ยั่วรักคุณเมีย

บทที่102 ไม่ได้แกล้งทำเป็นใสซื่ออะไรเสียหน่อย



บทที่102 ไม่ได้แกล้งทำเป็นใสซื่ออะไรเสียหน่อย

ขณะที่เหอรุ่ยเจอกำลังจะถอดกางเกงของเธอ โทรศัพท์ ในกระเป๋าของเธอจู่ๆ ก็ดังขึ้นมา

เหอรุ่ยเจ๋อรีบเอาโทรศัพท์ของเธอออกมาจากกระเป๋า หน้าจอขึ้นว่าเป็นชื่อของเสี่ยวซี

หลินซีเฉินเป็นคนโทรมา

เขาจ้องหน้าจอ ก่อนจะใช้นิ้วถือเอาไว้แน่น พลางลังเล อยู่สักพักก่อนจะกดรับสาย

ถ้าไม่รับสายเขากลัวว่าจะทำให้คนอื่นสงสัยได้

“ฮัลโหล หม่ามี้ ทำไมยังไม่กลับมาอีก? ”

เสียงของหลินซีเฉินนั้นดังขึ้นมา

เขาใช้เสียงอ่อนๆ เพื่อให้เสียงของตัวเองนั้นนิ่งลง “หม่า มี้หนูเข้าห้องน้ำอยู่น่ะ เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว”

“อ๋อ คุณอานี่เอง คุณบอกเธอให้เธอรีบกลับมาเร็วๆ นะ น้องอยากจะหาแต่เธอ ไม่ยอมนอนเลยล่ะ”
“ฉันรู้แล้วล่ะ” เมื่อพูดจบ เหอยเจ๋อก็รีบตัดสายไป

หลินซินเหยียนที่นอนอยู่บนโซฟานั้นขยับเล็กน้อย เหมือนเธอจะได้ยินเสียงคนคุยกัน แต่ว่ารู้สึกเปลือกตา หนักมาก จนลืมตาไม่ขึ้นเลยล่ะ

เหอรุ่ยเจ๋อเอาโทรศัพท์วางอยู่บนโต๊ะ ก่อนจะรีบชักมือ กลับ เหมือนกับว่าโทรศัพท์เป็นของร้อนอะไรแบบนั้นเลย ล่ะ

กว่าที่เขาจะเตรียมการนั้นไม่ง่ายเลย เมื่อตัดสินใจแล้ว กลับถูกหลินซีเฉินตัดบทไปเสียอย่างนั้น กลับไม่รู้ว่าจะ เริ่มอย่างไรเสียได้

แววตาของเขานั้นมองไปที่หลินซินเหยียนอีกครั้ง เมื่อ เห็นเรือนร่างที่สวยงามนั้น ทำให้เขาอยากจะทำอะไรโง่ๆ อีกครั้ง

เขาชอบผู้หญิงคนนี้ ชอบมาหลายปีแล้ว

“พี่จะทะนุถนอมกับคุณนะ” เขาจับมือทั้งสองข้างแน่น พลางลังเลไปมา ก่อนจะถอดกางเกงของเธอออกมาด้วย อารมณ์ปกติ

มือของเขาเย็นมาก ตอนที่สัมผัสกับหน้าท้องของเธอ เธอเหมือนจะรู้สึกตัวแล้ว
เขารู้สึกถึงคงามเย็นบนร่างกาย

“Sə…”

เธอพยายามลืมตาขึ้นมา

เมื่อได้ยินแบบนั้น เหอรุ่ยเจ๋อก็รีบเอาเสื้อผ้ามาคลุมให้

เธอ

หลินซินเหยียนฟื้นแล้ว

“คุณกำลังทำอะไร…

เธอยังไม่ทันพูดจบ ก็พบว่าเสื้อผ้าของเธอนั้นถูกถอด ออกหมดแล้ว เห็นผิวของเธอทั้งหมด ส่วนชุดชั้นใน ก็ถูก ถอดออกทั้งหมด

ผ่าง!

เหมือนหัวจะระเบิดเลยล่ะ

เธอรีบลุกขึ้นมา ก่อนจะกอดตัวเองเอาไว้ แววตาเบิก โพลง ด้วยความไม่อยากจะเชื่อ แล้วจ้องเหอรุ่ยเจ๋อไม่ ห่าง “คุณ…”
“ฉัน…” เหอรุ่ยเจ๋ออยากจะอธิบาย แต่ว่าหาคำอะไรไม่ เจอเลย

หลินซินเหยียนใจเย็นลงสักพัก เหมือนจะจัดการได้แล้ว ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

เธอไม่อยากจะเชื่อว่าเหอรุ่ยเจ๋อจะทำกับเธอแบบนี้ แต่ ว่าเรื่องจริงมันก็อยู่ตรงหน้า

เธอเคารพ และรู้สึกผิดเล็กน้อย กับคนที่เธอไม่อยาก ทําร้าย แต่กลับทํากับเธอ…

“ไสหัวไป! ”

หลินซินเหยียนตะโกนสุดเสียง

ในใจเจ็บปวด เจ็บใจสิ้นหวังอยู่ในใจของเธอเต็มไปหมด มันเจ็บปวดจนหายใจไม่ออก

“เธอฟังพี่ก่อน…”

เหอรุ่ยเจ๋อพยายามอธิบาย

หลินซินเหยียนยิ้มอย่างเย็นชา “เรื่องมันก็เห็นชัดอยู่ แล้ว คุณจะอธิบายอะไรอีกเหรอ? ”
“พี่…” เหอรุ่ยเจ๋อจ้องเธอที่มีท่าทีผิดหวัง ปากที่จะอธิบาย ก็พูดอะไรไม่ออก แต่ก็พูดออกไปว่า “ฉันปกป้องเธอมาตั้ง หลายปี ฉันแค่อยากได้เรือนร่างของเธอครั้งเดียวเท่านั้น เอง”

“คุณ คุณกำลังพูดอะไรงั้นเหรอ?”

ใจของเธอเหมือนถูกหินทับ เลยดำดิ่งลงไปมากกว่าเดิม

“คุณไม่ใช่หญิงบริสุทธิ์แล้ว มีลูกแล้วด้วยซ้ำ ทำเป็นใส ชื่ออะไรอีก” เหอรุ่ยเจ๋อเข้ามาใกล้ ก่อนจะกอดเขา “ฉัน จะแต่งงานกับเธอ เสี่ยวซี เสี่ยวลุ่ยฉันเองจะเห็นพวกเขา เป็นเหมือนลูกของตัวเองเลยล่ะ…”

“ออกไป” หลินซินเหยียนหลักเขาออกไป “คุณปล่อย ฉัน”

“ไม่ทันแล้วล่ะ” มาถึงตรงนี้แล้ว ถึงเขาจะไม่ทำ เธอก็ เกลียดเขาอยู่ดี

ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทำไปเลยเสียจะดีกว่า

“ปล่อยฉัน ปล่อยฉันนะ” หลินซินเหยียนผลักอย่างบ้า คลั่ง พยายามจะออกจากอ้อมกอดของเขา
ผู้ชายนั้นแรงมากกว่าผู้หญิง เหอรุ่ยเจ๋อเองก็ไม่ได้ตัว ใหญ่ แต่ว่าพละกำลังนั้นมากกว่าหลินซินเหยียนเป็น อย่างมาก

เธอผลักเขาไม่ออกเลย

เหอรุ่ยเจ๋อกดลงบนโซฟา ก่อนจะจูบใบหน้าของเธอ ผม และคอของเธอ

หลินซินเหยียนหันหน้าไป เมื่อเห็นขวดไวน์บนโต๊ะเลย ยื่นมือไปหยิบมา ก่อนจะฟาดลงไปที่หัวของเหอรุ่ยเจ๋อ….

เสียงดังเพลงขึ้น!

น้ำสีแดงไหลออกมาจากผมของเขา บนตัวของเธอเอง ก็ มีกลิ่นเหล้าของไวน์แดงเต็มไปหมด

เหอรุ่ยเจ๋อไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าเธอจะทำร้ายตัวเอง แบบนี้

ความเจ็บปวดบนหัวนั้น ถ้าไม่มีไวน์แดงอยู่ ในตอนนี้จะ ต้องมีเลือดสีแดงไหลออกมาอย่างแน่นอน

และน่าจะมีกลิ่นเลือดคละคลุ้งสีแดงสดเข้ามาด้วย
ขณะที่เหอรุ่ยเจ๋อไม่ได้ใช้แรงมาก หลินซินเหยียนก็ พยายามผลักเขาออก เหอรุ่ยเจ๋อถูกผลักจนเซล้มลงกับ พื้นไป

หลินซินเหยียนมีเพียงความคิดเดียว เพื่อหนี โดยไม่มอง เลยว่าเขาเป็นอย่างไร เธอรีบรูดซิปขึ้นมา แล้วเอามือทั้ง สองก๋เสื้อผ้าเอาไว้แน่น ก่อนจะวิ่งออกจากห้องรับรอง

เดินโซเซไปตามทาง โดยหันกลับมามองทางด้านหลัง บ้าง ก็เห็นว่าเหอรุ่ยเจ๋อไม่ได้ตามมา

เหอรุ่ยเจ๋ออดทนความเจ็บปวดเอาไว้ ก่อนจะตามออก มา “เหยียนเหยียน…

หลินซินเหยียนได้ยินเสียงของเขา ก็รู้สึกตื่นตัวจนตกใจ ขึ้นมาทันที เธอเลยยิ่งวิ่งเร็วขึ้นไปอีก โดยไม่ได้ทางข้าง หน้า ก่อนจะชนเข้ากับคนตรงประตู

เธอกอดตัวเอง “ขอโทษ ขอโทษนะ รบกวนหน่อยนะ”

อีกฝ่ายไม่ได้สนใจที่จะหลบทางให้ แต่ยื่นมือมาเชยคาง ของเธอเมื่อได้สบตากัน ก็ต้องตกใจ
ขณะที่เหอรุ่ยเจ๋อไม่ได้ใช้แรงมาก หลินซินเหยียนก็ พยายามผลักเขาออก เหอรุ่ยเจ๋อถูกผลักจนเซล้มลงกับ พื้นไป

หลินซินเหยียนมีเพียงความคิดเดียว เพื่อหนี โดยไม่มอง เลยว่าเขาเป็นอย่างไร เธอรีบรูดซิปขึ้นมา แล้วเอามือทั้ง สองก๋เสื้อผ้าเอาไว้แน่น ก่อนจะวิ่งออกจากห้องรับรอง

เดินโซเซไปตามทาง โดยหันกลับมามองทางด้านหลัง บ้าง ก็เห็นว่าเหอรุ่ยเจ๋อไม่ได้ตามมา

เหอรุ่ยเจ๋ออดทนความเจ็บปวดเอาไว้ ก่อนจะตามออก มา “เหยียนเหยียน…

หลินซินเหยียนได้ยินเสียงของเขา ก็รู้สึกตื่นตัวจนตกใจ ขึ้นมาทันที เธอเลยยิ่งวิ่งเร็วขึ้นไปอีก โดยไม่ได้ทางข้าง หน้า ก่อนจะชนเข้ากับคนตรงประตู

เธอกอดตัวเอง “ขอโทษ ขอโทษนะ รบกวนหน่อยนะ”

อีกฝ่ายไม่ได้สนใจที่จะหลบทางให้ แต่ยื่นมือมาเชยคาง ของเธอ

เมื่อได้สบตากัน ก็ต้องตกใจปากก็บางเฉียบจนดูคมกริบ

ระเบิดพร้อมลงแล้ว

ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น

เขาหยิบขึ้นมาโดยไม่ได้ดู ก่อนจะกดวางสายไป เขาเพิ่งจะวางไปโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง เหมือนกับว่า ถ้าเขาไม่รับ คงจะโทรมาไม่หยุด

เขากดรับสาย จากนั้นก็มีเสียงของผู้ชายดังขึ้นมา “มา หรือยัง? ทุกคนกำลังรอคุณอยู่นะ”

“ฉันไม่ไปแล้ว”

“กว่าทุกคนจะมารวมตัวกันได้มันไม่ง่ายเลย ทำไมคุณ

ไม่มาแล้วล่ะ…

อีกฝ่ายยังไม่ทันพูดจบ จงจิ่งห้าวก็ตัดสายไป พลางทิ้ง โทรศัพท์เอาไว้ตรงคอนโซล

เขาใช้นิ้วถูๆ ตอนที่กำลังจะถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลินซิ นเหยียน โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
สุดท้ายความโกรธที่เก็บเอาไว้ก็ระเบิดออกมา เขาหยิบ โทรศัพท์ ก่อนจะกดรับสาย “ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ไป คุณหูหนวกหรือไง? ทำไมฟังไม่รู้เรื่อง?! ”

กวนจิ้งถึงกับตกใจจนสั่นไปทั้งทรวงขนาดนั้น แล้วนี่เป็น อะไรไปอีกนะ?

เขาไม่ได้หาเรื่องยั่วโมโหอะไรใช่ไหม?

“ฉัน ฉันแต่อยากจะถามว่ารถคันนั้นฉันซื้อแล้วนะ จะให้ เอากุญแจไปให้เลยไหม? ” กวนจิ้งถามอย่างระวัง

ครั้งก่อนได้ยินหยูโต้วโต้วบอกว่าหลินซินเหยียนอยาก ซื้อรถ

เขาเลยให้กวนจิ้งไปสืบมาว่าเธออยากได้รถแบบไหน แล้วก็ไปซื้อมา

“จอดไว้ก่อนเถอะ” จงจิ่งห้าววางสายไป เพื่อไม่ให้ถูกคน รบกวน เขาเลยปิดโทรศัพท์ก่อนจะโยนไปอีกทาง

ในตอนนั้น รถก็ขับมาถึงที่อยู่ของเขาแล้ว

มันไม่ใช่บ้านพักตากอากาศอะไร แต่เป็นโรงแรมที่ห่าง จากที่ทำงานไม่มาก เขาเลยเช่าเอาไว้ระยะยาว
ที่นี่มันใกล้กับที่ทำงงาน ถ้าเกิดยุ่งมากก็จะพักอยู่แถวนี้

ที่บ้านมีป่าหยูอยู่ ถ้าจะพาหลินซินเหยียนกลับไป เธอจะ ต้องพูดอะไรไม่จบไม่สิ้นแน่นอน

ตอนนี้เขาอยากจะอยู่เงียบๆ เท่านั้นเอง

และไม่อยากถูกคนอื่นรบกวน

เมื่อจอดรถเสร็จเขาก็อุ้มหลินซินเหยียนลงมา

เมื่อเดินเข้าไปในโรงแรม ก็ขึ้นลิฟต์ไป

หลินซินเหยียนก้มหน้าก้มตา และเงียบเป็นอย่างมาก เหมือนยังไม่มีสติดีพอ

เมื่อเดินเข้าไปในห้อง จงจิ่งห้าวก็วางเธอลงบนเตียง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ