จักรพรรดิมารหวนคืน

บทที่ 173 คนแก่ไร้ค่า



บทที่ 173 คนแก่ไร้ค่า

หลังจากที่เฉินจิ้นพูดจบตะข่ายสวรรค์ผลักมือออกไป

โดยตรง

แล้วพุ่งขึ้นกลางอากาศ

ในชั่วพริบตายิ่งอยู่ก็ยิ่งขยายใหญ่ขึ้นจนตะข่ายปกคลุม

พื้นที่นับร้อยเมตร

จากนั้นก็หดตัวลงตรงกลางอย่างรวดเร็ว

ข้างในรวมไปถึงลู่ห้านหยุ่งที่บาดเจ็บสาหัสยอดฝีมือเจ็ด แดนเดินต่างก็ถูกตะข่ายสวรรค์ปกคลุม

เหตุอะไรขึ้น?

เวลานี้ยอดฝีมือแดนเสินของตระกูลลึกลับพวกนี้ภายใน ใจรู้สึกมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี

“ตะข่ายสวรรค์?”

หนึ่งในนั้นซอซูอี้เงยหน้าขึ้นมองแล้วพูดอย่างสงสัย

ทันในนั้นแดนเสินคนอื่นก็ประหลาดใจ

“ใช่นั่นก็คือตะข่ายสวรรค์ของเย่าเก๋อ”

“ตอนนั้นเฉินจิ้นแย่งมาจากในมือของผู้อาวุโสสามสี่คนของเย่าเก๋อต้องไม่ผิดแน่นอน”

อีกอย่างยอดฝีมือแดนเส้นก็ร้องออกเสียงและแน่ใจในสิ่ง

นี้

ทันใดนั้นยอดฝีมือแตนเงินทั้งหกที่ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ภายในใจกำลังก่นดาขึ้น

แม้กระทั่งยังอดไม่ได้ที่จะสบถหยาบออกมา

“แต่ว่าในเวลาสั้นๆ ทำไมเขาถึงใต้ครอบครองตะข่าย สวรรค์ได้?”

ต้องรู้ว่านี่เป็นของล้ำค่านั่นต้องเป็นประทับจิตวิญญาณ แน่นอน

เฉินจิ้นเอามาไว้ในมือแล้วถ้าอยากจะใช้อย่างน้อยต้อง ทำให้ประทับจิตวิญญาณที่อยู่เหนือตะข่ายสวรรค์ถูกทำลาย ทิ้งก่อนจากนั้นประทับลงบนประทับจิตวิญญาณของตนเอง ถึงจะได้ไม่งั้นตะข่ายสวรรค์ที่เป็นของล้ำค่าชั้นนี้ต้องไม่มีทาง ถูกใช้งานอย่างง่ายตายแน่นอนถ้ายอดฝีมือใช้งานต้องง่าย ที่จะถูกกลืนกิน

รวมไปถึงพวกเขาเครื่องรางชีวิตของตนเองนั่นก็คือ ประทับบนตราประทับของตัวเองมีเพียงตัวเองที่สามารถใช้ งานได้พลังอันน่าเกรงขามถูกแสดงออกมาอย่างยิ่งใหญ่ ที่สุดถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นที่ฝันใช้มันพลังอันน่าเกรงขามก็คงไม่ทันพลังที่พวกเขามีอยู่หากความสามารถอ่อนแอเกินไป แล้วฝันใช้คงจะทำให้ตนเองได้รับบาดเจ็บที่ไม่มีทางลบล้าง ใต้

สมบัติอันล้ำค่าในตระกูลนั่นไม่ใช่ข้อต้องห้ามอันร้ายแรง ถ้าไม่มีวิธีที่สอดคล้องกันต่อให้เป็นพวกเขาก็ยากที่จะใช้งาน

ถึงแม้ทุกคนสงสัยตอนนี้กลับไม่มีใครอยากไปคิดมาก

ใต้ตะข่ายสวรรค์ไร้ซึ่งที่ซุกซ่อน

พวกเขาได้ยินชื่อเสียงอันน่าเกรงขามของตาข่ายสวรรค์ มานานแล้วหากตกไปอยู่ในตาข่ายสวรรค์ต่อให้เป็นพวกเขา คิดว่าก็คงยากที่จะหลุดพ้น

พอนึกถึงแบบนี้ทุกคนก็ไม่ได้สนใจที่จะจู่โจมเฉินจิ้นต่อ ทันใดนั้นทุกคนต่างก็ดึงมือกลับด้วยความสุขุม

และตอนสุดท้ายทุกคนยังคงระเบิดพลังจิตภายในร่างกาย อีกครั้งเหมือนกำลังปล่อยพลังออกมาโดยที่ไม่ต้องการการ ตอบแทน

และในตอนนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เฉินจิ้นได้รับบาดเจ็บและ สิ่งที่อยากได้มากกว่านั้นคือทำให้เฉินจิ้นเหนื่อยที่จะโต้ตอบ แล้วลดการควบคุมต่อตะข่ายสวรรค์

ดังนั้นสิ่งที่เหนือที่พวกเขาคาดหมายก็คือ
เฉินจิ้นไม่ได้สนใจการจู่โจมของพวกเขาเลยสักิด

ต่อให้พวกเขาที่เป็นยอดแดนเงินทั้งหกได้ปล่อยพลัง อัศจรรย์เฉพาะตัวของตัวเองออกมาต่อให้เป็นขั้นสูงสุดของ แดนเสินก็ต้องไม่มีใครกล้าตั้งรับพลังอัศจรรย์เฉพาะตัวของ ยอดฝีมือทั้งหกอย่างพวกเขาอย่างดื้อรั้งถึงจะถูก

ทว่ามีเพียงเฉินขึ้นที่ไม่กลัวเลยสักนิด

บนเรือนร่างเฉินจิ้นขณะเดียวกันก็แผ่ซ่านแสงสีเทาออกมา จากภพภูมิทั้งหก

ทุกๆแสงสีเทามันยิ่งใหญ่ไร้เทียมทานเหมือนเคล้าด้วย พลังแห่งการทำลายล้างโลก

ต่างก็พุ่งไปยังทั้งหกคนนั้นต่างก็จู่โจมกับพลังอัศจรรย์ที่ แต่ละคนปล่อยออกมา

ทันทีทันใดรอบๆเฉินจิ้นแทบจะเกิดเสียงระเบิดดังขึ้นใน

ขณะเดียวกัน

ทำให้อากาศสั่นสะเทือน

“ตูม!”

ภายใต้พลังทั้งสองอย่างปะทะกันแดนเสินชั้นกลางสาม

คนที่ด้อยกว่าหน่อยต่างก็อาเจียนเลือดออกมา ส่วนแดนเสินชั้นสุดอีกสามคนเรือนร่างก็สั่นเทา
กลับมองไปยังเฉินขึ้นสีหน้าไม่เปลี่ยนเลยสักนิดเฉินจิ้น เหมือนต้นสนอายุเยอะที่ไม่ขยับเขยื้อนใดๆ

มุมปากเผยยิ้มอย่างเย้ยหยัน

“นี่.

เวลานี้แดนเส้นทั้งหกต่างก็อึ้งทึ่งไปจริงๆ

จากนั้นก็รู้สึกตกตะลึง

และหวาดผวา

ถึงแม้เพิ่งจะจู่โจมแค่ครั้งเดียว

ทว่าการจู่โจมครั้งนั้นมันมีแนวคิดยังไงแดนเสินทั้งหก อย่างพวกเขาขณะเดียวกันก็ได้ระเบิดพลังอัศจรรย์เฉพาะตัว ออกมาและเวลาเดียวกันก็ได้จู่โจมคนเดียวกันพลังน่ากลัว ขนาดไหนคนๆนั้นมีอำนาจน่าเกรงขามขนาดไหน

ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นๆ ที่เป็นยอดฝีมือแดนเสินชั้นสูงสุดก็ ไม่มีทางไม่ได้รับผลกระทบใดๆแน่นอน

กลับเป็นเพียงเฉินจิ้นเขาเหมือนคนที่ไม่เป็นอะไรจริงๆ

“ถอย!”

ซอซู ตะโกนเสียงดังขึ้นจากนั้นเรือนร่างก็ได้ถดถอยไป

ทันที

ส่วนอีกห้าท่านร่วมไปถึงลู่ห้านยุ่งก็ได้หลบหนีไปข้างนอกอย่างว่องไวเหมือนฟ้าแลบ

ไม่ว่าจะเป็นความแกร่งของเฉินจิ้นหรือว่าการปกคลุมของ ตะชายสวรรค์ก็ไม่สามารถปล่อยให้พวกเขามีการหยุดชะงัก อยู่ที่นี่

“ถ้าพวกแกสามารถหนีรอดหนึ่งคนบัญชีของคนทั้งหมด ฉันจะไม่รับไว้

เฉินจิ้นแสยะยิ้มอย่างเลือดเย็น

ภายในใจกระชับแน่นตะข่ายสวรรค์จึงได้หดตัวลงมา อย่างว่องไวตั้งฟ้าแลบ

เฉินจิ้นขยับอย่างแรงเรือนร่างขยับทันทีแล้วก็ลงไปใน ระยะที่ห่างออกไปยี่สิบเมตรอย่างรวดเร็ว

จากนั้นสองมือก็ได้ยื่นไปยังเจ็ดคนนั้นที่กำลังหนีแล้วก็

กระชับมืออีกครั้ง

ทันใดนั้นเจ็ดคนที่กำลังหนีรู้สึกเหมือนข้างหลังมีพลัง

ดึงดูดสุดแกร่งกำลังส่งมาทางพวกเขา

ทำให้เรือนร่างของเขาหยุดอยู่ที่เดิม

ความเร็วลดลงทันที

“lai.”

ซูอซูอี้ตะโกนอย่างตกตะลึง
พลังจิตภายในร่างกายจึงระเบิดออกมาอย่างบ้าบิ่น

ทว่ายังคงต่อหน้าแรงดึงดูดนั้นไม่ได้

เธอแค่ลืมตาขึ้นตะข่ายสวรรค์ก็ปกคลุมลงมาโดยตรง

ทำให้เธอถูกจับกุมเอาไว้ข้างใน

ไม่เพียงแต่เธอ

ยังมีอีกหกคนก็เหมือนกัน

แค่ในชั่วพริบตาตะข่ายสวรรค์เหมือนแหจับปลาแล้วก็ ปิดปากตะข่ายให้แน่นทำให้เจ็ดคนนั้นปกคลุมอยู่ด้านใน

“พลังของพวกเราที่รวมกันแล้วจู่โจมออกมาในเวลา เดียวกันฉันก็ไม่เชื่อตะข่ายสวรรค์จะสามารถต่อหน้าการ จู่โจมของการร่วมพลังเจ็ตแตนเส้นของพวกเรา”

ซอซูอี้ตัดสินใจทันทีแล้วได้ตะคอกใส่ทุกคน

สีหน้าของเธอเคล้าด้วยความบ้าคลั่งอย่างเห็นชัด

คนอื่นหกคนนั่นก็คือลู่ห้านหยังตอนนี้นัยน์ตาเปล่ง ประกายความน่าสนใจออกมาหลังจากได้ยินคำพูดของซอซู อี่ทุกคนต่างก็อยู่รวมกันแล้วจู่โจมทันที

จากนั้นขณะที่จู่โจมออกไปลมปราณทั้งเจ็ดอย่างของแดน เงินแล้วก็ได้จู่โจมไปยังปากตะช่ายสวรรค์แล้วออกไปอย่าง บ้าคลั่ง
ตูม!

พลังของเจ็ดแตนเงินทำให้ความว่างเปล่าแตกเป็นเสี่ยงๆ

ทว่าการจู่โจมบนตะข่ายสวรรค์กลับยังคงทำให้ตะข่าย สวรรค์เกิดการสั่นเทาเท่านั้น

“อีกครั้ง!”

ซอซูอีตะโกนเสียงดังอีกครั้ง

ไหนๆตะข่ายสวรรค์ก็สั่นเทาแล้วงั้นแสดงว่าการจู่โจมของ พวกเขามีผล

แค่ต้องจู่โจมต่อเนื่องต่อให้ตะข่ายสวรรค์พวกเขาก็ สามารถทำให้ฉีกขาดหนึ่งช่อง อยู่แล้ว

หลังจากพูดจบชอซูอี้เป็นผู้นำแล้วตบด้วยฝ่ามืออีกครั้ง รอยมือเปล่าๆก็ได้กระทบลงบนปากที่ปิดตะข่ายสวรรค์ อย่างแรง

จริงๆก็คงไม่ต้องบอกเตือนซอซูอี้หลังจากจู่โจมคนอื่นๆ ต่างก็จู่โจมไปยังตะข่ายสวรรค์อีกรอบ

ทันใดนั้นภายในตะข่ายสวรรค์ก็ถูกพลังอันน่ากลัวบาง อย่างกระทบอย่างแรง

เฉินจิ้นมองเห็นฉากนี้จึงกระตุกมุมปากพลางเผยยิ้มออก

มาเล็กน้อย
ตาข่ายสวรรค์หลุดพ้นจากเครื่องมือทางธรรมและก็ได้ก้าว เข้าไปในขบวนการของอาวุธวิเศษถึงแม้แค่เป็นอาวุธวิเศษ ชั้นต่ำที่สุดทว่าก็พวกเขาไม่สามารถจู่โจมให้ฉีกทันที

แน่นอนหากปล่อยให้พวกเขาจู่โจมต่อไปแบบนี้โดยที่ไม่ สนใจทุกอย่าง

ตะข่ายสวรรค์ก็คงจะทนไม่ไหว

ไหนๆเป็นแค่อาวุธวิเศษชั้นต่ำที่สุดการต้องเผชิญกับเจ็ด แดนเสินและจู่โจมไม่หยุดสุดท้ายก็คงจะเปล่าประโยชน์

ทว่าเฉินจิ้นจะยอมให้พวกเขาจู่โจมตะข่ายสวรรค์ต่อไปได้

ยังไง

ในโลกนี้นอกจากกระบี่เลี่ยนหยู่ในมือของเฉินจิ้นแล้วนี่ เป็นหนึ่งเดียวที่ถือว่ายังเป็นสิ่งที่เข้าตาเขา

ตาข่ายสวรรค์นี้มาถึงในมือของเขายังไม่เคยได้ใช้มันครั้ง นี้เฉินจิ้นก็แค่ลิ้มลองเท่านั้น

“เก็บ!”

เฉินจิ้นจะเก็บไว้ในมืออีกครั้งที่แรกแค่กระชับช่องว่างให้ แน่นหลังจากเจ็ดแดนเสินถูกจับกุมอยู่ข้างในตะข่ายสวรรค์ที่ ไม่มีความคืบหน้าใดๆก็ได้ถูกดึงให้แน่นอีกครั้ง

สำหรับซอซูอี้พวกเขาที่รู้สึกตกตะลึงเฉินจิ้นสามารถ ควบคุมตาข่ายสวรรค์อย่างชินมือขนาดนี้ได้ยังไง
นั่นก็เพราะว่าตอนแรกที่เงินจีนได้รับตะข่ายสวรรค์เขา ก็ได้ลบประทับที่อยู่บนตะข่ายสวรรค์แล้ว

จิตใจเส้นที่เขาได้เป็นแดนเส้นชั้นสุดต่อให้แดนเส้นชั้น สูงสุดยังเทียบเทียมไม่ได้ที่ประทับแบบนี้เฉินจิ้นลบล้างไปก็ ไม่ใช่เรื่องยากเลย

หลังจากนั้นน้ำเสียงของเฉินจิ้นหยุดลง

ช่องว่างของตะข่ายสวรรค์ยิ่งอยู่ยิ่งเล็ก

การเคลื่อนไหวของเจ็ดแดนเส้นยิ่งอยู่ยิ่งไม่สะดวก

จนถึงสุดท้ายตะข่ายสวรรค์ต่างก็รัดกุมพวกเขาให้แน่น ทำให้พวกเขาเจ็ดคนแค่แออัดไว้ด้วยรวมกัน

“หวังเจี้ยนคังมีของแกวางตรงไหนเอาออกไปเตี๋ยวนี้เชื่อ

ไหมฉันสับแกให้เละ!”

“คู่ห้านยุ่งแกห่างจากฉันหน่อยเชื่อไหมฉันจะทำให้แก

พิการ!”

ทันใดนั้นซอซูอี่ที่ถูกอัดไว้ตรงกลางกลายเป็นยอดฝีมือ เพศหญิงหนึ่งเดียวในเจ็ดแดนเสิน

ตอนนี้เธอรู้สึกโมโหมาก

เพราะเธอถูกเบียดอยู่ตรงกลางสุดและดูคนมุมล้อมทำให้มาเบียดร่างกายของเธอ

เรือนร่างของทุกคนจึงต้องสัมผัสกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“แกนึกว่าฉันอยากพรอ?”

คนที่ดูเหมือนวัยกลางคนทว่าเขาคือหวีนเจี้ยนคงที่มีอายุ แปดสิบกว่าแล้วสีหน้าเปล่งประกายความอึดอัดเวลา เดียวกันก็รู้สึกโมโหมาก

ไอ้ผู้หญิงคนนี้ถึงตอนนี้กลับยังสนใจเรื่องพวกนี้อีก

ตอนที่ยังเป็นวัยรุ่นสวยมากหรือไง

ทว่าตอนนี้กลับเป็นคนแก่เหมือนไข่มุกเม็ดงามที่ทิ้งจนเก่า และเหลืองอย่างไร้ค่าใครยังจะสนใจเธออีก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ