ร่างทั้งสองนอนหมดแรงอยู่บนเตียง จารวีหายใจหอบแรง เอื้อมมือมาบนเตียง ผมเผ้าดูยุ่งเหยิง พอเธอใจเย็น เธอรวม ผมขึ้นมาอย่างลวกๆ หลังจากนั้นทิ้งตัวลงบนหมอน
ความเย็นขาแบบนั้นทําให้เธอรู้สึกว่างเปล่า
เธอหนุนนอนบนแขนของเขา ได้ยินถึงลมหายใจของเขา
“ยศพล คุณหลับรึยัง?”
ความเงียบสงบ มีเสียงของเธอดังขึ้นในยามค่ำคืนนี้
“อืม ยังไม่นอน”
มือใหญ่ของยศพลยังคงกอดร่างกายอันบอบบางของเธอ
จารวีจับมือของเขา พูดด้วยท่าทีจริงจัง “คุณรักฉันไหม?”
ยศพลนิ่งไปสักครู่ แล้วเขาพลิกเธอให้หันหน้ามาหากัน ถึงแม้ว่าเราจะมองเห็นไม่ชัดเจน แต่ก็สัมผัสได้ถึงลมหายใจ ของอีกฝัง
“เมื่อกี้ยังไม่ชัดเองอีก?” ยศพลพูดอย่างเล่ห์ๆ
ในหัวสมองผู้หญิงคนนี้คิดอะไรอยู่กันแน่ ไม่รู้หรือว่า เขา รักเธอที่สุดในโลกแล้ว
นึกไม่ถึงเลยจริงๆว่าเธอจะถามคําถามนี้
ไว้
“วันนี้ไปนับ ผู้ชายมีส่วนของสัตว์ครึ่งหนึ่ง”
“จริงหรือ? งั้นความเป็นสัตว์ครึ่งหนึ่งของผมก็รักคุณมากๆ สรุปก็คือผมรักคุณไง ”
“ไปๆ ล้อเล่นฉันรีไง ฉันจริงจังอยู่นะ สุดท้าย… คุณรักไม่ รักฉันกันแน่?”
จาร รู้สึกหัวสมองว่างเปล่า เหมือนลอยอยู่ในอากาศ
ยศพลจับมือของเธอวางไว้บนปากของเขาค่อยๆละเมียด ละไมจูบมือเธอ
“รักสิ ถ้าไม่รักคุณผมจะอยู่ตรงนี้ทำไม”
“แต่ว่า คุณอยากให้เราอยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไปหรอ
ความจริงแล้วสิ่งที่จารวีอยากถามมากที่สุดคือ ทำไมคุณ ไม่ยอมแต่งงานกับฉัน
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอไม่เคยคิดถึงปัญหาแบบนี้ เพราะยศ พลไม่เคยคิดที่จะวางแผนแต่งงานกับเธอ เราทั้งแตกต่างกัน เกินไป เธอเป็นเพียงแค่ซินเดอเรลล่า ส่วนเขาคือนักธุรกิจพัน ล้าน ดูจากคําพูดเขาแล้ว เธอยอมเป็นเมียเก็บของเขาก็ได้ แค่นั้นเธอก็พอใจแล้ว
แต่ว่าตอนนี้เธอไม่ได้ต้องการแค่นั้น เหตุไม่ได้มาจากเงิน แต่ในท้องของเธอมีลูกของเรา
พอเธอมีลูก เธอก็เอาแต่คิดถึงอนาคตของเด็กคนนี้
เธอหวังว่าจะมีครอบครัว แมบูรณ์ รอลูกคลอดออกมา มี ครอบครัวที่ดี มีพร้อมทั้งแม่และพ่อ…
ยกพลไม่ได้คิดแบบเดียวกับจาร เขามึนงงไปชั่วขณะ
“คุณไม่อยากอยู่กับผมแล้ว?”
จาร อดไม่ได้ คุณไม่คิดว่าเราควรแต่งงานกันได้แล้ว หรือ?
ยศพลนิ่ง แต่งงานคำสองคำนี้ดังก็องอยู่ในหัวของเขา ใน วันนี้มีผู้หญิงบังคับให้เขาแต่งงาน
จารวีมองยศพลนิ่ง เธอรู้สึกเจ็บอย่างบอกไม่อยู่ พูดอย่าง โมโห “ฉันรู้ว่าคุณไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานมาก่อน ช่างเถอะ คิดซะว่าฉันไม่เคยพูดมาก่อน
เธอพลิกร่างกายไปอีกฝั่ง ปล่อยให้น้ำตาไหลมาเงียบๆ
ยศพลพยายามเอาเธอกอดไว้ เธอพยายามดิ้นให้หลุด ยศพลจึงย้ายที่นอนมาตรงหน้าเธอ ไม่ทันที่เขาได้เอนกายลง จารวิถีพลิกตัวไปอีกฝัง ทิ้งความเย็นชาไว้ข้างหลังให้แก่เขา เป็นอย่างนี้อยู่สี่ห้ารอบ ยศพลไม่มีโอกาสเห็นแม้แต่หน้าของ จาก
“เด็กโง่ คุณกลัวไม่ได้แต่งงานหรืออะไร?”
จารวีเช็ดน้ำตา “ใครกันกลัวไม่ได้แต่งงาน ใครกันแน่ที่โง่ ถึงไม่มีภรรยาสักที”
ยศพลโอบกอดเธอจากข้างหลัง “ใช่ๆ งั้นให้เด็กโง่คนนี้แต่งเป็นภรรยาผมไง แต่ว่าผมทั้งสูง ทั้งรวย แถมยังหล่อ แถม ยังหาภรรยาได้แล้ว”
“เยอะ” จารยังไม่สนใจเขา แต่ไม่รู้ทำไม ใจของเธอถึง รู้สึกดีขึ้นมา
ยศพลาดใบหน้าไว้ที่คอของเธอ อดไม่ได้ที่จะดมกลิ่ม หอมๆของเธอ ท่าทีแบบนี้เธออดไม่ได้ที่จะใจอ่อนขึ้นมา
“เด็กโง่ ไม่ว่าอย่างไรผมก็จะแต่งงานกับคุณ” เขากอดเธอ ไว้แน่น ทำไมเขาจะไม่แต่งงานกับเธอหละ เขาทั้งชีวิต แต่ เธอ ไม่มีวันที่เราปล่อยเธอไปจากมือ
“ถ้าฉันแก่แล้วแถมยังไม่สวยแล้ว คุณยังต้องการฉันอีก ไหม” จารวีอดไม่ได้ที่จะถามในสิ่งที่ตัวเองคิด
ทะเลาะกันมาครึ่งวัน สำคัญแค่ประโยคเดียว เธอแค่ กังวลว่า ถ้าตัวเองแก่ตัวไป รักระหว่างเราจะเปลี่ยนไปไหม
ส่วนสําคัญที่สุดคือ ชีวิตของเธอจะอยู่บนเส้นทางแบบ ไหนกันนะ
“จารวี บางครั้งทำไมคุณถึงโง่ได้ขนาดนี้ ถ้าตอนนี้คุณแก่ ผมก็ไม่คิดที่จะทอดทิ้งคุณ คุณควรดีใจนะ ผมต้องการคือ คุณ ไม่ใช่ความสวยของคุณ
คำพูดของยศพลทำให้เธอรู้สึกถูกปลอบประโลม ตอนนี้ จิตใจของเธอเงียบสงบแล้ว
“จริงด้วย ยศพล พรุ่งนี้ฉันคิดว่าจะไปหาพ่อ”
“ซิน งั้นผมให้นิรันไปส่งคุณ สุสาน
“ไม่เป็นไร ไม่ชอบให้คนไปเยอะ ฉันอยากคุยกับคุณพ่อ
แค่สองคน”
ตอนที่ ยาพได้เสียชีวิตไป จารวีโศกเศร้ามากจนไม่ได้
ไปงานศพ
บางทีเธอเจ็บมากจนไม่กล้าไปพบหน้า
ตอนความเจ็บปวดได้เบาบางลงแล้ว เธอจึงมีความกล้าที่
จะไป
“ไม่ได้ ผมไม่มีทางที่จะปล่อยให้คุณไปคนเดียว ถ้าคุณ ไม่ชอบก็สามารถให้เขาอยู่ด้านนอกรอคุณ”
นี่เกี่ยวกับความปลอดภัยของเธอ ยศพลไม่ยอมอ่อนข้อ
ให้
“ก็ได้ หลับเถอะ”
“อาหะ ฝันดี”
จารวีก็ยังไม่ได้พลิกร่างกายกลับไป มือของเธอจับผมไว้ ความรู้สึกในใจก็ยังเจ็บเหมือนเดิม ตอนนี้ในหัวของเธอเต็ม ไปด้วยความกลัว
ในเวลาเดียวกัน ยศพลก็เอามือจับผมเช่นกัน เดิมทีเขาก็ คิดอยากพาเธอมาโลกของเขา แต่เขาก็กลัว
เขาจึงทําได้นอนอยู่เงียบๆ เมื่อเวลาผ่านไป เขาก็ได้ยินลมหายใจ มาเสมอของจาร ความง่วงก็ได้หายไป จึงลุกขึ้น มาสูบหรี่ข้างนอก
คืนนี้เต็มไปด้วยความเศร้าอย่างบอกไม่ถูก เหมือนจิตใจ ของเราที่มีดมีดไปวันเปลี่ยนแปลง
เช้าวันรุ่งขึ้นจารวิถูกความฝันปลุกให้เธอตื่น ทันใดเธอก็ นึกถึงเส้นผมบนเตียง
เวลาท้องฟ้าสว่าง แสงพระทิตยสองผ่านหน้าต่างเข้ามา ห้องเต็มไปด้วยพระอาทิตย์ เรื่องบนเตียงก็ได้เห็ตชัดเจนแจ่ม แจง
จารวีปีนขึ้นเตียง ดูอีกอีกที กลับผมเส้นผมเพียงไม่กี่เส้น อยู่ใต้หมอน
ขอบคุณสําขอบคุณสวรรค์ ที่เธอไม่ได้เป็นเหมือนดั่ง จินตนาการที่น่ากลัว
เธอรีบลุกออกจากเตียง พาตัวเข้าไปในห้องน้ำมองตัวเอง ในกระจก
ตาของเธอยังแดงเหมือนเดิม น่ากลัวจริงๆ
เธอรีบเดินไปห้องแต่งตัว สวมแว่นตากันแดด แบบนี้ค่อย สบายใจหน่อย
“คุณจารวี อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
น้ายามเดินเข้ามาทําความสะอาดในห้อง เห็นจารใส่ แว่นตากันแดดออกจากห้อง จึงอดแปลกใจไม่ได้
“คุณจารวี ทําไมคุณถึงใส่แว่นตากันแดดในบ้านคะ?”
“อ๋อ พอดีเมื่อคืนนอนไม่หลับ ตาจึงไวต่อแสง ทำให้น้ำตา
ไหล ดังนั้นจึงใส่ไว้
“คุณจารวี เป็นเพราะน้าแท้ๆ น้าไม่ควรจะเปิดหน้าต่าง ตอนเช้านี้เลย”
ความจริงแล้ว เธอปิดหน้าต่างตั้งแต่เมื่อวานดีแล้ว บน หน้าต่างมีจานบุหรี่ที่เต็มไปด้วยเศษบุหรี่และกึนบุหรี่ น้าอามรู้ ว่าคนที่เปิดหน้าต่างคือยกพล
“คุณจารวี ดูสิค่ะ คุณชายเมื่อคืนสิบบุหรี่เยอะขนาดนี้ รู้ ไหมเนี่ย บุหรี่ไม่สิ่งที่ดี สูบตลอดแบบเนียอาจเป็นมะเร็งปอด ได้เนี่ย” น้าอามบ่น ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นคนรับใช้ของบ้านโพธิ์ สูง ด้วยความที่เธอทํางานที่นี่มานาน จึงมองว่าเธอเป็นญาติ ผู้ใหญ่ไปแล้ว
จารวีเก็บเส้นผมบนหมอนอย่างเงียบๆ มองไปที่หน้าต่าง มองน้าอามกำลังเช็ดหน้าต่างที่เต็มไปด้วยเศษบุหรี่ มองเธอ แล้วรู้สึกปวดใจ
เมื่อคืนหลังจากเหตุการณ์นั้น ยศพลก็หลับไปแล้ว
แล้วทําไมถึงยังเศษบุหรี่อยู่อีก หรือว่าเขาไม่ได้นอนกัน แน่นะจึงสูบบุหรี่อยู่ในห้องนี้
ทําไมกันนะ? เขามีอะไรให้คิดมากกัน หรือว่าเพราะคำพูด ของเธอเมื่อคืน
จารวียิ่งรู้สึกแย่ไปอีก รู้สึกว่าตัวเองมองไม่เห็นเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ระกว้างเรา
” เอามตะ ยศพลออกจากบ้านเมื่อไหร่คะ
น้าอางครุ่นคิด “ประมาณตีห้าก็ออกปานแล้วค่ะ ตอนไป ยังฝากบอกให้น้าเตรียมอาหารเช้าให้คุณ แล้วไปบอกให้รับ ไปส่งคุณ สุสาน”
คิดไม่ถึงว่า เขาจะออกไปเช้าขนาดนั้น
ความจริงแล้วยศพลไม่ได้นอนทั้งคืน เขาเล่นผมเธอทั้ง คืน เขารู้สึกว่าเธอค่อยๆเลือนหายไปจากชีวิตเขา และเขา เองก็ไม่มีทางเลือก
“โอเคค่ะ” จารวีเดินลงมาอย่างไม่มีอารมณ์แม้แต่จะกิน ข้าว ความรู้สึกดีจากเมื่อคืน ตอนเช้าก็ถูกขว้างทิ้งเสียแล้ว หรือว่าความรู้สึกของเธอมันไม่เคยมีความรู้สึกตั้งแต่แรกแล้ว นะ
อเข้าผ่านไป นิรนพาเธอมาที่สุสาน
สุสานห่างจากเมืองไกลพอตัว ใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าจะ
ไกลออกไปสุดลูกตาเป็นเนินเขา ที่มีหลุมศพเล็กๆวาง อย่างเป็นแถว
ที่นี่เป็นอีกโลกนึงของผู้คนที่หลับใหลตลอดกาล ทุกคนไม่ว่าอย่างไรสถานที่นี้จะรอทุกคนเข้ามา
” จอดรถ จาร จับแว่นตา กันแดด ในมือถือช่อดอกเบ จมาศสีขาวเดินออกจากรถ
“คุณอยู่ข้างนอกรอนะคะ” จารวีพูดกับนิรัน ก็เดินเข้าไป
ข้างใน
ลมเย็นๆพัดเข้ามา ใบไม้จากต้นไม้ใหญ่ที่สุสานร่วงลงมา ที่ไหล่ของเธอ
ช่างเป็นอะไรทีเงียบเหงา เหมือนภาพวาดที่มีเพียงแค่ส
ข่าวล่า
บางครั้งก็ต้องถึงเวลาที่ยอมรับความจริงเสียที และใน ที่สุดเวลาจะช่วยให้เราชินไปกับมัน
จราวีหยุดตรงที่หลุมศพของชยรพ ยังเห็นรูปขาวด้า ชัดเจนของเขาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
น้าตาค่อยๆไหลออกมา จารวีวางช่อดอกไม้ไว้ข้างหน้า หลุมศพของชยรพ
“พ่อค่ะ หนูมาหาพ่อแล้วนะ พ่อได้ยินสียงหนูไหม” เสียง ของจารวีเต็มไปด้วยความอ่อนแอ เป็นเรื่องที่ปล่อยวางได้ อยากที่สุดสําหรับการเสียคนที่เรารักไป
ความตายเป็นอะไรที่ย้อนกลับมาไม่ได้ การจากไปคราว นี้คือการจากไปตลอดกาล ไม่ว่าอย่างไรคุณต้องจากลาเขา
นํ้าตาของจารวีควบคุมไม่ได้แล้ว ไหลมากกว่าเดิม
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ