ตอนที่ 29 ไม่มีใครอื่นนอกจากเขา
ต้มแก่ส่งเสียงร้องออกมาอย่างกับหมูถูกฆ่า ปอถูก กลุ่มบอดี้การ์ดจับตัวไว้ เมื่อเห็นสถานการณ์กำลังแย่ เขา จึงรีบพูดออกมา “ยะอยู่ในห้องขัง…”
ยศพลเตะต้มแก่ไปที่นึงจนกระเด็น หันไปหาปอแล้วพูด ว่า “แกมากับฉัน”
นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีใครกล้าแตะต้องผู้หญิงของยศพล พวกมันไม้อยากจะมีชีวิตอยู่แล้วรึยังไงน่ะ?
ปอสั่นสะท้านด้วยความกลัวพลางเปิดประตูห้องที่กักขัง จารวิจารวิที่น่าสงสารนอนอยู่บนเตียงเหล็ก ดูเหมือนจะไม่ ค่อยมีสติ
ยศพลอุ้มจารวีขึ้นมา
จารวีผู้น่าสงสารมีผมยาวที่ยุ่งเหยิงและใบหน้าที่ซีด เผือดเหมือนกับตอนที่อยู่เกาะมัลดีฟส์ในครั้งนั้นไม่มีผิด
ใบหน้าทางด้านซ้ายมีรอยเขียวช้ำ เธอลืมตาขึ้นมาจ้อง มองเขาแล้ว เธอไม่สามารถพูดออกมาได้แม้แต่คำเดียว
ยศพลเตะไปที่ปอทีนึง แล้วเตะปอพลิกไปพลิกมาบน พื้น จากนั้นก็คำรามออกมาดั้งราชสีห์ “ใครเป็นคนทำ”
ปอไปหลบที่มุมกำแพง “คือ คือสารวัตรดัมแก่ให้ผมทำครับ”
ยศพลเตะปอซ้ำอีก จนปอมึน
ตอนที่ยศพลอุ้มจารวีออกมา
ก็มีตำรวจจำนวนมากบุกเข้ามาในสถานีตำรวจ
คนที่นำมาคือผู้ชายวัยกลางคนที่ดูมีเกียรติน่าเคารพ พอ เห็นยศพลเดินออกมา เขาก็รีบฉีกยิ้มต้อนรับทันที
“ประธานยศพล นี่เป็นการเข้าใจผิดครับ เป็นความผิดขอ คนใต้บังคับบัญชาของผมเอง”
ยศพลพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “หัวหน้าตำรวจโจว เรื่อง นี้จบลงแค่นี้ไม่ได้หรอกนะครับ ตำรวจสองนายนี้ อย่าให้ผม เห็นพวกเขาในเมืองเอสนี้อีกนะครับ”
หัวหน้าตำรวจโจวโค้งคำนับอย่างประจบสอพลอ พลาง พูดว่า “ประธานยศพลคงไม่รู้ในบางเรื่องนะครับ เรื่องนี้ เบื้องบนบอกว่าให้จบแค่นี้แหละครับ พวกเขาก็แค่ทำพลาด ไปก็แค่นั้น คิดซะวาไม่ร้ายแรงขนาดมีใครตายละกันนะครับ พวกเราก็จะ”
ยศพลทำหน้าขรึม เตะโต๊ะคว่ำไปที่นึ่ง
“ใคร?”
“นั่นน่ะมัน…”หัวหน้าตำรวจโจวปาดเหงื่อไปที่นึง ถึงเขา จะเป็นหัวหน้าตำรวจ แต่ก็เป็นหัวหน้าได้ก็เพราะบ้านโพธิ์ สูง.ผู้บังคับบัญชาของเขาก็ไม่อยู่มาสักพักแล้ว จึงต้อง เผชิญหน้ากับยศพลโดยตรง เขาพูดด้วยเสียงที่ต่ำว่า”คือ ว่าลูกสาวของนายกเทศมนตรีชยิน…คือว่าคุณจารวีชนคุณ สุรีย์วัลย์โดยไม่ทันระวัง เธอเลยให้ยามพามาส่งที่นี่ เรื่อง นี้เป็นการเข้าใจผิดโดยแท้ครับ ถ้าเกิดรู้ว่าหล่อนเป็นผู้หญิง ของประธานยศพล พวกเราก็คงไม่มีความกล้าที่จะกล้าทำ แบบนี้หรอกครับ”
นัยน์ตาของยศพลมีประกายที่เย็นชาและเฉียบคม นายก เทศมนตรีชยิน !
หลังจากยศพลเดินจากไป สารวัตรต้มแก่ก็ปืนขึ้นมา จากพื้น หน้าบวมเป่งราวกับหัวหมู ดั่งอ้วกเลือดสดๆออกมา ใบหน้าที่เจ็บ ปวดทรมานมองไปที่หัวหน้าตำรวจโจวอยาก ลำบากใจ
“หัวหน้าโจว นี่มันอะไรกัน ไม่ใช่ว่าพวกเราเพิ่งจะทำให้ นายกเทศมนตรีชยินไม่พอใจเหรอ..”
หัวหน้าตำรวจโจวหน้านิ่ง เตะที่กันของต้มแก่ไปที่นึง
“แกนี่มันเข้าใจยากจริง ทำอะไรก็ไม่แยกแยะถูกผิด นายก เทศมนตรีชยินนะ แกทำให้ท่านหงุดหงิด/วุ่นแล้ว ที่เป็นไป ได้มากที่สุดคือไม่มีงานทำ แกไปทำให้เขาโกรธแบบนี้คง ไม่มีชีวิตรอดแล้วล่ะ !
ต้มแก่ตกใจกลัวจนตัวสั่น ถามออกไปด้วยความกังวล “เขาคือใครเหรอครับ?”
“ประธานยศพลแห่งบริษัทSTกรุ๊ปจำกัด คุณยศพล ลูกชายคนที่สามของตระกูลโพธิสูง พ่อของเขาคือคนที่ มีอิทธิพาลมหาศาลในละแวกยูเรเชีย แค่ขยับตัวก็ทำให้ เศรษฐกิจทั้งโลกต้องสะเทือน.”
ต้มแก่ร้อง อ้า ออกมา ทั้งตัวแข็งเย็นเฉียบดังน้ำแข็ง ครั้งนี้เขาทำอะไรลงไป
“ดีแล้ว แกกับปอรีบเก็บข้าวของแล้วออกจากที่นี่ซะ รีบหนี ไปจากเมืองเอสแห่งนี้ ทางที่ดีก็ปิดบังชื่อจริงแล้วเปลี่ยน นามสกุลซะ เพื่อรักษาชีวิตพวกแกไว้…”
ต้มแก่ตกใจจนหน้าซีด แทบจะปัสสาวะราดกางเกง
ในโรงพยาบาล จารวีได้รับการตรวจเช็คร่างกายตั้งแต่ หัวจรดเท้า
ที่จริงแล้วเพียงแค่โดนตำรวจสองนายฟาดไม่ได้ทำให้ บาดเจ็บหนักมาก แต่เพราะไม่ได้ทานอะไรมาสามวันจนเป็น ลมต่างหาก ที่ทำให้เธอออยู่ในขีดอันตราย
“คุณยศพลครับ สภาพร่างกายของคุณจารวีไม่ได้นับว่า แย่มากนัก แต่ทว่าการที่ไม่ได้รับอาหารมาสามวัน อวัยวะ และระบบต่าง ๆ ในร่างกายก็อ่อนแอลง จำเป็นที่จะต้องให้ น้ำเกลือเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของร่างกาย ในระยะนี้ก็ต้องทานอาหารที่มีโภชนาการสูงเพื่อเสริมสร้างให้มี ภูมิคุ้มกันโรค”
ยศพลพยักหน้าด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก “อีม ขอยาที่ดี ที่สุดด้วยนะ”
หมอยิ้มแหยๆ ไม่กล้าที่จะโต้แย้ง ได้แต่พยักหน้าแล้ว
จากไป
ในห้องคนไข้
จารวียังคงนอนให้น้ำเกลืออยู่ แต่สภาพจิตใจของเธอนั้น ดีขึ้นมากแล้ว
ยศพลมองแล้วตำหนิเสียงดังเธอ”จารวี เธอนี่เยี่ยมจริง ๆ ! ไม่ได้เจอมาสามวัน เธอก็ไปเป็นลมอยู่ในคุกซะแล้ว”
จารวียิ้มแห้งๆ หลังจากการเข้าห้องสอบสวน พวกเขาก็ คันตัวแล้วยึดโทรศัพท์ของเธอไป ไม่ยอมให้เธอติดต่อกับ คนที่บ้านเลย
โลกใบนี้ช่างตลกยิ่งนัก คนที่เธอเกลียดที่สุดก็คือยศพล นึกไม่ถึงเลยว่าในตอนที่เธอตกอยู่ในอันตราย คนที่ช่วย เหลือเธอได้ก็มีแค่ยศพลเพียงคนเดียว
“ขอบคุณน้า…”
ยศพลชอบท่าทางที่จารวียอมแพ้ เขาก้มหัวไปแล้วยื่นมือมาสัมผัสที่คางของเธอ
เยัยนี่ ผอมลงไปเยอะเลย
เดิมที่เขาโกรธมากเพราะครั้งก่อนเธอไม่ยอมรับสายเขา แต่ตอนนี้ ความโมโหโกรธาของเขาได้หายไปหมดสิ้น
ดูเหมือนมีอะไรผิดปกติไป ตั้งแต่มีจารวี เขาก็ไม่ค่อยได้ สนใจในผู้หญิงคนอื่นอีกเลย
เพียงแค่ได้มีสัมพันธ์สวาทกับผู้หญิงคนอื่นเขาก็เอา พวกหล่อนมาเปรียบเทียบกับจารวีโดยไม่รู้ตัว
แม้แต่จูบก็ยังทำให้รู้สึกสบายใจเท่าจูบกับจารวีไม่ได้
ยศพลก้มหัวลง จุมพิตไปที่ริมฝีปากเล็ก ๆของจารวี การ ดูดปากอย่างดุร้าย รสชาติหอมหวานเกลื่อนกลาดในทุก โสตประสาทของเขา
นั่งตัวดีนี่ช่างทำให้คนยับยั้งชั่งใจไม่ได้จริง ๆ
ยศพลหอบหายใจรุนแรงมากขึ้น จารวีก็ครางเสียงต่ำ ออกมาเบาๆ
ยศพลผละออกจากริมฝีปากของเธอสายตาของเขามอง ไปที่เธอ แล้วออกคำสั่งด้วยความหยิ่งยโส “จากนี้ไป ฉันไม่ อนุญาตให้เธอวางสายฉัน ไม่อนุญาตให้ปิดเครื่อง เข้าใจ มั้ย?”
จารวีกระซิบซุบซิบเบาๆว่า “เผด็จการจริงๆ”
“มีอะไร?” ยศพลโกรธจนขึ้นเสียง
จารวียิ้มแหยๆ “เปล่า ไม่มีอะไร ฉันแค่บอกว่ามือถือไม่มี แบตแล้ว”
“อืม งั้นก็เปลี่ยนเครื่องใหม่ ถ้าเธอหายดีแล้ว ฉันจะพาไป ซื้อ..
“อ่า ก็ได้ ฉันอยากจะโทรหาพี่สาวฉันสักหน่อยนะ .”จารวี กระพริบตารัวๆอย่างจงใจ แสร้งทำเหมือนว่าตนไร้เดียงสา
เธอค่อยๆคันพบว่าการอยู่กับยศพลที่ดุร้าย เธอเล่นตาม น้ำ ก็จะอยู่ด้วยกันได้อย่างง่ายดาย
ยศพลต่อสายโทรศัพท์มือถือ แล้วโยนให้จารวี
“พี่ นี่วีเองนะ..”
ยุพินที่อยู่ปลายสายโต้ตอบด้วยเสียงที่รีบร้อนวีเธอ เป็นยังไงบ้าง? เกิดเรื่องอะไรขึ้น? โตป่านนี้แล้วยังทำให้พี่ เป็นห่วงอีกนะ”
“อ่า ไม่เป็นไรสักหน่อย เป็นเพราะฉันไม่ระวังเองเลย โดนตำรวจกักตัวไว้สามวัน ตอนนี้ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว”
“อืม ก็ดีแล้ว พี่ไปหาเธอที่โรงพยาบาลนะ”
“ไม่ต้องหรอก พี่วันนี้ฉันต้องอยู่ให้น้ำเกลือ พรุ่งนี้ก็กลับ บ้านได้แล้ว พี่ไม่ต้องมาโรงพยาบาลหรอก ในโรงพยาบาล มีเชื้อโรคเยอะ พี่อย่ามาเลย เดี๋ยวจะติดเชื้อเข้า”
พอฟังคำเตือนของจารวี ยุพินก็ล้มเลิกความคิดที่จะไป
โรงพยาบาล
ข้างนอกโรงพยาบาล ยศพลกำลังคุยกับผู้หญิงสวมชุด พนักงานออฟฟิศสีดำ
“ประธานยศพล พวกเราคันเจอแล้วค่ะ บ่ายวันพรุ่งนี้คุณ สุรีย์วัลย์จะไปจัดพิธีหมั้นที่โรงแรมกุหลาบขาวค่ะ คู่หมั้น ของเธอคือคุณสุพจน์ ลูกชายคนเดียวของบริษัทชั่วกรุ๊ป จำกัด ที่อยู่ดี ๆ ก็มีชื่อเสียงโด่งดังในประเทศอเมริกาในช่วงปี 2-3ปีมานี้”
ยศพลยิ้มมุมปากด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย
บริษัทซัวกรุ๊ปจำกัดคิดจะเป็นคู่แข่งของเขาเป็นการรน หาที่ตายเอามากๆ
จารวีเอียงตัวมา มองเห็นแผ่นหลังที่องอาจออกไปที่ ด้านนอกโรงพยาบาล ยศพลยืนขึ้นอยู่ข้างนอก แล้วหันไป มองเขาทันที
จารวีเหมือนกับว่ารู้สึกผิด รีบร้อนหันหัวกลับมา
มุมปากของยศพลเผยรอยยิ้ม? ก้าวเท้ากว้างราวกับผีพุ่งได้มุ่งไปที่ด้านนอกโรงพยาบาล
เยัยบ้าน ยังจงใจแสร้งเป็นไม่เดือดเนื้อร้อนใจอีกนะ
บ่ายวันต่อมา ยศพลมารับจารวีออกจากโรงพยาบาล คน ที่มากับเขาก็ยังมียุพินพี่ของจารวี
จารวีดีใจมาก ๆ
“พี่ ไหนบอกว่าจะไม่มารับฉันนี่นา?”
ยุพินตรงไปประคองจารวี แล้วพูดอย่างหงุดหงิด?? ว่า”เมื่อคืนพี่ห่วงจนนอนไม่หลับ ถ้าวันนี้พี่ไม่ได้เจอเธอ พี่ คงไม่สบายใจ”
บนใบหน้าของยศพลไร้ความรู้สึกใด ๆ
จารวีรู้สึกว่าแปลกมาก ก่อนหน้านี้ที่งานเลี้ยงฉลองการ หมั้นของพี่ยังเห็นยศพลดูอบอุ่นกับพี่มากกว่านี้
ทำไมตอนนี้ แม้แต่ยิ้มอย่างขี้เกียจแบบของไปทีก็ยังไม่ ทำให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยล่ะ?
พอขึ้นรถของยศพลแล้ว ก็ส่งยุพินไปที่บ้านก่อน “ฉัน จะพาจารวีไปซื้อมือถือเครื่องใหม่ก่อนจะได้ไม่ทำหายอีก รอบ”
ยุพินยิ้มอย่างอ่อนโยนตามเคย “ได้ อย่าลืมนะ ว่าต้องกลับมาเร็วๆนะ”
จารวียักหน้าพร้อมกับรอยยิ้ม “อั้ม ได้เลย !”
รถออกจากบ้านพูลสวัสดิ์ แลนไปในย่านการค้าที่เจริญ คึกคัก
“จริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่องใหม่เลยนี่นา ฉันไม่ได้ ต้องการหรอก…”
ยศพลหยุดรถอย่างรุนแรงและรวดเร็วฉับพลันมองเธอ แล้วพูดหยอกล้อว่า “คราวหน้า เธออาจจะไม่โชคดีแบบนี้ เธอคงไม่รู้ว่ามีเด็กสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอมากมาย ที่ถูกขายไปให้ประเทศที่สามเพื่อเป็นโสเภณีที่น่าเวทนาน่า สงสารเป็นอย่างมาก
ยับปื้อนี่โง่เขลาซะจริง ถ้าฉันไม่ใช้เส้นสายที่มีอยู่ ไม่เอา เงินที่มหาศาลมาซื้อเธอคืนก็คงช่วยเธอออกมาจากคุกไม่
ได้
ไม่แน่ว่าจากนี้ไปเธอจะต้องหลบซ่อนตัวอยู่เงียบๆซะแล้ว
อิทธิพลของตระกูลเหลียงในเมืองเอสนี้มีอยู่มหาศาล
มาก
นายกเทศมนตรีชยินมีเส้นสายมากมายในรัฐบาลกลาง ยิ่งเป็นในเมืองเอสแล้วก็ยิ่งมีเส้นสายโยงใยที่มากกว่าเดิม ไม่เช่นนั้นแล้วตระกูลซู่คงไม่มาสมรสเกี่ยวดองเป็นทองแผ่นเดียวกันเช่นนี้
.พอฟังยศพลพูดแบบนี้ตกใจกลัว ใบหน้าของจารวี
ซีดเซียวไปหมด “โอเค ! ”
ยศพลหมุนตัวมาหยุดอยู่ที่ร้านขนาดใหญ่ในย่าน
เศรษฐกิจ
“ไป ไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ทั้งชุดก่อน..”
ยศพลจ้องมองจารวีที่สวยเสื้อลายตารางสีฟ้า กางเกง ยีน และรองเท้าลำลอง เขาก็ยิ้มมุมปาก
ยังคิดว่าตัวเองอยู่โรงเรียนรีไงนะ !
“คือว่า ฉันไม่ต้องการจะซื้อเสื้อผ้าใหม่จริงๆ ฉันมี…
“ให้เธอซื้อเธอก็ซื้อสิ เธอจะพูดมากไปเพื่ออะไรหะ?”
ยศพลลากจารวีเข้าร้านยี่ห้อชาแนลที่ขายเสื้อผ้าโดย เฉพาะอย่างเผด็จการ
จารวีมองไปที่ชุดเดรสคุณภาพดีเยี่ยม ทำให้ตกใจเพราะ
ป้ายราคา…
จารวีสวมใส่ชุดเดรสที่แพงหูฉี่อย่างไม่คุ้นชิน
ตอนเด็ก ๆ ตอนที่แม่ยังมีชีวิตอยู่จับเธอแต่งหน้าให้สวยเหมือนกับเจ้าหญิงตัวน้อย ๆ ตอนนั้นธุรกิจของบริษัทของ พ่อกำลังเติบโตเจริญรุ่งเรือง ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ
แต่น่าเสียดาย ในปีที่เธออายุได้เก้าขวบ เธอก็สูญเสีย
ไปหมดทุกอย่าง
ฝันร้ายเริ่มต้นขึ้น ณ ตรงนี้
พอเห็นจารวีนิ่งงงงัน ยศพลก็ทนไม่ได้ที่จะหรี่ตาจ้อง มอง แล้วเรียกพนักงานขายในร้าน
“เอาเสื้อที่หุ่นโชว์นั้นสวมอยู่ไปให้เธอด้วย…
ชุดนั้นเป็นชุดราตรีคอวีลายครามที่ตัวสั้นพอดีตัว ด้าน ล่างออกแบบให้เป็นสไตล์แบบชุดกี่เพ้าของจีน
ช่างฝีมือทำได้ประณีตงดงามมาก ลวดลายที่เอวล้วนแต่ มีลายปักด้วยมือ
จารวีรับเสื้อชุดนั้นมา แล้วเดินเข้าไปในห้องลองชุด
ยื่นมือไปพลิกป้ายราคา เลขหกหลัก พระเจ้า ! ชุด กระโปรงตัวเล็ก ๆแค่นี้ ต้องแพงขนาดนี้เลยเหรอ?
พอจารวีสวมกระโปรงตัวนั้นแล้ว ก็เดินออกมาด้วยความ กังวลและไม่สบายใจ
จารวีไม่ได้เกิดมาสวยเลิศเลอ แต่ถ้ามองแบบละเอียดก็จะเห็นผิวที่ขาวเนียน ใบหน้าสะอาดสะอ้าน มีตรงตาที่ใส ราวกับ แม่น้ำในฤดูใบไม้ร่วง ริมฝีปากสีแดงเปล่งปเลั่ง นอก เหนือจากนั้นยังมีลักอั้มที่ดูหอมหวานเหมือนลูกสาลี่สองลูก
ชุดราตรีชุดนี้ราวกับว่าตัดมาเพื่อเธอ โดยเฉพาะพอยู่ บนเรือนร่างของเธอ ก็ทำให้รูปร่างเธอดูสวยสะดุดตายิ่งกม่า เก่า
แววตาของยศพลมองอย่างตะลึง ชะงักงันราวกับลู สะกดไว้
เขาผ่านผู้หญิงมาแล้วนับไม่อ้วน แต่ไม่เคยเห็นผู้หญิง ชั้นดีแบบนี้ โดยเฉพาะแขนสองข้างที่กลมกลึงชาวเพียน ปลุกให้ความปรารถนาในใจของเขาตื่นขึ้นมา
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ