้ คุณต้องรับผิดชอบผม แล้วล่ะ”
นรุตม์แสร้งทำทีว่าถูกเอาเปรียบ หัวเราะ ชอบใจอยู่ข้างใน
“คุณ….” จันทร์ฉายพูดไม่ออก
เคยบอกกับตัวเองแล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับ ผู้ชายคนนี้อีก ไฉนลงเอ่ยแบบนี้ล่ะ
ไม่ ไม่เอา นี่ไม่ใช่แบบที่เธอต่องการ
หัวใจที่เต้นแรงได้เงียบสงบลง นีรชาใช้มือ
เล็กๆของเธอต้านหน้าอกอันแข็งแกร่งของภัส กรณ์เอาไว้ “ไม่เอา” ภัสกรณ์หัวเราะอย่างชั่วร้าย ไม่เอาอะไร
น้ำ เธออย่าโกหกตัวเองอีกเลย”
เดิมใบหน้าของนีรชาอมชมพูอยู่แล้ว กลับ ยิ่งแดงจัดขึ้นไปอีก
พยายามปกป้องตัวเอง เธอสะกดอารมณ์ ตัวเองให้ใจเย็นลงก่อนพูด “คุณแทน คุณน่าจะ เข้าใจดีนะว่าเราสองคนไม่ได้รักกัน เราจะมาทำ เรื่องแบบนี้เหมือนคนยังรักกันไม่ได้”
ภัสกรณ์เชยปลายคางของนีรชาขึ้นมา “ใคร ว่าเราไม่ได้รักกัน”
นัยน์ตาลึกๆมีสีแดงก่ำ มองผู้หญิงที่อยู่ตรง หน้า ประโยคนั้นที่เธอพูด “เราก็ไม่ได้รักกัน” แทง ลงไปในใจของเขาที่ซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้
ขณะนี้เขารู้แน่ชัดแล้วว่า เขายังรักนีรชาอยู่ เขารักเธอ ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต จะไม่มี วันเปลี่ยนแปลง
แต่ว่าแล้วเธอล่ะ ยังกล้าบอกว่าเธอไม่รักเขาอีกหรือ
ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขาปล่อยให้เธอหลุดมือ ไป ปล่อยให้เขาเจ็บปวดใจแต่ผู้เดียว ไม่ เขาจะ ไม่ยอมปล่อยเธอไปอีก เธอจะต้องเป็นของเขา ณ ตอนนี้
มืออันร้อนผ่าวประคองหลังอันอ่อนนุ่มและ ขาวดุจกระเบื้องเคลือบของนีรชา เสียงอันแผ่ว เบา ราวกับเด็กโง่ไม่มีผิดเสียงของภัสกรณ์ สุภาพและนุ่มนวลเกินความคาดหมาย “น้ำ ฉัน รักเธอ อย่าปฏิเสธฉันได้ไหม”
เสียงของภัสกรณ์ทำให้เธอตกอยู่ในภวังค์ นีรชาเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างประหลาดใจ
นัยน์ตาลึกๆ ตกหลุมรักโดยไม่ตั้งใจพลาง รู้สึกเจ็บปวด
หัวใจของนีรชาเต้นแรงโดยไม่มีสาเหตุ หัวใจที่สั่นไหวของเธอเปลี่ยนไปอย่างง่ายดาย โดยสายตาของภัสกรณ์
นีรชาตื่นขึ้นจากภวังค์
ความรักของภัสกรณ์แข็งกระด้างเกินไป หนักหน่วงเกินไป เธอไม่คงรับไม่ได้ เธอเป็น คนมีเกียรติและรักอิสระคนหนึ่งไม่มีทางยอมรับความรักเยียงตุ๊กตาและสัตว์เลี้ยงของภสูกรณได
อยากจะขังก็ขัง ให้เธอเป็นคนรักของเขา
ไม่มีทางเด็ดขาด
หายใจลึกๆที่นึ่ง นีรชาเหลือบตามองภัส กรณ์ “คุณแทน คุณรู้อยู่แก่ใจนี่คะ ว่าฉันเป็น คนรักของคุณไม่ได้”
ภัสกรณ์รีบกอดนีรชาไว้ในอ้อมแขนตน “ใครบอกว่าฉันจะให้คุณเป็นแค่คนรัก ฉันจะ แต่งงานกับคุณ น้ำ แต่งงานกับฉันนะครับ”
นีรชาตกใจจนสั่นไปทั้งตัว เหลือบตามอง ภัสกรณ์ ริมฝีปากของเขาค่อยๆโน้มลงมาจูบเธอ ฤทธิ์ของยาหมดลง สมองของนีรชาตอน นี้กลับว่างเปล่า
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ