ยั่วสวาทนายปีศาจจอมหิ่น

ตอนที่ 193 กลับไปเป็นคนรัก



ตอนที่ 193 กลับไปเป็นคนรัก

มีเสียงหวาน ๆ เสียงหนึ่งดังออกมาจากหน้าต่างชั้นสอง ของคฤหาสน์

จารวีแหงนหน้าขึ้นไปมอง มีผู้หญิงที่ดูเสน่ห์แรงมีเสื้อผ้า น้อยชิ้น ทั้งตัวเธอมีแค่ผ้าปิดหน้าอกผืนเดียว ปล่อยผมยาว สยาย ตะโกนลงมาเรียกยศพล

ใบหน้าเล็ก ๆ ของจารวีค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเทาเหมือน ตายแล้ว

จารวีมองยศพลอย่างนิ่ง ๆ ความจริงมันช่างโหดร้าย แต่ ในวินาทีนั้นหัวใจของจารวีได้ตายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว

“ฉันยุ่งมาก ไม่มีเวลามาสิ้นเปลืองกับเธอตรงนี้แล้ว

ยศพลหันหลัง แล้วเดินเข้าไปในห้องรับแขก

จารวีนิ่งไปเหมือนกับก้อนหิน เธอยืนอยู่ในที่เดิมเป็นเวลา นานจึงจะหันหลังไปอย่างเงียบ ๆ

ใช่ จารวีรักเขามาก แต่ว่า เธอก็มีฐานะที่มีเกียรติและสูงส่ง

หลังจากที่ยืนยันได้แล้วว่าไม่ได้มีความเป็นไปได้ที่เขาจะ ทำอะไรผิด จารวีก็เดินหายไปเงียบ ๆ

ถึงจะรักเขาต่อไป เขาก็ไม่ได้เป็นของเธออีกต่อไปแล้ว
“คณจารวี อยากให้ผมเรียกแท้ก ให้มั้ยครับ” บอดี้การ์ด เอ่ยถามอย่างหวังดี

เหมือนกับว่าจารวีจะไม่ได้ยิน เธอเดินอยู่ท่ามกลางค่ำคืน ที่มืดมิดราวกับโดนผีสิง

ด้านหลังของเธอ มีเงาดำติดตามเธออยู่ไกล ๆ ซึ่งคอย รักษาระยะห่างระหว่างเขาและเธออย่างเหมาะสม เพื่อไม่ ให้เธอรู้ตัว

บนถนน มีรถสีขาวคันหนึ่งจอดอยู่ตรงหน้าของจารวี

มนต์ตรีเดินลงมาจากรถ

“วี วีเป็นอะไร”

จารวีเงยใบหน้าเล็ก ๆ ของตนขึ้นและมองมนต์ตรี เธอไม่ ได้ร้องไห้ ไม่ได้มีน้ำตา มีเพียงแค่ความสิ้นหวัง ที่ทำให้เธอ รู้สึกทรมานใจเหลือเกิน

“พี่มนต์ ช่วยส่งวีที่บ้านหน่อยค่ะ!”

“ได้ ขึ้นรถสิ!”

สายตาของคน ๆ นั้นมองไปที่ร่างของจารวีที่ขึ้นรถของ มนต์ตรียศพลจึงจะหยุด
สองมือของเขาล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกง แววตาเต็มไป ด้วยความเย็นชา

คุณชายครับจะให้จัดการผู้หญิงที่อยู่ในห้องของคุณครับ” นิรันเอ่ยปากถาม

“ให้เงิน…แล้วไล่หล่อนไปซะ…”น้ำเสียงของยศพลเย็น

ชา

“แต่ว่า หล่อนบอกไม่ต้องการเงิน หล่อนจะรอให้คุณชาย มาบอกลาครับ…”

“ไม่งั้นก็ลากหล่อนออกไปซะ ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แค่นั้น เรื่องแค่นี้ต้องถามฉันด้วยเหรอไง”

ยศพลวางสายของนิรันอย่างเย็นชา ในตอนนั้น เขาอยาก จะซัดคนมาก

ในห้องรับแขกบ้านตระกูลพูลสวัสดิ์ มนต์ตรีนำเอาเสื้อโค้ ทยาวตัวหนึ่งห่มไหล่ของเธอ

“หิวรึยัง พี่จะไปอุ่นอาหารไว้ให้วีทาน!”

จารวีนั่งอยู่บนโซฟา เธอนั่งนิ่งมองตรงไปที่ความว่างเปล่า ที่อยู่เบื้องหน้า
มนต์ตรีตะโกนเรียกไปสามครั้ง จารวีจึงจะได้สติกลับคืนมา

“พี่มนต์ ขอโทษค่ะ ตอนนี้สภาพจิตใจของวีไม่ค่อยดี วีรู้ว่า พี่มนต์ห่วงมาก แต่ต้องการเวลาที่จะปรับตัวจริง ๆ ค่ะ”

“พี่ไม่ได้ตั้งใจจะรบกวนวี พี่ก็แค่อยากทำอะไรให้วีทานสัก หน่อย”

มนต์ตรีมองเธอด้วยความกังวล เขาทําตัวดูหน้าสงสาร และแสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจเล็กๆ น้อยๆตรงหน้าของ เธอ

เขามองเธออย่างระมัดระวัง กลัวว่าจะทำให้เธอโกรธ “ไม่เป็นไรค่ะ วีไม่หิว…จริงๆนะคะ ขอบคุณนะคะ พี่

มนต์…”

มนต์ตรีขมวดคิ้วอย่างทุกข์ใจ เขาไม่ต้องการคำขอบคุณ จากเธอ

ทันใดนั้น เสียงมือถือของมนต์ตรีก็ดังขึ้น

“มนต์ เธออยู่ไหน” สุรีย์วัลย์ถามด้วยน้ำเสียงที่ หวาดระแวง

มนต์ตรีมองจารวีไปทีหนึ่ง แล้วหยิบมือถือ เดินไกลออกมา จากเธอ
“มีเรื่องอะไรเหรอ”

“มนต์ ฉันกลัวมาก เธอกลับบ้านเถอะนะ ฉันรู้ว่าเธออยู่บ้าน จารวี แต่ว่า ฉันต้องการเธอมากนะ มนต์”

“วัลย์ เธอคิดมากไปแล้ว รีบนอนเถอะ!”

มนต์ตรีกดปุ่มวางสายอย่างเย็นชา ปล่อยให้สุรีย์วัลย์ ตะโกนและร้องไห้อยู่อย่างนั้น เขาไม่ได้สนใจหรือใส่ใจเลย สักนิด

เขาหันกลับไป จารวีก็ยังคงมองเขาเหมือนเก่า

“กลับก่อนเถอะค่ะ พี่มนต์ คุณสุรีย์วัลย์รอพี่อยู่นะ”

“ไม่เป็นไรหรอก พี่อยู่กับวีอีกสักพัก อีกสักชั่วโมงนึงพี่ ค่อยกลับ”

มนต์ตรีทำซี่โครงหมูตุ๋นอย่างง่ายให้จารวิชามหนึ่ง

“วีทานก่อนเถอะ! ดูจากสภาพของวี…น่าจะออกไปทาน ข้าวข้างนอกบ้านไม่ได้”

“อื้อ!”

“จริงสิ วี พี่มีเพื่อนคนนึงอยู่อเมริกา เขารู้จักคนที่เก่ง เฉพาะด้านอยู่ บางทีเขาอาจจะรักษาวีได้ วีลองพิจารณาดู หน่อยนะ ไปรักษากับพี่ ปรับสภาพจิตใจของวีให้ดีขึ้นสักหน่อย”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ พี่มนต์ แค่นี้วีก็รบกวนพี่มนต์มานานมาก แล้ว”

จารวีใช้ตะเกียบเขี่ยๆ ก๋วยเตี๋ยวไปมาอย่างไร้อารมณ์ ใน ใจเธออึดอัดมาก จะมีอารมณ์กินข้าวได้ไง

“วีอย่าคิดแต่ว่าจะมีชีวิตอยู่เพื่อยศพลสิ ในโลกนี้ยังมี ผู้ชาย ๆ อีกเยอะแยะ”

จารยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ไม่สนเรื่องพวกนั้นหรอก ค่ะ ตอนนี้หัวใจของวี..มันตายไปแล้วล่ะ”

“วี ฟังพี่นะ ถ้าวีตกลงที่จะไปรักษา รอให้วีหายดี ยศพลก็ จะกลับมาหาวีแน่นอน” มนต์ตรีพูดออกมาอย่างยากลำบาก แม้ว่าเขาไม่ชอบใช้วิธีนี้โน้มน้าวใจจาร

แต่ว่าตอนนี้ นอกจากวิธีนี้ เขาก็คิดวิธีอื่นไม่ออกแล้ว

จารวีกัดเส้นก๋วยเตี๋ยวไปคำหนึ่ง รู้สึกได้ถึงความยาก ลําบาก ในตอนนั้น…นําตาของเธอไหลลงไปรวมกับเส้น ก๋วยเตี๋ยวแล้ว

“พี่มนต์ ให้เวลาวีคิดทบทวนก่อนนะคะ…”

“วี ไม่มีเวลาจะคิดทบทวนแล้ว วีคิดดูสิ เพื่อจะช่วยวี แม้แต่ ชีวิตของพ่อ พ่อของวียอมแลก ถ้าวีอยากจะตายแบบนี้ทำไมวีถึงทำกับพ่อแบบนั้นล่ะ วิญญาณของพ่อวีที่อยู่บน สวรรค์ จะต้องทุกข์ทรมานใจมากแน่ๆ…

จารวีตัวสั่นเล็กน้อย น้ำตาของเธอไหลลงมา

พ่อ! พ่อเห็นสภาพวีแบบนี้ จะต้องโกรธมาแน่ๆ ต้องด่าว่า ไร้ประโยชน์แน่ๆเลย

“วี อย่าเป็นแบบนี้เลยนะ ความรักมันจากไป แต่มันก็มีอีก ได้นะ ชีวิตคนน่ะ จากไปแล้วเอาคืนกลับมาไม่ได้นะ”

ก๋วยเตี๋ยวชามเล็กๆ จารวีใช้เวลากินไปชั่วโมงหนึ่งก็ยังกิน ไม่หมด

สุดท้ายมนต์ตรีก็ยืนขึ้น แล้วลูบหลังจารวีเบาๆ

“งั้นตามนี้นะ พรุ่งนี้พี่จะไปจัดการให้ ช่วงที่พวกเราไป รักษาที่มัลดีฟส์ ถ้าวีอยากกลับก็กลับมาได้เสมอเลย ดีมั้ย”

จารวีไม่มีแรงจะพยักหน้า และไม่มีเรี่ยวแรงที่จะปฏิเสธ ตอนนี้จารวีไม่มีความคิดอะไรที่เป็นของตัวเองทั้งสิ้น เช้าวันต่อมา มนต์ตรีตรงมารับจารวีถึงที่บ้าน

ทั้งหมดเกินขึ้นภายในเวลาอันสั้น จารยังไม่มีเวลาไป ทบทวนใหม่ให้ดีก่อน
เธอจึงไปสนามบินอย่างงงๆ

อีกหนึ่งชั่วโมงเครื่องจึงจะออก จารวีนั่งอยู่ในห้อง โถง พอเธอสงบลงได้ ในใจก็เธอก็นึกถึงยศพลขึ้นมาโดย ไม่ได้ตั้งใจ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะร้องไห้จนน้ำตาไหลลงมา ท่วมไปทั้งหน้า

ความรักที่บ้า ๆ แบบนั้น เรื่องของความรู้สึกไม่ใช่ว่าแค่ อยากตัดก็ตัดขาดได้

“มา วี ดื่มนมอุ่นๆก่อนเถอะ เมื่อเช้าวียังไม่ได้ทานอะไร ทานเค้กรองท้องสักหน่อยนะ เที่ยวบินนี้ยาวนานกว่าสิบ ชั่วโมง จะต้องเหนื่อยมากแน่”

“ค่ะ! ขอบคุณค่ะพี่มนต์!”

จารวีรับนมอุ่นมาดื่ม มนต์ตรีนั่งมองอยู่ข้างกายเธอ สักพัก หนึ่งเสียงมือถือของเขาก็ดังขึ้นมา

เขาหยิบออกมาดูแวบหนึ่ง แล้วก็กดวางสายทันที จากนั้น ก็ปิดเครื่อง

“พี่มนต์ ใครโทรมาเหรอคะ”

“อ๋อ ไม่มีอะไร วีนั่งก่อนนะ พี่โทรไปหาทางบริษัทสัก หน่อย…

มนต์ตรีลกขึ้นยืน หยิบมือถือเดินออกจากห้องโถง จารวียังคงดื่มนมต่อไป แล้วหยิบเค้กมากัดค่าหนึ่ง ตอนนั้นมีร่างที่สวมชุดแดงเดินเข้ามาอย่างลับๆ ล่อๆ “จารวี…” สุรีย์วัลย์วิ่งไปยืนข้างกายของจารวี “จารวี มนต์ตรีล่ะ” จารวีมองเธออย่างไม่เข้าใจ “คุณมาทำอะไร” “พวกเธอจะหนีตามกันใช่มั้ย”

จารวียิ่งไม่เข้าใจหนักกว่าเดิม “อะไรที่เรียกว่าพวกเราหนี ตมกัน สุรีย์วัลย์ คุณเข้าใจผิดแล้ว พี่มนต์ก็แค่จะพาฉันไป รักษาที่อเมริกา”

น้ำตาของสุรีย์วัลย์ไหลลงมาไม่หยุด “ยัยโง่นี่ เธอโดน หลอกแล้ว มนต์ตรีจะพาเธอหนีไปต่างหาก เขาไม่ต้องการ ฉันแล้ว และก็ไม่ต้องการบริษัทซัวกรุ๊ปแล้ว”

จารวีนิ่งไปอย่างกับเป็นอัมพาต เธอมองสุรีย์วัลย์ด้วย ความมึนงง “คุณพูดอะไรน่ะ”

“ที่แท้เธอก็ดูไม่ออกนี่เอง มนต์ตรีไม่เคยยอมปล่อยเธอไป หรอก เขารักเธอจนเขาเป็นบ้าไปแล้ว”

“คุณสุรีย์วัลย์ คุณเข้าใจผิดแล้ว คนที่พี่มนต์รักก็คือคุณ….
สุรีย์วัลย์ร้องไห้พลางส่ายหัว “เขาไม่เคยรักฉันเลย เขา ไม่เคยรักฉันเลยสักนิด ฮือๆๆ พวกเราแต่งงานกันมานาน แล้ว แต่เขาไม่เคยจะแตะตัวฉันเลย คนที่เขารักคือเธอ คนที่ เขาคิดถึงก็คือเธอ เพื่อเธอแล้ว ไม่ว่าอะไรเขาก็ยอมทำ”

จารวีมองเธออย่างว่างเปล่า

“ที่เธอเลิกกับยศพล ก็เพราะเขา…

“วัลย์ เธอมาทำอะไรที่นี่

สุรีย์วัลย์ยังพูดไม่ทันจบ มนต์ตรีก็รีบร้อนเดินออกมา

สุรีย์วัลย์ยืนขึ้นมาทันที “มนต์ มนต์ เธอไม่ต้องการฉัน แล้วใช่มั้ย เธออยากจะหนีไปกับหล่อนเหรอ”

“สุรีย์วัลย์ เธอช่วยดูกาลเทศะหน่อยได้มั้ย ฉันไม่รู้ว่าเธอ พูดเรื่องอะไรอยู่”

“เธอโกหกฉัน เธอขายคฤหาสน์ตระกูลซัวแล้ว และยัง ขายบริษัทซัวกรุ๊ปจำกัดทิ้งไปแล้ว เป็นเพราะจะหนีตามผู้ หญิงใช่มั้ย เธอจะไม่กลับมาอีกตลอดกาลแล้วใช่มั้ย เธอคิด ว่าฉันโง่ใช่มั้ย มนต์ เธอจะทิ้งฉันไปไม่ได้นะ มนต์ ฉันจะไป กับเธอ…

จารวีสับสนกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าเธอ เธอลุก ขึ้นยืนและกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกเวียนศีรษะและเธอจับหน้าผากของ เธอและค่อยๆนั่งลง

พละกำลังทั้งหมดของร่างกายหมดลงและแล้วเธอก็หมด สติไป

จารวีค่อยๆ ตื่นขึ้นมา เธอไม่รู้ว่าเธอหลับไปนานเท่าไหร่ แล้ว

เธอจำได้ว่าสติสัมปชัญญะเธอหายไปตอนอยู่ที่สนามบิน เธอนึกคำพูดของสุรีย์วัลย์ขึ้นมาได้ เรื่องที่เธอกับยศพลเลิก กัน มีส่วนเกี่ยวข้องกับมนต์ตรี

เธอตกตะลึงจนได้สติกลับคืนมา

เธออยากจะใช้มือพยุงตัวเองขึ้นมา ทันใดนั้นก็พบว่าทั้ง สองมือสองเท้าของเธอขยับไม่ได้เลย

ความกลัวเข้าจู่โจมอยู่ภายใน เดิมทีอาการป่วยของเธอ มา ถึงจุดที่สิ้นหวัง ไร้ยาที่จะรักษาได้แล้วเหรอ

“วี วีตื่นรึยัง”

ร่างของมนต์ตรีเดินเข้ามาจากข้างนอก เขาสวมชุดสูทสี ขาว สีขับใบหน้าดูเด่น สภาพของเขาขาวซีดดูเหมือนผิด ปกติ

“พี่มนต์ วีอยู่ที่ไหน
มนต์ตรีพยุงเธอขึ้นมานั่ง จากนั้นก็นําหมอนมารองที่เอว ของเธอ แล้วยื่นมือไปหยิบซุปถ้วยหนึ่งมา

“พวกเราอยู่ที่มัลดีฟส์แล้วล่ะ บนเครื่องวีหลับตลอดทาง เลย พี่ไม่ได้ปลุกวีน่ะ”

“พี่มนต์ ส่งลึกลับไปได้มั้ย ไม่อยากตายที่นี่ วีอยากเจอยศ พล…”

บนใบหน้าของมนต์ตรียังคงมีรอยยิ้มเหมือนเก่า เขาเอา ช้อนตักซุปร้อน ๆ ขึ้นมา แล้วนำช้อนที่มีซุปมาเป่าที่ปากของ ตน จากนั้นก็เอาช้อนนั้นไปใกล้ๆ ปากของจาร

“ไม่ต้องกลัวนะ อาการป่วยของวีจะค่อยๆ ดีขึ้น พี่ให้คน เตรียมยาให้วีแล้วล่ะ…

จารวีเบิกตากว้าง ไม่กล้าที่จะเชื่อคำพูดของเขา ในใจรู้สึก หวาดกลัวมากกว่าเดิม

“พี่นี่เอง ที่แท้พี่ใส่ยาบางอย่างลงไป”

“วี ทำไมวีถึงมองพี่ด้วยสายตาแบบนั้นล่ะ พี่ดีกับวีขนาด นี้ หรือว่าพี่ยังดีไม่พอเหรอ นี่พี่กำลังช่วยวีอยู่นะ พี่ช่วยให้วี หลุดพ้นจากไอ้ช่วยศพลนั่นไง…”

จารวีนึกย้อนไปถึงอดีต ถ้วยซุปในมือของมนต์ตรีถูกฟาด จนคว่ำ น้ำซุปหกเปื้อนอยู่ที่ผ้าห่ม…
“มนต์ตรี นายบ้าไปแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่านายจะวางยา ฉัน ทำไมฉันถึงตาบอดแบบนี้ ทำไมถึงคิดว่านายเป็นคนดี ทำไมฉันถึงเชื่อคนอย่างนายได้ …”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ