.. “หมอชะ เตอ มีความสามาก พูดยากครับ นาน 1ปี สั่นสุด3-4เดือน”
จารวีนิกคิดขึ้นมา ตอนนี้ท้องได้ เดือน7วันแล้ว ถ้าให้เธอ อีก4เดือน ก็ใกล้คลอดแล้ว
เพียงพอแล้ว!
จารยิ้ม “ฉันอยากรู้เด็กได้ติดต่อโรคนี้ไหม คุณช่วยตรวจ
ให้ได้ไหมคะ?”
“ตอนนี้ยังตรวจไม่ได้ รอให้ถึง6เดือน ผมจะช่วยคุณตรวจ เลือดนะครับ!
“ก่อนหน้านี้คุณเคยเจอโรคแบบนี้มาก่อนไหม?”
วิซเตอร์ยักไหล่ “ไวรัสแบบนี้ ได้หยุดห้ามการทดลองศึกษา จากทั่วกฏหมายทั่วโลก เราแค่เคยได้เข้าร่วมในอดีต ต้อง เข้าใจว่านั่นเป็นเรื่องนานมากแล้ว อย่างคนท้องแบบคุณ เป็น ครั้งแรกเลยครับ”
“งั้นตอนนี้ฉันและนิชาภาได้ติดต่อโรคนี้มา เราสองคนใคร จะก๋าเงิบก่อน?”
“อันนี้ผมสามารถให้คำตอบที่ชัดเจนกับคุณ น่าจะเป็น อาการนิชาภา เบบก่อน ถึงแม้เธอจะได้โรคนี้หลังคุณ แต่ สุขภาพร่างกายเธอแย่มาก คน ร่างกายแข็งแรงจะสามาร ต่อสู้กับไวรัสนี้ได้ทนนานกว่าคนที่ร่างกายอ่อนแอ และ แน่นอน คุณต้องท้องไว้ สำหรับคุณแล้วถือว่าร่างกายอ่อนแอกว่าคนทั่วไป ฉะนั้นแล้ว คุณต้องเพิ่มสารอาหารให้ตัวเอง
ร่างกาย จาร ตกใจบ้าง
“อืม ไม่เพียงแค่แย่ แต่แย่มากเลย เธอติดโรคซิฟิลิสและ
กําลังเสพติด…
คําตอบวิชเตอร์ทําให้จาราตกใจ เธอติดโรคซิฟิลิสได้ยัง ไง?”
“อันนี้ผมรู้คุณจารวี!”นิรันเดินออกมา อธิบายขึ้น ก่อน หน้า คุณเพื่อบังคับให้เธอเอายาแก้ออกมา เลยยังเธอร้านขายบริการไปหลายวัน ให้เธอรับแขก …เสพติดเธอเป็น คนเสพเอง เพื่อจะชาร่างกายที่เจ็บปวดเธอมั้งครับ!”
จารวีเข้าใจแล้วกับความร้ายแค้นของ
จริงๆแล้ว เธอไม่เคยคิดจะจารวี ทุกอย่างนั้นเป็นแค่ความ
ฝันก่อนตายของเธอ
ยศพลไม่ได้พักที่โรงพยาบาลนานเขาพลางกลับมาแล้ว มือ ข้างซ้ายพันผ้าไว้ แต่ทั้งคนดูมีชีวิตชีวาขึ้นเยอะ
ถ้าไม่ไปนึกคิดสิ่งที่ต้องเผชิญ อารมณ์ทั้งสองคนยังดีร่าง
เริงได้
บนโต๊ะอาหาร มีอาหารหลากหลายสี
ถึงแม้จะคิดถึงการอยากต่อต้านอยู่ตลอดเวลา แต่ยังคงไม่ สามารถต่อต้านการรามของไวรัสได้เมื่อทานข้าวสาร ทานไป จู่ๆก็หยุดขึ้นมา
ศพลยังคีบอาหารไปที่สามจาร
“ชิมดูปลานิลแดง ง…”
อาหารถูกตีบลง ชามจารวี มองจารวีที่ก้มหน้าไว้
ยศพลโยนขามในมือออก ยื่นมือกอดจารวีไว้
“เป็นไรครับ?”
จารวิเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าที่ขีดนั้นเต็มไปด้วยเหงื่อ แวว ตาดูเจ็บปวดเหลือเกิน
“เจ็บ…”
จารวีกัดฟันไว้แน่น พยายามพูดคำที่สำคัญออกมา ยศพล
อุ้มเธอไปโซฟาอย่างระวัง
“ฉันส่งเธอโรงพยาบาล”
“ไม่…ไม่เอา…ไม่มีประโยชน์…
จาร เจ็บจนหดตัวขึ้นมา เธออยากสลบไป ถ้าสลบไปแล้ว ความรู้สึกเจ็บแบบนั้นจะได้สิ้นสุดลงสักที
แต่เป็นเพราะความเจ็บแบบนี้ยิ่งทำให้เธอมีความตื่นสติ มากกว่าปกติ
และความเจ็บนั้นนานมากขึ้น ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่มาอย่างกะทันหัน แล้วไปอย่างกะทันหัน
เวลาที่ติดต่อกันมานาน นยาวมากขึ้น สตีเธอค่อยๆ ก ทรมานไปทีละนิต บางทีเธออดจะเอามีดมาฆ่าตัวเองเลยไม่ ได้…
ยศพลมองผู้หญิงที่ตัวเองรักไว้อย่างเจ็บปวด เจ็บจนกลิ้งไป
มาเหงื่อไหล่ท่วมเสื้อผ้าจา
มือเล็กเธอบีบแน่นเจ้าไปในโซฟา แต่ความเจ็บนั้นยังคงเจ็บ อย่างไม่ลดลง
“เจ็บก็ร้องออกมา…
ยศพลเหมือนเป็นปีศาจที่ถูกกักตัวไว้ เขาไร้หนทาง เสียง เขาแหบ พูดออกมาอย่างต่ำๆ
และเหมือนเป็นเด็กที่ทําผิดอย่างไม่รู้จะทำยังไง
ทําไมฟ้าไม่นําความเจ็บแบบนี้มาให้ฉัน…
ผ่านไปได้ครึ่งชั่วโมงเต็มๆ จารวีถึงค่อยๆเจ็บน้อยลง
เหงื่อในตัวได้เปียกเสื้อไปหมดแล้ว
ยศพลรีบเตรียมน้ำอุ่นให้เธอ ในนั้นยังใส่อาหารเสริมที่เพิ่ม พลังงานร่างกายไปด้วย
จารวีนอนนิ่งอย่างคนไร้สติในโซฟา ไม่ขยับใดๆ ลืมตาคู่นั้น ที่ดูไร้วิญญาณ”จารวี มองฉันไว้…
มือใหญ่คู่หนึ่งจับเธอไว้แน่นๆ ดึงเธอจากความตายกลับสู ความเป็นจริง
เขาประคองเธอนั่งขึ้นมา
มา ดื่มลงไป!”
จารวีรับแก้วมาแล้วค่อยๆ มลงไป
ยศพลมองเธอไว้โดยไม่พูดอะไร เขาเก็บความโกรธนั้นไว้
รอให้จารวีดื่มน้ำเสร็จ เขาจึงกอดเธอขึ้นมา
“อย่ากอดฉัน แผลนายยังไม่หาย อาจจะกระทบโดนแผล ได้”
เสียงจารวีเบาและอ่อนโยน เหมือนลอยจากอากาศ
“ไม่พูดครับที่รัก เธอต้องการพักผ่อน นอนพักผ่อนดีดี ฉัน
เฝ้าเธอนะ…”
ยศพลช่วยจารวีเปลี่ยนชุดนอนที่สะอาด แล้ววางเธอลงบน
เตียงอันนุ่ม ไม่กล้าสัมผัสแรงๆ ไม่นานมีผมที่วาวนุ่มวางลง เหมือนเป็นใบไม้แห้ง ที่หล่นออกจากกิ่ง ยิ่งเหมือนชีวิตจาร
วีที่ค่อยๆจะดับจนเป็นศูนย์
อาจเป็นเพราะเหนื่อยเกิน จารวีเพียงสัมผัสเตียงก็หลับไป เลยยศพลบ่อลงข้างๆเธอ พลางจูบมือเธอและมีน้ำตาไหลริน
ใครบอกว่า โตาผู้ขายไหลยาก เพียงแค่ไม่ถึงตอนเจ็บปวด
ยศพล อมตัวเก็บเส้นผมขึ้นมาวางบนฝามือ แล้วบีบแน่นๆ จากนั้นค่อยเอามาคมที่ปลายจมูก
เส้นผมยังคิดกลิ่นหอมของจารวี เหมือนเป็นรอยยิ้มของเธอ
ตอนนี้ ในหัวเธอนั้นเหลือเส้นผมไม่มาก มองไปอย่างแน่น ៣
พลางสามารถเห็นหนังหัวที่ขาวแล้ว
ยศพลดึงลิ้นชัดออกมา ในนั้นวางกล่องสีทองน้อยอยู่กล่อง
หนึ่ง เขาเปิดออก แล้ววางเส้นผมนั้นเข้าไป ในนั้นเป็นผมล่วงของเธอทั้งหมดที่เขาสะสมไว้ ใกล้จะเต็ม แล้ว
เมื่อผ่านไปครึ่งชั่วโมง ยศพลนั่งลงที่ห้องโถง
ตรงหน้าโต๊ะได้วางขวดเหล้าเปล่าเป็น20ขวดได้ เขายังดื่ม
“คุณชายครับ พานิชาภามาแล้วครับ! “นิรันพูดเบาๆ
ยศพลเงยหน้าขึ้นนิซาภาถูกบอดี้การ์ดดันเธอมาตรงหน้า ยศพลแผลบนหน้านิชากาหายดีแล้ว เหลือเพียงรอยแผลเป็น ต กําไว้ ดูแล้วสลดใจนัก
แต่ว่า อาการเธอตอนนี้แย่กว่าจารวีเยอะ คงเหลือไม่กี่วัน
ทั้งคนดูเหล่อแต่โครงกระดูก ผมล่วงหมดแล้ว บวกทั้งอด ยาก ผิวนั้นเหลืองแห้ง เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก
บอดี้การ์ดวางมือลง เธอพลางล้มลงที่พื้น ล้มตัวลงข้างเท้า ยศพล
“ยังอยากพูดอะไรอีกไหม?”ยศพลถามขึ้นมาเย็นๆ
นิชาภาหัวเราะ เตรียมตัวจะฆ่าฉันเสร็จแล้วเหรอ?
“เธอควรตายนานแล้ว ฉันไม่ควรเชื่อเธอเลย….”
นิยาภา เสียงไร้เรี่ยวแรง “เธอโง่เอง เธอควรฆ่าฉันไปก่อน แล้ว ทําไมต้องรอถึงวันนี้”
“นี่เป็นโอกาสครั้งสุดท้ายของเธอ ถ้าไม่พูดจะไม่มีโอกาส
อีกแล้ว”
ยศพลติ้วมืดมนทันที ข้างมือเขามีมีดสั้นใบหนึ่ง
เป็นมีดใบนี้เองที่จารใช้กรีดหน้า
“นิรัน เอากระจกให้เขาส่อง…”
ยศพลสั่งขึ้นมาเย็นๆ นิรันรีบเอากระจกมา แล้วยื่นให้ยศพลพลเอากระจกขึ้นมา แล้วสองนิชากา
“เหีนยัง นี่คือเธอ..
สาคานิชากๆค่อยๆเปลี่ยนเป็นกล้าขึ้นมา สุดท้ายถึงกลับ
กรีดแล้วเอามือกุมหน้าร้องไห้ขึ้นมา
“นี่ไม่ใช่ฉัน นี่ไม่ใช่ฉัน เธอหลอกฉัน…”
เมื่อก่อน เธอคิดว่าหน้าตัวเองดีไฮโซขนาดนั้น และตอนนี้ ใบหน้าดั่งผีคนนี้เป็นเธอจริงเหรอ?เธอไม่กล้าฉัน….
“เมื่อก่อนเธอถามฉันว่า ทำไมไม่ชอบเธอ งั้นตอนนี้ฉันจะ บอกคําตอบเธอ เมื่อกี้เห็นหน้าเธอหรือยัง?หัวใจเธออัปยศ กว่าใบหน้าเธอ…
นิชาการ้องอย่างไร้เสียง
เธอค่อยๆอ่อนลงมา จู่ๆเธอก็หัวเราะออกมา ยศพล ขอร้อง คุณอย่าทําร้ายฉันแล้ว ฉันรู้ในใจคุณไม่มีส่วนของฉันแม้แต่ นิด แต่ฉันก็ต้องการ กดิ์ศรี คุณจะเหลือความหวังให้ฉันไว้ นิตไม่ได้ไง?”
“แล้วเธอให้ความหวังฉันไหม?”
“ถ้าฉันบอกว่ายาพิษในตัวจารวีไม่ใช่ฉันเป็นคนวาง เธอจะ เชื่อไหม?”
นิชากาพูดขึ้นมากะทันหัน ยศพลอึ้งไปบ้าง “เธอกำลังโกหก เธอก้าลังโกหก…นิชาภา น น นรีบลุกขึ้นมา แล้วยื่นไปเอามีน่าเข้ามา แทงตัวเอง
จากเดิมร่างกายเธอที่ไร้แรงแล้ว กริยานี้ถือว่าเธอได้ใช้สุด
กําลังแล้ว
แต่เธอก็ทําแล้ว นี่ก็คงเป็นความสุขที่แลดูก่อนที่คนจะตาย
ทุกอย่างเกิดขึ้นในวินาทีเดียว ยศพลห้ามไม่ทัน
นิรันกำลังจะขึ้นไป พลางถูกยศพลห้ามไว้ “ช่างเขาเถอะ!
ยังไงเขาก็ไม่พูดอยู่แล้ว”
นิชากาจับมีดด้วยสองมือ ทั้งคนค่อยๆหงายไปข้างหลัง เลือดไหลตามเลือดออกมาเรื่อยๆ เหมือนเป็นนาคลองเล็กๆ ค่อยๆรวมกันไว้ จนไหลทั่วพื้นขาวนั้น
วิญญาณและเซลล์ค่อยๆถูกนำออกไป
“ยศพล ไม่ใช่…”
เสียงนิชากาอ่อนลงเรื่อยๆ เหมือนเธอจะไม่เต็มใจ เธอยื่น มือออกมาข้างหนึ่งเพื่ออยากจับมือยศพล
ยศพลใกล้เขานิดเดียว แต่กลับไม่ยอมยื่นมือไปจับเธอไว้ ถึงแม้เธอจะตายแล้ว เขาก็ไม่ยอมยื่นมือไปจับเธอหรอก
ความฝันนิชาภา พังสลายสักทีแล้ว
เขาไม่รักเธอ ไม่เคยเลยแต่นิด ถึงแม้ตายแล้ว เขาก็ไม่ยอม ออกมาบ้าง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ