ยั่วสวาทนายปีศาจจอมหิ่น

ตอนที่ 190 ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว



ตอนที่ 190 ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว

เราเลิกกันเถอะ !! เราเลิกกันเถอะ !!

ในสมองของจารวีมีแต่เสียงที่เยือกเย็นของยศพล เหมือน เสียงฟ้าผ่าที่ทำให้เสียวทั้งนภาและกระตุ้นให้เกิดฟองคลื่น เป็นระลอกๆ รู้สึกว่าตัวเองช่างโง่เขลา

เธอคิดว่า เธอเป็นภรรยาของเขามาตั้งนานแล้ว เธอคิดว่า เขาจะรักเธอสุดหัวใจเหมือนที่เธอรักเขา เธอคิดว่า พวกเขาทั้งคู่จะอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่าได้ เธอคิดว่า ความรักจะยั่งยืนตราบชั่วฟ้าดินสลาย

แต่นึกไม่ถึงเลยว่า หลังจากที่เธอสูญเสียทุกอย่างไปแล้ว เธอก็ยังต้องสูญเสียเขาไปด้วย

ทำไม.. ” ” จารวีเงยใบหน้าเล็กๆ ของเธอขึ้น น้ำตาคลอ เต็มเบ้า เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา

จริงๆ ก็รู้อยู่แล้วว่าคำตอบอยู่ตรงหน้า แต่เธอก็กลับไม่ ยอมอยากเลิกอยู่อย่างนั้น

ยศพลยิ้มมุมปากอย่างเยาะเย้ยเหน็บแนม

“ทำไมน่ะเหรอ นี่ยังจำเป็นต้องถามอีกเหรอ ไม่มีเพราะอะไรทั้งนั้น…”

ยศพลพูดจบ ก็ไม่หันกลับมามองเธออีกเลย ทั้งยังเดิน ตรงออกจากห้องนอนไป

เดินไปได้ครึ่งทาง เขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ ก็เลย หยุดชั่วขณะ แล้วจากนั้นเขาก็เดินตรงไปยังประตูใหญ่

จารวีรีบวิ่งมาขวางทางยศพล

“แสดงว่า นายไม่ต้องการฉันแล้ว ใช่มั้ย…

ยศพลก้มหน้า แล้วตวาดออกไปอย่างหงุดหงิดรำคาญ “เมื่อก่อนเธอฉลาดหนิ แล้วทำไมตอนนี้โง่ซะแล้วล่ะ”

จารวีส่ายหัว น้ำตาไหลรินออกมาไม่หยุด

“ฉันต้องการได้ยินจากปากของนายเอง นายไม่ต้องการ ฉันแล้วใช่มั้ย”

ทันใดนั้นยศพลก็ผลักจารวีออกไป จนจารวีล้มลงไปที่พื้น อย่างแรง

จารวีใช้แขนได้แค่ข้างเดียว ก็เลยไม่สามารถประคองตัว ได้ ดังนั้นจารวีก็เลยล้มไปกองอยู่กับพื้น

เขาผลักเธอเหรอ ทำไมเขาถึงกล้าผลักเธอล้มลงไปแรง ขนาดนั้น เขาจริงจังจริงๆ เหรอ
จาร กลั้นน้าตาที่ไหลรินออกมาเต็มหน้าเอาไว้ไม่ได้

เธอนอนอยู่บนพื้น ยศพลยืนมองเธออย่างเย็นชาอยู่ ที่ประตู เขาไม่ขยับเลยสักนิด ไม่แม้แต่ที่จะเข้ามาช่วย ประคองเธอขึ้นมา

ทันใดนั้นจารวีก็เข้าใจอะไรบางอย่าง เธอพยายามที่จะเก ขึ้นมาจากพื้นอย่างช้าๆ

“ได้ ฉันเข้าใจแล้ว ฉันควรที่จะเข้าใจตั้งนานแล้ว ยศพล เลิกก็เลิก นายคิดว่าฉันจะตัดใจจากนายไม่ลงงั้นเหรอ”

จารวีลุกขึ้นมา แม้แต่ฝุ่นที่ติดเสื้อผ้าก็ยังไม่เช็ด เธอมอง ไปทียศพลอย่างดื้อรั้นหัวแข็ง

“ฉันไม่มีวันที่จะให้อภัยนาย”

จารวีพูดจบก็หันตัว แล้วก้าวยาวเดินจากไป

ยศพลยืนอยู่ที่เดิม มองร่างที่ผอมบางค่อยๆ เดินจากไป ไกล เขาค่อยๆ ขมวดคิ้วที่เข้มคมดูหล่อเหลา

ในใจของจารวีเต็มไปด้วยอารมณ์ที่โกรธจัด เธอก้าวยาว เดินจากไป พลางเดินพลางเช็ดน้ำตา

เธอยังคาดหวังว่ายศพลจะกลับมาซื้อเธอเหมือนเมื่อก่อน ทุกครั้งหลังจากที่ทะเลาะกันเสร็จ เขาจะรีบมาตามตื้อเธอ ขอร้องเธอให้ยกโทษให้เขา…
แต่ทว่า เธอยิ่งเดินยิ่งไกลออกไป ข้างหลังไม่มีลาดเลา การเคลื่อนไหวใดๆ ตามมาเลย

ความรู้สึกถูกทอดทิ้งภายในใจของเธอยิ่งรู้สึกมากขึ้น เรื่อยๆ บางทีครั้งนี้เขาอาจจะไม่ได้รักเธอแล้วจริงๆ

ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆ ตัว ค่อยๆ สลัวไปอย่างช้าๆ จาร วีรู้สึกท้อแท้หมดขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด เธอรู้สึกผิดหวังกับสิ่งที่ ทำไปทั้งหมด

เธอใจร้อนเกินไป เธอไม่ควรถามไม่ถามความจริงให้มัน ชัดเจน แล้วมาวิ่งหนีแบบนี้

ยศพลก็ชอบรักษาหน้าตาศักดิ์ศรีของตัวเองขนาดนั้น เธอ ไม่ควรทําแบบนี้

จารวีค่อยๆ เดินไม่ไหว จนในที่สุดเธอก็หยุดเดิน ท่ามกลางความมืดเลือนลาง มีรถคันหนึ่งตามเธอมา

เธอค่อยๆ ดูออกว่ารถคันดังกล่าวเหมือนเป็นรถของยศพล เธอหยุดเดินยืนอยู่ริมถนนแล้วชูมือโบกไปโบกมา

อีตาบ้า ตอนนี้นายคงสำนึกผิดแล้วสินะ!

ในขณะที่จารวีกำลังตื่นเต้นดีใจอยู่นั้น รถของยศพลก็มา หยุดจอดอยู่ตรงหน้าของจารวี
ยศพลหยุดอยู่ตรงนั้น แล้วเดินออกมาจากรถ จารวียังโกรธ เลยไม่หันหลังกลับไปมองเขา เธอรอให้เขามาขอโทษเธอ

ผ่านไปนานมาก ยศพลก็พูดอย่างเย็นชาว่า “นี่คือกระเป๋า เสื้อผ้าของเธอ เสื้อผ้าของเธออยู่ข้างใน

จารวีเงยหน้าอย่างตกตะลึง ในมือของยศพลถือกระเป๋าใบ หนึ่ง เขารุนกระเป๋าไปตรงหน้าจาร

“ยศพล นายมันคนเลว…”

ยศพลไม่ได้พูดอะไร มองจารวีไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ กลับไปขึ้นรถ

รถสีดำขับจากออกไปอย่างรวดเร็ว

จารวีโมโหจนอีกนิดเดียวสมองจะระเบิด อีคนเลว อียศพล อียศพลคนเลว นายยังเลวกว่านี้ได้อีกมั้ย

คาดไม่ถึงเลยว่านายไม่แม้แต่จะกลับมา อีเลว อีคนเลว ฉันจะไม่ให้อภัยนายอีก

ในขณะที่จารวีกำลังโกรธกระทืบเท้า เสียงโทรศัพท์ก็ดัง ขึ้นมา
เธอตกใจ คิดว่าเป็นยศพลที่โทรมา ก็เลยจะกดตัดสายไป

แต่ว่า เมื่อเห็นเบอร์โทร กลับไม่ใช่เป็นยศพล แต่เป็นมนต์ ตรีที่โทรมา

“วี กำลังทำอะไรอยู่เหรอ” เสียงอันอ่อนโยนของพี่มนต์ดัง ออกมาจากในมือถือ

“พี่มนต์..” จารวีพูดออกมาพร้อมกับร้องไห้

เหมือนพบเจอญาติสนิทที่จากกันมานาน เธอร้องไห้ออก มานําตาไหลเป็นทาง

“พี่มนต์ ช่วยวีด้วย….”

“เป็นอะไรไป วี วีอยู่ไหน วีไม่ต้องกลัวนะ พี่จะไปรับ ….”

“ฮือๆๆๆ …พี่มนต์ ไม่รู้ว่าวีอยู่ที่ไหน ที่นี่มันมืดๆ วีอยู่คน เดียว วีกลัว…” จารวีร้องไห้อย่างทำอะไรไม่ถูก ความจริง แล้วเธอคาดหวังว่าคนที่รับโทรศัพท์นั้นเป็นยศพล แต่ไม่ใช่ มนต์ตรี

“ใจเย็นๆ ก่อนนะ ลองเดินไปดูก่อนว่าแถวๆ นั้นมีป้ายรถ เมล์รึเปล่า ถ้ามีท่ารถ วีไปยืนอยู่ที่เสาไฟข้างทางที่สว่างๆ นะ เดี๋ยวอีกไม่นานพี่ก็ไปถึงแล้ว….

“ค่ะ!” จารวีร้องไห้เสียงเบา
ในที่ห่างไกล มีร่างเงาดำ ยืนอยู่ในที่จารวีมองไม่เห็น แวว ตาที่ดำมืดคอยจ้องมองเธออยู่ตลอดเวลา

ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง มีรถสีขาวขับออกมาอย่างรวดเร็ว จากในความมืด

จาร รีบโบกมือเรียกทันที “พี่มนต์ วีอยู่นี่…

มนต์ตรีรีบเลี้ยวรถเข้าข้างทางอย่างรวดเร็ว เขาลงจากรถ แล้วรีบเข้ามาประคองจารวี

“ไม่เป็นไรใช่มั้ย” เกิดเรื่องอะไรขึ้น ดึกดื่นขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงมายืนอยู่ตรงนี้

บริเวณรอบๆ บรรยากาศมืดไปหมด ผู้หญิงยืนอยู่ตรงนี้คน เดียว มันอันตรายมาก

พอจารวีเงยหน้าขึ้นมา น้ำตาก็ไหลไม่หยุด “พี่มนต์ ยศ พลเขา…เขาไม่ต้องการวีแล้ว”

มนต์ตรีถอนหายใจเบาๆ

“พี่เคยบอกไว้ตั้งนานแล้วหนิ คนเจ้าชู้แบบเขาน่ะเชื่อใจไม่ ได้ แต่ยังโชคดี ที่ตอนนี้วีไม่ได้รับบาดเจ็บ ไป ไปบ้านพี่กัน ก่อนนะ!”

จารวีขึ้นรถไปกับมนต์ตรี มนต์ตรีค่อยๆ ออกรถอย่างช้าๆ
จาร หันกลับไปมองรอบ ในมุมความมืด เธอหวังว่าจะได้ เห็นร่างของยศพล

เธอหวังว่า ครั้งนี้จารวีก็แค่โกรธมากจึงพูดจาแบบนี้ออกมา เธอคาดหวังว่าจาร จะกลับมาหาเธอ

แต่ว่า เธอกลับมองไม่เห็นอะไรเลย

“วี พวกเธอทะเลาะกันเหรอ”

จารวีก้มหน้าด้วยสีหน้าที่เศร้าสลด ผ่านไปเวลานานถึงจะ เงยหน้าขึ้นมามองมนต์ตรี

“พี่มนต์ พี่ดูสภาพวีตอนนี้สิ ดูน่าเกลียดมากเลยใช่มั้ย”

มนต์ตรีเอียงคอตั้งใจมองจารวี แล้วยิ้มอ่อนๆ

ทำไมถึงพูดแบบนี้ล่ะ วีในใจของพี่เป็นเจ้าหญิงที่สวย ที่สุดตลอดไปนะ”

จารวีพูดอย่างทุกข์ใจว่า “รู้อยู่แล้วว่าพี่ต้องพูดแบบนี้”

“ฮะฮะ พี่เป็นผู้ชายคนนึง พี่ก็คิดแบบนี้แหละ ถ้าวีไม่เชื่อ ก็ ลองไปถามผู้ชายคนอื่นดูได้นะ”

แน่นอนว่าตอนนี้ถึงแม้ว่าจารวีจะไม่มีผมแล้ว แต่ว่าหมวก ใบเล็ก ๆ ลายดอกไม้ที่เธอสวมใส่อยู่ และใบหน้าที่ยังคงดู ใสสะอาดของเธอ ผิวพรรณที่เปล่งปลั่ง นอกจากขอบตาที่แดง ก็ไม่มีอะไรผิดปกติไปเลย

ผู้หญิงคนนี้ ผิวพรรณช่างงดงามมีสุขภาพดีมาก ถึงแม้ว่า เธอจะประสบพบเจอโรคร้าย แต่ผิวพรรณของเธอก็ไม่ได้ถูก ผลกระทบข้างเคียงใดๆ

แต่ทว่า จุดนี้มันไม่สำคัญแล้ว ที่สำคัญก็คือ เธอคือจาร วี เธอคือจารวีผู้ที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าเธอจะเปลี่ยนไปใน สภาพยังไงก็ตาม เขาก็ไม่รังเกียจเธอ

ขี้เหร่มากกว่าเดิมนิดนึง ก็จะไม่มีใครมาแย่งเธอไปจากเขา

อีก

“พี่มนต์ ไม่ไปบ้านพี่ พี่ไปส่งที่บ้านของวีเถอะ!”

บ้านหลังนั้น หลังจากที่พ่อเสียชีวิตไป เธอก็ยังไม่เคย กลับไปที่บ้านหลังนั้นเลย

แต่ว่า ยังไงซะ ที่นั่นก็คือบ้านของเธอ เธอไม่อยากไปอยู่ ในบ้านของมนต์ตรี ไม่อยากอาศัยอยู่ร่วมกับสรีย์วัลย์

“อืม ก็ได้ แต่ว่า ไม่ต้องคิดอย่างอื่นแล้วนะ บางทียศพล อาจจะคิดได้ เขาอาจจะกลับมาหาวีก็ได้นะ”

มนต์ตรีพูดอย่างซอฟต์ๆ

รถจอดอยู่ที่บริเวณประตูทางเข้า จารวีลงจากรถ เธอมักจะ หันไปมองข้างหลังที่มีแต่ความมืดอยู่บ่อยๆ
ไม่รู้ว่าทำไม เธอมักรู้สึกว่าเหมือนมียศพลคอยอยู่ข้างหลัง เธอ

มนต์ตรีปิดประตูรถ แล้วช่วยจารวีถือกระเป๋าเสื้อผ้า

“มาอยู่ที่นี่ ก็ระวังตัวเองด้วยนะ อย่าหกล้มล่ะ….

มือหนึ่งของเขาถือกระเป๋าเสื้อผ้า อีกมือหนึ่งประคองจารวี ไว้ เกรงว่าเธอจะล้มลงอีก

จารวีเดินขึ้นไปอย่างเลื่อนลอย นานมากแล้วที่เธอไม่ได้ กลับมาที่นี่ เลยรู้สึกว่าที่นี่มันช่างแปลกตา

เมื่อมนต์ตรีพาเธอมาหยุดอยู่ตรงที่ประตู เธอถึงตระหนัก ได้ว่า เดิมทีที่นี่เคยเป็นที่ที่เธออาศัยอยู่มาตลอด

เมื่อเปรียบเทียบกับคฤหาสน์ของยศพล ที่นี่มันธรรมดา ทั้งเก่าทั้งปรักหักพัง ทางเดินก็ยังแคบอีกด้วย

“วี เหม่ออะไรอยู่น่ะ” มนต์ตรีถามด้วยเสียงเบา

“อ้อ ไม่มีอะไรค่ะ แค่คิดถึงเมื่อก่อน ตอนที่พ่อยังอยู่…

จารวีฝืนยิ้ม เธอล้วงกุญแจออกมา มนต์ตรีเอากุญแจมา จากเธอ เพื่อที่จะไขประตูให้

“เดี๋ยวพี่เปิดให้ดีกว่า วีไปอยู่หลังพี่…
มนต์ตรีผลักกระเป๋าเข้าไป แล้วประคองจารวีไปนั่งบน โซฟา

“วี วีอยู่ที่นี่คนเดียวมันไม่ค่อยจะสะดวกนะ กลับไปกับพี่ เถอะ บ้านพี่คนเยอะหน่อย…” มนต์ตรีจ้องตาจารวีอย่างอ่อน โยน

จารวีสายหัวเบาๆ “พี่มนต์ มันไม่ดีจริงๆ แล้วก็ไม่มีอะไร หรอก วีอยู่คนเดียวก็ดีเหมือนกัน”

ในบ้านไม่มีคนอาศัยอยู่มาเป็นเวลานานมาก ภายในเต็ม ไปด้วยกลิ่นรา มนต์ตรีก็เลยเปิดหน้าต่างออกทุกบาน

“วีนั่งดูทีวีตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวพี่จะไปเก็บของสักหน่อย”

มนต์ตรีเดินเข้าไปในห้องครัวอย่างรีบร้อน ครู่หนึ่งก็เดิน ออกมา

“ของในตู้เย็นทั้งหมดเน่าหมดแล้ว เดี๋ยวพี่ไปซื้อของกิน ให้วีสักหน่อย แล้วพี่จะกลับมานะ!”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ พี่มนต์นั่งพักก่อนเถอะค่ะ ไม่หิว…

“ได้ไงล่ะ วีรอพี่แป๊บนะ!”

มนต์ตรียังคงยืนกรานที่จะออกไปซื้อของ จารวีไม่ได้ ปฏิเสธอะไร ทำได้แต่เพียงปล่อยให้เขาไป
ในใจของเธอวุ่นวายสับสนมาก เธอยังกุมมือถือไว้รอ โทรศัพท์จากเขาตลอดเวลา

บางทีอาจจะเหมือนเมื่อก่อนก็ได้ เขาจะโทรมาหาเธอแล้ว พูดว่า

“จารวี ฉันก็แค่แกล้งเธอเฉย เอง เธอกลับมาเธอ!”

เธอนั่งอยู่บนโซฟาเงียบๆ มือเขี่ยมือถือไปมา เธอทนไม่ ไหวคิดอยากจะโทรไปหาเขา

คิดมานานแล้ว แล้วก็ทนไม่ไหวแล้วด้วย!

ได้ ยศพล เลิกก็เลิก จะมีอะไรที่ไม่ดีไปกว่านี้อีกมั้ย จารวีตัดสินใจแล้ว แต่ก็เผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูอย่างเร่งรีบทำให้เธอตกใจตื่น เธอรีบลุกเด้งตัวขึ้นมา วิ่งไปเปิดประตู คนที่จิตใต้สำนึก คิดถึงก็คือยศพล

ต้องเป็นเขาแน่ๆ!!

“ยศพล นายมันคนเลว ฉันรู้มาตั้งนานแล้ว…” จารยิ้ม แล้วตะโกนออกมา แต่พอเธอได้เห็นหน้าของคนตรงหน้า ชัดๆ เธอก็เดินถอยหลังเข้ามาข้างในบ้านอย่างทำตัวไม่ถูก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ