เวลาเป็นสิ่งที่น่ากลัวจริงๆ มันมักจะพิสูจน์สัจธรรมของ โลกใบนี้ ความแตกต่างระหว่างรักกับชอบ เป็นอะไรที่ไม่ สามารถแยกแยะได้ง่ายๆ
จารวีมึนงง เธอไม่รู้ว่าควรจะพูดกับมนต์ตรีอย่างไรดี
ความรู้สึกผิดหวังปรากฏออกมาจากดวงตาของมนต์ตรี เห็นได้ชัดว่าเมื่อสักครู่ จารยังคงยิ้มสดใส แต่ทําไมพอ เห็น เขา รอยยิ้มของเธอก็มะลายหายไปจนหมดสิ้น
เป็นไปไม่ได้ ก่อนหน้านี้ไม่นาน เธอยังยิ้มแย้มมีความสุข และรับปากว่าจะอยู่กับเขาไปตลอดชีวิตอยู่เลย
ใช่แล้ว เขาได้ยินไม่ผิดหรอก มันคือเรื่องจริง เธอพูดต่อ หน้าสายตานับร้อยคู่เองว่ายอมรับการเป็นภรรยาของเขา
เวลาผ่านไปเพียงแค่4-5วัน เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอ จะเปลี่ยนไปได้ไวถึงเพียงนี้
5 ขึ้นรถก่อนได้ไหม เรายังไม่ได้เลิกกันซะหน่อย”
มนต์ตรีเอ่ยออกมาอย่างเจ็บปวด เพียงไม่นาน เขาก็ เอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง เราไปกินข้าวด้วย กมื้อนะ ถือว่าจากกันด้วยดี”
เมื่ออังคณาเห็นว่าสถานการณ์ตรงหน้าเริ่มไม่สู้ดีนัก เธอ จึงรีบหาข้ออ้างเพื่อปลีกตัวออกจากตรงนั้น”เอ่อพวก คุณคุย กันก่อนเถอะ ฉันมีธุระต้องรีบไปจัดการ
ร้านอาหารยุโรป หรูหรามีระดับ แสงไฟสลัว มีเพียงแสง จากเปลวเทียน2เล่ม
บรรยากาศที่โรแมนติกเช่นนี้ ไม่ค่อยเหมาะสมที่จะเลิกรา กันเท่าไร
จารวีนั่งตรงข้ามมนต์ตรี ประสานมือเข้าด้วยกัน เธอไม่รู้ ว่าควรจะพูดอะไรดี
เนิ่นนาน เธอจึงเอ่ยออกมาอย่างตั้งใจ”ขอโทษนะคะ มนต์ คุณพ่อไม่ควรทําแบบนั้นเลย”
เธอรู้ว่าตั้งแต่ข่าวที่เธอกับมนต์ตรีแต่งงานกันแพร่ กระจายออกไป ทําให้บริษัทข้ากรุ๊ปถูกโจมตีอย่างหนัก บางที ตอนนี้ มนต์ตรีกับลังพยายามยื้อสถานการณ์อย่างสุดกำลัง
เธอรู้ว่าตั้งแต่ข่าวที่เธอกับมนต์ตรีแต่งงานกันแพร่ กระจายออกไป ทําให้บริษัทซัวกรุ๊ปถูกโจมตีอย่างหนัก บางที ตอนนี้ มนต์ตรีกับลังพยายามยื้อสถานการณ์อย่างสุดกำลัง
ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเข้าไปในชีวิตของเขา เขาก็คงได้ แต่งงานกับสุริย์วัลยีสมใจปรารถนา ธุระกิจของเขาก็คง รุ่งโรจน์ ทุกๆอย่างคงจะดีกว่านี้
มนต์ตรีลงมือหั่นเนื้อวัว มือของเขาสั่นเล็กน้อย บนตัวเขา สวมใส่ชุดสูทสําลองตัวยาวสีเทาอ่อน ผมของเขาถูกหวี ไว้ อย่างเป็นระเบียบ ใบหน้าที่อ่อนโยน ดวงตาสีน้ำตาล อยู่ใกล้ เธอเพียงแค่เอื้อมมือ แต่เธอกลับรู้สึกห่างไกล
เธอได้กลิ่นกายของเขา แต่ทว่าหัวสมองกลับนึกถึงผู้ขาย อีกคนอย่างควบคุมไม่ได้
เปลี่ยนไป
น้ำเสียงของมนต์ตรีแฝงไปด้วยความเจ็บปวด เข้าขึ้นมองเจ้าไปในดวงตาของเธอ
จารมองเห็นหยาดน้ำตาที่คลอในดวงตาของเขา มัน เหมือนกับร่องรอยที่เพิ่งผ่านการถูกทําร้ายมา
จาร ทําใจมองได้อีกต่อไป เธอเบือนหน้าหนีมองออก ไปด้านนอก บนถนนมีหญิงเป็นคู่เดินกันขวักไขว่ พวก เหล่านั้นมีความสุขไหมนะ?
พี่มนต์ ระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้ ว่าเรื่องนี้พี่ก็รู้ดี แต่ยัง ไงหลังจากนี้เราก็เป็นพี่น้องที่ดีต่อกันได้นะคะ
เห็นได้ชัดว่าจารวีเอ่ยประโยคนี้ออกมาอย่างเจ็บปวด
มนต์ตรีชะงักไปชั่วขณะ จากนั้นจึงฝืนยิ้มพลางยื่นมือ ออกไปกุมมือของเธอ วี ทําไมถึงไม่ยอมไปตรวจDNAกับ พี่ กลัวอะไร ไม่กล้าเผชิญหน้ากับความจริงหรือ
ฝ่ามือของเขาเย็นเฉียบ ความรู้สึกเหน็บหนาวค่อยๆแพร่ กระจายเข้าสู่ผิวหนังของเธอ ทำให้ตัวเธอสั่นเทิ้มอย่างไม่ อาจควบคุม
“พี่มนต์ บอกชัดแล้ว ว่าลูกในท้องวีเป็นลูกยศพล วี เลือกไม่ได้แล้ว
มนต์หัวไปมาอย่างเจ็บปวด นี่มันไม่ใช่สิ่งสำคัญ วี ก็รู้ว่า รัก ลูกของก็รัก พี่สาบาน หลังจากวี แต่งงานกับพี่ พี่รับรองว่าจะไม่ทําไม่ดีกับลูกของ ถ้าพี่โกหกแม้แต่ขอให้ฟ้าผ่าตายเลย! 3 ไม่มีบริษัท กรุ๊ป ได้ยศตำแหน่ง อะไร ก็ไม่ต้องการทั้งนั้น แต่ว่าพี่ไม่มีไม่ได้ จริงๆนะรักมาตั้งหลายปี พี่ไม่อยาก เสียวไป เข้าใจหัวใจของไหม?”
กัดฟัน เธอดึงมือกลับมาอย่างช้าๆ น้ำตาไหลลงอาบ ของแก้ม
พี่มนต์ พี่ไม่เข้าใจหรอคะ ว่าพ่อของ ข่มขืนคุณแม่ของไม่ว่าจะใช่หรือไม่ใช่ลูกของพ่อวีก็รับไม่ได้ทั้งนั้น ไม่ อยากจดจําเขา และไม่อยากแต่งงานกับลูกชายคนเลวๆแบบ เขา พี่เข้าใจหรือยัง!!
จารวีลุกขึ้นยืน พร้อมเดินตะบึงออกไปด้านนอก ปล่อยให้ ตะลึงงัน
พูดเหล่านั้นที่เธอพูดออกมา ทำให้ดวงใจของเขาเจ็บ ปวดอย่างถึงที่สุด
ทําไมต้องเป็นลูกชายของคนสารเลวแบบเขา
อย่าว่าแต่คนร้กเลย แม้แต่เพื่อน ก็คงเป็นไม่ได้อีกต่อไป แล้ว!!
ก้นบึ้งหัวใจของมนต์ตรี แหลกสลายลงในพริบตา เขาหมัดแน่น จนข้อต่อกระดูกขึ้นมา
เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก สิ่งที่พ่อของตัวเองทําไว้ เขา ไม่มีวันให้อภัยอย่างเด็ดขาด
หัวสมองของจารวียุ่งเหยิง เธอนั่งอยู่ในห้องออฟฟิศ ไม่มีกระจิตกระใจจะหางานเลยแม้แต่น้อย
“คุณจารวีคะ คุณนิชาภาแขกจากไต้หวันมาขอเข้าพบคุณ ค่ะ พนักงาน เคาท์เตอร์เอ่ยบอกเธอทางโทรศัพท์
“โอเค ให้เธอเข้ามาได้เลยค่ะ”
จารมองนิชาภาเพียงแวบเดียว ก็เข้าใจว่าทําไมถึงเรียกว่ ลูกกค้าใต้หวัน เป็นเธอจริงๆด้วย
ครั้งแรกที่เห็นนิชาภาสวมใส่ชุดทํางานสีดำ มันขับให้ ใบหน้าขาวผ่องของเธอโดดเด่น เธอค่อนข้างที่จะสุขุม ไม่ ร่าเริงกระปรี้กระเปร่าเหมือนเมื่อตอนแรก
สีหน้าของจารวิเย็นจา ไม่คิดเลยวาจะเป็นคุณ
นิชาภาไม่รอให้จารวีเชิญ ก็นั่งลงในทันที เธอมองไป รอบๆห้องทํางานอย่างพินิจพิเคราะห์
รอยยิ้มบนใบหน้าสว่างสดใส แต่ทว่า เมื่อมองมายังจารวี รอยยิ้มเหล่านั้นค่อนข้างลวงตา
“คุณจารวีคะ ที่นี่ตกแต่งได้ มากเลยนะคะ ดูๆแล้วยศพล น่าจะรักคุณาดูเลย”
คุณจารวีคะ รับเป็นกาแฟหรือ ส้มคั้นดีคะ?”เลขาส่วนตัว เดินเข้ามาพลางเอ่ยถาม
จาร โบกมือไปมา ไม่เอาจะ
“นี่ รอแปปนึง ฉันเอานํามานาว! “‘นิชากาเอ่ยบอกเลขาของจาร เธอ ก ามะนาว นม
“คุณจารวี อย่ามองฉันแบบนั้นสิคะ ที่ฉันมาวันนี้เพราะ อยากจะผูกมิตรกับคุณจริงๆนะคะ ทำไมคุณถึงปฏิเสธฉิน อ. เรีอยเลย ฉันเสียใจนะคะ!”
นิชากาตั้งใจใข้ าเสียงออดอ้อน ฟังแล้วรู้สีกสบายๆ
จารวี นกอดอกอยู่ตรงข้ามนิชาภา เธอเล็ก พลาง เอ๋ย เรามาเปิดใจคุยกันตรงๆดีกว่า ฉันไม่มีทางปล่อยให้คน รักของฉันไป เพราะฉะนั้นคุณหมดโอกาสแล้ว”
ลักษณะท่าทาง ตรงไปตรงมาของจารวี ทําให้นิชากา ตะลึงงัน เมื่อได้ยินดังนั้นเธอก็ยิ้มให้ ฮ่าๆ จารวี คุณไม่ต้อง ร้อนรนขนาดนี้ก็ได้ ใช่แล้วล่ะ ฉันชอบยศพล คุณไม่รู้สึกว่า พวกเรามีวาสนาต่อกันหรอ คุณคิดดูสิ หน้าของเรา เหมือน กัน ดวงตา ทรงผมของเราก็เหมือนกัน อีกทั้งพวกเรายังชอบ ผู้ชายคนเดียวกันอีก”
นิชากาเอ่ยออกมาอย่างยินดีปรีดา แต่จารวีได้ฟังกลับ รู้สึกหัวหมุน ไม่ว่าจะยังไง เธอก็ไม่สามารถทําใจชอบ ชา ภาได้
ขอถามหน่อยว่าผู้หญิงคนไหนชอบเล่นสนุกกับอารมณ์ ของตัวเอง
จารวี งฟังอย่างเงียบเชียบ นิชากาเอ่ยต่อ คุณคิดดูสิ พวกเรามีหลายอย่างที่คล้ายกันขนาดนี้ ถ้าพูดให้ชัดเจน ก็ คือ เราสามารถเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้
จาร ยังคงใจเย็น”คุณมีอะไรก็พูดมาตรงๆเลยดีกว่า เวลาของฉัน ค่า
นิชากายก มะนาวขึ้นดื่ม พลางยกผ้าขึ้นเช็ดที่มุมปาก อย่างงดงาม เธอยิ้มให้”ฉันอยากจะแข่งขันแย่งชิงยศพล มา จากคุณอย่างยุติธรรม คุณคิดว่ายังไง?”
จารวีส่งเสียงในสําคอพลางบึ้ม ไม่ต้องแข่งหรอกค่ะ เพราะยังไงคุณ แพ้
เห็นได้ชัดเจนอยู่แล้วล่ะ ตอนแรกยศพล แค่เอาคุณมา ประชดฉัน แต่ตอนนี้ฉันกลับไปอยู่กับเขาแล้ว เพราะ ฉะนั้น คุณไม่มีโอกาสแล้วล่ะ!”
นิชาภาหัวเราะร่วน”นี่มันเพิ่งเริ่มต้นต่างหากล่ะคุณจารวี! คุณคิดดูสิ ถึงพวกคุณจะคืนดีกันแล้ว แต่ยังไงฉันก็ยัง เป็น ผู้หญิงของเขาอยู่เหมือนเดิม แล้วยังมีอีกเรื่อง จริงๆแล้วคุณ กับเขาไม่ได้เหมาะสมกันเลย คุณไม่เห็นหรอว่า ‘ ตอนที่พวก คุณอยู่ด้วยกัน คุณก็เอาแต่ทะเลาะกันตลอด และก็ไม่มีวิธี แก้ไขมันด้วย”
ความรักมันก็คือความอัปยศอย่างนึง เมื่อพวกคุณทั้งสอง ฝ่ายมีอารมณ์ร้อน พวกคุณคนใดคนนึงก็ต้องยอมอ่อน ข้อ ให้ฝ่ายตรงข้าม แต่ว่าเมื่อเวลาผ่านไป จุดอ่อนของทั้งคู่ก็จะ ถูกเปิดเผยออกมา ความขัดแย้งก็จะยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่ จริงๆแล้ว สิ่งที่ยังไม่นับว่าร้ายแรงที่สุด เพราะสิ่งที่มีผลกระ ทบหนักสุดก็คือ ฐานะทางสังคมของพวกคุณ ทั้งสองห่างไกล กันเกินไป สิ่งนี้มันลิขิตให้การใช้ชีวิตคู่ไม่มีความสุข
สิ่งที่นิชากาพูดนั้นค่อนข้างมีเหตุผล ทำให้ความมั่นใจ ของจาร สั่นคลอนเล็กน้อย
แต่ทว่าใบหน้ายังคงเรียบเฉยอยู่ต่อหน้านิชาการไป แสดงท่าทีที่ประหม่า เธอยังคง มอย่างใจเย็น “เดิมทีใน ชีวิตของคนเราก็เต็มไปด้วยความเสี่ยงที่ไม่อาจรู้ได้อยู่ตลอด เวลา ถ้ามัวแต่รีรอเพราะกลัวอันตรายล่ะก็ ถ้างั้นชีวิตจะไป มีรสชาติอะไรล่ะ ถึงแม้ว่า วิตหลังจากแต่งงานของพวกเรา จะไม่มีความสุข แต่อย่างน้อยพวกเราก็เคยรักกันจริงๆ มันก็ดี กว่าคนบางจําพวก ที่แม้แต่สิทธิที่จะรักยังไม่มี เมื่อเทียบกัน นับว่าฉันโชคดีมากแล้วล่ะ”
คำพูดของจารวี ก็แทงใจ ของนิซากาอยู่ไม่น้อย
นิชาภากัดฟันกรอด ใบหน้าบูดบึง เนิ่นนาน เธอจึงยิ้มออก มา’จารวีนะจารวี คุณนี่มันอวดดีเกินไปแล้ว! ยศพล ไม่ชอบ ผู้หญิง พูดจาโผงผางและดื้อรั้นแบบนี้ เดี๋ยวสักวันเขาจะต้อง รู้ว่าจริงๆแล้วตัวเองต้องการผู้หญิงแบบไหน
จารวียิ้มบางๆ”ใช่ สักวันเขาจะรู้ แต่ว่าอย่างน้อยตอนนี้ เขาก็ชัดเจนแล้วว่าคนที่เขาต้องการคือฉัน ไม่ใช่คุณ!”
ในที่สุดนิชาภา ไม่สามารถควบคุมสีหน้าของตัวเองได้ เธอคว้ากระเป๋าไปถืออย่างโกรธแค้น พลางลุกขึ้นยืนเต็ม ความสูง
“เหอะ คอยดูไว้เลยนะจารวี เธอกับฉันใครจะชนะ!”
พูดจบ เธอจึงยิ้มอย่างล่าพองใจ”อ้อ ยังมีอีกเรื่อง ถ้าคุณ ไม่เชื่อฉันล่ะก็ ลองสังเกตดูสิว่าเขาเคยพูดเรื่อง แต่งงานกับ คุณหนือเปล่า ถ้าเขาอยากจะขอเธอแต่งงานจริงๆ เขาคงจะ พาเธอไปพบครอบครัว ให้พวกเขารับรู้บ้าง แล้ว! ”
คําพูดของนิชากาจี้จุดของจาร อย่างไม่มีผิดเพี้ยน
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ