ยั่วสวาทนายปีศาจจอมหิ่น

ตอนที่ 129 ไม่มีผู้ชนะ



” พี่มนต์ พี่ไม่กลัวตายหรือยังไง?”

” พี่ไม่เป็นไรหรอก แค่ปลอดภัยก็พอแล้ว”

ณ โรงพยาบาล บาดแผลของมนต์ตรีได้รับการชาระล้าง และถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผลสีขาวเรียบร้อยแล้ว จิตใจของ จารวียังคงเป็นทุกข์

ถึงแม้เธอและเขาจะเป็นคนรักกันไม่ได้ แต่เธอก็ไม่ควร ทําลายความรู้สึกในเวลา 10 กว่าปีที่มีให้แก่กัน

จิตใจที่ด้านชาของเธอ ก็ค่อยค่อยร้อนรนและทุกข์ ทรมาน

“พี่มนต์ คนพวกนั้นคือใครหรอคะ ทำไมพวกเขาต้องเล็งปืน มาที่เราด้วย”

มนต์ตรีส่ายหัวไปมาอย่างช้าๆ “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ต้อง รอให้คนที่โรงพักตรวจสอบ พวกเราถึงจะรู้ วีไม่ต้องคิดมาก หรอก ต่อไปออกจากบ้านก็ระวังตัวดีๆ อย่าไปเถลไถลที่ไหน รู้ไหม”

มนต์ตรีพ่นลมหายใจออกมาช้าๆ “เรื่องนี้โทษพี่เถอะ พี่ไม่ ได้คิดว่า จะอยู่ที่นี่ พี่ก็แค่คิดถึงเรื่องราวที่เราปล่อยบอลลูน ด้วยกันในสมัยก่อน ตอนนี้มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก สําหรับพี่ พี่ก็เลย…..

ความทุกข์ทรมานใจปรากฏออกมาจากดวงตาสีน้ำตาล เข้มของมนต์ตรี
แน่นอนว่าสวนสาธารณะนี้อยู่ห่างจากที่ทำงานและบ้าน ของจาร มนต์ตรีไม่ได้โกหกแต่อย่างใด เขาก็แค่คิดถึงช่วง เวลาในสมัยเด็ก ไม่ใช่เพื่ออยากจะเรียกร้องความสนใจให้ เธอมาหา

“พี่มนต์ พี โง่จริงๆเลย ถ้าเกิดเมื่อ พยอมตายเอวี วีจะ ไม่ให้อภัย ไปตลอดชีวิต”

นํ้าตาของจารวีไหลลงมาเป็นสาย

“ฮ่าๆๆ ยัยเด็กไร้เดียงสา แต่ถ้าเมื่อกี้วีเป็นอะไรไป พี่ก็จะยิ่ง ไม่ให้อภัยตัวเองไปตลอดชีวิตเหมือนกัน” ดวงตาทั้งสี่คู่จ้องมองกัน ในดวงตาใสแจ๋วของเขาและเธอ

ต่างสะท้อนภาพของฝ่ายตรงข้ามอยู่ภายใน

ทุกๆลมหายใจของพวกเขา ล้วนเป็นกลิ่นอายที่คุ้นเคย ของฝ่ายตรงข้าม

“ปัง!!” ประตูของห้องผู้ป่วยถูกเตะให้เปิดออกอย่างรุนแรง

จาร ตกใจจนตะโกนร้องออกมา เธอยืนขึ้นโดยอัตโนมัติ พลางหันไปมองยังนอกประตูของห้องผู้ป่วย

ที่จริงแล้วประตูห้องไม่ได้ปิด มันแง้มไว้ แต่ผู้มาเยือน ตั้งใจเตะมัน เพราะว่าต้องการระบายอารมณ์ไม่พอใจของตัว

เองออกมา

ยศพล!!”

รูปร่างสูงโปร่งยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องผู้ป่วย ทำเอาประตูที่กว้างใหญ่ถูกกั้นขวางไว้อย่างแนบแน่น

ความโมโหเดือดพล่านปรากฏออกมาจากใบหน้า คลับ ของเขา สายตาแข็งกร้าวดุดันจ้องมองจารวีอย่างดุเดือด

“จารวี นี่เธอกําลังทําบ้าอะไรของเธอ”

วันนี้ทั้งวันเค้าค้นหาตัวเธอไปทั่วเมืองเอส แต่ก็ไม่พบ แม้แต่เงา

ถ้าไม่ใช่เพราะเขาใช้บารมีของคุณพ่อ เขาก็คงไม่รู้ว่าเธอ อยู่ที่ไหน

ในขณะที่เขาตามหาตัวเธอจนแทบจะเป็นบ้า นึกไม่ถึง เลยว่าจะมาเจอเธออยู่กับมนต์ตรี

ทั้งสองคนยืนอยู่ใกล้ชิดสนิทสนมกันขนาดนั้น เขายืนอยู่ ที่หน้าประตูราวกลับเป็นคนนอก

จารวีคิดไม่ถึงว่า ยศพลจะหาตัวเธอที่ในโรงพยาบาลได้ เร็วขนาดนี้

ตอนที่เธอกำลังจะอธิบายอยู่นั้น ยศพลก็เอื้อมมือมาดึง เธอเข้าสู่อ้อมกอด เขากอดเธอแนบแน่นราวกับกลัวว่าเธอจะ หายไปจนเธอรู้สึกว่าอีกไม่นานกระดูกของเธอคงจะโดนเค้า กอดจนหักออกเป็นสองท่อนเป็นแน่

จารวีเจ็บจนนํ้าตาคลอ

ไอ้บ้าน จริงๆแล้วเป็นคนยังไงกันแน่นะ
มนต์ตรีมองเห็นความเจ็บปวดที่ปรากฏออกมาจากใบหน้า เล็กของจาร เขาก็รีบปรี่เข้าไปดึงเธอออกมา

“ยศพลถ้าแกยังเป็นผู้ชายล่ะก็ ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้เลย”

ศผลกระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างร้ายกาจ ดวงตาของเขา สะท้อนรังสี เมหิตออกมา “ฉันจะปฏิบัติกับผู้หญิงของฉันยังเ ไง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแกวะไอ้มนต์ตรี

“นิยศพล แกจะทําเกินไปแล้วนะ ถ้าเกิดว่าแกโกรธแค้นจัน เกลียดชังฉัน แกก็มาลงที่ฉัน อย่าไปบันดาลโทสะใส่ผู้หญิง ตัว เล็กๆคนหนึ่ง ผู้หญิงเธอเจ็บปวด แกเข้าใจมั้ยวะ

พลันยศพลก็ปล่อยมือจากจารวี เค้า นมือไปคว้าคอเสื้อ ของมนต์ตรี พลางเอ่ยออกมาอย่างดุดัน “ไอ้มนต์ตรี แกคิด ว่าตัวแกมีค่าขนาดนั้นเลย? แกกําลังเล่นละครตบตาอะไร อยู่หรอ แกคิดว่าแกสําคัญขนาดที่ฉันจะต้องไปโกรธแค้นแก หรือไง? ฟังไว้ให้ดีนะถ้าหากว่าครั้งหน้าแกยังกล้าเข้าใกล้ผู้ หญิงของฉันอีก แกจะได้พบกับจุดจบยังไงก็รอดูแล้วกัน”

พลันใบหน้าทีดเผือดของมนต์ตรี ก็แปรเปลี่ยนเป็นแดง ก้า เขาเป็นสุภาพบุรุษพอ เค้าไม่ชอบ ยศพล พ่นวาจาที่ ร้ายกาจทําให้จารอับอาย

“ยศพล ถ้าแกมีความสามารถก็เข้ามาเลย ฉันจะบอกอะไร ให้นะ จารวีไม่มีทางชอบคนโมโหร้ายแบบแก แกจะไม่มีวัน ได้ใจของเธอ”

ความโมโหเดือดดาลของยศพลถูกจุดขึ้นในพริบตา เขา ซัดกำปั้นหนักๆไปยังใบหน้าของมนต์ตรี
เนื่องจากแขนข้างหนึ่งของมนต์ตรีได้รับบาดเจ็บ ทําให้ เขาเอี้ยวตัวหลบหมัดหนักๆของยศพลไม่ทัน มนต์ตรีสมลงไป ที่ข้างเคียงของผู้ป่วย

เลือดสดๆไหลออกมาจากจมูก ไปจนถึงคางก่อนที่จะ

หยุดลงสู่พื้น

“หยุดนะ!!

ศพล มอย่างเยือกเย็น เขาก้าวเข้าไปข้างหน้า จา ร้องห้ามเสียงหลง เธอเข้าไปขวางที่ด้านหน้าของยศพล

หยุดเดี๋ยวนี้นะ อย่าทําอะไรเขา”

ดวงตาของจารวีแดงก่า ราวกับกระต่ายน้อย เธอไม่คิดว่า ยศพลจะกล้าลงไม้ลงมือกับคนป่วย นิสัยของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิด ธาตุแท้ของเขา

มีแต่ความเลวร้าย แม้แต่เลือดที่ไหลเวียนอยู่ในกายก็มีแต่

ความบ้าระห่า

จารวีคิดมาตลอดว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเธอ แต่ เธอคงคิดผิดไป ทุกอย่างนั้นล้วนเป็นสิ่งที่เธอเพ้อฝันไปเอง

เพราะในท้องของเธอมีเด็กคนนี้อยู่ เธอก็เลยคิดว่าเขา จะกลับตัวเป็นคนดี แต่เขากลับไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมเลย แม้สักนิดก็ไม่มี

“เธอปกป้องมันหรอจารวี เธอยังคงเป็นห่วงมันใช่หรือ

เปล่า”
ภายในใจของยศพลเต็มไปด้วยความหึงหวง ใช่แล้วล่ะ เขากำลังหึงเธอ เมื่อตอนที่เขามองเห็นเธอและมันอยู่ด้วยกัน เขาก็แทบรับไม่ไหว

เพื่อปกป้องมนต์ตรี จารวีก็เลยต่อต้านเขาอย่างนั้นหรือ?

“ดี แกฟังไว้ให้ดีนะ ฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่น

ยศพลเอ่ยพูดที่โหดร้ายนี้จบ เขาก็ยื่นมือมาลากจารวี ให้ เดินออกไปจากโรงพยาบาลกับเขา

จารวีหันมามองมนต์ตรีอย่างเจ็บปวด ในใจของเธอถูก ล้อมรอบไปด้วยความรู้สึกผิดหวังและเสียใจ ที่ไม่อาจอธิบาย ออกมาเป็นคําพูดได้

มนต์ตรียอมแลกชีวิตเพื่อเธอ แต่เธอกลับปล่อยให้เขาถูก บศพ ทําร้าย

ถ้าหากสักครู่เธอไม่เข้าไปห้าม ยศพลก็คงจะต่อยมนต์ตรี

จนอ่วมแน่

เมื่อเดินออกมาพ้นจากเขตโรงพยาบาล จารวี สะบัดมือ ออกจากการเกาะกุมมองยศพล

เธอยืนอยู่ที่หน้าประตู ความโกรธแค้นสะท้อนออกมาจาก ดวงตาใสแจ๋ว

“ยศพล คุณทําเกินไปแล้ว”

“ฉันทําเกินไปงั้นหรอ?” ยศพลยกมือขึ้นดึงเน็คไทออก พลางมองเธออย่างเต็อดดาล “ฉันยังไม่ได้ถามเธอให้ชัดเจนเลย ว่าเธอไปอยู่กับมันทำอะไรกัน”

นี่คุณจารวีโกรธจนหน้าแดง ไอ้ผู้ชายสาระเลวคนนี้ พูด อะไรออกมา

“นั่นมันห้องคนป่วยฉันจะไปทําอะไรได้ ยศพล อย่าเอา ความคิดที่สกปรกของคุณมาประเมินค่าคนอื่น อย่าคิดว่า ผู้ชายทั้งโลกนี้จะน่าขยะแขยงเหมือนคุณ!”

เธอบอกว่าเขาน่าขยะแขยงงั้นเหรอ ยัยผู้หญิงคนนี้ ช่างจริงๆ เขาอุตส่าห์ทําดีกับเธอถึงเพียงนี้ คิดไม่ถึง เลยว่าในใจของเธอจะเอาแต่กีดกันเขา

ยัยผู้หญิงคนนี้สมองกลับหรือไงกัน

“ถ้าฉันน่าขยะแขยง แล้วมันไม่น่าขยะแขยงหรอ?”

ยศพลโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ มือหนาเขย่าร่างบางของเธอ ไปมา

“จารวี เธออย่าลืมว่าเธอทำอะไรไว้ หลายคืนที่เธอไปอยู่กับ ไอ้มนต์ตรีที่ข้างนอก เธออะไรลงไปบ้างฉันก็ไม่รู้ เธอคิด ว่าฉันโง่นักหรือไง”

ถ้าไม่ใช่เพราะเขารักเธอ เขาก็คงจะไล่เธอออกจากบ้าน ไปนานแล้ว

ตอนที่เธอเลิกกับเขาตอนนั้น เธอไปอยู่ที่บ้านพักตาก อากาศกับตรีตั้งหลายวัน เขาใช้เวลานานมากที่จะ ควบคุมตัวเองเพื่อไม่ให้คิดถึงเรื่องนั้น
จาร อ้าปากค้างอย่างตกตะลึง เนิ่นนาน เธอไม่ได้เอ่ย

อะไรออกมา

เธอไม่คิดเลยว่ายศพลยังคงคิดกับเธอแบบนี้อยู่

ใช่ ช่วงเวลานั้นเธอไปอยู่กับมนต์ตรีจริงๆ แต่ระหว่างเขา และเธอไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น คิดไม่ถึงเลยว่ายศพลจะพูดกับ เธอแบบนี้

จารวีอับจนหนทาง ถ้าหากว่าเขาสงสัยว่าเธอกับมนต์ตรีมี อะไรกัน ถ้าเช่นนั้นยศพลก็คงไม่ยอมรับเด็กคนนี้เป็นลูกแน่ๆ

จารวี มออกมาอย่างขมขื่น เธอไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา ไ

แต่มองยศพลตาปริบๆ

คําพูดหลายอย่างที่เคยพูดออกมากลับสูญเปล่า รักหรือ ไม่รัก มันก็คงไม่มีความหมายอีกต่อไปแล้ว

” ในเมื่อคุณไม่เชื่อฉัน แล้วคุณจะมาอยู่กับฉันทำไม เรา เลิกกันเถอะ”

จารวีอ้าปากพูดประโยคนี้ออกมาอย่างหมดหวัง

ยศพลตะลึงงัน นี่เขาพูดอะไรออกไป? เขามันสมควรตาย มันไม่ควรเป็นอย่างนี้เลย เขาอุตส่าห์จะมาตามเธอเพื่อกลับ บ้านด้วยกัน

เขาอยากจะบอกเธอว่า เขาเป็นห่วงเธอ เขากลัวว่าจะเสีย เธอไปแค่ไหน แล้วทําไมมันถึงไปเป็นอย่างนี้ได้ล่ะ

เธอออกแรงสะบัดหลุดจากมือหนา ดวงตาใสแจ๋ว เปลี่ยนเป็นความเจ็บปวดและเลือนลาง

ดวงตาของเธอสั่นไหว แฝงไปด้วยความสับสน เธอก้าว ถอยหลังอย่างไร้เรี่ยวแรง

“จารวีเธอพูดจริงๆใช่ไหม เธอตั้งใจพูดมันออกมาจริงๆ ไหม? จริงๆแล้วในใจเธอมีแต่มนต์ตรี ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นพี่ ชายแท้ๆของเธอ เธอก็ตาช้าพอที่จะทําเรื่องไร้คุณธรรมกับ เค้าใช่ไหม?”

ความรู้สึกหมดอาลัยตายอยาก รายล้อมไปยังรอบตัว ของยศพล ถ้อยคําที่เขาพูดออกมายังคงเย็นชาและ ไร้หัวใจ ราวกลับแซ่เส้นใหญ่ที่ฟาดลงมากลางใจของจารวี ทําให้ หัวใจของเธอสับสนวุ่นวายและเจ็บปวด

” ใช่ ฉันมันเลวทราม พอใจหรือยัง? คุณไม่ต้องมายุ่งกับผู้ หญิงเลวทรามแบบฉันอีก” เอ่ยจบก็พุ่งตัววิ่งออกไปจากโรง พยาบาลอย่างรวดเร็ว

นํ้าตาของเธอไหลออกมาจากดวงตาเป็นสายอย่างไม่ อาจควบคุม

ใชสิ ฉันก็คือผู้หญิงเลวทรามต่ำช้า ฉันคือผู้หญิงเลวทราม คําช้าของบ้านพูลสวัสดิ์ นี่คือเรื่องจริงที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลง

ยศพลมองตามร่างเล็กของจาร ค่อยค่อยหายไปจาก สายตา เขายังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เขายื่นมือออกไปราวกับ อยากคว้าอะไรซักอย่าง เขาพบว่าสิ่งที่เขาคว้ามันมาได้ ตอน นี้เหลือเพียงแค่อากาศ

เวรเอ้ย! นี่เขาทําบ้าอะไรลงไป กว่าเขาและเธอจะคืนดีกันมันไม่ง่ายเลย แล้วทําไมเขาถึงทําให้มันกลายเป็นแบบนี้อีก

ยศพล กำปั้นขึ้นทุกข์หนักหนักไปที่ศีรษะของตนเอง

“นิรัน!!”

ครับคณขายสาม!!

“ไปตามหาจารวี!”

จารวีเดินไปตามถนนอย่างไม่มีจุดมุ่งหมาย เรากับแมลง ตัวน้อยๆที่ไม่มีหัว เธอไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน

โลกใบนี้ก็กว้างใหญ่ไพศาลนัก สุดท้ายก็ไม่มีที่ให้เธอ ซุกหัวนอน เธอมีชีวิตอย่างยากล่ามาก มันเป็นอะไรที่ทุกข์ ทรมาน

อากาศที่อืมครีมทําให้คนรู้สึกมัวหมอง

มันก็เหมือนกับจิตใจที่หนักหน่วงของเธอในตอนนี้ เธอไม่ สามารถหาทางออกได้

รถยนต์โรลส์รอยซ์สีดำขับสะกดรอยตาม อยู่ที่ด้านหลัง ของจาระ สายตาสําคลับของเขา มองผ่านกลุ่มคนตรงไปที่ ร่างเล็กของเธอ

เธอพูดถูก เขาเลวทรามต่ำช้ายิ่งยิ่งกว่าเธออีก ในเรื่อง ของความรักไม่มีใครเป็นฝ่ายชนะ

เค้าที่มัวแต่ลุ่มหลงอำนาจในเมื่อก่อน มันเป็นเพราะว่าเค้า ยังไม่ได้พบกับความรักที่บริสุทธิ์* คุณขายครับ คุณจารโอยู่ข้างหน้านี้เอง ให้ผมตามเธอไป เลยไหมครับ” นิรันดร์ขับรถอย่างมั่นคง เขาค่อยๆขับไปข้าง หน้าอย่างช้าๆ

ดวงตา เคล็บของยศพลจงมองไปด้านหน้า เนิ่นนาน เขา ถึงเอ่ยออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ “เอาบุหรี่มา!

ยศพลจุดบุหรี่ สูบ เขาอัดบุหรี่เข้าเต็มปอด ใบหน้าที่ หล่อเหล่าของเขา อืมครีมเหมือนสีท้องฟ้า

คุณชายสามครับ ดูเหมือนฝนจะตกแล้ว”

*หุบปากซะอย่าเพ้อเจ้อให้มันมาก

ยศพลตัดบทของนิรัน เขาสูบบุหรี่ต่อไป แต่ทว่าสายตา ของเขาจับจ้องไปยังทางอรชรที่ด้านหน้าอย่างไม่วางตา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ