ยั่วสวาทนายปีศาจจอมหิ่น

ตอนที่83 อยู่กับเขาสองคน



มนต์ตรีถือขันน้ำอุ่นในห้องน้ำ ออกมาวางไว้ที่ด้านหน้า ของโซฟา เขาเอื้อมมึงไปดึงจารวีมา พลางกดไหล่ของเธอให้ นั่งลงบนเก้าอี้

จารวีงุนงง จะทำอะไรหรอคะ มนต์

“ฮ่าๆ พี่จะนวดเท้าให้วีน่ะ” มนต์ตรีเอื้อมมือไปกุมเท้าเล็ก ที่สะอาดหมดจดแช่ลงในน้ำอุ่น

ใบหน้าของจารวีก็แดงขึ้นทันที “พี่มนต์ ให้วีทาเองดี

กว่าค่ะ!”

มนต์ตรีเงยหน้าขึ้น พลางมองเธออย่างตั้งใจ “3 สิบปี มานี้พี่ไม่ได้อยู่ข้างๆ ไม่มีโอกาสได้ดูแล มีแค่วันนี้วันเดียว ให้พี่ดูแลวเหมือนเมื่อตอนเด็กๆเถอะนะ โอเคไหม

พลันดวงตาของเธอก็ร้อนผ่าว จารวีสะอื้นพลางพยัก หน้า ในหัวใจของเขา เธอยังคงบริสุทธิ์ไร้เดียงสาเหมือนเมื่อ ตอนเด็กๆ

ไหนจะรู้เลยว่า ความบริสุทธิ์ของจาร นั้นได้หาย สาบสูญไปนานแล้ว

พลันจารวีก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นไร้ยางอาย เหมือนหัว ขโมยที่แอบลักลอบเสพสุขความใส่ใจทะนุถนอมของมนต์ตรี

“ไม่ต้องกดดันนะวี ทําตัวตามสบาย โอเคไหม !

มือหนาของมนต์ตรีนวดคลึงเท่าเล็กของจาร
pgdn

HDMI

เท้าของเธอทั้งเล็กทั้งขาวสะอาด สิบนิ้วเท้าอ้วนกลม อีกทั้งเล็บของเธอยังเป็นสีชมพู ดูแล้วช่างน่ารัก

ฝ่ามือของมนต์ตรีออกแรงได้อย่างพอเหมาะ เขานั่งอยู่

บนพรม พลางบีบนวดเท้าให้เธออย่างตั้งอกตั้งใจ

“สบายไหม” มนต์ตรีเงยหน้าพลางเอ่ยถามด้วยเสียงที่ อ่อนโยน ใบหน้าเล็กของจารวีแดงราวกับมะเขือเทศ

“อืม สบายค่ะ!”

หลังจากแช่เท้าเสร็จเรียบร้อย มนต์ตรีใช้ผ้าผืนเล็ก เช็ดเท้าให้เธอ

“บนห้องของวีมีเสื้อผ้าอยู่ วีไปอาบน้ำก่อนนะ แล้วเดี๋ยว เรามานอนดูดาวกัน”

“โอเคค่ะ! ”

ใบหน้าของจารวีร้อนผ่าว เธอรีบพรวดพราดขึ้นไปชั้น บน พลางกดเปิดไฟ

โคมไฟคริสตัลที่สวยงามส่องแสงให้ห้องทั้งห้องสว่าง

สุกใส

มุมซ้ายของตู้เสื้อผ้าถูกแขวนไว้ด้วยเสื้อผ้าเต็มราว มี เสื้อผ้ามากมายหลากสีสัน ทั้งสีเขียวอ่อน สีขาวนวล สีเหลือง อ่อน ล้วนเป็นสีและสไตล์ทีจารวี นชอบ พลันจาร วีก็นึกอะไร ขึ้นมาได้ เสื้อผ้าเหล่านี้ดูคล้ายกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทน้องวี กรุ๊ปที่เธอเคยเห็นในนิตยสาร

หรือว่ามนต์ตรีออกแบบเสื้อผ้าพวกนี้มาเพื่อเธองั้นหรอของมนต์ตรีมาคือ พลางส่องไปยังบนท้องฟ้า นมืดมิด

มนต์ตรีคอย บอกอยู่ข้างๆ นี่คือดาวหนุ่มเลี้ยงวัว ส่วน ดวงนั้นคือดาวสาวหอผ้า

จารวัตอบรับในสําคอ พลางทอดมองผ่านเลนส์กล้อง ออกไป ดาวสองดวงนี้นอกจากค่อนข้างใหญ่และสว่างกว่า ดวงอื่น ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ

หนุ่มเลี้ยงวัว.. สาวทอผ้า.. จารวีพลันรู้สึกสลดใจ ดาว ทั้งสองดวงมองเห็นกันแต่ไม่สามารถมาพบกันได้ มันดูคล้าย เรื่องของเธอกับมนต์ตรี

เมื่อมองเห็นสีหน้าที่เศร้าโศกและหดหู่ของจารวี มนต์ ตรีจึงยิ้มให้เธอพลางเอย วี วีรู้สึกไหมว่าพวกมันสวยงามแต่ กลับเย็นชา ดวงตาคู่สวยของจารวีเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา เธอ พยักหน้าอย่างเศร้าสลด

มนต์ตรียื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้เธอ “อย่าเสียใจไปเลย ยังไงจะมันก็เป็นแคตานาน พวกมันเป็นเพียงแค่ดาวสองดวง เท่านั้น คําปลอบประโลมของมนต์ตรีทำให้หัวใจของจารวี รู้สึกดีขึ้นมา

มนต์ตรกดปิดไฟบนซุ้มเพดาน มองขึ้นไปแบบนี้ ก็ยิ่ง เห็นดวงดาวระยิบระยับบนท้องฟ้าได้ใกล้ชิดและเสมือนจริง มากขึ้น

หัวไหล่เขาทั้งสองชิดกัน จารวีนั่งคุกเข่าบนโซฟา เธอ เอนหัวหิงลงกับพนักพิง พลางจ้องมองดาว

มนต์ตรีนั่งอยู่ข้างกายของเธอ เขาวาดวงแขนโอบเธอ ไว้ เพื่อกันไม่ให้เธอล้มลงไป
-วี สิบปีที่ผ่านมา วิเคมคิดถึงพี่บ้างไหม ยามราตรีอัน

เงียบสงัก เสียงของมนต์ตรีราวกับอยู่ในความฝัน

“ตะ ไม่เคยลืม เลย พี่มนต์ *

มนตรียื่นมือไปลูบผมยาวสลวยของเธอ เขาพูดเพรา รำพันอย่างอ่อนโยน 5 สิบปีแล้วนะ ,ไหมว่าพี่เฝ้าแต่ตาม หากจนแทบบ้า! ทุกครั้งที่คุณลงของโทรมาบอกพี่ว่าเสีย แล้ว พี่แทบจะหมดอาลัยตายอยาก รู้ไหม ว่าพี่ไม่เคยเชื่อ เลยว่า จากพี่ไปแล้ว พี่มักจะคิดเสมอว่า กำลังมองดูพี่จาก ที่ไหนสักแห่ง! บางทีนี่อาจจะเป็นเพราะโชคชะตาฟ้าลิขิต ล่ะมั้ง!

น้าเสียงของมนต์ตรีอ่อนโยนราวกับสายน้ำไหล เขา เหม่อมองไปข้างหน้าอย่างใจลอย

ศีรษะเล็กของจาร ค่อยๆเคลื่อนขบลงบนท่อนแขน

มนต์ตรีสูดดมกลิ่นหอมของเส้นผมที่ปลิวมาตามลม ของ ทั้งอบอุ่นและเงียบสงบ เหมือนเมื่อตอนเด็กๆ หลายครั้ง ที่เธอเผลอหลับในอ้อมกอดของเขา

“วี วีรู้ไหมว่าพี่รักแค่ไหน ถ้าพี่ยังไม่มีคู่หมั้น ตอนนี้ผู้ หญิงที่จะเป็นคนรักของพี่ก็คงเป็น..

วี วิรับปากพี่สิว่าจะมีความสุข อย่าหลบหน้าพี่อีกเลย

นะ! “

มนต์ตรีพูดพร่ำพรรณนาอย่างนั้นเนิ่นนาน จนกระทั่ง ดวงดาวที่ส่องแสงบนท้องฟ้าหายลับไป และถูกแทนที่ ด้วยแสงอาทิตย์แรกอรุณ มนต์ตรีจึงเอ่ยเรียกเสียงเบาพระอาทิตย์ขึ้นแล้วนะ..

เขาส่งเสียงเรียกอีกครั้ง แต่จารวี ไม่มีปฏิกิริยาตอบ กลับแม้แต่น้อย เรายื่นหน้าเข้าไปดู เธอหลับสนิทจนยากที่ จะปลุกซะแล้ว

ในยามที่เธอหลับฝัน เธอดูอ่อนหวานงดงาม แพรขนตา หน้าโค้งงอนอยู่บนดวงดารูปพระจันทร์เสี้ยว

จมูกเรียวเล็ก รับกับริมฝีปากชุ่มชื่นอมชมพู ลมหายใจ แผ่วเบาหอมสดชื่น

ใบหน้าของมนต์ตรีปรากฏรอยยิ้มออกมาอย่างรักใคร่ เขาซ้อนร่างบางขึ้น พลางเดินขึ้นชั้นบน

จาร พลิกตัวอย่างสะลึมสะลือ รู้สึกว่าลมหายใจของ มนต์ตรีอยู่ใกล้เธอเหลือเกิน เธอยื่นหัวเข้าไปซบลงไปแผงอก กว้าง เหมือนเมื่อตอนยังเป็นเด็ก ทุกครั้งที่แอบมาอยู่บ้านเขา ขอบเผลอหลับไปอย่างนี้

ช่วงเวลานั้น เขามักจะเป็นคนอุ้มเธอกลับไปส่งบ้าน ความรู้สึกนั้นยังคงชัดเจนมาจนถึงวันนี้ เป็นความรู้สึกที่ สบายใจ

ในความฝัน เธอละเมอพิมพาแทบจับใจความไม่ได้ พี มนต์ พี่จับได้อีกแล้ว….

มนต์ตรีก้มลงจุมพิตเบาๆไปที่กลีบปากอ่อนนุ่มของเธอ ลมหายใจหอมสด นโชยเข้าไปในโสตประสาทของเขา

เขาใช้ริมฝีปากบรรจงวาดไปยังกลีบปากของเธออย่าง

ละโมบในความฝัน จาร หลับทั้งสิ้นคล้อยตามโจรสอนของ

มนต์ตรีใจเต้นเร็ว เราหายใจเข้าลึกๆ พยายามสะ แหัวใจ ทําหลังของตน เขาวางการลงบนเตียงนอนอย่าง ยากที่จะหักห้ามใจ หลางหยิบผ้าห่มมาคลุมให้เธอ

* รับปากแล้วว่าจะไม่รังแก แม้พี่อยากจะได้มาเป็น ของ แค่ไหน แต่พี่ก็ทําไม่ได้

มันคือคํามั่นสัญญาที่หนักแน่น ในเมื่อเธอยอมเชื่อใจ เขาอย่างไม่มีข้อแม้ เขาจึงรักเธอสุดหัวใจอย่างไม่มีข้อแม้ เช่นเดียวกัน…จารวัตนขึ้นมา ก็เป็นเวลาเที่ยงแล้ว เธอชะงัก ไปสักพักแล้วจึงกระโดดลงจากเสียงอย่างรวดเร็ว

พระเจ้า นี่เธอหลับไปงั้นหรอ! อุตส่าหรับปากกับพี่ มนต์แล้วว่าจะดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกัน ตายล่ะ! ไม่ได้เรื่อง จริงๆเลย เผลอหลับไปจะได้เ

วี ตินแล้วหรอ รีบมาทานอาหารเช้า เช้า

ร่างสูงโปร่งของมนต์ตรีเดินเข้ามาทางประตู

จารวีนึกถึงเรื่องที่เธอหลับอยู่ในอ้อมกอดของเขาเมื่อ คืน พลันใบหน้าเล็กก็ขึ้นสีแดงระเรื่อ

“พี่มนต์ เมื่อคืน…

“ฮ่าๆ เด็กโง่ เมื่อคืนไม่ทันไรก็เผลอหลับซะแล้ว ไม่ได้ดู พระอาทิตย์ขึ้นเลย! แต่ว่าไม่เป็นไรหรอกนะ พรุ่งนี้เช้าก็ยังดู ได้เออ ไม่ได้ค่ะ มนต์ ต้องกลับแส

จาก วิ่งเท้าเปล่าลงไปด้านล่าง เธกพรวดพราดเข้าไป ในห้องน้ำ พลางรีบอาบน้ำให้ไวที่สุด เมื่อยามน้ำหอมเส เรียบร้อยจ้งเดินออกมา

พิ่มแต่ต้องกลับแล้วนะคะ

มนต์ตรีมองเธออย่างเจ็บปวด 5 ใจคอวีจะทิ้งพี่ไว้ที่นี่ คนเดียวหรอ อยู่กับพี่อีกสักวันได้ไหม

พลันจารวีกใจอ่อนลงอีกรอบ ยังไงซะก็เป็นวันหยุด กลับไปก็ไม่รู้จะทําอะไร คงไม่พ้นกลับไปนั่งโง่ๆคนเดียวอยู่ดี ถ้าอย่างนั้น สู้เธออยู่กับ มนต์อีกวันไม่ดีกว่าหรอ

ช่วงนี้ มนต์เจอยศพลกลั่นแกล้งอย่างแสนสาหัส ใจคงจะเจ็บปวดมาก ถ้างั้นก็ทําให้ มน มีความสุขอีกสักวัน แล้วกัน

“วันจันทร์ ถึงจะไปทำงานใช่ไหม วีอยู่ที่นี่อีกสักวันนะ แล้วพรุ่งนี้พี่จะไปส่งที่ทำงานเอง

มนต์ต สงสายตาร้องขอมายังจารวี ราวกับว่าถ้าเธอ ปฏิเสธเขาอีกครั้งหนึ่ง เขาจะต้องทุกข์ทรมานมาก

“โอเคค่ะพี่มนต์ งั้นวีอยู่เป็นเพื่อนพี่มนต์อีกวัน! ”

จารวีตัดสินใจอยู่ต่อ ทั้งสองพาโจบิไปเดินเล่นและโต้

คลื่นที่ชายทะเล

แต่ช่วงเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ.. ในตอน ที่มนต์ตรีและจารวีจูงมือพูดคุยหัวเราะกันอย่างมีความสุขบนหาดทรายอยู่นั้น

เงาเพริยวระหงของใครคนหนึ่งยืนอยู่ที่ไกลๆ สายตาที่ เตียดแค้นกำลังจ้องมองมายังพวกเขา

ดวงตา เกลียดชังของสุรีย์วัลย์ลุกเป็นไฟ เธออยากจะ แผดเผาจาร ให้กลายเป็นผุยผง

ผู้ชายคนนั้นคือคู่หมั้นของเธอ ส่วนผู้หญิงคนนั้น คือ คนที่เขารักที่สุด

ความเกลียดชังของสุริย์วัลย์สุมแน่นอยู่ในอก

เธอเข้าไปสํารวจทุกซอกทุกมุมของบ้านพัก พลัน สายตาก็เหลือบไปเห็นเสื้อผ้าของผู้หญิงวางอยู่ในห้องน้ำ ความหึงหวงทวีขึ้นราวกับไฟลุกโหมที่กำลังเผาไหม้

จาร แกรับปากกับฉันว่าจะไม่มาอ่อยมนต์อีก แต่แกก็ ไม่รักษาคําพูด นังผู้หญิง ช้า!!

ช่วงเวลาแห่งความสุขผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็ ผ่านไปอีกหนึ่งวัน

จารวีนอนค้างที่บ้านไม้แห่งนี้อีกคืนหนึ่ง

ในเช้าวันที่สอง มนต์ตรีส่งเธอไปทํางาน เขานํากุญแจ รูปหัวใจไปคล้องไว้บนคอของเธอ

บ้านพักตากอากาศหลังนี้เป็นของวี ตั้งแต่วันนี้ไป อยากมาเมื่อไรก็ได้ ปกติปาลจะเป็นคนเฝ้ายาม ทุกๆวันจะ มีแม่บ้านมาทําความสะอาด ก็แค่มาพักผ่อนหย่อนใจก็ พอแล้ว”
จาร กอดกุญแจออก พลางน่ามันกลับไปยัดใส่ในมือ ของมนต์ตรี วีไม่เอาหรอกค่ะพี่มนธ์ ขอบคุณในน้ำใจของ เมนต์นะคะ ของขวัญที่มีค่าขนาดนี้ รับมันไว้ไม่ได้หรอก

“ฮ่าๆ ยัยเด็กโง่ นี่มันไม่ใช่ของขวัญที่มีค่าอะไรเลย เทียน มหลายๆอย่าง อวยพี่ นี้เป็นเพียงแค่สิ่งเล็กน้อยเท่านั้น! รับไว้เถอะ ถือซะว่าที่ให้บ้านใหม่ แล้วไม่ต้องกังวลนะ ที่ไม่ เรียกร้องอะไรที่มันเป็นไปแน่นอน

มนต์ตรีเอยอย่างอ่อนโยน พลางน้ำมันกลับไปคล้องไว้ ที่คอของเธอเช่นเดิม

“เด็กดี ไม่ต้องปฏิเสธที่แล้ว ไม่งั้นพี่เสียใจนะ

“พมนต์อะ! –

-1 วีจะไม่บอกเบอร์โทรศัพท์กับพี่ก็ได้ จะไม่บอกที่อยู่ กับพี่ก็ได้ จะไม่บอกพี่ว่าอยู่ยังไงสบายดีไหมก็ได้ แต่ห้าม ปฏิเสธความห่วงใยที่พี่มิให้เด็ดขาด นี้เป็นคำขอร้องเดียว ของพี่ พี่ไม่ขอให้วิมาทุกวัน เพียงแค่เวลาทีวีรู้สึกเหนื่อยจน รับไม่ไหว หรือเมื่อไรทีวีนึกขึ้นได้ว่ามีสถานที่นี้ ที่เป็นของวี อยู่ สามารถมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้อย่างอิสระ

คําพูดของมนต์ตรี ไม่เหลือช่องว่างให้จารวีได้กล่าว

ปฏิเสธ

พูดอีกอย่างก็คือ เธอไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธเขา มนต์ไม่ได้กดดันเธอเลยแม้แต่นิด

“ละ มนต์ งั้นโรับไว้ก่อน บ้านพักหลังนั้นรับไว้ไม่ได้ แต่ ถ้ามีโอกาส จะแวะมาดูมาเล่นกับโจบินะคะ”*โอเคครับ! “มนต์ตรีหยุดรถอย่างเอาใจใส

ที่นี่อยู่ห่างจากบริษัทSTกรุ๊ปไม่มากแล้ว เขารู้ว่าในใจ ของจารเป็นกังวล จึงไม่อยากสร้างความลำบากให้เธอ

พลันในใจของจารวี ผ่อนคลาย เธอก้าวลงจากรถ พลางเตีนตรงไปยังบริษัท

เธอหันหลังกลับไปมองโดยไม่ตั้งใจ ยังคงเห็นรถของ มนต์ตรีจอดอยู่ตรงนั้น สายตาของเขาจับจ้องมาที่เธออย่าง ไม่วางตา

จนกระทั่งเธอเดินเข้าไปในบริษัท รถของเขาจึงค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไปอย่างช้าๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ