ยั่วสวาทนายปีศาจจอมหิ่น

ตอนที่ 185 คน วางยาพิษ



“ยศพล เจ้าคน ว า นายออกมาหาฉันให้ไวเลยนะ “บ พลก้าวออกจากประตูมา ก็ได้ยินเสียงจารวี ตะโกนสั่งอย่าง ไร้เหตุผล ควของเขาพลันขมวดแน่นยิ่งขึ้น

เพิ่งรู้ว่าเธอสามารถเหลวไหลได้เช่นนี้ พยายามทําทุกวิถี ทางเพื่อปิดบังจากเธอ คาดไม่ถึงว่ายังคงถูกเธอค้นเจอจนได้

จารวีถูกหยุดโดยบอร์ดี้การ์ดสองคนที่หน้าประตู ตอนที่ มองเห็นยศพล เธอหยุดชะงักและในตาก็พลันระเบิดอารมณ์ โกรธเคือง

นายน้อย คุณจารวีต้องการเข้าไปให้ได้ครับ”

ยศพลโบกมือ บอดี้การ์ดสองคนที่กั้นทางจารวีพลันถอย

ออกไปทันที

จาร วิ่งเข้าไปด้านในอย่างไม่สนใจสิ่งใด

มือใหญ่ของยศพลสะบัด ยึดกุมมือของจารวีเอาไว้

“เธอคิดจะทําอะไร?

จารวีจ้องยศพลเขม็ง “นาย ง มนต์ตรีไว้ที่นี่ใช่ไหม?”

ยศพลขมวดคิ้วแน่น “เธอกำลังพูดอะไร?”

“บศพล นายอย่าหลอกฉันนะ นายลักพาตัวลุงพงพัชษ์ แล้ว ยังขัง มนต์ตรีไว้ใช่ไหม?
สายตาย พลผ่านเลยจารวีไปทางรถที่อยู่ด้านหลังของเธอ

ถามอย่างเหลืออด “ดาว” เธอไม่มีสมองของตัวเองหรือ ถูก

คนอื่นชักจูง ก็วิ่งมาก่อเรื่องให้กับผู้ชายของตัวเอง?”

จารใบหน้าแดงก่า ที่จริงแล้วเธอก็ไม่ได้มีหลักฐานแน่น หนาอะไร เพียงแต่ได้รับข้อความอันหนึ่ง แล้วก็ข้อสันนิษฐาน ของสุรวัลย์เท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้นเห็นยศพลตึกมากแล้วก็ยังอยู่ข้างนอก ในใจ เธอมีความสงสัยทุกรูปแบบอัดรวมกันอยู่ ดังนั้นจึงเกิดใจร้อน จนไม่อาจหยุดยั้งได้

ดิ เช่นนั้นนายบอกว่านายไม่ได้ลักพาตัว มนต์ตรี แล้ว นายมาหาอะไรที่นี่? นายเอาแต่บอกฉันว่าอยู่ที่ออฟฟิศ ถ้า อย่างนั้นนายก็ให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลว่านายมาทําอะไร ที่โรงงานร้างในตอนกลางคืน?”

ยศพลยิ้มบาง “ผู้หญิงอย่างเธอน ไม่ฟังเหตุผลเลยจริงๆ ฉัน จะทําไม่ทําเรื่องอะไรล้วนต้องคอยรายงานเธอด้วยหรือไง?”

ยศพล ในเมื่อไม่มีเรื่องให้ต้องละอายใจ เช่นนั้นก็ให้ฉัน เข้าไปดูข้างในสักหน่อย…

“ถ้าหากหลังจากเข้าไปแล้วไม่มีมนต์ตรีที่เธอพูดถึง เธอจะ ทํายังไงละ?”

“ฉัน…” จารวีใบหน้าค่อยๆ แดงขึ้น คิดไว้นานแล้ว เธอตอบ ตามตรง ถ้าหาก มนต์ตรีไม่ได้อยู่ที่นี่ เช่นนั้นทีหลังก็จะไม่ สงสัยนายอีกแล้ว อีกทั้งไม่ก้าวก่ายกับธุระของนายอีก”
ยศพลตอบหลังหนึ่งก้าว แยกตัวออกไป สรีวัลย์ เดินลง จากรถมา ยืนอยู่ที่ประตูรถ อยากเข้าไปแต่กลับไม่มีความ กล้าจะเข้าไป มองมาทางนี้อย่างลังเล

นัตตาคาของยศพลตกอยู่ที่ร่างของจารวีอีกครั้ง มุมปาก ยกขึ้น “เข้าไปกันเถอะ! ถึงกับกล้าไม่เชื่อถือผู้ชายของเธอ เอง”

จารวี มชมเสียงเบา สิบก้าวใหญ่ไปข้างหน้า

ที่ด้านหลังของนาง รีวัลย์ก็ติดตามมาด้วย เตรียมตัว เข้าไปด้านใน

บอร์ดี้การ์ดสองคนพุ่งออกมาหยุดยั้งสรีวัลย์

“ฉันจะเข้าไป ทําไมเธอถึงเข้าไปได้ แต่ฉันเข้าไปไม่ได้

“คุณจารวีเป็นนายหญิงน้อยของพวกเรา เธอแน่นอนว่า สามารถเข้าไปได้ คุณคิดว่าคุณเป็นใครกัน?”

บอร์ดี้การ์ดกล่าวเยาะเย้ย สุรวัลย์อย่างดีทําได้แค่ถอย กลับมา มองจารวีที่เข้าไปข้างในอย่างริษยา ในใจเธอกังวล ราวกับแมวขวนอย่างนั้น

จารวีเดินเข้าไปในโรงงานโอ่อ่ากว้างใหญ่ ภาพภายใน ชัดเจนเพียงกวาดสายตามองครั้งเดียว

ตรงกลาง กองงานขนาดมหึมาวางสุมอยู่บนโต๊ะ ข้างโต๊ะมี

ผู้ชายใส่แว่นตาสีทองนั่งอยู่

ข้างกายผู้ชาย กล่องสีเงินวางขึ้น บนโต๊ะยังคงมีปืนวางไว้

?”และถุงผงแป้งบางอย่างวางอยู่บนโต๊ะ จาร ในใจตกต ฝัง และหยุดก้าวเท่านที

ยศพล คุณมาเอายาทีนี่หรือ?”

ศพลยกไหล่ “ไม่หรอกน่า แต่ว่าเจอกับเพื่อนเก่าคนนึง อำนวยความสะดวกเขาพูดถึงเรื่องเก่าเท่านั้น ๆ ชัดเจนว่า แต่ ชัดเจนว่าถูกเธอขัดจังหวะ เขาตกใจจนเต้นแล้ว คิดว่าตำรวจ มา

จาร มองไปรอบกายทั้งสี่ด้าน ไม่เห็นร่างของมนต์ตรีเลย

ลักนิต

อย่าบอกนะว่าเขาไม่อยู่ที่นี่จริงๆ

“ยังไม่เ อฉันอีกหรอ? เช่นนั้นเธออยากเข้าไปหาข้างในอีก

ไหม?”

ยศพลหัวเราะเยาะเธอ ยืดแขนทําทีเชื้อเชิญ

จารวีราวกับนักเรียนหญิงตัวน้อยที่ท่าเรื่องผิดพลาดอย่าง

นั้น พลันถอยออกมา ยศพลหันไปส่งสายตากับนิรันครั้งหนึ่ง ให้ติดตามจารวี

ออกมา

“ตอนนี้เธอยังมีอะไรต้องพูดไหม?” ยศพลตั้งใจเอ่ยถาม

“ฉันผิดไปแล้ว ขอโทษด้วยค่ะ ยศพล ฉันไม่ควรสงสัยคุณ
ศพสมองใบหน้าเล็กของจาร ดวงตาคู่งามเอ่อคลอไป ด้วยน้ำตาของความรู้สึกผิดและไม่สบายใจ

บศพล นมือมาบีบจมูกเล็กๆ ของจารวี “เธอทําร้ายความ มั่นใจในตัวเองของฉันอย่างหนัก คืนนี้ เธอจะต้องชดใช้ให้

ใบหน้าเล็กของจารวีแดงเรื่อ “เช่นนั้นนายธุระเถอะ ฉันกลับ ก่อนนะ”

“ช่างเถอะ เธอกับฉันก็ออกมากันแล้ว ฉันก็ไม่อยากอยู่ รื้อฟื้นความหลังกับเขาอีก พวกเรากลับบ้านด้วยกันเถอะ!”

ทศพลจับมือของจารวี เดินออกมาอย่างสุขุมเยือกเย็น

ที่ทางเข้า สรีวัลยีที่ยืนคอยมาตลอดเดินมาหา เอ่ยถาม อย่างร้อนใจ “เป็นยังไงบ้าง?

จารวดีส่ายหน้าตอบอย่างไร้เสีย “สรีวิล เธออาจจะเข้าใจ

ยศพลผิด เขาไม่ใช่คนแบบนั้น”

สรีวัลย์เงยหน้ามองยศพล นัยน์ตา ของยศพลเรียบเฉย ล้าลีก กักเก็บประกายเข่นฆ่าไร้สิ้นสุด สุรีวัลย์พลันรู้สึกขวัญ ผวาอย่างยิ่งยวด เธออาจจะประเมินชายคนนี้นําเกินไป

“อ่า ไม่มีปัญหา จารวี เช่นนั้นฉันไปก่อนนะ พรุ่งนี้ฉันจะโทร หาเธอ”

สุริวัลย์ขึ้นรถ และขับรถออกไปอย่างเร่งรีบ เวลานี้เธอไม่ กล้าหยุด ยศพลมองอย่างดุร้ายเช่นนั้น เธอไม่กล้ามองอีก เป็นครั้งที่สอง
พลขับรถด้วยตัวเอง จารนั่งอยู่ข้างกายเขา

“จู่ๆ ทําไมเธอจึงได้เชื่อถือสวัลย์? เธอลืมว่าเขาทําอะไร กับเธอแล้วหรือ?”

จาร รู้ว่าตัวเองทําผิดไปแล้ว “ขอโทษนะ ฉันแค่เป็นห่วง

ความปลอดภัยของ มนต์ตรี

จารวีคิดแล้วคิดอีก มองยศพลแล้วกล่าว “ทําไมนายต้อง การซื้อ วกรุ๊ป?”

ใบหน้าของยศพลสีหน้าสงบราบเรียบอย่างมาก เขาค่อยๆ ขับรถ หัวเราะอย่างเฉยชา “ฉันตลอดมาไม่อาจทําได้เพราะ ว่านํากรุ๊ปเป็นของบ้านช้า ให้ทิ้งโอกาสอันนี้ดี? ฉันเป็นนัก ธุรกิจคนหนึ่ง ฉันยิ่งกว่าเข้าใจการดาเนินบริษัทแห่งหนึ่ง ฉัน ชื่อข้ากรุ๊ป นั่นเพราะต้องการให้บริษัท แสดงความสามารถ มากกว่านี้ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากฉันไปซ่อมา มนต์ตรีบริหาร

งานไม่เต็มที่ บริษัทแห่งนี้ไม่ช้าก็เร็วต้องล้มละลายแน่ จาร มองยศพลอย่างกังวล เธอรู้แล้วว่ายศพลไม่มีทาง ปฏิบัติกับมนต์ตรีเหมือนกับเธอ

ยศพลเป็นผู้ชายที่มีความทะเยอะทะยานคนหนึ่ง ด้านก้าว จัดการก็ได้รับความเคารพ ทั้งยังครอบครองพรสวรรค์ที่ตก ตะลึงผู้คน

เธอไม่ควรก้าวก่ายกับทุกการตัดสินใจของเขา

“เช่นนั้น…..คุณไม่อาจช่วยฉันตามหาเขาได้หรอ?”

ยศพลหยุดรถโดยฉับพลัน นับต์ดำสนิทของเขาจ้องมองเธออย่างเฉียดเฉือน “จารวีในใจของเธอนั้น ที่แท้แล้วใคร สําคัญที่สุด เขาหรือว่าฉัน?”

“ฉัน…ยศพล ทำไมนายพักแบบนี้ละ?”

“ทําไมฉันพูดแบบนี้?” ยศพล มเย็น

“ทุกวันเธอพูดกับฉัน เปิดปากก์ มนต์ตรี ปิดปากก็พี่มนต์ ตรี เธอไม่คิดไตร่ตรองสักนิด คนที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันกับที่เธอ ที่แท้แล้วเป็นใครกันแน่ จนถึงตอนนี้เธอยังรักเขาอยู่หรอ?”

จาร เห็นยศพลโกรธขึ้นมาแล้วจริงๆ เธอก็เกิดร้อนรน

ยศพล นายพูดจาไร้สาระอะไรกัน! ฉันก็แค่เป็น…

“พอเถอะ ไม่ต้องอธิบายกับฉัน ยิ่งอธิบาย ยังปิดบัง… ”

ยศพลปลดเข็มขัดนิรภัยออก จากนั้นลงจากรถ ปิดประตู

โดยแรง

จารวีนั่งเซออยู่บนรถเพียงคนเดียว

ในใจมีความรู้สึกระคายอยากจะบอกได้ ทําไมเรื่องราวถึง ได้พัฒนามาเป็นเช่นนี้ได้?

ผ่านไปเนิ่นนานนัก ประตูรถข้างกายเธอได้ถูกคนภายนอก

ตึงเปิดออก

“เธอจะนั่งอยู่ในรถไปจนถึงพรุ่งนี้เช้าเลยหรือไง?”

เสียงหยอกล้อของยศพลดังขึ้น ผู้หญิงโง่งม ในหัวเธอคิดอะไรอยู่กันแน่?

จาร เพิ่งได้สด พวกเขามาถึงแล้วบ้านตั้งแต่แรก

ขุดลงมาจากในรถ ยศพลยกแขนขนโอบกอด สายตามอง เธออย่างหยอกล้อ

“ยศพล ขอโทษนะ ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้นจริงๆ…

“ไม่ต้องอธิบายแล้ว!

ยศพลเอ่ยชัดเธออย่างหมดความอดทน “เธอเข้าไปพัก ผ่อนเถอะ ฉันมีเรื่องสําคาญใจ ออกไปเดินเล่นสักหน่อย”

จาร มองเขาอย่างทีม อ “เฉ่ ยศพล นายจะไปไหนน่ะ?”

ยศพลไม่สนใยดีเธอแม้แต่น้อย เดินตรงเข้าไปในรถ จาก นั่นก็คิดเครื่องขับออกไป

รถยนต์ราวกับพายุทอร์นาโดอย่างนั้น ค่อยๆ จมหายไปใน ความมืดมิดยามราตรี หายวับไปมองไม่เห็นรวดเร็วยิ่งนัก

จารวีเดินเข้าห้องรับแขกคนเดียว

“คุณจารวี คุณกลับมาแล้ว!” น้าอามออกมาต้อนรับ มอง เห็นใบหน้าของจารวีไม่ค่อยถูกต้องนัก จึงเอ่ยถามอย่าง ประหลาดใจ คุณจารวี คุณเป็นอะไรไปคะ?”

“ไม่มีอะไร!” จารวีโบกมือ เธอทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างแรง

คุณจารวี คุณกับนายน้อยทะเลาะกันหรือคะ?”
ฟ้าอามเห็นทั้งสองคนเพิ่งจะทะเลาะกันที่ประตูสนามหญ้า หลายประโยค

น้าอาม ฉันเพิ่งไปซื้อของ แต่ดูเหมือนว่าจะมีของที่ลืมหยิบ มา นําไปหาบอร์ การ์ดมาขับรถพาฉันไปหาดูหน่อยนะ… จาร กล่าว ไม่รู้ทำไม ในใจกลับไม่สบายใจ เธออยากไปหา ยศพล

เขาต้องโกรธมากแน่ๆ เธอจะต้องพูดกับเขาให้รู้เรื่อง

“เอ่อ ดึกขนาดนี้แล้ว ยังมีของอะไรหายไปหรือคะ? ถ้า ไม่ใช่ของสำคัญอะไร พรุ่งนี้ค่อยไปหาเถอะค่ะ!”

จาร มองน่าอามอย่างเหม่อลอย นานนัก เธอก้มศีรษะลง ที่จริงฉันทะเลาะกับยศพล ฉันกังวลว่าเขาจะโกรธจนทําร้าย ตัวเอง ดังนั้นฉันเลยอยากให้คนขับรถพาฉันไปหาเขา”

“โอ้ โอ้ ได้ค่ะ ฉันจะไปเรียกเดี่ยวนี้”

น้าอามอยู่ที่บ้านโพธิสูงมานานหลายปีแล้ว รับหน้าที่เป็นผู้

จัดการดูแลบ้านโพธิสูง

เหล่าคนขับรถก็อยู่ในการจัดการของเธอ รถของยศพลมี อยู่หลายคันมาก น้าอามจัดการอยู่สักครู่ ก็กลับเข้ามาอย่าง รวดเร็ว

“คุณจารวี ฉันจัดการเรียบร้อยแล้วค่ะ คุณให้คนขับรถ พาคุณไปไล่ตามนายน้อยเกอะค่ะ! แต่อย่างไรก็ต้องพก โทรศัพท์ไปด้วยนะคะ ฉันกลัวว่านายน้อยกับคุณจะไปกันผิด ทาง
* ไม่มีปัญหา มีคนขับรถนี้ ฉันหาเขาไม่เจอก็ขับกลับมา

น้อามเดินมาส่งจารวีที่ประตู มีรถเฟอร์รารี่สีเงินคืนหนึ่ง จอดรอเธออยู่ที่ทางเข้า

“คุณจารวี ต้องการไปที่ไหนครับ?” คนขับรถเอ่ยถาม

จารวีคิดอยู่ชั่วครู่ อาศัยสัมผัสพิเศษ ชี้ไปที่ถนนที่นำไปสู่ ถนนชานเมือง

ทีนี่แหละ ข้มเร็วสักหน่อย กลัวจะไล่ตามไม่ทัน….

เวลานี้ในโรงงานทิ้งร้าง มนต์ตรีถูกผลักออกมาอีกครั้ง ตอน จารวีเพิ่งเข้ามา เขาก็ถูกผลักไปกองใต้โต๊ะ ใช้ผ้าปิดเอาไว้ ในปากมีผ้าอุดอยู่ เขาไม่มีทางตะโกนออกมาได้

“ยศพล แกนี่โหดเหี้ยมอำมหิตจริงๆ…

“เทียบกับแกแล้วฉันยังห่างไกลนัก… ไม่ถูก จัดการกับคน อย่างแก ก็จําเป็นต้องใช้วิธีการที่โหดเหี้ยมอย่าง ..” ยศพล กล่าวจบก็ยิ่งออกแรงใช้ศอกกดไปที่หน้าอกของมนต์ตรี

มนตรีเจ็บปวดจนใบหน้าบิดเบี้ยว

“เจ็บหรอ? เจ็บก็ร้องออกมา ในเมื่อตอนนี้ข้างนอกไม่มีใคร อยู่แล้ว อีกทั้งสรีวัลย์คนนั้นของแก ฉันก็ให้คนไปจัดการ เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ดูไปแล้วยังจะมีใครมาช่วยแกได้อีก”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ