ยั่วสวาทนายปีศาจจอมหิ่น

ตอนที่ 194 ความรักที่กักบริเวณ



ตอนที่ 194 ความรักที่กักบริเวณ

สุดท้ายแล้วการกระทำของจารวีก็ทำให้มนต์ตรีโกรธ ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาบิดเบี้ยว

“จารวี เธออย่าทำเกินไปกว่านี้เลย พี่หลงวีดูแลวีอย่างดี มาตลอด รักวีมาตลอด ทำไมวีก็ยังไม่ยอมปล่อยให้ตัวเอง มีชีวิตดีๆ ล่ะ ถ้าวีไม่ไปเป็นเมียน้อยของยศพลนั่น วีก็คงไม่ ตกตาแบบนี้มั้ย”

จารมองเขาอย่างตะลึงและตกใจ นี่เป็นครั้งแรงที่เธอ ได้ยินคำว่าตกต่ำหลุดออกมาจากปากของเขา

“ใช่ วีมันตกต่ำ แต่ว่าวีก็ยอมที่จะตกต่ำ และวีไม่มีทางไป ชอบคนที่บ้าและโรคจิตแบบพี่หรอก”

แววตาของมนต์ตรีเต็มไปด้วยประกายที่โกรธเคือง เขา โกรธจนเดินออกจากห้องไป

จารวีนั่งอยู่บนเตียง เธอคนพบว่าทั้งสองมือสองเท้าของ เธอไร้ความรู้สึกแล้ว ช่างน่ากลัวเหลือเกินจริงๆ

ทํายังไงดี

จารวีลืมตาขึ้นมาอย่างทรมาน ทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้ไป ได้นะ

มนต์ตรีเปลี่ยนเสื้อที่สะอาด แล้วเดินเข้ามา แต่ว่าตอนนี้สีหน้าของเขากลับมาดูอบอุ่นอีกครั้ง

เขาเข็นวีลแชร์เข้ามา “วี พี่จะพาออกไปดูอะไรสัก หน่อย….”

ในใจของจารวีถูกห่อหุ้มด้วยความเจ็บปวดและตกใจ เธอ มองเขาด้วยความโกรธเคือง

แต่ว่า เธอขยับตัวไม่ได้ เธอไม่มีสักวิธีที่จะขยับตัวได้เลย

“วี วีโกรธพี่เหรอ อยู่กับพี่แล้วไม่มีความสุขเหรอ”

มนต์ตรียิ้มอย่างอ่อนโยน เขาเปิดผ้าห่มแล้วอุ้มจารวีไปนั่ง บนวีลแชร์ จากนั้นก็เข็นเธอที่อยู่บนรถวีลแชร์ออกไปข้าง นอก

นี่คือบ้านพักตากอากาศเล็ก ๆ เป็นห้องที่ทำจากไม้แห่ง หนึ่งในเกาะมัลดีฟส์

“มนต์ตรี ทำไมนายต้องทำแบบนี้กับฉันด้วย”

มนต์ตรีหยดเข็นรถวีลแชร์ แล้วก้มลงมามองเธอด้วย สายตาที่อ่อนโยน

“พี่ก็ดูแลวีอยู่ไง วียังไม่พอใจอีกเหรอ ยศพลมันมีดีอะไร ตรงไหน มันมีผู้หญิงในคอลเลกชั่นมากมาย แต่พี่มีแค่วีคน เดียว”
“วี วีรัมย พีชอบ ตั้งแต่เด็กแล้ว ผ่านมานานหลายปีแล้ว พี่ก็ไม่เคยเปลี่ยนไป ตอนที่พ่อของวีทําร้ายจิตใจ แบบ นั้น แม้ว่าพ่อของวีจะทำร้ายพี่ แต่พี่ก็ไม่เคยสนใจเลย พี่ไม่ ต้องการอะไร พี่ก็แค่อยากอยู่กับวี พวกเราเป็นคู่กัน ไม่มีใคร แยกพวกเราออกจากกันได้…

“พี่คิดจะทําอะไรกับวีกันแน่” จารวีมองเขาด้วยดวงตาที่ แผดเผาและเกลียดชัง

มนต์ตรีชำเลืองมองเธอเบา ๆ จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก เขา เข็นเธอออกจากบ้านไม้

ข้างนอกมีแสงแดดอันอบอุ่น ทุ่งหญ้าเขียวชอุ่ม ดอกไม้หลากสีและยังเห็นท้องทะเลอันกว้างใหญ่ที่อยู่ไกล แสนไกล

วิวทิวทัศน์สวยงามมาก สวยกว่าบ้านไม้ที่เขาเคยสร้างให้ เธออีก

“วี วีชอบที่นี่มั้ย หลายปีก่อน พี่มาที่นี่เป็นครั้งแรก พี่ตัดสิน ใจแล้ว ว่าชาตินี้ พี่จะใช้เวลากับวีที่นี่!

“มนต์ตรี นายคิดว่าตอนนี้นายเหมือนกับคนบ้ามั้ย”

“วี วีอย่าทำลายบรรยากาศที่โรแมนติกแบบนี้ได้มั้ย วีดูสิ ตอนนี้วีน่าเกลียดแล้ว สองมือสองเท้าก็ขยับไม่ได้ วีก็ยังจะ คิดถึงแต่ยศพล มันไม่มีประโยชน์หรอกวี เขาดูแลไม่ได้ หรอก เขาต้องการหญิงสาวที่สดใหม่ที่กระตุ้นให้เขาเกิดอารมณ์ วีดูสิ เขาเพิ่งจะเลิกกับวี เขาก็รอไม่ไหวที่จะหาผู้ หญิงคนอื่นมาหาความสุขให้ตัวเองแล้ว…

“ปล่อยฉันไป ปล่อยฉันไปจากที่นี่… จารวีหลั่งน้ำตาและ ขอร้องอ้อนวอนมนต์ตรี

“วีเดินเองได้แล้วเหรอไง”

มนต์ตรีเอ่ยปากถามเธอเบาๆ จารวีก็นิ่งไป เธอรู้สึกผิดหวัง ท้อใจขึ้นมาทันที

วีลแชร์ถูกเขาผลักมาอยู่บนพื้นหญ้า มนต์ตรีวางเบาะนุ่มๆ ไว้บนพื้นหญ้า จากนั้นก็วางเค้กและผลไม้

เขาอุ้มจารวีออกมาจากรถวีลแชร์ แล้วให้เธอนั่งบนเบาะ

นั้น “ทำไมพี่ต้องทำกับวีแบบนี้”

“ใช้ชีวิตแบบนี้ เหมือนกับทีวีใฝ่ฝันเอาไว้มั้ย….

จารวีพูดตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง

“วี วีลองชิมเค้กที่พี่ทำเองสิ…”

มนต์ตรีนำเค้กป้อนเข้าปากของจารวี เขามองเธออย่าง อ่อนโยนและป้อนอาหารเธออย่างระมัดระวัง
จารวีเบือนหน้าหนี “เอาออกไปซะไม่กิน!

“ไม่กินก็หิวแย่เลย มา กินเถอะ กินสักหน่อย….

“ไม่กิน!!”

มนต์ตรีวางเค้กลง แล้วเปลี่ยนมาเป็นนมวัวแก้วหนึ่ง “ดื่ม นมหน่อยเถอะ!”

จารวีมองเขาอย่างดุร้ายเป็นการปฏิเสธการดื่ม มนต์ตรี ยกมือขึ้นตรงหน้าเธอ ใบหน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นคนที่ดูโหดร้าย

ขึ้น

“ดื่มมันซะ วี!!”

น้ำเสียงของเขาหยาบแข็งมาก และเต็มไปด้วยพลังที่ไม่ อาจต้านทานได้

จารวีเปิดปาก แล้วดื่มนมไปคำหนึ่ง จากนั้นก็หันไปมอง ใบหน้าที่โกรธจัดของมนต์ตรี

มนต์ตรีถูกความโกรธกลืนกินจนใบหน้าที่เป็นสีนมชมพู กลายเป็นสีดำทมิฬ

เขาค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน แล้วมองจารอย่างเย็นชา เหมือนว่าจะชอบให้พี่เย็นชานะ”

เขาทิ้งจารวีไว้ แล้วเดินเข้าไปในห้องคนเดียว
จารวีถอนหายใจ เบือนหน้าหนีไม่มองเขา

ดวงอาทิตย์เริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ พอเธอมองไปรอบ ๆ ก็พบ ล้อมรอบด้วยภูเขาและทะเล ไม่มีคนเลยแม้แต่คนเดียว

ในช่วงแรกจารวีก็รู้สึกเฉยๆ ไม่ได้คิดอะไร แต่หลังจาก นั่งเป็นเวลานานเธอก็รู้สึกเหนื่อยมาก พอเธอพายามจะ เคลื่อนไหว เธอก็ล้มลงไปนอนบนเบาะ

แค่ล้มไปนอนบนเบาะ เธอก็ไม่สามารถจะเคลื่อนไหวได้ มาก จนกระทั่งเวลาผ่านไปสองชั่วโมงอย่างช้าๆ

มนต์ตรีไม่ออกมาเลย เหมือนที่จะเป็นการลงโทษเธอ

จารวีรู้สึกทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก เกิดมาเธอไม่เคยนึก เลยว่ามนต์ตรีจะกลายเป็นโรคจิตถึงขั้นนี้

แดดเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ เหงื่อที่ไหลลงมาท่วมหน้าทำให้ สายตาของเธอพร่ามัว

ทันใดนั้นจารวีก็คิดถึงยศพลเอามาก ๆ

ยศพล นายอยู่ที่ไหน

นายมันคนเลว ทำไมนายยังไม่มาช่วยฉันอีก!!!

สำหรับจารวีแล้ว วันนี้เป็นวันที่ทรมานที่ยาวนานที่สุด
เธอทั้งหิวทั้งกระหาย ตะวันจะลับฟ้า เธออยู่ในท่าเค็มไม่ ได้ขยับไปไหนเป็นเวลาห้าถึงหกชั่วโมง

จนกระทั่งเธอรู้สึกได้ว่าตนกำลังจะเป็นลม

สายตาดำขลับราวกับหนังรองเท้าคู่หนึ่งก็ปรากฏอยู่ตรง หน้าเธอ มนต์ตรีโน้มตัวลงมามองเธออยู่

“วีรู้มั้ย ว่าวีทำอะไรผิด”

“มนต์ตรี นี่แก….” คำพูดที่เคืองโกรธของจารวีพูดออกมา แค่ครึ่งประโยคก็หยุดลงไปดื้อๆ

ทันใดนั้นเธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าตอนนี้ตนเองกำลังอยู่กับ คนบ้า เธอไม่สามารถที่จะระบายอารมณ์ออกมาได้ตามใจ ตัวเอง เธอต้องรีบรู้ให้ได้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น หลังจากนั้น ค่อย ๆ คิดหาวิธีที่จะหนีออกไปจากที่นี่ ๆ

จารวีมองมนต์ตรีนิ่ง ๆ “วีทรมานมาก พี่พยุงวีขึ้นมาหน่อย

มนต์ตรีมองเธออย่างดื้อรั้น วีรู้ว่าผิดอะไรรึยัง”

“วีผิดไปแล้ว…” จารวีส่งเสียงครวญครางด้วยความเจ็บ ปวดอย่างหาที่เปรียบมิได้

มนต์ตรีโน้มตัวลงมา อัมจารวีขึ้นมาแล้วางเธอลงบนรถวีล

แชร์
“ไม่อยากเป็นแบบนี้เลย ไม่อยากอยู่ในสภาพเลย พีชา วีเถอะนะ!!” จารวีร้องไห้ออกกมาอย่างทุกข์ทรมาน

“ตอนนี้วีก็ไม่ต่างอะไรกับศพ พี่ฆ่าวีเถอะ! !”

มนต์ตรีเข็นวีลแชร์เข้าไปในห้อง

“เดี๋ยวก็ค่อย ๆ ดีขึ้นเอง!”

เขายิ้ม และพูดออกกมาเบาๆ หลังจากนั้นก็ไม่สนใจว่าจาร วีจะพูดอะไร เขากลับเริ่มพูดคุยเรื่องของอาหารของเขาด้วย ความสนุกสนานได้อารมณ์

“พี่ทำเกาลัดทอดและซี่โครงหมูเปรี้ยวหวานให้วีด้วย จริง สิ วียังชอบทานอาหารอะไรอีกนะ พี่จะเปลี่ยนเมนูทำให้วี ทานทุกวันเลย”

“วีไม่กิน ไม่อยากกิน ไม่อยากกินอะไรทั้งนั้น…”จารวีต่อ

ต้าน

“วีต้องกิน!!”

มนต์ตรีพูดออกมาอย่างจริงจัง พอเห็นแววตาที่น่ากลัว ของมนต์ตรี จารวีก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก

มนต์ตรีต้มน้ำอุ่นหนึ่งกะละมัง ใช้ผ้าขนหนูเปียก ๆ เช็ด ใบหน้าของจารวีอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็เช็ดรอบคอองเธอ

จนสะอาด
“วี ผิวของวียังดีเหมือนก่อนเลยนะ ยา HVE นี่คงไม่ได้ ทําความเสียหายให้กับผิวของวี…

“เมื่อไหร่พี่จะให้ยาแก้พิษฎี”

“พี่ให้วีแน่นอน รอให้ถึงตอนที่พวกเราแต่งงานกันก่อน……

มนต์ตรีพูดและยิ้มอย่างอ่อนโยน ในแววตาของเขาดูมี ความสุข ซึ่งทำให้จารวีแทบจะบ้าคลั่ง

“รอให้พวกเราแต่งงานกัน มีลูกหลาย ๆ คน หลังจากนั้น พวกเราก็จะมีชีวิตที่มีความสุขอยู่ที่นี่ จะไม่มีใครจะมาขัด ขวางพวกเราได้อีก…

ทันใดนั้นก็มีภาพที่น่ากลัวปรากฏอยู่ตรงหน้าจารวี ถ้ารอ ไปอีกสองสามปี ยศพลก็คงจะหาตัวเธอเจอได้ยาก

แต่ถ้าเธอเป็นแม่ที่มีลูกสี่ห้าคนแล้ว เธอกับยศพลก็คงไม่มี ทางได้อยู่ด้วยกัน….

พระเจ้าช่วย เธอไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ไม่เอา ชีวิตของ เธอจะเป็นแบบนี้ไม่ได้ เธอยอมตายซะยังจะดีกว่า

“แล้วคุณสรีย์วัลย์จะเป็นยังไง พี่ทำแบบนี้กับเธอ เธอจะ ต้องทุกข์ทรมานมากแน่ๆ!

มนต์ตรีถอดถุงเท้าของจารวีออก แล้วนำเท้าทั้งสองข้าง ของเธอแช่น้ำอุ่น เขาช่วยเธอล้างเท้าด้วยน้ำสะอาด
“นำแบบนี้สบายดีมั้ย”

ที่จริงแล้วเขาก็ไม่ได้สนใจเลยว่าเธอพูดอะไร อีกทั้งยัง ถามคำถามออกมาอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร

จารวีขมวดคิ้วแน่น “ไม่สบาย!!

“ดี งั้นพี่จะอุ้มวีไปแช่น้ำนะ….

เขายื่นมือออกมาถอดเสื้อผ้าของเธอ

“ไม่ต้องค่ะ วีสบายมากเลย พี่มนต์…

คำว่าพี่มนต์ ทำให้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ หอมหวาน

จารวีนิ่งไป ทันใดนั้นเธอก็รู้ตัวว่า ตัวจะต้องระมัดระวังใน ทุกการกระทำและคำพูดซะแล้ว

“พี่มนต์ วีอยากทานข้าว วีหิวแล้ว…

“ได้เลย!”

มนต์ตรีฟังคำพูดของเธออย่างง่ายดาย เขาอุ้มเธอไปนั่ง อยู่หน้าโต๊ะอาหาร

บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารที่ส่งกลิ่นหอมเย้ายวนน่าทาน มนต์ตรีเลี้ยงดูและป้อนข้าวเธอเอง เขาทำด้วยความเต็มใจและไม่เบื่อหน่ายเลย

“ค่อยๆกิน ค่อยๆเขี้ยวนะ จะได้ไม่สำลัก อยากกินซุปมั้ย”

เขาถามออกมาเบาๆ จารวีพยายามกินช้าๆ เธอไม่ต้องการ ให้เขาอาบนํ้าให้ เธอไม่ต้องการจะเป็นเจ้าสาวของเขา

เธอไม่รู้ว่าเธอต้องทนไปอีกนานเท่าไหร่…

เธอทานอาหารจนหมด และยังทานซุปจนหมดด้วย เขา รู้สึกพึงพอใจมาก

เขาอุ้มเธอไปนั่งบนโซฟา เขาก้มหน้าลง แล้วจูบเบา ๆ ที่ หน้าผากของเธอ

“แบบนี้สิถึงเป็นวีของพี่ พี่ชอบวีแบบนี้ที่สุด”

ในใจของจารวีเหมือนจมในน้ำทะเล อีกนิดเดียว อาหารที่ เธอเพิ่งทานจะสํารอกออกมาหมด

ทนไว้ อดทนไว้!!

มนต์ตรีเก็บโต๊ะอาหาร แล้วอยู่ข้างกายของจารวี “ดื่มน้ำ ผลไม้แก้วนี้เสร็จ พี่จะอุ้มวีออกไปดูดาวข้างนอกดีมั้ย”

“ได้ค่ะ!” จารวีไม่มีทางเลือก ในความเป็นจริงแล้ว เธอไม่มี ทางเลือกเลยแม้แต่สักทางเดียว
ตอนที่มนต์ตรีอุ้มจารวีออกไป ผืนฟ้าก็เต็มไปด้วยดวงดาว มนต์ตรีกางเก้าอี้ชายหาย แล้วอุ้มจารวีไปนอนข้างบนนั้น แน่นอนสิ เมืองนี้ฟ้าโปร่ง ดาวก็ต้องส่องสว่างเป็นพิเศษ จารวีเงียบไปสักพัก “พี่มนต์ พี่ยังชอบอยู่มั้ย”

“ดาวของที่นี่ สวยกว่าที่เมืองเอสใช่มั้ย”

“แน่นอนสิ พี่ก็ชอบวีมาตลอดนั่นแหละ”

“แล้วพี่คิดจะทำยังไงกับวีต่อไป”

มนต์ตรียังคงมองดูท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิดต่อไป เขา ยิ้มอย่างนุ่มนวลแล้วพูดว่า “หลังจากที่เราแต่งงาน พี่ก็จะ เอายาแก้พิษให้วี จากนั้นพวกเราก็จะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ด้วยกัน อย่างมีความสุข”

“พี่มนต์ พี่ทำแบบนี้มันไม่ยุติธรรมนะ พี่ยังไม่ได้หย่ากับ สุรีย์วัลย์เลย แล้วจะแต่งงานกับวีได้ยังไง

“หย่าแล้ว!” มนต์ตรีพูดออกมาอย่างใจเย็น เขาได้เตรียม แผนการทั้งหมดไว้เรียบร้อยแล้ว

“พวกพี่หย่ากันตั้งแต่เมื่อไหร่”

“พี่เซ็นใบหย่าไว้แล้ว เหลือแค่วัลย์เซ็นชื่อก็เกิดผลทันทีหล่อนจะต้องเซ็นแน่

จารวีรู้สึกหนาวเหน็บขึ้นมาฉับพลัน เป็นระยะเวลานาน เธอจึงเอ่ยปากถามออกมาอีกครั้ง “งั้น…พี่วางแผนไว้ว่า พวกเราจะแต่งงานกันเมื่อไหร่คะ”

“ฮะๆ แน่นอนว่ายิ่งเร็วยิ่งดี พี่ว่า…พรุ่งนี้เลยเถอะ!”

คำพูดของมนต์ตรีแทบจะทำให้จารวีแหลกสลายไปใน ตอนนั้นในวินาทีนั้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ