จักรพรรดิมารหวนคืน

บทที่ 166 สาวสวยหวาดผวา



บทที่ 166 สาวสวยหวาดผวา

อย่างไรก็ตามทันทีที่หรุงิงฉือพูดออกมา ก็เงียบไปทั้งแถบ

ทุกคนต่างมองเธออย่างไม่อยากจะเชื่อ

โดยเฉพาะสายเลือดของท่านอาวุโสสามและท่านอาวุโสสี่ ในดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยปริศนา

แม้ท่านผู้อาวุโสใหญ่จะลาศีลแล้ว แต่ท่านอาวุโสใหญ่

และท่านเจ้าสำนักยังอยู่แดนเส้นอันดับสูงสุด ทั้งสองท่านแห่งแดนเส้นอันดับสูงสุดมีแนวคิดอย่างไร ภายใต้การร่วมมือพอที่จะทำลายเย็นเชี่ยได้

แต่ตอนนี้ท่านอาวุโสใหญ่บอกว่าต้องการจะยกเลิกความ ร่วมมือกับเฉินจิ้น?

“อยากยกเลิกก็ใช่ว่าจะไม่ได้ เอาของที่ติดไว้ทั้งหมดใน สัญญาวิญญาณของซู เย็นออกมาก็ได้แล้ว!” เฉินจิ้นยิ้มเยาะ

เขาไม่ได้มาที่เย่าเก่อเพื่อฆ่าคน แต่มาเพื่อบีบบังคับให้ เย่าเก๋อมอบเทียนซ้ายเป่าที่เขาต้องการออกมา

ในเมื่ออีกฝ่ายต้องการยกเลิกก็ใช่ว่าจะไม่ได้

ทันทีที่เฉินจิ้นพูดออกไปแบบนั้น หรุงชิงฉือกลับเงียบ เธอมองไปทางเซี่ยโหวหยุน ในเวลานี้สีหน้าเซี่ยโหวหยุนบึงตึงอย่างมาก

ทว่าเชี่ยโหวหยุนก็รู้ดีว่าในเมื่อเฉินจิ้นสามารถเขย่าขวัญ ค่ายเก้ามังกรได้ และเป็นคนโหดเหี้ยมถึงขนาดเอาชนะค่าย เก้ามังกรได้ด้วยหมัดเดียว

การปะทะกันก่อนหน้านี้ยังได้รับการพิสูจน์แล้วว่าแม้ว่า เธอจะเป็นสุดยอดมือฉมังก์ แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฉินจิ้น

สำหรับหรุงชิงฉือ แม้ว่าจะเป็นแดนเสินอันดับสูงสุด แต่ พลังวิชาของเธอก็ยังแย่กว่าเขาอยู่หน่อย

แม้ว่าพวกเขาสองคนจะผนึกกำลังกันแล้วไม่มีปัญหาใน การเอาชนะเฉินจิ้น แต่พวกเขาอาจจะไม่สามารถจับตัวเฉิน จิ้นได้

และถ้าเฉินจิ้นชนะไม่ได้ก็สามารถหนีไปได้โดยสิ้นเชิง พวกเขาไม่สามารถหยุดยั้งเขาได้

หากหลังจากนั้นสร้างความบาดหมางนองเลือด ศัตรูแห่ง แตนเงินอันดับสูงสุดที่มีพลังมากกว่าเขาบวกกับเฉินจิ้นที่มี พรสวรรค์น่ากลัวและยังหนุ่มยังแน่นแบบนี้แล้ว นี่จึงเป็นเรื่อง หายนะสำหรับเย่าเก๋อ

เซี่ยโหวหยุนสีหน้าย่ำแย่จนถึงขีดสุด

แต่เขายังส่งสายตาไปให้หรุงซิงฉือ

หรุงชิงฉือพยักหน้า พวกเขาทั้งสองบรรลุข้อตกลงกันแล้ว
จากนั้นหรุงชิงฉือก็หันไปมองเฉินจิ้นแล้วพูดว่า “สหาย น้อย เย่าเก๋อเต็มใจเป็นเพื่อนกับนาย ดังนั้นพวกเรายินยอม เอาของในสัญญาวิญญาณของซู เย็นออกมา แต่ว่าเทียนข้า ยตี้เป่าพวกนั้นที่นายต้องการ มีเพียงของไม่กี่ชิ้นที่เป็นสมบัติ ของเย่าเก๋อ ส่วนของที่เหลือล้วนเป็นวัตถุดิบยาที่หายาก การ ที่นายเอาไปมันก็ถือว่าเป็นการเลาะกระดูกฉัน

แต่เย่าเก๋อก็ยอมเอามาให้นายได้ หวังว่าสหายน้อยอย่าง นายจะเอาลูกยาหวนหยางน้อยหรือยาปีกู่พวกนั้นแบ่งให้เย่า เกือบ้าง”

พรุงชิงฉือไม่ได้กล่าวถึงวิธีฝึกฝนชี่กงแต่อย่างใด เธอรู้ว่า นี่ไม่สามารถเกิดขึ้นจริงได้อย่างแน่นอน เว้นแต่จับเฉินจิ้นมา ได้และใช้วิชาหาจิตวิญญาณ ไม่อย่างงั้นก็ไม่มีใครแลก เปลี่ยนวิธีฝึกฝนชี่กงของตัวเอง

ซู เย็นออกไปเมืองหรุงเพื่อหาเตาหลอม แม้จะเป็นของมี ค่ามาก แต่สำหรับหรุงซิงฉือแล้วมันมีค่าน้อยกว่าตำรับยา อย่างไรก็ตามในเย่าเก่อ สิ่งที่ขาดไม่ได้ที่สุดคือเตาหลอมชั้น ดี ดังนั้นเธอจึงไม่ได้พูดถึงมัน

หลังจากที่เฉินจิ้นได้ยินดังนั้น แววตาก็เป็นประกาย

พลางยิ้มเยาะแล้วพูดว่า “ติดหนี้คืนเงินเป็นเรื่องขอบธรรม เธอไม่มีสิทธิมาต่อรองกับฉัน”

ถ้าเย่าเก่อนำของออกมาให้อย่างว่าง่าย
เฉินจิ้นจะพูดอย่างใจดีว่าจะนำยาพวกนั้นให้พวกเขาและ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

แต่ถ้าเย่าเก่อคิดจะใช้สิ่งนี้เป็นข้อเรียกร้อง นั่นก็ถือว่า วางแผนพลาดแล้ว

“แก.” เมื่อได้ยินดังนั้นหรุงชิงฉือก็ถอดสีหน้า

เย่าก๋อยอมถอยมาแบบนี้แล้ว นับเป็นครั้งแรกที่เคยมีมา ทว่าเฉินจิ้นก็ยังคงก้าวร้าวจึงทำให้หรุงซิงฉือมีสีหน้าเย็น

ยะเยือก

“ท่าน นายกำลังจะสร้างความบาดหมางนองเลือดไม่รู้จบ กับเย่าเก่อของฉันจริงหรือ?” หรุงซิงฉือพูดด้วยน้ำเสียงเยือก เย็น

กับเซี่ยโหวหยุนที่ยืนตรงที่แห่งหนึ่ง

ในกายอีกเหิม พร้อมจะลงมือได้ทุกเมื่อ

หลังจากที่เฉินจิ้นได้ยินก็ยังคงยิ้มเยาะ “ตลกชะมัด ลูก ศิษย์เย่าเก้อ ฉันมาที่นี่เพื่อเก็บเงินตามสัญญา โดยซอบธรรม ตามที่ลงนามสัญญาวิญญาณก่อนหน้านี้ สำหรับเรื่อง บาดหมาง ถ้าฉันไม่พอใจก็คงทำลายเย่าเก๋อ ไม่ให้เหลือ แม้แต่คนเดียว ความบาดหมางที่ไม่มีที่สิ้นสุดมาจากไหน ล่ะ?”

สิ่งที่เฉินจิ้นพูดไม่ได้เป็นเท็จ
ถ้าเขายินยอม คนในเย่าเก่อก็ไม่มีใครเล็ดรอดไปได้

“อวดดี!”

หรุงชิงฉือพูดเสียงหวาน

เธอยอมวางมือและยอมถอยแล้ว แต่เฉินจิ้นยังคงก้าวร้าว

ในขณะนี้ออร่าที่น่ากลัวก็พุ่งออกมาจากตัวเธอ

เซี่ยโหวหยุนก็เช่นกัน ลมปราณของแดนเสินอันดับสูงสุด ก็พุ่งออกมา

การบีบบังคับแดนเสินอันดับสูงสุดทั้งสองได้ห่อหุ้มไปที่ตัว

เฉินจิ้น

“ซี!”

เฉินจิ้นทำเสียงเย็นชา ลมปราณในกายพุ่งจู่โจมไปที่คน

ทั้งสอง

ทันใดนั้นก็มีเสียงกลัดกลุ้มลอยในอากาศที่ว่างเปล่า

การปะทะพลังกันเป็นหนึ่งต่อสอง แต่เฉินจิ้นกลับไม่ได้ตก

เป็นรองแม้แต่น้อย

ถึงขนาดสบายใจเฉิบ

พลังจิตของบูโดกับพลังหวนต้วน ไม่ได้อยู่ในระดับ พลังงานเดียวกัน
“ถ้าวันนี้เย่าเก่อไม่มอบของพวกนั้นมา ฉันจะทำลายเย่าเก่

อให้ราบแล้วไปเอามันมาเอง!”

เฉินจิ้นตะคอกอีกครั้ง

จากนั้นลมปราณในกายก็เพิ่มขึ้น

บดขยี้ลมปราณแดนเสินอันดับสูงสุดของหรุงชิงฉือกับเชี่ย

โหวหยุนโดยตรง

หรุงชิงฉือกับเซี่ยโหวหยุนส่งเสียงอู๋อี้เล็กน้อย ใบหน้าเป็น ขาวซีดไปมาก

จากนั้นเฉินจิ้นก็ยื่นมือออกไปคว้าอากาศที่ว่างเปล่า

กระบี่ยาวที่มืดมิตราวกับหมึกปรากฏขึ้นในมือของเฉินจิ้น

สิ่งที่โผล่พรวดออกมาคืออาวุธวิเศษของเฉินจิ้น “นิรย!”

เฉินจิ้นส่งพลังหวนตัวนเข้าไปในนิรย ทันใดนั้นนิรยก็ ปล่อยเสียงคมชัดและออร่าที่น่ากลัวออกมาจากกระบี่เลี่ยนห

ราวกับว่าตราบใดที่ฟันลงไป มั่นจะมีพลังที่น่ากลัวเหมือน กับเปิดฟ้าแยกแผ่นดิน

“ท่าน อวดดีเกินไปแล้ว”

เซี่ยโหวหยุนในเวลานี้พูดด้วยเสียงเย็นชา

จากนั้นเขากับหรุงชิงฉือก็แบ่งกันหยิบเครื่องรางออกมา
ทั้งหมดล้วนเป็นของของสำนักเทียนจิที่เป็นเครื่องรางชั้น

เลิศ

เซี่ยโหวหยุนถือกระบี่ยาว ทว่ากระบี่ยาวในมือเขากลับ ตรงกันข้ามกับนิราสีดำของเฉินจิ้นที่กระพริบด้วยแสง

แพรวพราว

หรุงชิงฉือหยิบกระบี่อ่อนออกมาจากเอวของเธอ

หากไม่แยกแยะอย่างถี่ถ้วนจะคิดว่ามันเป็นแค่เข็มขัดที่อยู่ บนเอวเธอ แต่จริงๆแล้วมีเครื่องรางด้านโจมตีของสำนัก เทียนจิซ่อนอยู่

“เชียนเริ่น!”

“หลิ่วจี!”

ซูเย็นมองกระบี่ทั้งสองพลางพิมพ์

กระบี่ในมืออาจารย์เซี่ยโหวหยุนมีชื่อเรียกว่า “เชียนเริ่น”

ส่วนกระบี่ที่ท่านอาวุโสหรุงชิงฉือถืออยู่นั้นเรียกว่า “หลิ่ว

จี”

ว่ากันว่าเครื่องรางด้านโจมตีทั้งสองนี้ล้วนเป็นเครื่องราง ด้านโจมตีชั้นเลิศของสำนักเทียนจิ

ตอนนั้นเจ้าสำนักคนสุดท้าย ตอนที่เชี่ยโหวหยุนและหรุง ชิงฉือก้าวเข้าสู่แดนเส้นตามลำดับ ได้เชิญเจ้าสำนักของUSI

สำนักเทียนจิคนสุดท้ายลงมือทำด้วยตัวเอง

ต้องใช้พลังมากมายในการสร้างเครื่องรางชั้นเลิศทั้งสอง ด้ามนี้ออกมา

ตามเสียงกระซิบของซู เย็น คนอื่นๆ ที่อยู่รอบๆก็จำกระบี่ สองต้ามนี้ได้เช่นกัน

“ที่แท้ก็เป็นเชียนเริ่นกับหลิ่วจีนี่เอง”

“มีเครื่องรางชั้นเลิศอยู่ในมือของแดนเส้นอันดับสูงสุด สองท่าน พลังจะต้องเพิ่มขึ้นแล้ว เฉินจิ้นตายแน่”

หนึ่งในลูกศิษย์ของท่านอาวุโสสามมองฉากนี้ด้วยสายตา ชื่นมื่น

เหมือนกับได้เห็นเฉินจิ้นตายในสำนักหวงฉวน

ต่อจากนั้นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็ถูกเก็บเข้าไป เป็น

แววตาตกตะลึง

รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาดูเหมือนจะหยุดนิ่ง

เฉินจิ้น เจ้าสำนักและท่านอาวุโสใหญ่อยู่บนท้องฟ้าด้าน บน หยิบเครื่องรางออกมาทีละชิ้นและใช้มันโดยตรง

ไอสังหารของกระบี่ตัดสลับกันนับไม่ถ้วน

กระบี่ปะทะกระบี่อย่างต่อเนื่อง

หลังจากนั้นสักพัก
ในอากาศก็มีเสียงดัง “ติ้ง”

เวลานี้กระบี่เขียนเริ่นหัก

วินาทีต่อมากระบี่หลิ่วจีก็แตกเป็นเสี่ยงๆ

เซี่ยวโหวหยุนและหรุงชิงฉือ เครื่องรางด้านโจมตีชั้นเลิศ ของทั้งสองถูกทำลายหลังจากการประชันประบี่ด้วยกระบี่ เลี่ยนหยู่ในมือเฉินจิ้น

“ยิ่งกว่าตะข่ายสวรรค์ยังเทียบไม่ได้”

เมื่อเห็นเชียนเริ่นและหลิ่วจี เฉินจิ้นก็ส่ายหน้า

ตะข่ายสวรรค์ถือว่าเป็นเครื่องรางชั้นต่ำที่สุด

แต่กระบี่ทั้งสองนี้ก็ถือได้ว่าเพิ่งแตะธรณีประตูของอาวุธ วิเศษได้เท่านั้น

บนโลกนี้หรือเครื่องรางที่สำนักเทียนจิทำขึ้นมาเหล่านั้น ทำให้เฉินจิ้นผิดหวังเสียจริงๆ

“นี่…นี่เป็นไปได้ยังไง?”

หลังจากกระบี่หัก หรุงชิงฉือก็เบิกตากว้าง

แน่นหน้าอกอยู่เป็นระลอก แสดงให้เห็นถึงความหวาด

ผวาในใจเธอ

“กระบี่ที่อยู่ในมือของนายมันคืออะไรกันแน่?”

สิ่งที่พวกเขาใช้นั้นเป็นถึงเครื่องรางชั้นเลิศ แต่กระบี่ที่เฉิน จิ้นถืออยู่นั้นกลับเป็นของระดับสูงมากกว่าพวกเขาเสียอีก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ