น้าเสียงอันอ่อนโยน ทําให้จราโอดไม่ได้ที่จะหันไปมอง
ร่างของมนต์ตรีก็ปรากฏขึ้นมา เขาชุดลําลองสีขาว เขา วางดอกไม้ไว้ที่หลุมศพของชยรพและค่าความเคารพ
“ลุงชยรพครับ ผมสัญญาว่าจะดูแลจราวีให้ดีครับ คุณลุง วางใจได้ ผมพูดคําไหนคํานั้น ไม่ว่าอนาคตจรา จะเกิดอะไร ก็ตาม ผมจะไม่ทอดทิ้งเธอครับ”
ใบหน้าอันอบอุ่นของมนต์ตรีเต็มไปด้วยความจริงใจ
ใจของจารวีเต็มไปด้วยความอบอุ่น เธอยิ้มแต่ยังมีน้ำตาที่ ยังคงไหล
“จารวี ตอนนี้ไม่ต้องกลัวแล้ว”
จารวีพยักหน้ายิ้ม ” มนต์ มาได้ไงคะ?”
“วันนี้เป็นวันครบรอบของคุณลุง พี่เลยมาหาคุณลุง ไม่ อยากให้เขาเหงา”
น้ำเสียงของมนต์ตรีช่างจริงใจ จนทำให้ใจของจารวีถูก ความอบอุ่นปลอบโยน
“จารวี ทําไมถึงสวมแว่นตากันแดดกัน
มองแว่นตาใหญ่ที่ปิดบังหน้าของเธอเกือบครึ่งหน้า ดูแล้ว ช่างไม่เข้ากับเธอ เท่าที่จําได้ จารวี ไม่ค่อยได้ใส่แว่นตา กันแดด
ใบหน้าของจารยึดถิต ” มนต์ ที่จริงฉันป่วยเป็นโรคที่น่า
กล้ามาก
“อธิบายมา!”
จารวีนิ่งไปสักพัก ตัดสินใจถอดแว่นตาออก หันหน้าเล็กๆ มองไปทางมนต์ตรี ” มองที่ตาของฉันสี
มนต์ตรีมองไปที่ตาของเธอ เขาก็ตะลึง เขาไม่เคยคิดว่า มันจะเป็นแบบนี้
จารวีนั่งที่พื้น “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ช่วงนี้ ผมฉันร่วงเยอะมาก แล้วยังตาแตงแบบนี้ ฉันกลัวมาก ฉันคิด ว่าจะโรงพยาบาลตรวจอีกรอบ”
มนต์ตรีมองที่ตาของเธอ ค่อยๆยิ้ม “ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ช่วงนี้ ขยี้ตาแรงรึเปล่า เจ็บไหม แค่เส้นเลือดฝอยแตกเฉยๆ ที่จะพา เธอไปร้านยาเดี๋ยวมันก็ดีขึ้น”
ความกลัวของจารวีค่อยๆหายไป
“จริงหรือ? ไม่ใช่โรคร้ายแรงอะไร”
“พี่จะหลอกเธอไปทําไมหละ เมื่อก่อนพี่เคยปวดหัวหนัก มาก ตาแดงไปหมด อย่ากลัวไปเลย”
จารวียน “ขอบคุณพี่มากนะคะ พี่มนต์ ฉันไม่รู้จะของคุณ พี่อย่างไรดี”
มนต์ตรียม เขามองเวลา นาฬิกาบนข้อมือของเขา “ยังเข้าอยู่เลย พี่พาเธอไปร้านยา หลังจากนั้นไปกินข้าว
ด้วยกันสักมื้อดีไหม”
“ไปเลย
ออกมาจากสุสาน จารวีให้นิรันกลับไปก่อน ส่วนเธอนั่งรถ ไปมนต์ตรีเข้าไปในเมือง
ระหว่างที่มนต์ตรีขับรถ เพ็ญจิตนั่งข้างๆเขา
“จารวี จําได้ไหม? ร้านเกาลัดที่เมื่อก่อน เธอชอบกิน ตอน
นี้ถูกรื้อแล้วนะ”
จารวี ม “จริงหรือ ฉันแทบจําไม่ได้เมื่อก่อนฉันชอบกิน เกาลัดขนาดนั้น แต่ตอนนี้ฉันไม่ชอบกินแล้ว”
มนต์ตรีผิดหวัง เรื่องเมื่อก่อนเธอคงลืมไปหมดแล้วสินะ
“ไม่เป็นไร เมื่อเราโตขึ้นเรื่องใหม่ๆเข้ามาหา เป็นธรรมดา ที่เรื่องเก่าๆจะถูกลืม
จาร ใจลอย
“จาร…” มนต์ตรีทักเธอ แต่เธอก็ไม่ตอบเขา
มนต์ตรีจึงเพิ่มเสียงให้ดังขึ้น จารวีหงายหน้าเล็กของเธอ ขึ้นมา ใบหน้าของเธอ ดเต็มไปด้วยเหงื่อ เต็มไปด้วยความ เจ็บปวด
“เป็นอะไรไป?”
มนต์ตรี รับจอดรดข้างทาง เธอ
จาร กัดฟันแน่น จมูกบ่น คิ้วขมวดกันจนแทบชน “เจ็บ!”
ร่างกายของจาร เย็นและชุ่มไปด้วยเหงื่อ
มนต์ตรีรีบถอดเสื้อมาคลุมตัวเธอไว้
“อดทนไว้นะ พี่จะพาเธอไปส่งโรงพยาบาล”
จารวีจับมือของเขาไว้แน่น พูดออกมา “ฉันเจ็บ ไม่ต้อง ไม่ ต้องบอกให้ยศพลรู้นะ”
ใจของมนต์ตรีแตกสลาย ปวดขนาดนี้ ยังกล้วยศพลรู้ ตอนนี้ใจของเธอ ผู้ชายคนนั้นคงสำคัญกับเธอมากสินะ
ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงโรงพยาบาล มนต์ตรีอุ้มจารวีเข้าไป ในโรงพยาบาล
“จารวี อดทนไว้นะ พวกเราใกล้ถึงแล้ว”
เจ็บเหมือนน่าทะเลซัดเข้ามา สตีของจารวีค่อยๆเลือน
หายไป
รู้สึกเหมือนคนตกจากในท่ามกลางความเจ็บปวดแล้ว ตกลงไปลึกลงไปอย่างไม่มีใครขาย
น่าแปลก เธอเจ็บขนาดนั้น ทําไมเธอถึงยังไม่ตายกันนะ
ไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าไร จาๆ ค่อยๆลืมตาขึ้นมา
“จารวี เธอตื่นแล้ว”
มนต์ตรีรีบลุกขึ้นมาจับมือเธอ
จารมองเขาอย่างอ่อนแรง เมื่อเวลาผ่านไป เธอพึ่งคิดได้ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนกันนะ
“พี่มนต์ ขอบคุณพี่มากนะที่ช่วยฉันไว้”
“จารวี อย่าพูดเหมือนพี่เป็นคนนอก ”
เขาไม่ต้องความรู้สึกขอบคุณ เขาไม่ต้องการให้เธอทุกข์ ใจ เขาไม่ต้องการอย่างนั้น
” มนต์ ช่างเป็นพี่ทีดีจริงๆ” จารวีพูดด้วยเสียงอ่อนแรง
“เธอไม่เป็นอะไรแล้ว หมอเพิ่งออกไปเมื่อกี้
“พี่มนต์ หมอว่าไงบ้าง”
มนต์ตรีเงียบสักครู่แล้วยิ้มตอบเธอ “หมอยังไม่พูดอะไร รอให้ผลตรวจออกมาก่อน เธออย่ากังวลมาก หมอยังพูดอีก ว่า เด็กในท้องของเธอแข็งแรงดี เพิ่งอุลตร้าซาวล่เสร็จ เด็ก ขยับตัวแล้ว ตัวใหญ่มากเลย
มนต์ตรีจงใจเปิดประเด็นนี้ขึ้นมา ตอนนี้ใจของจารวีรู้สึก ดีขึ้นมาก แค่พูดถึงลูกของเธอ ใจของเธอก็สดใสเหมือนดั่ง พระอาทิตย์
“พิมนต์ พิช่วยส่งมือถือมาให้ฉันหน่อย
มนต์ตรีหยิบจากกระเป๋าส่งไปให้เธอ พอเธอเปิดโทรศัพท์ มีสายไม่ได้รับเต็มไปหมด สายทั้งหมดล้วนเป็นของยศพล
ต้องเป็นคำรายงานจากนิรันแน่ๆ ถึงได้รีบร้อนขนาดนี้
จาร สายหน้ายิ้ม เธอจึงกดสายโทรไปหายศพล ของฝั่ง ยศพลรับสายด้วยความรวดเร็ว จารวี คุณไปอยู่ที่ไหนมา!!
เสียงของยศพลแทบจะตะโกน ทำให้หูของจารวิเกือบ บอด เธอรีบเอาโทรศัพท์ออกจากหู
“ยศพล คุณอย่าโกรธนะ เป็นความผิดฉันเอง ที่ฉันไม่ได้ บอกคุณ ตอนนี้ฉันอยู่โรงพยาบาล”
“คุณเป็นอะไร? บาดเจ็บตรงไหน”
ทําเสียงกังวลและน้ำเสียงโกรธเมื่อกี้ ทั้งสองสิ่งเหมือน เติมความหวานให้ใจของจารวี
*ไม่มีอะไรแล้ว แค่พาลูกของเรามาตรวจอุลตร้าซาวล์ พี่ มนต์จึงมาส่งฉัน ตอนนี้เสร็จแล้ว คุณมารับฉันกลับที
“ได้ คุณรอผมแป๊บนึง ผมจะรับไป” ยศพลวางสายลง
หลังจากจาร โทรศัพท์เสร็จ เธอยิ้มไปทางมนต์ตรี
“พี่มนต์ ช่างน่าอายจริงๆ ฉันค่อยแต่สร้างความเดือดร้อน ให้พี่ จริงด้วย ตอนนี้คุณสุริย์วัลย์เป็นไงบ้างคะ ท้องรึยังคะ?”
มนต์ตรีสายหน้า “ตอนนี้พวกเรายังไม่พร้อม ยังไม่ได้ วางแผนที่จะมีตอน ”
ยังไม่ทันได้พูดจบ เสียงโทรศัพท์ของยศพลก็ดังขึ้น
จารวี ม ใ คุณสุริยวัลย์ไหมคะ พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา”
มนต์ตรีมองไปที่หน้าโทรศัพท์แล้วยิ้มให้เธอ ทายถูกจริง ด้วย เป็นเธอ พี่ออกไปรับโทรคัพท์ข้างนอกก่อน”
“ไปเถอะ ฉันเองก็อยากพักผ่อนแล้ว”
มนต์ตรีถือโทรศัพท์ออกมาไปพร้อมกับใบหน้าที่บูดบึ้ง
สุรีย์วัลย์เธอคนนี้ไม่รู้ว่าเป็นอะไร แค่เข้าอยู่ข้างนอกนาน หน่อย เธอก็โทรมาเช็คเสียแล้ว
“ฮัลโหล”
“มนต์ตรี ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน” สุรีย์วัลย์พูดแทรกขึ้นมา
มนต์ตรีเงียบไปสักครู่ แล้วถามอย่างไม่เกรงใจ “คุณมี เรื่องอะไร”
“อ๋อ ฉันจองห้องอาหารไว้ กลางวันนี้ออกมากินข้าวด้วย
มนต์ตรีตอบอย่างเย็นชา “วันนี้ผมยุ่งมาก ที่บริษัทมีเรื่องที่เ
ต้องจัดการ
มนต์ตรีถือโทรศัพท์เดินมาที่สุดปลายทางเดิน
ถ้าเขาหันกลับมา สามารถเห็นอีกฝั่งนึงได้สริมล ก่อ โทร พท์มองเขาอย่างเจ็บปวด
ตั้งแต่เขาออกจากบ้าน เธอก็ขับรถตาไมเขา
เธอรู้ทุกอย่างว่าเขาทําอะไรบ้าง
ตั้งแต่เช้าครู่เขาจอดรถไว้ที่บ้านโพธิสูง เขาขับรถตาม จาร จนมาถึงที่สุสาน จนถึงออกจากสุสานมา
สุริย์วัลยไม่ค่อยสงสัยมาก่อนเลย เมื่อก่อน เธอเชื่อจริงๆ ว่าเรื่องของมนต์ตรีและจาร ไม่มีอะไรในกอไผ่
แต่ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่า ใจของมนต์ตรึยังคงมีผู้หญิง คนนั้นตลอดมา
สุรีย์วัลย์หงุดหงิด เธอหานใจพ่นแรง ไม่มีทางที่เธอจะ ยอมรับความแพ้ ชัดเจนอยู่แล้วว่าเธอเป็นคนชนะในสนามนี้
เพราะว่าฉันคือเจ้าของ ถ้าสูญเสียไปจะยิ่งไม่เจ็บปวด กว่าเดิมหรือ?
“มนต์ตรี วันนี้เป็นวันเกิดของฉัน คุณจะไม่มาฉันจริงๆ หรอ” สุรีย์วัลยอ่อนเยา
“วันนี้มีเรื่องยุ่งจริงๆ อย่างงี้ดีไหม ตอนกลางคืนเรามา ฉลองด้วยกันดีไหม
มนต์ตรียื่นข้อเสนอให้เธอ สุรีย์วัลย์ยินดีที่จะรับมัน “ได้ ฉันจะรอคุณนะ”
สุริปวัลย์ตัดสายมองมนต์ตรีเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย เธอเจ็บเหมือนเป็นร้อยมาแทงเธอ
มนต์ต รีบเข้าห้อง เขาก็ไม่พบแม้แต่เงาของจารวีแล้ว…..
เขามีนงงไปชั่วขณะ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เห็น ข้อความจารวี ส่งมาให้เขา
“พี่มนต์ ขอบคุณที่มาส่งฉันที่โรงพยาบาลนะ ฉันไปก่อน นะ ยศพลมารับฉันแล้ว เห็นพี่โทรศัพท์อยู่ อีกอย่างฉันเห็น คุณสุริย์วัลย์ ด้วยแหละ”
มนต์ตรีปิดข้อความ สูทของเขาตกที่พื้น
เขาก้มลงเก็บสูทของเขา
บางทีในใจของจารวี เขาคงเหมือนสูทตัวนี้ที่เคยไม่เคย ดูแลมัน
ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเปลี่ยนไป
เขาหมดหวังที่จะรักเธอแล้ว เวลาที่เธอไม่ต้องการก็ทิ้ง เขาไว้ข้างหลังแบบนี้
ขณะที่รถโรลส์-รอยซ์สีดำขับอยู่บนถนน
จราวีนั่งข้างยศพล ในขณะที่เขาขับรถ เขาเองก็ยังโกรธ เธอไม่หาย
เขาไม่ชอบที่จารวีและยศพลอยู่ด้วยกัน
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ