evil spirit นายปีศาจบอกให้รัก

ตอนที่ 91 ดูคู่ควรมาก



ตอนที่ 91 ดูคู่ควรมาก

ผมสีบลอนด์ซีดปกคลุมใบหน้าลงมาครึ่งหนึ่ง มองเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอางค์ที่หนาเตอะ จนแทบไม่เห็นเค้าเดิม หยาดเหงื่อไหลรินลงเส้นขอบ ตาที่เขียนอย่างคมเข้ม แลดูสกปรก ขนตาปลอมอันยาว เฟื้อย แถมปัดแก้มสีชมพูสองข้างน่าตลก ไม่น่าเชื่อผู้ หญิงคนนี้ยังกล้าเดินออกจากบ้าน พนักงานบริกรของ ร้านอาหารก็กล้าเปิดประตูให้เข้าด้วย

ภัสกรณ์ชะงักก้าวเท้าถอยหลังด้วยสีหน้าเหนื่อย หน่ายและไม่ค่อยพอใจอย่างเห็นได้ชัด

นรุตม์เห็นก็ตกใจเช่นกัน ผีโว้ย! คำพูดนี้เกือบ หลุดปากออกมา

เมื่อดูท่าทางของนรุตม์และภัสกรณ์ นีรชาก็รู้แล้ว ว่ารอดตัว พวกเขาจำนีรชาไม่ได้ รอดแล้วรอดแล้ว เธอ ไตร่ตรองแล้วถอนหายใจอย่างโล่งอก เดินออกจากร้าน อาหารไป

“หยุดนะ” ภัสกรณ์ส่งเสียงเรียกอันหยิ่งผยองดัง จากข้างหลังเธอ

หันไปหรือไม่หันไป หยุดหรือไปต่อดี ในหัวของ นีรชาคิดทบทวนกลับไปกลับมาไม่หยุด

ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจหันหลังกลับไป ยืนก้มหน้า กัมตาอย่างเคารพต่อหน้าภัสกรณ์

ท่านประธานภัสกรณ์ คุณชายภัสกรณ์ คุณช่างหล่อเหลาดูดีมีฐานะ เหตุใดจึงไม่ปล่อยผู้หญิงยากจน ต่ำต้อยคนหนึ่งอย่างฉันไปนะ ขอร้องล่ะ ปล่อยฉันไป เถอะ นีรชาเฝ้าภาวนาอยู่ในใจ หวังว่าพระเจ้าคงจะได้ยิน เสียงภาวนาอย่างตั้งใจของเธอ

ภัสกรณ์ขมวดคิ้วมองเธอ แต่เดิมแม้แต่หางตา เขายังไม่อยากจะเหลียวมองเธอ มารยาทแสนจะแย่ ยิ่ง เห็นยิ่งเปลืองตาเปล่าๆ แต่ว่าเธอยังติดหนี้เขาสิ่งหนึ่ง

เขาเดินอย่างเชื่องช้าไปหานีรชา เอื้อมมือไปยัง คอของเธอ

นีรชากลัวจนตัวสั่น สัมผัสอันคุ้นเคยนั้นทำให้เธอ รู้สึกแปลับขึ้นมาทันที

“โอ้ย” ความเจ็บปวดชั่วขณะเกิดขึ้นที่คอ สร้อย คอของเธอถูกภัสกรณ์กระชากออกไป

นีรชาไม่กล้าเงยหน้าขึ้นและไม่กล้าพูดอะไร ได้ แต่ยืนตัวงออย่างหมดท่าบ่นพึมพำอยู่ในปาก นี่เป็นของ ขวัญที่คุณพ่อส่งให้เธอ เป็นสิ่งเดียวในตัวเธอที่มีค่ามาก ไม่สมควรจะสูญเสียไปแบบนี้

นรุตม์ทนดูไม่ได้ จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้เลย หรือ นี่อาจจะเป็นสิ่งของล้ำค่าสำหรับคนๆ หนึ่งก็ได้นะ

นรุตม์ตบไหล่ภัสกรณ์ “แทน เครื่องประดับ สวยงามล้ำค่ามีเยอะแยะ ทำไมแกต้องไปเอาสร้อยสับ ปะรังเคแบบนั้นด้วยนะ คืนเค้าไปเถอะ”

ภัสกรณ์ลบคิ้วพลางพูดด้วยมุมปากว่า “อย่างเธอ ไม่เหมาะกับสร้อยเส้นนี้หรอก”
นีรชาที่ยืนหมดท่าเหมือนตัวลอยเคว้งในอากาศ เธอไม่เหมาะกับสร้อยเส้นนี้ ใช่สิ เธอมันจน ต่ำต้อย ไม่ เหมาะที่จะมีแม้กระทั่งสร้อยคอเส้นเดียว ที่ประดับบนคอ เธอ ยังถูกเศรษฐีคนหนึ่งเอาไปหัวเราะเยาะเย้ยได้

คุณพ่อคุณแม่ประคบประหงมเลี้ยงดูเธอมาอย่าง ทะนุถนอม กลับถูกคนพวกนี้ดูถูกดูแคลน เหยียดหยาม สารพัด เขามีสิทธิ์อะไรมาเหยียบย่ำศักดิ์ศรีคนอื่นถึง เพียงนี้

มือทั้งสองกำหมัดแน่น นีรชาทั้งโกรธแค้นและ เกลียดชังอย่างมาก เธอไม่ยินยอมอีกต่อไป อยากได้ก็ เอาไปสิ วันนี้ฉันไม่มีปัญญาปกป้องของของฉัน ต้องมี สักวันที่เป็นวันของฉัน ภัสกรณ์ คอยดูเถอะ

เสียงหยิบกระเป๋าสตางค์ดังต่อจากนั้น มืออัน ผอมยาวของภัสกรณ์ยื่นมาตรงหน้าเธอ หนีบเงินฟอนนึ่ง ส่งให้เพียงพอสำหรับสร้อยเงินสักร้อยเส้น

“เอาไป ชดใช้ให้” น้ำเสียงอันเยือกเย็นกล่าว คำ พูดแฝงไปด้วยอารมณ์ยกตนข่มท่านและดูถูกแบบนั้น

ทันใดนั้นนีรชาหวนนึกถึงในคืนที่ฝนตกตอนที่พบ

กับภัสกรณ์ครั้งแรก รถของภัสกรณ์ชนเธอจนล้มไปอยู่ที่

พื้น เขาเปิดกระจกโยนเงินลงมาให้ปีกหนึ่ง แล้วก็พูด

ด้วยน้ำเสียงแบบเดียวกัน ทั้งหยิ่งยโสและดูถูก

“ไม่” นีรชาปัดเงินในมือของภัสกรณ์ออก ธนบัตร สีชมพูจำนวนหนึ่งปลิวกระจายลงเต็มพื้น ดึงดูดสายตา ของแขกในร้านชั่วครู่หนึ่ง
น้ำตาแห่งความโกรธแค้นไหลเอ่อมารวมกัน นีรช ากัดริมฝีปากของตัวเองไว้ไม่ให้น้ำตาไหลออกมา เธอ หันหลังกลับไปอย่างเรียบเฉย นีรชาค่อยๆ เงยหน้าของ เธอขึ้นอย่างช้าๆ

น้ำตาแห่งความผิดหวังและโกรธแค้นในที่สุดก็ ไหลรินออกมา นีรชาตั้งศรีษะตรงพยายามดัดหลังตรง เธอสงบเสงี่ยมเจียมตัว แต่ก็ไม่ให้ใครมาดูถูกเหยียด หยามเธอได้

“ผู้หญิงคนนี้แปลก” นรุตม์กล่าวขึ้นเบาๆ ถ้าเป็นผู้ หญิงคนอื่น ถูกกระชากสร้อยคอไปแบบนี้คงไม่พอใจ แต่พอเห็นค่าเสียหายมากมายขนาดนี้ คงจะยิ้มไม่หุบ เลยล่ะ ผู้หญิงคนนี้แปลกจริงๆ

ธนบัตรที่ปลิวตกอยู่บนพื้นแน่นอนว่าเขาไม่เก็บ เหลือบไปเห็นบริกรคนหนึ่งยืนอยู่ข้างๆ เขาหันไปบอกบ ริกรคนนั่นเสียงเบาๆ “ทั้งหมดนั่นเป็นของเธอ”

บริกรคนนั้นคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าตัวเองจะโชคดี ขนาดนี้ ตาของเขาเบิกโพรงด้วยความตื่นเต้นดีใจถาม ภัสกรณ์ว่า “คุณครับ คุณว่าทั้งหมดนี่ยกให้ผมหรือครับ”

“อืม” ภัสกรณ์ยังคงแสดงท่าทีไว้เนื้อถือตัวอย่าง นั้น ราวกับว่าเงินก้อนนั้นสำหรับเขาแล้วก็แค่เศษ กระดาษกองหนึ่ง

สายตาหลายคู่เหลือบมองไปที่หญิงสาวคนหนึ่ง ที่ยืนอยู่มุมถนน ลมพัดผมของเธอปกคลุมใบหน้า เธอ ยกมือขึ้นปัดผมของเธอให้ดูเรียบร้อย ท่าทีคล่องแคล่วและสง่างาม ไม่มีแม้เงาของคนที่ไร้มารยาท

แท็กซี่จอดตรงหน้าเธอ เธอรวบกระโปรง โค้งตัว ขึ้นรถไปทอดสายตามองออกไปไกล เห็นเงารางๆ ใบหน้าเลือนลางที่คุ้นเคย

นีรชา นีรชาใช่ไหม

ภัสกรณ์ปากคอสั่นด้วยความโกรธ ผลักเก้าอี้ล้ม ไปข้างหน้า

“คุณภัส คุณภัส คุณทำอะไรนะ” นรุตมรีบวางเงิน ให้แล้วออกจากร้านมา

รอภัสกรณ์ตามออกมา ภัสกรณ์เห็นรถแท็กซี่ เคลื่อนออกไปไกลระยะหนึ่ง เขารีบก้าวขาวิ่งออกไป อย่างบ้าคลั่ง

ผู้คนที่เดินผ่านไปมาบนทางเท้าถูกภัสกรณ์ชนล้ม ระเนระนาด ท่ามกลางสายตาแสดงความไม่พอใจและ สับสน ภัสกรณ์เดิมที่เป็นคนไม่ค่อยใส่ใจอะไรมากนัก สายตามองดูรถแท็กซี่ที่อยู่ตรงหน้ากำลังกลับรถ เค้า เดินฝ่าวงล้อมผู้คนอย่างรีบเร่งไปยังถนนฝั่งตรงข้าม

เพื่อที่จะหลบเขา รถราบนถนนต่างเบรกกะทันหัน ตามๆกัน เสียงยางเสียดสีกับพื้นถนนดังแสบหู การ จราจรบนถนนโกลาหลไปหมด

ตำรวจจราจรรีบเป่านกหวีดวิ่งออกมา “ทำอะไรนะ ทำอะไร ฝ่าไฟแดง อยากตายหรือไง” ยังไม่ทันสิ้นเสียง พูด ภัสกรณ์ปล่อยหมัดเข้าที่หน้าของเขา
ทำเอาตำรวจคนนั้นลงไปกองที่พื้น ภัสกรณ์รบวง ไป นรุตม์วิ่งตามหลังมาพลางถอนหายใจ คิดไม่ถึงว่าภัส กรณ์คนนี้จะมีแรงมากขนาดนี้ มิน่าเล่าสาวๆ ถึงได้มะรุม มะตุ้มกันนัก

คงจะเป็นเพราะตำรวจรายงานสถานการณ์ ไม่ นานนักตำรวจกลุ่มหนึ่งเข้ามาล้อมทั้งภัสกรณ์และนรุตม์ ทั้งคู่

ภัสกรณ์ล้มตำรวจไปอีก2คน ต่อมาก็ถูกตำรวจอีก นายหนึ่งบิดข้อมือล็อคไว้ได้ เขาได้แต่จ้องมองรถแท็กซี่ สีเหลืองคันนั้นหายลับไปจากสายตา

นีรชา อยากจะให้เธอมาล้มตรงนี้จริงๆ ภัสกรณ์ อารมณ์เสียจนอยากเอาหัวตัวเองโขกกำแพง

แต่….ข้างหน้าไม่มีกำแพง มีเพียงตำรวจกลุ่ม หนึ่งที่เป็นศัตรู ภัสกรณ์แสดงความฉุนเฉียวออกมาเมื่อ หนึ่งในตำรวจที่เป็นจิ้งจอกจอมปลอมกำลังตำหนิเขาอยู่

นีรชาที่นั่งอยู่บนรถแท็กซี่ ได้ฟังผู้ประกาศข่าว ช่องสถานีจราจรกำลังรายงานสถานการณ์ปัจจุบันว่า : การจราจรบนถนนสาย หลักซานฟานเกิดติดขัดเป็นอัน มาก ชายคนหนึ่งวิ่งฝ่ามาบนถนน ไม่สนใจสัญญาณไฟ จราจร แถมยังชนผู้คนบนทางเท้าล้มระเนระนาด ทำเอา รถราบนถนนต้องเบรคกันตัวโก่งเพื่อหลบเขา สร้าง ความวุ่นวายปั่นป่วน ชายคนนั้นตอนนี้ได้ถูกจับกุมโดย เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นที่เรียบร้อย เบื้องต้นสันนิษฐานว่า ชายคนนี้น่าจะป่วยทางจิตขั้นรุนแรง
คนขับรถแท็กซี่บ่นว่า “คุณว่าไหม ไอ้โรคจิตนี้ มัน น่าจะอยู่ที่โรงพยาบาล ไม่รู้จะออกมาเพ่นพ่านทำไม หนอ สร้างปัญหาให้สังคมเปล่าๆ”

นีรชาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย กล่าวว่า : “ใช่คะ คนโรคจิตถ้าวิ่งออกมาบนถนนอย่างนี้จะต้องเกิดเรื่อง ขึ้นแน่นอน”

นอกสถานีตำรวจ นรุตม์ เซ้าซี้ถามภัสกรณ์ : “คุณ ภัส เมื่อกี้ที่ร้านอาหารเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงรีบร้อนวิ่ง ข้ามถนนไปอย่างนั้น”

ภัสกรณ์กำหมัดแน่นที่มือขวา พลางขมวดคิ้ว แต่ ไม่ได้ตอบอะไร

“นี่ คุณภัส คุณนี่จริงๆเลย ผมอุตส่าห์ช่วยประกัน ตัวคุณออกมา คุณจะไม่พูดกับผมสักคำเลยหรือ” นรุตม์ มองภัสกรณ์อย่างไม่ค่อยพอใจนัก

ภัสกรณ์ทอดสายตามองออกไปยังท้องฟ้า ท้องฟ้าอันสดใสเต็มไปด้วยสีฟ้า ไม่มีก้อนเมฆสักก้อน

ท้องฟ้านั้นสดใส แต่ว่าเธอคนนั้นที่เขาอยากเจอ กลับหาไม่พบ

เธอคนนั้นที่เขาอยากเจอ กลับรังเกียจเขา แสร้ง ใส่วิกผมพลางตัว แต่งหน้าหนาเตอะ แกล้งเป็นใบ้ ไม่ ยอมพูดด้วย ปากแข็งไม่ยอมอ่อนข้อให้เขา และไม่ยอม ทักทายเขา

กำปั้นที่มือขวากำแน่นขึ้น จนกระทั่งบีบสร้อยเส้น เล็กๆ ในกำมือแน่นขนัดจนรู้สึกเจ็บ
นรุตม์มองภัสกรณ์อย่างแปลกใจ แววตาของภัส กรณ์ดูเหมือนเหม่อลอย เขาไม่เข้าใจ หากจะหาคำมา บรรยาย นรุตม์คิดว่า เสียใจ คำนี้น่าจะเหมาะสมที่สุด

แต่ว่า เสียใจหรือ คนอย่างภัสกรณ์เสียใจเป็นด้วย หรือ นอกจากอุบัติเหตุเมื่อ12ปีก่อนนั้น เขายังไม่เคย เห็นภัสกรณ์เป็นแบบนี้มาก่อน

ไปเถอะ ไปร้านเหล้าคุณกัน” ภัสกรณ์พูดเบาๆ พลางเหลือบมองสายตาที่นรุตม์จ้องมองเค้า

“เอาสิ ผมจะเลือกผู้หญิงให้คุณสักสองสามคน” นรุตม์พูดพลางหัวเราะชอบใจ ใช่แล้ว นี่สิถึงจะเป็นภัส กรณ์คนเดิม เสียง ดนตรีเคล้านารี ความโศกเศร้าเสียใจ ล้วนปนเปกันไปหมด

ขณะที่นีรชากำลังนั่งรอคิวหน้าห้องตรวจครรภ์ใน แผนกสูตินารี วันนี้เธอมาตรวจ เธอไม่ค่อยสบายใจนัก

คนท้องที่นั่งรออยู่ด้วยกันกับเธอต่างมีสามีมาด้วย บ้างก็มากันทั้งสามีภรรยาและคุณตาคุณยาย นีรชาที่มา คนเดียวเลยดูแปลกๆ

เธอแอบมองด้วยความอิจฉาและปวดใจเมื่อเห็น สามีเหล่านั้นดูแลภรรยาของเขาในรูปแบบต่างๆกัน จาม ทีก็ต้องโค้งตัวโก่งหลัง ในใจนีรชาปวดร้าวยิ่งนัก

“ลูกจำ พ่อของหนูเป็นใครกันนะ” นีรชาลูบท้อง ไปพลางพึมพำกับตัวเอง เธอจะรู้สึกเสียใจเล็กน้อย เช้า วันนั้นไม่ควรรีบร้อนออกมา อย่างน้อยเธอควรจะดูหน้า ผู้ชายคนนั้นเสียหน่อย
ความเจ็บปวดทวีขึ้น จมูกของเธอเริ่มแสบร้อน “ลูกจำ แม่ขอโทษ แม่ไม่อาจทำให้ครอบครัวเราสมบูรณ์ เหมือนคนอื่นๆ ได้ ไม่อาจทำให้หนูได้ขี่ไหล่พ่ออย่างมี ความสุข” น้ำตาไหลลงมาอาบแก้มของเธออย่างเงียบๆ

“อุ้ย ดูสิ สามีภรรยาคู่นั้นเหมาะสมกันดีจังเลยนะ”

“ใช่ๆ ผู้ชายก็หล่อผู้หญิงก็น่ารัก เอ๊ะ ผู้หญิงคน นั้นเหมือนลูกสาวของนายกเทศมนตรีจิระเดชเลยอะ”

“ใช่ลูกสาวสุดหวงของท่านไหม”

“ใช่สิ ใช่แน่ๆ ว้าย ดูสามีเธอสิ หล่อจังเลย”

ชายหญิงคู่หนึ่งที่เดินเคียงกันมาตามทางเดิน ทำให้พวกคนท้องทั้งหลายที่นั่งรอผลตรวจข้างนี้รชา ล้วนกระตือรือร้น ซุบซิบนินทา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ