ยั่วสวาทนายปีศาจจอมหิ่น

ตอนที97 การแก้แค้นอย่างบ้าคลง



หลายวันมา ยศพลเฝ้าสะกดรอยตามเธอตลอด เห็น เธอกับมนต์ตรีอยู่ด้วยกันอย่างสนิทสนม เขาแทบอยากจะฆ่า ยศพลให้ตายซะเดี๋ยวนี้

นิรันเอาแต่บอกให้เขาใจเย็น ใจเย็น ใจเย็น!

ผู้หญิงของตัวเองอิงซบอยู่ในอ้อมกอดคนอื่น แล้วเขา จะใจเย็นอยู่ได้อย่างไร

คุณหมอบอกว่าต้องรอให้เธอดีขึ้น ค่อยๆ เขาในอดีต ได้เอง แต่เขารอไม่ไหวอีกต่อไป

ถ้าหากต้องยืดตามวิธีการนี้ ความทรงจําเธอยังไม่กลับ มา เธอก็คงขึ้นเตียงกับไอ้มนต์ตรีไปแล้ว

“จารวี เธอจําไม่ได้จริงๆหรอว่าฉันเป็นใคร”

ยศพลเอ่ยด้วยน้ำเสียงวางอำนาจ ราวกับอัธพาล

จารวีสายหัวไปมา “ค…คุณเคยช่วยฉันหลายครั้ง แต่…แต่เมื่อก่อนนั้นเราเคยเจอกันหรอ?”

พวกเราเคยพบกันด้วยหรอ? นี่มันคําถามบ้าอะไรกัน พวกเขาไม่ใช่แค่เคยพบกัน แต่ยังเคยขึ้นเตียงด้วยกันเลย ต่างหาก

ยศพลเดินเข้าใกล้จารวี มือหนาคว้าตัวเธอมาพิงไว้กับ

รําแพงรั้ว
“เธอกำลังพูดบ้าอะไรอยู่ ฉันผู้ชายรู้ไหมว่าเธอทำให้หัวใจของฉันเจ็บ ไม่คิดเลยว่าเธอจะเอ่ย ถามฉันด้วยประโยคนั้น

พลันในหัวของจารวีก็ปรากฏภาพเหตุการณ์ที่ไม่ดีนั้น ขึ้นมาอีกครั้ง เธอสายหัวปฏิเสธอย่างสุดชีวิต ไม่ ไม่ได้นะ คนรักของฉันคือ มนต์

ยศพลตึงข้อมือเธออย่างบ้าอ่าเขา ห่วยแตก มันจะเป็นอะไรก็เรื่องของมัน เธอรีบออกห่างจาก มัน แล้วกลับมาหาผม

จารวีตะลึงงัน ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันไม่รู้จักคุณ พี่ มนต์คือคนรักของฉัน อีกมานานเขาก็มาสู่ขอฉันแล้ว ฉันจะ แต่งงานเขา คุณนั่นแหละไปให้พ้น

จารวีปฏิเสธความตอนนั้น ราวกับมีสิ่งที่โหดร้าย ทารุณมาจู่โจมก็ไม่ปาน เธอไม่อยากเผชิญหน้ากับมัน

เธอเลือกที่จะเชื่อความรักที่บริสุทธิ์งดงามระหว่างเธอ กับ มนต์เท่านั้น

แต่งงาน! ! ไม่คิดว่ายัยผู้หญิงบ้าคนนี้ยังอยากจะ แต่งงานกับไอ้มนต์ตรี ช่างไร้สาระสิ้นดี ยศพลแทบอยากจะ ฆ่าไอ้นายแพทย์คนนั้น ถ้าหากไม่ใช่เพราะวินิจฉัยของเขา ทยศพลจะไม่มีวันปล่อยจารวีไปอย่างเด็ดขาด

เขารวบข้อมือทั้งสองข้างของจารวีไว้แน่น พลางเอ่ย กําชับข้างหูของเธอ งั้นตอนนี้ฉันจะช่วยรื้อฟื้นความทรง ของเธอให้เอง ว่าใครกันแน่ที่เป็นผู้ชายของเธอ”
เอ่ยจบ มือหน้าของเขา ดงทงกระโปรงผ้ายาวของเธอ

เขาทกมันขึ้นด้านบน

เผยให้เห็นผิวกายขาวผ่องที่แสนนิ่มนวล ถึงแม้ที่ตรงนี้

จะมีดมิต แต่ก็ยังอยู่ติดกับถนน

การจู่โจมของเขาทําให้จารวีตกใจจนแทบสิ้นสติ เธอ ออกแรงดิ้น “ออกไป ไอ้สารเลว ไอ้คนไร้ศีลธรรม ปล่อยฉัน เดี๋ยวนี้นะ!!”

ถ้อยคําด่าทอเหล่านั้นของจาร ทําให้ยศพลโมโหจน แทบคลั่ง เขาถูกล้อมรอบไปด้วยโทสะ พลันเขาก็จับขาทั้ง สองข้างของจารยกขึ้น พร้อมกับบนความเป็นชายไปอย่าง ไม่มีปี่มีขลุ่ย

ความเจ็บปวดราวกับร่างกายจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ รุกรานเข้ามา ปวดร้าวอย่างถึงที่สุด

“ร้องสิ ร้องอีก ร้องเรียกให้คนมาดูว่าเธอถูกฉันขี่ยังไง” มือเล็กของจารวี ทุบตีเขาอย่างอ่อนแรง

ร่างกายของเขาค่อยๆเร่งจังหวะอย่างดิบเถื่อน ค่อยๆ ทําให้ร่างกายของเธอฉีกขาดไปทีละน้อย

“ยศพล ไอ้คนชั่ว ไอ้คนสารเลว”

ยศพลจ็บจาร พลิกตัว และเข้าทางข้างหลังของเธอ แทน ยิ่งเธอดิ้นพล่านมากเท่าไรเขายิ่งมีความสุข เขาอดมา หลายวันขนาดนี้

ในที่สุดความอัดอั้นของเขาก็ได้รับการปลดปล่อย ยศพลไม่รู้ว่ามันผู้หญิงคนนี้ใช้เวทมนตร์อะไรกับเจ้า เพราะหลง จากที่ได้ลิ้มรสความหวานหอมจากเธอ เขาก็ไม่ได้มีความ สนใจในตัวของผู้หญิงคนไหนอีกเลย

ทุกๆวันเขาได้แต่มองเธอเดินผ่านหน้าเขาไปมา รสชาติ ที่ได้แค่มองแต่กินไม่ได้ ทำให้เขายิ่งบ้าระห่ำเป็นทวีคูณ

เมื่อได้ยินจารตะโกนชื่อของตนออกมา เขาครางเสียง

ตา “อ้า”

หลังจากเสร็จกิจ ยศพลบจารวีพลิกตัวกลับมา พลาง ยื่นมือไปจับที่ปลายคางของเธอ

“ดูเหมือนว่าความทรงจําของเธอจะกลับมาแล้ว ก็ดี ฉัน จะบอกอะไรเธอให้นะ ฉันไม่มีวันปล่อยเธอไปเด็ดขาด เธอ ต้องเป็นผู้หญิงของยศพลเพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่ใช่ของคน อื่น เข้าใจไหม! ”

จารวีเหม่อลอย เธอร้องไห้สะอึกสะอื้น ในสมองของ เธอสับสน เธอไม่รู้ว่าควรจะเดินออกไปจากความมืดมนต์นี้ ยังไงดี

หลังจากที่เธอกอบกุมกระโปรงที่ขาดวิ่นกลับถึงบ้าน เธอไม่เห็นแม้แต่เงาของคุณพ่อกับพี่มนต์ เธอรีบก้าวเขาไป ในห้องนอนของตัวเอง พลางนอนฟุบลงบนเตียงและร้องไห้ ไม่หยุด

เป็นอีกครั้งที่ร่างกายของเธอถูกเขาทำให้สกปรก เธอ ไม่มีทางให้อภัยร่างกายที่สกปรกโสโครกของตัวเอง

ขอโทษนะคะ พี่มนต์ ขอโทษจริงๆพลันโทรคัพท์ของเธอ คงบน จาร โชตน่าดาพลางก

รับโทรคัพท์

ร ขอโทษนะ เมื่อสักครู่ ใจร้อนไปหน่อยก็เลยรีบกลับ พี่ขอโทษจริงๆ ห้ามทะเลาะกับคุณลุงขยรพเพราะพี่เด็ด

ขาดเลยนะ”

อะไรนะ? พี่มนต์ออกไปเมื่อสักครู่ใจงั้นเหรอ ถ้างั้น เขาเห็นเธอถูกยศผลกระทำอยู่บนกำแพงเมื่อสักครู่ไหมนะ? หัวใจของจารวีเต้นรัวเร็วจนแทบจะทะลุออกมา พลันเธอก็ ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

“พี่มนต์ พี่กับคุณพ่อเกิดอะไรกันขึ้นหรอคะ” จารวี พยายามเก็บซ่อนน้ำเสียงที่ขี้ขลาดของเธอไว้

“ฮ่าๆๆ ไม่มีอะไรหรอกวี ก็แค่คุณลุงไม่เห็นด้วยที่เรา จะแต่งงานกันนะ ท่านบอกว่า ยังเด็ก พี่ก็เลยพูดอะไรที่มัน กระด้างกระเดื่องใส่คุณลุงน่ะ ท่านก็เลยไล่ ออกมา”

อันที่จริงแล้ว ชยรพตะโกนไล่ให้เขาไสหัวออกไปต่าง หาก เขารับไม่ไหว ก็เลยยอมที่จะถอยออกมา

หลังจากออกมาแล้ว เขากลับรู้สึกผิดหวังอย่างมหันต์

“พี่มนต์ ขอโทษนะคะ รู้สึกว่าบางทีพวกเราอาจจะไม่ ควรอยู่ด้วยกันจริงๆก็ได้ ทั้งคุณพ่อของวี และคุณลุงยงยศ ล้วนไม่เห็นด้วย พวกเรา….

วี ฟังพี่นะ อย่าพูดแบบนี้ได้ไหม ถ้าแม้กระทั่งตัววีเอง ก็ถอดใจ พี่คงจะทุกข์ทรมานมาก” มนต์ตรีเอยออกมาอย่าง เจ็บปวด น้าเสียงของเขาเหนื่อยล้า ดูเหมือนว่าเขากำลังพยายามสะกดก้นอารมณ์ของตัวเอง

“ มนต์…. ” จารวีไม่กล้าพอที่จะเล่าเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นกับ ตัวเองให้เขาฟัง “โอเคคะ วีขอโทษนะคะ วิผิดเอง ถ้างั้น…. นอนแล้วนะคะ”

“อื้ม โอเค ฝันดีนะ ยังไงก็ห้ามเลิกเชื่อใจ เด็ดขาด”

หลังจากกดวางสายโทรศัพท์ จารวีรู้สึกว่าตัวเอง สกปรกอย่างถึงที่สุด เธอเข้าไปแช่อยู่ในห้องน้ำเนิ่นนาน ไม่ ว่าเธอจะออกแรงชะล้างร่างกายอย่างสุดกำลังแค่ไหน แต่มัน ก็ไม่สามารถลบล้างความรู้สึกสกปรก ออกไปได้

จารวีมัวแต่จมอยู่กับความรู้สึกผิดหวังและเจ็บปวด เธอ ก็เลยลืมที่จะสังเกตว่าชยรพไม่อยู่บ้าน

จนกระทั่งเช้าวันที่สอง เธอถึงนึกขึ้นได้ว่าคุณพ่อไม่ได้ กลับบ้านทั้งคืน

คุณพ่อไปอยู่ที่ไหนกันนะ?

เธอกดเปิดโทรศัพท์ เสียงข้อความดังขึ้น ข้อความแรก เป็นของมนต์ตรี ส่งมาเมื่อตอนประมาณเที่ยงคืน

” 5 อย่าทิ้งพี่ไปนะ

” พี่รักรีนะ เราต้องแต่งงานกัน”

” ฝันดีนะ”

และมีอีกหนึ่งข้อความเป็นข้อความของพ่อ “วี คืนนี้ฟอไม่กลับบ้านนะ พรุ่งนี้ หาอะไรทานเอง มีธุระอะไร โทรหา พ่อ”

จาร ก ต่อสายไปหาชยรพ เธออยากรู้ให้แน่ชัดว่า ระหว่างคุณพ่อกับ มนต์มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

เนิ่นนานกว่าซยรพจะกดรับสาย

คุณพ่ออยู่ไหนคะ?”

‘ร ตอนนี้พาอมีธุระ เดี๋ยวพอโทรกลับไปใหม่นะ”

หลังจากพูดจบขยรพก็กดติดสายทันที จารวีลองกด โทรอีกครั้ง แต่เขาปิดโทรศัพท์แล้ว

ปิดเครื่องงั้นหรอ เรื่องสําคัญขนาดไหนกันถึงต้องปิด เครื่อง ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว คุณพ่อมีความลับอะไรกำลังปิดบัง เธออยู่กันแน่นะ

จารวีกุมหัว ปวดราวกับจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เธอ นอนคุดคู้อยู่บนเตียง ไม่อยากจะลุกขึ้นมา

เธอหลับไปจนถึงตอนกลางวัน พลันจารวีก็ได้ยินเสียง เคาะประตู เธอจึงลุกไปเปิด

ร่างสูงของมนต์ตรียืนอยู่ที่หน้าประตู เขาส่งยิ้มอบอุ่น มาให้จารวี วี ทําไมเพิ่งตื่นเอาปานนี้ล่ะ”

จารวีเกาหัวไปมา เธอยิ้มเหยเกพลางเอ่ยชวนให้มนต์

ตรีเข้ามา
“เอ้อ คุณกลับมาจากว่าต้องสนับสนุนเราแน่ๆ รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็ว เดี๋ยวพี่จะพา ไปพบท่าน มนต์ตรีเอยอย่างกระตือรือร้น

คุณน้ารนารี สบายดีนะคะ”

พอนึกถึงคุณนารีย์ พลันความหอมหวานในใจของ จารวีก็พรั่งพรูออกมา เมื่อก่อน คุณน้ากับคุณแม่สนิทกันมาก พอเห็นท่านแล้วเธอก็คิดถึงคุณแม่

ๆ ท่านสบายดี แต่ว่าหลายปีมานี้ ความสัมพันธ์ของ คุณแม่กับคุณพ่อ ไม่ค่อยดีน่ะ คุณแม่เดินทางไปที่นั่นที่นี่ ตลอดเลย ที่กลับมาครั้งนี้อาจเป็นเพราะอยากกระชับความ สัมพันธ์กับคุณพ่อ

ถ้างั้นคุณลุงยงยศจะยอมฟังพูดของท่านไหมคะ”

“อาจจะเป็นไปได้ แล้ว อะไรยัง

จารวีแลบลิ้นออกมาอย่างน่ารัก “ยังไม่ทันได้ทานเลย

ถ้างั้นไปหวีผมสักหน่อย แล้วเราไปหาอะไรกินกัน”

จารวีเดินเข้าไปหวีผมในห้องน้ำ พลันสายตาก็เหลือบ ไปเห็นกระโปรงที่ถูกยศพลฉีกขาด วางอยู่ในตะกร้า มันค่อน ข้างบาดตา ราวกับได้เห็นใบหน้าที่ยิ้มเยาะของเขา จารวียน มือไปหยิบมันทิ้งลงในถังขยะ

เปลี่ยนเสื้อเป็นเสื้อเชิ้ตสีเขียวอ่อน พร้อมกับกาง เกงยีนส์สีขาว ผมยาวสลวยถูกมัดรอบเป็นหางม้าอยู่ที่ด้าน

ค่ะ”หลังศีรษะ

ใบหน้าเล็กค่อนข้าง ตเขียว เป็นผลมาจากการร้องไห้ เมื่อคืน จารวีจังหยิบแป้ง บี นมเทา ใบหน้าของเธอถึงมีชีวิต ชีวาขึ้นมาอีกครั้ง

ถึงแม้เธอจะสวมใส่ชุดที่แสนธรรมดา แต่ก็สามารถ ทําให้ดวงตาของมนต์ตรีลุกวาว

ฮ่าๆ วิ เกี่ยวกับมาพี่จะพาไปซื้อเสื้อผ้าใหม่นะ”

“ไม่ต้องหรอกค่ะพี่มนต์ พี่ชอบแต่งตัวตามสบายแบบนี้”

มนต์ตรีพาจารวีทานอาหารเช้าจนเสร็จ ที่จริงๆแล้วไม่ นับว่าเป็นตอนเช้าแล้ว แทบจะเรียกได้ว่าเป็นอาหารกลางวัน เลยด้วยซ้ำ

มนต์ตรีขับรถพาจารวีมุ่งหน้าไปยังโรงแรมที่แม่ของเขา

ค้างแรม

ในเวลากลางวัน รถยนต์บนถนนค่อนข้างเยอะ โดย เฉพาะตอนที่ใกล้จะถึงทางเข้าของโรงแรมแชงกรีลา เขา ทําได้เพียงหยุดรอให้แขกที่อยู่บนรถคันด้านหน้าลงไปหมด ก่อน ขยับไปค้นแล้วคันเล่า

สายตาของจาร มองออกไปที่นอกหน้าต่าง

ทันใดนั้น สายตาก็เหลือบไปเห็นรถคันสีทองที่คุ้นตา นั่นคือรถของคุณพ่อ แล้วทําไมรถของคุณพ่อถึงมาหยุดอยู่ที่ หน้าโรงแรมแชงกรีลาได้
หัวใจของจาร ตึงเครียดขึ้นมาอย่างฉับพลน รายกับว่า

เธอพบเบาะแสอะไรบางอย่างแล้ว

” มนต์ วิลงไปก่อนนะคะ”

จารวิไม่รอให้มนต์ตรีตอบ พลันเธอก็ก้าวลงจากรถ

เธอเดินอ้อมไปด้านหลังของตัวรถ

มนต์ตรียุ่งอยู่กับการขับรถเข้าไปยังลานจอดรถ ก็เลย ไม่ได้มองดูเธอ

จารวีเดินไปถึงหลังรถคันสีทองของพ่อ พลันเธอก็ เหลือบไปเห็นผู้หญิงกับผู้ชายกำลังเดินมาทางนี้พอดี

ผู้ชายคนนั้นรูปร่างสูงใหญ่ บนตัวของเขาสวมใส่เสื้อ กันลมแขนยาวสีกากี สวมใส่แว่นดำ ดูเป็นผู้ใหญ่ที่สุขุม รอบคอบ นั่นก็คือชยรพ สวนข้างกายของเขา มีผู้หญิงวัย กลางคน ท่าทางอ่อนช้อยและมีเสน่ห์ ผิวเธอสวยราวกั ผ่านการดูแลมาอย่างถูกวิธี เส้นผมของเธอถูกย้อมให้เป็นสี ของเม็ดเกาลัด พร้อมกับดัดลอนน้อยๆ บนตัวของเธอสวม ใส่เสื้อปีกค้างคาวคลุมไหล่ กับกางเกงสูทขาม้า และสวมใส่ แว่นตาค่าเช่นเดียวกัน ทั้งสองพูดคุยกันพลางเดินออกมาจาก โรงแรม


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ