ยั่วสวาทนายปีศาจจอมหิ่น

ตอนที่ 198 เด็กคนนี้ก็น่ารักอยู่หน่อย ๆ



ตอนที่ 198 เด็กคนนี้ก็น่ารักอยู่หน่อย ๆ

หลังจากความบ้าคลั่งที่ดุเดือดจบลง พวกเขาก็เงียบสงบ ลงอย่างช้าๆ

ยศพลอุ้มจารวีเข้าไปในห้องนอน แล้ววางเธอลงบนเตียง จากนั้นก็ลงไปทับบนร่างเธออีกครั้ง

ยศพลจูบเธออย่างไม่เต็มใจที่จะผละออกจากเธอ

จารวียื่นมือออกมาผลักเขา

“นี่ก็เจ็ดปีแล้ว นายมาทำอะไรตอนนี้

“ช่วยพ่อจัดการเรื่องที่สำนักงานใหญ่….

“งั้นทำไมไม่มาหาฉัน หรือว่านายไม่ได้อยากจะสานต่อ ความรักของเราแล้ว

ยศพลเงียบไป “มีเรื่องที่ฉันยังจัดการไม่เสร็จดีน่ะ ฉันไม่ เคยคิดจะปล่อยเธอไปเลยนะ”

“แล้วนายคิดเอาไว้ว่าจะทำยังไงต่อไปกับชีวิตคู่ของพวก

เรา”

ยศพลยื่นมือออกมาดึงจารวีเข้าไปกอดแน่นๆ ในอ้อมอก ของเขา
“ฉันพยายามอยู่ แต่ว่า ฉันไม่อนุญาตให้เธอไปอยู่กับไอ้ เลวนั่น ไม่งั้นครั้งหน้าฉันจะจัดการมันซะ

“เห้ย นายเลิกเผด็จการสักทีได้มั้ย เขาก็แค่เพื่อน

“เพื่อนเหรอ ฉันเห็นนะว่าเธอกอดกับมันอ่ะ ไอ้ห่านั่นมัน ไม่ได้บริสุทธิ์ใจกับเธอหรอก…

“เห้ย พอนายกลับมาก็ทำตัวเห็นแก่ตัวและใจแคบอีกแล้ว เหรอ ทำยังกับว่าผู้ชายทั้งโลกจะมาเพื่อแย่งผู้หญิงของ นาย”

ยศพลคร่อมจาร ไว้ใต้ร่างของเขาอย่างเผด็จการ แล้วจูบ เธอ เป็นเวลานานกว่าเขาจะเงยหน้าขึ้นมา แล้วนั่งอยู่ข้างๆ อย่างอาลัยอาวรณ์

“ฉันจะไปแล้ว!”

ยศพลสวมเสื้อเชิร์ตแล้วติดกระดุม จารมองเขาด้วยแวว ตาที่หดหู่

“จะไปทั้งอย่างนี้เหรอ”

ยศพลโน้มลงมาจูบที่ใบหน้าของเธอ จารวีถอยหลบไป เล็กน้อย

“ยศพล นายต้องบอกเหตุผลกับฉันก่อน…
“เหตุผลอะไร”

จารวีปาหมอนออกไป แต่ยศพลก็คว้าหมอนไว้ในมือด้วย ทักษะที่ดีและปราดเปรียวคล่องแคล่ว

*ไม่อนุญาตให้ไป คืนนี้ ถ้านายไปอีก ฉันจะไปกับผู้ชายคน อื่น…

มือใหญ่ของยศพลหยุดลง

เจ็ดปี หล่อนตามหาเขามาเจ็ดปี ไม่นึกเลยว่าจะมีแค่คืนนี้ที่ ได้เจอเขา หล่อนไม่ยอมปล่อยเขาไปอีก

จะให้เธอทนแบบนี้ต่อไปเหรอ

บนใบหน้าอันหล่อเหลาของยศพลมีรอยยิ้มที่ชั่วร้าย ปรากฏขึ้นมา เขากลับขึ้นไปคร่อมร่างของจารวี

“ดูเหมือนว่าจะยังทำให้เธอไม่พอ ใช่มั้ย….

“ไอ้ชั่ว นั่นไม่ใช่ประเด็น…

จารวียังพูดไม่ทันจบ ยศพลก็ใช้จูบอันเร่าร้อนเหมือนกับ ฝนที่ตกลงมาเพื่อดับไฟโกรธในตัวเธอ

เขามีพละกำลังเหลือล้นมาก ในคืนนี้เขาทำมาสี่ครั้งแล้ว แต่ก็ยังมีเรี่ยวแรงเหลือ
จารวีเหนื่อยล้าจนผล็อยหลับไป

ตอนกลางวันก็ทำงานมาทั้งวัน แล้วยังมีความเหนื่อยล้า หลังการเลิกงาน สุดท้ายแล้วจารวีก็ทนไม่ได้อีกต่อไป

ยศพลลงจากเตียง สวมเสื้อผ้าให้ดี แล้วก้มลงไปจูบที่ริม ฝีปากของเธอ

ถึงเขาจะอาลัยอาวรณ์ไม่อยากจากเธอไป แต่ว่า เขายังมี เรื่องที่สำคัญกว่าที่ต้องไปทำ จะปล่อยเอาไว้แบบนั้นไม่ได้

เช้าวันต่อมา จารวีก็ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงนาฬิกาปลุก พอลืมตาขึ้นมา เธอก็ยื่นมือไปสัมผัสผ้าห่มที่อยู่ข้างกาย

คนที่อยู่กับเธอจากไปแล้ว ผ้านวมก็เลยเย็น

ไอ้บ้า นายนี่จริงๆ เลย ไม่นึกเลยว่าจะออกไปโดยไม่บอก ไม่กล่าวแบบนี้

เดิมทีจะมีเสื้อผ้าเมื่อคืนที่ถูกโยนกระจัดกระจายบนพรมใน ห้อง แต่ตอนนี้ เสื้อผ้า กระโปรง ชุดชั้นในและกางเกงชั้นใน ของเธอถูกเก็บขึ้นมาวางไว้บนเตียงในที่ที่เธอเอื้อมถึง

จาร สวมชุดนอนเสร็จ ก็เดินออกมา

มีกระดาษเล็กๆ แผ่นหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ บนกระดาษมือ ข้อความที่ถูกเขียนด้วยลายมือของยศพล
ฉันซ่อมโน้ตบุ๊กให้เธอเสร็จแล้ว ก๊อกนำในห้องนำก็ซ่อม ให้แล้ว ฝันดีนะ จุ๊บๆ!

จารวีลูบกระดาษแผ่นนั้นเป็นวงกลม ในใจก็รู้สึกอบอุ่นขึ้น

มา

อีตาบ้านหายตัวไปเพราะไปเรียนซ่อมคอมพิวเตอร์กับ ก๊อกน้ามางั้นเหรอ

แต่ว่า จารวีก็เดินไปที่ห้องทำงาน แล้วเปิดโน้ตบุ๊กของตน จริงๆ

เมื่อเจ็ดปีก่อน เธอซื้อโน้ตบักเครื่องนี้ที่เมืองเอส ในเครื่อง เต็มไปด้วยรูปภาพที่ถ่ายด้วยมือถือ แล้วอัพโหลดลงใน คอมพิวเตอร์ช่วงที่เธอใช้ชีวิตอยู่กับยศพล มีตอนที่เธอ อาศัยอยู่ในคฤหาสน์โพธิสูง และยังมีตอนที่อยู่บนชายหาด ในสวนดอกไม้ นอกจากนี้ก็ยังมีช่วงหลังจากเธอป่วย และ วิดีโอที่เธออัดเอาไว้ให้ลูกของตน ทั้งหมดอยู่ในโน้ตบุ๊ก เครื่องนี้

เธอหยิบโน้ตบุ๊กขึ้นมาเปิดดูเป็นครั้งคราว แต่เนื่องจาก เวลาผ่านไปนานมากแล้ว โน้ตบุ๊กจึงพังไปตั้งนานแล้ว

เธออยากจะเอามันไปซ่อม แต่กลัวว่าข้อมูลที่อยู่ข้างในจะ หายไป ก็เลยปล่อยเอาไว้อย่างนั้น

นึกไม่ถึงเลยว่ายศพลจะซ่อมโน้ตบุ๊กของเธอได้
เธอกดปุ่มเปิดเครื่อง ภาพหน้าจอค่อยๆ ปรากฏขึ้น โน้ตบุ๊ก ของเธอใช้งานได้แล้วจริงๆ

โน้ตบุ๊กได้รับการซ่อมแซมอย่างดี จารวีตื่นเต้นดีใจมาก และที่ทำให้เธอประหลาดใจมากกว่านั้นก็คือ ยศพลได้ตั้ง เอารูปคู่ของพวกเขาทั้งสองเป็นภาพพื้นหลังของโน้ตบุ๊ก

รูปคู่รูปนั้น คือรูปเมื่อเจ็ดปีก่อน เป็นภาพที่เธออุ้มลูกยืนคู่ กับเขา ในตอนนั้นเขาบันทึกภาพไว้ในมือถือตลอด นึกไม่ถึง เลยว่าจะเก็บไว้นานขนาดนี้

จารวีจ้องภาพนั้นด้วยความสงสัยเป็นเวลานาน และแล้ว ฉากในอดีตก็ถูกฉายอยู่ในหัวของเธอ

ตัวเธอในตอนนั้น มีความสุขเรียบง่ายแค่ไหน ความหวาน

และความสุขเหล่านั้น ก็ยังคงเปี่ยมล้นออกมา

แม้ว่าตอนที่ยศพลจูบเธออยู่ ก็ยังมีดวงตาเหมือนปีศาจที่ ดึงดูดคน

จารวีค่อยๆ ดูภาพในโน้ตบุ๊กช้าๆ ทีละภาพ ทีละภาพ

ในสมองค่อยๆ ปรากฏภาพที่อยู่ที่บ้านโพธิสูงในระยะเวลา ไม่นานอย่างต่อเนื่อง

“ลูกรัก ฉันคือหม่ามี้ของลูกนะ ลูกเห็นมั้ย หม่ามี้ของลูก สวยใช่มั้ยล่ะ”
“ลูกรัก หม่ามีรักลูกมากนะ แต่ตอนนีมีเหตุผลบางอย่าง ที ทำให้หม่ามี้ต้องอยู่ห่างจากลูกสักพัก แต่ว่าหม่ามี้จะมองดู ลูกอยู่บนฟ้านะ…”

“ลูกรัก ตอนนี้ลูกคงอายุขวบนึงแล้ว ลูกน่าจะร้องเรียกหม่า มีได้แล้ว ลูกจะต้องโตมาน่ารักแน่เลย หม่ามี้อยากจุ๊บลูกมาก ๆ อยากกอดลูก อยากจะทาแป้งที่หน้าให้ลูก…”

“ลูกรัก ตอนนี้ลูกคงอายุสองขวบแล้วมั้ง ลูกคงจะฟันขึ้น ทั้งปากแล้ว อย่ากินลูกอมเยอะนะ ไม่งั้นโตมาจะฟันผุนะลูก ลูกต้องรีบๆ โตนะ พอลูกโตแล้ว ลูกจะต้องเป็นเจ้าชายที่ หล่อที่สุด”

“ลูกรัก ลูกคงอายุสามขวบแล้ว ลูกเชื่อฟังแดดดี้รึเปล่า วัน นี้หม่ามี้ร้องเพลงวันเกิดให้ลูกด้วยนะ ลูกจะต้องจำไว้นะ ที่ จริงแล้วหม่ามี้จะร้องเพลงวันเกิดให้ลูกทุกครั้งที่ถึงวันเกิด ลูก มีแต่เสียงของหม่ามี้ ลูกอาจจะไม่ได้ยิน แต่ว่า ตอนนี้ลูก ตั้งใจฟังนะ…แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูย..”

“ลูกรัก ตอนนี้ลูกน่าจะเข้าโรงเรียนอนุบาลแล้ว ลูกน่าจะใส่ กางเกงเองได้แล้ว ดื่มน้ำกินข้าวเองได้แล้ว หม่ามีดีใจมาก ที่ในที่สุดลูกก็จะโตมาเป็นชายชาตรี หม่ามี้หวังว่าลูกจะมี ความสุข มีความสุขในทุกๆวัน หม่ามี้คิดถึงลูกมากๆนะ…..

จารวีเปิดดูคลิปวิดีโอที่ตนเป็นคนอัดเองกับมือ ก็นึกย้อน ไปถึงความเจ็บปวด ทุกข์ทรมานในปีนั้น เธอทนไม่ได้ที่จะ ร้องไห้จนนําตาท่วมใบหน้า
ถ้าลูกของเธอไม่ได้เป็นอะไร ตอนนี้ก็คงจะเจ็ดขวบแล้ว

จารวีนั่งบีบมือทั้งสองของตัวเอง ที่แท้ความเจ็บปวดก็ ไม่ได้หายไปตามกาลเวลา กลับฝังรากลึกอย่างชัดเจนอยู่ อย่างนั้น

ทันใดนั้นเสียงมือถือของจารวีก็ดังขึ้น เธอจึงหยิบมือถือ ขึ้นมากดปุ่มรับสาย

“วี แกยุ่งอยู่รึเปล่า”

“อ๊ะ อ้ง ฉันเพิ่งตื่นน่ะ” จารวีหยิบมือถือแล้วเดินออกมา เธอเดินมาถึงที่หน้าต่าง ดึงม่านให้เปิดออกแล้วมองไปด้าน นอก

ด้านนอกเป็นสนามหญ้าที่ถูกตัดแต่งอย่างเป็นระเบียบ เรียบร้อย

แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องลงมาเปล่งประกายเจิดจรัส นี ก็เป็นอีกวันที่อากาศดีมากๆ

” ฉันวางแผนว่าจะไปช่วยแก แกคิดว่าไง”

“ฮะๆ ก็ดี ฉันเชิญแกมาสองสามรอบละ ทำไมตอนนี้ถึงมี ความคิดนี้ล่ะ”

“ฮีๆ อย่าสนเลย ตอนนี้ฉันอยากจะไปอยู่ต่างประเทศสัก หน่อยน่ะ”
ได้ แกจะมาวันไหนก็ต้องบอกฉันสักนํานะ ฉันจะไปรับแก ที่สนามบิน”

“งั้นก็ตามนี้นะ!!”

พอกดวางสายมือถือ สภาพจิตใจของจารวีก็ดีขึ้นมาก เธอ มองไปที่คอมพิวเตอร์ในห้องทำงาน อีกนิดเธอก็จะไม่มี ความกล้าที่จะปิดมัน บางทีการที่เธอสูญเสียลูก คงจะเป็น แผลที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้สำหรับจารวี

ถ้าหากจาร ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกสักหน่อย ก็อาจจะ พบว่าวิดีโอทุกอันที่เธออัดถูกคนเปิดดูแล้ว แต่หลังจากที่ เรื่องนี้ผ่านมานานมากแล้ว ยศพลก็บอกเธอด้วยตนเอง เธอ ถึงจะรู้เรื่อง

จารวีจัดเตรียมข้าวของ เก็บของเตรียมจะออกไปข้างนอก ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกประหลาดใจ นึกไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะเป็น วันเสาร์อาทิตย์

ก็ดี ในที่สุดก็ได้ออกจากบ้าน ก็ไปช้อปปิ้งสักหน่อยเถอะ!

ทีแรกเธอจะโทรนัดดนวัตให้ออกมาเที่ยวด้วยกัน แต่ก็นึก ขึ้นได้ว่าเธอลืมมือถือไว้บนเบาะของที่นั่งข้างคนข้างคนขับ ในรถ

ปีที่สองที่มาปารีส ดนวัตก็ซื้อรถเฟอร์รารี่มาให้เธอคันหนึ่ง แต่เธอได้ปฏิเสธไป
เธอได้ใช้เงินของตนซือรถโฟล็คคันเล็กๆมาคันหนึ่ง เธอ รู้สึกว่ารถคันนี้ก็ไม่เลว

บรรยากาศในสวนดอกไม้ดีมาก จารวีจอดรถไว้ แล้วไปนั่ง บนเก้าอี้ม้านั่งยาวที่ถูกแดดส่อง

ที่จริงตามปกติแล้ว เธอไม่ค่อยมีเวลาว่างออกไปเที่ยวข้าง นอก เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเรียนและการทำงาน

คนเรานั้นต้องดิ้นรนอย่างสุดชีวิต จึงจะสามารถปืนไปในที่ สูงขึ้นได้

อาจเป็นเพราะเมื่อวานเธอถูกยศพลจู่โจมถามเรื่องแผนใน อนาคตของเธอ หรืออาจเพราะว่าเมื่อเช้านี้วิดีโอคลิปพวก นั้นทำให้จิตใจของเธอยุ่งเหยิง ตอนนี้เธอจึงไม่มีวิธีที่จะ ทำให้จิตใจสงบ พอใจว้าวุ่นก็ทำงานทําการไม่ได้

เธอหลับตาลง เงยหน้าขึ้นรับพลังงานจากแสงแดด

มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของจารวี เธอ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ

เบื้องหน้าของเธอ มีเด็กผู้ชายตัวสูง ดูๆแล้วน่าจะอายุแปด เก้าขวบ

ภายใต้ผมที่คําขลับของเขาคือใบหน้าที่หล่อเหลาแต่ไร้ เดียงสา พร้อมดวงตาคู่สวยถี่หรี่ลงจนเหมือนดอกท้อ
เขาสวมเสื้อโค้ทตัวยาวสไตล์อังกฤษที่ดูมีระดับ ทีคอ มีผ้าพันคอลายตารางหมากรุก ผ้าพันคอนี้เป็นผ้าพันคอ แฮนด์เมดของตระกูลที่เชี่ยวชาญด้านเสื้อผ้าตระกูลหนึ่งใน ประเทศอิตาลี

เสื้อผ้าชุดนี้ไม่ได้มีมูลค่าถูก ๆ คนสวมกลับเป็นแค่เด็กตัว เล็ก ๆ ยิ่งไปกว่านั้น ชุดดูดีตระการตาและมีออร่ามาก ราวกับ เป็นทายาทของกษัตริย์ยังไงยังงั้น

เด็กน้อยเอามือไพล่กันไว้ข้างหลัง เอียงคอ แล้วมองจาร ด้วยความสงสัย

จารวีมองเด็กคนนี้นิ่งๆ แม้ว่าเธอจะพบเขาเป็นครั้งแรก แต่ ในใจกลับมีความรู้สึกแปลก ๆ เธอรู้สึกเหมือนกับว่าเคยเจอ เด็กคนนี้มาก่อน

เด็กคนนี้…..

ทั้งสองจ้องตากันเป็นเวลานาน และท้ายที่สุดแล้วจารวี ทนไม่ไหว

“คิกๆ”จารวีหัวเราะ “หนุ่มน้อย ทำอะไรของเธอน่ะ”

พอมองใบหน้าและดวงตาของเขา ก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นคน เอเชีย จารวีเลยพูดภาษาไทยกับเขาโดยตรง

พอพูดจบก็เห็นว่าเขาไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไร จารวี จึงยิ้ม และถามเป็นภาษาฝรั่งเศส เธอชื่อว่าอะไรจ้ะ พ่อหนุ่มน้อย”

นี่คงเป็นลูกของคนไทยที่เกิดในฝรั่งเศส และเติบโตใน ฝรั่งเศส ก็คงจะพูดภาษาบ้านเกิดตัวเองไม่ได้แน่เลย

เด็กน้อยคนนั้นยิ้ม พอยิ้มก็เผยให้เห็นฟันขาวๆ ที่ทำให้คน ที่เห็นรู้สึกถึงแสงแดดที่สวยงาม

ที่พิเศษก็คือสายตาที่ดูลึกซึ้งมาตั้งแต่กำเนิด เด็กคนนี้มี เสน่ห์แบบผู้ชายมากๆ แค่สายตาที่มองมาของเขา ก็ดึงดูด เด็กผู้หญิงได้แล้ว

“หวัดดี คนสวย ผมชื่อวิตต์! ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เขาใช้ ภาษาไทยตอบเธอด้วยสำเนียงที่หมือนคนไทยแท้ๆ

“สวัสดีจ้ะ พวกเราเคยเจอกันมาก่อนรึเปล่า” จารวีพูดแล้ว ก็ยิ้ม เธอมีประสบการณ์ถูกผู้ชายหยอดมามากมาย แต่นี่เป็น ครั้งแรกที่เธอถูกเด็กผู้ชายหยอด

“หึๆ เคยสิครับ ผมเคยเห็นคุณในทีวี ผมชื่นชมคุณมากเลย ดังนั้น เพื่อเป็นการแสดงความรักของผม กรุณารับดอกไม้ ของผมด้วยนะครับ”

วิตต์ทําเหมือนกำลังเล่นละครอยู่ เขาหยิบดอกกุหลาบสี แดงสดบานสะพรั่งที่เหน็บไว้หลังกางเกงของตนออกมา

จาร มองมองแล้วมองอีก นี่ดวงความรักของเธอดีขนาดนี้ เลยเหรอ
เมื่อวานเพิ่งจะได้รับดอกกุหลาบเต็มคันรถ วันนี้ก็ได้รับ ดอกกุหลาบจากเด็กที่น่ารักแบบนี้อีก

จารวีรับดอกกุหลาบมาจากวิตต์โดยไม่เกรงใจเลยแม้แต่ น้อย จากนั้นเธอก็หยิบมันมาอยู่ใต้จมูกของตน

“หอมจัง ขอบคุณนะ วิตต์ …แล้วพ่อแม่เธอล่ะ”

“ไม่ค่อยแน่ชัดเท่าไหร่ แต่ผมไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ อย่ามา ยุ่งเรื่องของผู้ใหญ่”

“อื้อ เข้าใจแล้ว ที่แท้เธอก็โตแล้วนี่เอง เธออายุเท่าไหร่ แล้วล่ะ”

วิตต์มองเธอด้วยสายตาที่ปลิ้นปล้อนและเจ้าเล่ห์ “อายุ กับสัดส่วนของผมเป็นความลับครับ!”

“คิกๆ” จารวีหัวเราอย่างมีความสุข ทำไมเจ้าเด็กนี่ถึงทำให้ คนมีความสุขได้ขนาดนี้กันนะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ