ตอนที่ 42 คุณหนูรองกลับมา
บนรถในคืนที่เงียบสงัด ไม่มีใครพูดคุยอะไร ภายในรถมีเพียงความเงียบ บรรยายกาศชวนอึดอัดจน แทบหายใจไม่ออก
ระพินทร์แอบมองภัสกรณ์กับนีรชาจากกระจกมอง หลัง ภายในใจก็ได้แต่ส่ายหัวไปมา เด็กผู้หญิงคนนี้ ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ท่านประธานไม่เคยพาผู้หญิงคน ไหนกลับบ้านหมื่นสา แต่เธอเป็นคนแรก วันนี้ท่านประธาน รักษาเวลาเป็นพิเศษเพื่อจะพาเธอไปทานข้าวกลางวันด้วย กัน
ใบหน้าของภัสกรณ์มืดครึ้ม ร่างกายหายใจหอบ กระหาย ดูเหมือนว่าอากาศจะเริ่มลดลงเล็กน้อย จนทำให้ ผู้คนหนาวสั่น
เบาะหลังมีขนาดกว้างมาก นีรชาพยายามทำคด ตัวให้เล็กลงเท่าที่จะทำได้ ตอนนี้เธอรู้สึกเสียใจกับการก ระทำของตัวเอง เธอไม่ได้ตระหนักถึงผลกระทบที่ตามมา ของการทำให้ภัสกรณ์โมโห
แต่บนโลกใบนี้ไม่มียาตัวไหนที่สามารถกินได้แล้ว ทำให้หายเสียใจได้
นีรชาแอบชำเลืองมองภัสกรณ์และตัดสินใจที่จะ ขอโทษเขาอยู่พักหนึ่ง ยังไงตอนนี้พ่อก็ยังนอนอยู่บน เตียงผู้ป่วย เพื่อรอการผ่าตัด เธอจำเป็นต้องการเงินค่าผ่า ตัดของภัสกรณ์
รถวิ่งมาหยุดอยู่หน้าประตูโรงจอดรถ นีรชาเริ่มปริปากกำลังอธิบายให้ภัสกรณ์ทราบเกี่ยวกับเรื่องอาหาร กลางวันในวันนี้ ทันทีที่เงยหน้าขึ้นเขาก็พบว่าดวงตาคู่ดำ เข้มกำลังจ้องมองเขาอย่างเยือกเย็น
นีรชาจึงรีบหันหน้ากลับไป ภัสกรณ์พูดด้วยน้ำเสียง เยือกเย็น “ลงจากรถ” เส้นเลือดปูดนูนโผล่ขึ้นตามใบหน้า และหน้าผาของเขาอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นก็กระชากแขน ของนีรชาแล้วลากไปยังห้องนั่งเล่น
มือใหญ่แข็งแรงของเขาบีบแน่น ทำให้นีรชารู้สึก เจ็บจนใบหน้าเล็กๆของเธอย่นเข้าหากัน แขนที่ถูกแรงดึงเดินมาตามหลังของภัสกรณ์
รองเท้าของเธอถูกถอดทิ้งไป เท้าเล็กๆเดินเหยียบไปบน กรวดหินและทรายอย่างเจ็บปวด นีรชากัดริมฝีปากแน่น อย่างดื้อรั้นไม่ยอมปริปากขอความเมตตา
ทำให้ภัสกรณ์ยิ่งโกธรมากยิ่งขึ้น นีรชา ฉันไม่สน หรอกว่าคุณจะมีหนามบนร่างกายมากน้อยเพียงใด คืนนี้ ฉันจะดึงออกมาให้หมดเลย
ภายในห้องนั่งเล่นที่มีแสงไฟสว่างไสว เสียง หัวเราะอย่างมีสุข เมื่อได้ยินถึงเสียงฝีเท้า น้าปิ่นก็เดิน ออกมาต้อนรับเขาจากห้องนั่งเล่น หลังจากเห็นใบหน้า ของภัสกรณ์ รอยยิ้มบนใบหน้าของน้าปิ่นก็จางหายไป อย่างรวดเร็ว
“คุณชายใหญ่…คุรหนูรองกลับมาแล้วค่ะ” น้าปิ่นรีบ รายงาน เพราะกลัวภัสกรณ์จะโกธรขึ้นมา
ภัสกรณ์เลิกคิ้ว ใบหน้าของเขาดูโล่งอกไปเล็กน้อย แต่ความแข็งแรงของมือที่บีบลงบนแขนของนีรชาไม่ได้ลดลงเลย เท้าของนีรชาเลอะเทอะเปอะเปื้อนไปหมด มัน เป็นความเจ็บปวดจากใจจริง กระโปรงยาวสีขาวเปอะเปื้อน เป็นคราบลากเป็นทางยาวตามพื้น ผมเผ้ายุ่งรุงรังใบหน้า ขาวซีดแสดงถึงความเจ็บปวด ทำให้เธอดูอักอ่วนไปทั้งคน
“พี่ค่ะ…” บนโซฟาสีขาว มีเด็กหญิงสง่างามคนหนึ่ง ยืนขึ้น ยิ้มและพูดกับภัสกรณ์ แต่เมื่อเห็นนีรชาที่ยืนอยู่ ด้านข้างของภัสกรณ์ ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ถิรา น้องกลับถึงบ้านเมื่อไหร่ ทำไมน้องไม่บอกพี่ ล่วงหน้า” ภัสกรณ์ผลักนีรชาออกไปอย่างรุนแรง นีรชา ไม่ทันตั้งตัว หน้าท้องของเธอจึงไปชนเข้ากับมุมโต๊ะ ทำให้เธอเจ็บปวดอย่างรุนแรง เธอทำได้เพียงแค่เอามือ มากุมที่หน้าท้อง แล้วทรุดตัวลงไป
“พี่ค่ะ ฉันโทรหาพี่ตอนเที่ยง เลขาของพี่บอกว่าพี่ ไปทานข้าวเที่ยงกับคุณนีรชา” ปากเล็กๆจำสีดอก กุหลาบของถิรา มองดูแล้วเหมือนเด็กนิสัยเสีย
ภัสกรณ์ขมวดคิ้ว แล้วถามเบาๆว่า “สนุกไหมครั้งนี้ ต่อไปยังโวยวายไปเที่ยวรอบโลกอีกไหม”
ถิราซบลงที่ไหล่ของภัสกรณ์ หางตามองมาที่นีรชา ใบหน้าสวยงามนั่นเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและ ดูถูก “พี่ค่ะ พี่พาผู้หญิงข้างนอกเขามาในบ้านได้อย่างไร”
ภัสกรณ์หันมามองนีรชา แล้วพูดกับน้าปิ่นว่า “พา เธอขึ้นไปข้างบน” “เดี๋ยวก่อน” ถิราพูดหยุดการกระทำของน้าปิ่น เดิน
ไปที่ด้านข้างของนีรชา มองดูเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ