ยั่วรักคุณเมีย

บทที่1 ฉันไม่เสียใจค่ะ



บทที่1 ฉันไม่เสียใจค่ะ

อุณภูมิห้อมล้อมมาจากด้านหลังอย่างช้าๆ ลมหายใจเป่าอยู่ที่ ข้างหู “กลัวหรือเปล่า?”

ลมหายใจของคนแปลกหน้าพ่นอยู่ที่ข้างหู ทำให้คนตัวสั่นแต่ ไม่กล้าส่งเสียงออกมา

หลินซินเหยียนเหมือนรู้สึกได้ว่าผู้ชายหยุดไปครู่นึง ต่อมา เสียงของเขาได้ดังขึ้นอีกครั้ง “เสียใจตอนนี้ยังทันนะ”

เธอกุมมือทั้งสองไว้แน่นด้วยความตื่นเต้น พร้อมส่ายหัว “ฉัน

ไม่เสียใจค่ะ——”

เธอเพิ่งโตเป็นสาว แต่กลับ……

ค่ำคืนนี้เจ็บปวดและแสนยาวนาน……..

กลางดึก ในที่สุดผู้ชายก็ลุกไปห้องน้ำ ทีนี้หลินซินเหยียนถึง แบกร่างกายที่เหนื่อยล้าขึ้นมา และคลุมเสื้อผ้าเดินออกจาก ห้องนอน

ด้านล่างของโรงแรม หญิงวัยกลางคนที่แนะนำการค้าขายนี้ ให้เธอยืนอยู่ เห็นหลินซินเหยียนเดินออกมา ได้ยื่นถุงดำให้เธอใบหนึ่ง “นี่คือค่าตอบแทนของเธอ”

หลินซินเหยียนรับถุงดำมาอย่างแทบจะไม่มีการลังเลเลย เธอถือเงินไว้แล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ถึงขั้นได้ละเลยความ เจ็บปวดของช่วงล่าง แค่อยากไปถึงโรงพยาบาลเร็วๆ

ท้องฟ้าที่ยังไม่สว่าง ทำให้ริมทางเดินเงียบมาก บนพื้นของ หน้าห้องผ่าตัดมีรถเข็นผู้ป่วยวางอยู่สองตัว เพราะไม่ได้จ่าย เงิน เลยไม่ได้ส่งพวกเขาเข้าไปในห้องผ่าตัด

หลินซินเหยียนเห็นแล้วสงสารจับใจ พร้อมพูดด้วยเสียง สะอื้น “ฉันมีเงิน ฉันมีเงิน รีบช่วยแม่แล้วก็น้องชายฉันเร็วๆ…… เธอสะอึกสะอื้นพร้อมยื่นเงินในมือให้กับคุณหมอ หมอมองแว็ บนึงแล้วให้พยาบาลตรวจเช็ค จากนั้นถึงได้เรียกบุคลากร ทางการแพทย์ส่งผู้บาดเจ็บเข้าห้องผ่าตัด

เห็นพวกเขาไม่เข็นน้องชายตัวเองเข้าไป หลินซินเหยียนก ระโจนมาจับหมอไว้แล้วพูดอ้อนวอน “ยังมีน้องชายฉันด้วยค่ะ คุณหมอช่วยเขาด้วย……

คุณหมอถอนหายใจทีนึง “ขอโทษด้วยครับ น้องชายคุณ หมดหนทางรักษาแล้วครับ….…..”

หมดหนทางรักษา? !

จู่ๆเหมือนเสียงฟ้าผ่าดังเปรี้ยง ผ่ามาที่บนหัวของหลินซินเหยี ยนอย่างแรง ทำให้เธอหน้ามืดตามัว………
เจ็บ เหมือนถูกคนเอามีดเขี่ยไปมาที่ทรวงอก เจ็บจนชัก กระตุกล้มนั่งอยู่บนพื้น เมื่อแปดปีก่อน ตอนเธออายุสิบขวบ พ่อของเธอได้นอกใจและละทิ้งแม่ของเธอ ส่งเธอกับแม่ที่ กำลังตั้งครรภ์อยู่มาเมืองนอกที่ไม่คุ้นเคยนี้

ต่อมาน้องชายได้เกิดมาลืมตาดูโลก ตอนอายุสามขวบพบ ว่าเป็นโรคออทิสติก เดิมทีชีวิตก็ยากจนข้นแค้นอยู่แล้ว พอ น้องชายป่วยก็ยิ่งเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเข้าไปอีก เธอกับแม่ ทำงานพาร์ทไทม์ให้คนอื่นไปทั่วยังถือว่าพอประทังชีวิตได้ แต่อุบัติเหตุครั้งนี้ อยู่เมืองนอกที่ไม่มีญาติพี่น้อง ไม่มีเงิน ไม่มี น้ำใจไมตรี ทำให้เธอรับรู้ได้ว่าอะไรคือจนตรอกไร้หนทาง

ถูกบีบจนหมดหนทาง ถึงเธอขายตัว ก็ไม่ได้ช่วยชีวิตน้อง ชายกลับมาได้

มีความเจ็บปวดอย่างหนึ่ง ไม่มีประสาทฮิสทีเรีย แค่ทำให้คน รู้สึกว่าทรมาน หายใจลำบาก ท้องฟ้าคือสีเทา แต่เธอจะต้อง ยอมรับ แถมยังต้องยอมรับมันด้วยรอยยิ้ม เพราะเธอยังมีแม่ อยู่

แม่ต้องการเธอ

หลังจากผ่านการรักษา ร่างกายของแม่เธอดีขึ้น แต่ตอนที่รู้ ว่าน้องชายตาย คนทั้งคนได้พังทลายลงมาอย่างสิ้นเชิง

หลินซินเหยียนกอดท่านไว้ แล้วพูดด้วยน้ำตา “แม่คะ แม่ยังมีหนูอยู่ ใช้ชีวิตดีๆเพื่อหนูนะคะ”

หนึ่งเดือนที่อยู่โรงพยาบาลนี้ จวงจื่อจิ่นมักจะชอบนั่งเหม่อ ลอยอยู่ขอบเตียง หลินซินเหยียนรู้ว่าเธอคิดถึงน้องชาย ถ้า ไม่ใช่เพราะตัวเอง เกรงว่าแม่ก็จากไปตามน้องชายแล้ว เพราะ จะต้องดูแลแม่ เธอถูกทางโรงเรียนไล่ออก แต่ว่าอาการบาด เจ็บของแม่ดีขึ้นแล้ว

เธอหิ้วของกินเข้าโรงพยาบาล เดินมาถึงหน้าห้องผู้ป่วย พอ เธอยกมืออยากจะเปิดประตู กลับได้ยินเสียงของด้านใน——

เธอคุ้นกับเสียงนี้ดี ถึงจะผ่านไปแปดปีแล้ว เธอยังคงจำ หน้าตาที่เขาบีบบังคับให้แม่หย่ากับเขาได้เป็นอย่างดี

หลังจากส่งพวกเธอมาที่นี่ ไม่เคยมาเหลียวมองพวกเธออีก เลย จู่ๆวันนี้มาโผล่ที่นี่หมายความว่ายังไง?

“จื่อจิ่น ตอนนั้นคุณกับคุณผู้หญิงของตระกูลจงสนิทกันอย่าง กับพี่น้อง ได้ตกลงการหมั้นหมายไว้ ถ้าพูดตามหลักแล้วการ หมั้นหมายที่คุณตกลงกันไว้จะต้องให้ลูกสาวของคุณแต่ง…..

“หลินกั๋วอันคุณหมายความว่ายังไง? !”จวงจื่อจิ่นที่รูปร่างซูบ ผอมไม่มีเวลามาคำนึงว่าร่างกายยังบาดเจ็บอยู่ ดิ้นรนขึ้นมา อยากจะทุบตีเขา และว่าเขายังมีความเป็นคนอยู่หรือเปล่า?
จัดเตรียมให้เธอกับลูกสาวมาอยู่ที่ที่ไม่คุ้นเคยนี้ ไม่เคยสนใจ ว่าพวกเธอจะเป็นตายร้ายดียังไง วันนี้พอมาปุ๊บก็จะให้ลูกสาว เธอแต่งงาน?

“คุณชายใหญ่ของตระกูลจง ก็เป็นลูกชายของเพื่อนสนิทคุณ หน้าตาดี ฐานะของตระกูลจงคุณก็รู้อยู่ แต่งงานไปมีแต่ได้ เสพสุข…..” พูดถึงท้ายเสียงของเขาเบาลงไปเยอะ

ใช่ คุณชายใหญ่ของตระกูลจงสูงศักดิ์ หน้าตาหล่อและเป็น คนมีความสามารถ แต่หนึ่งเดือนก่อน เขาไปทำธุระที่ต่าง ประเทศถูกงูพิษกัด ทำให้เส้นประสาทด้านชา เคลื่อนไหว ร่างกายไม่ได้ แถมยังมีเรื่องอย่างว่าไม่ได้

แต่งงานไปก็เหมือนไปเป็นแม่หม้าย

“หนูแต่งค่ะ”

ทันใดนั้นหลินซินเหยียนได้ผลักประตูออก ยืนอยู่หน้า ประตู มือของเธอกุมข้าวกล่องไว้แน่น “แต่งงานอ่ะได้ แต่ฉันมี เงื่อนไขหนึ่งข้อ”

หลินกั๋วอันมองไปที่ประตู เห็นลูกสาวที่ไม่ได้เจอหน้ามาแปด ปี ทันใดนั้นได้ตกตะลึงไปหลายวิ ตอนส่งเธอมา เธอยังเป็น เด็กอายุสิบขวบอยู่เลย ตอนนี้ได้โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ผิวของเธอ ขาวผ่อง แต่ดันซูบผอมเกินไป ใบหน้าเรียวเล็กยังใหญ่สู้ฝ่ามือ ไม่ได้ ผอมแห้งดูไม่มีน้ำมีนวลเลย เหมือนร่างกายพัฒนาการ ไม่ดียังไงอย่างงั้น
น่ารักน่าเอ็นดูสู้ลูกสาวคนเล็กในบ้านก็ไม่ได้

ความสงสารที่มีอยู่ในใจได้ลดลงหลายส่วน เพราะเธอ หน้าตาไม่ค่อยสวยสักเท่าไหร่ ถึงแต่งงานกับสามีที่ไม่ สามารถมีเรื่องอย่างว่าได้ก็ไม่ได้กล้ากลืนเท่าไหร่หรอก

พอคิดแบบนี้ หลินกั๋วอันก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไรไม่ดีแล้ว “เงื่อนไข อะไร แกพูดมาเลย”

“ฉันจะกลับประเทศกับแม่ คุณเอาของที่ควรจะเป็นของแม่ คืนให้พวกเราหมด ฉันก็จะตกลงแต่งงาน” หลินซินเหยียนกุม มือแน่นอย่างซ้ำไปซ้ำมา จากนั้นถึงค่อยๆสงบลงมา

ถึงไม่ได้อยู่ในประเทศมานาน แต่สมัยเด็กๆเธอก็เคยได้ยิน ตระกูลจงของเมืองB ตระกูลใหญ่โต มีทรัพย์สินเป็นแสนล้าน คุณชายของตระกูลจงย่อมสูงศักดิ์อยู่แล้ว หลินซินเหยียนไม่รู้ สึกว่าเรื่องดีขนาดนี้จะตกมาถึงตัวเอง ไม่แน่คุณชายใหญ่ของ ตระกูลจงคนนั้นอาจจะหน้าตาน่าเกลียด หรือไม่ก็ร่างกายไม่ สมประกอบแน่นอน

แต่ถึงจะแบบนี้ก็เถอะ สําหรับเธอแล้วกลับเป็นโอกาสดีที่จะ ได้กลับประเทศ ใช้โอกาสให้ดี ยังสามารถเอาสินสอดตอนแม่ แต่งงานกลับมาด้วย

“เหยียนเหยียน…..” จวงจื่อจิ่นอยากเกลี้ยกล่อมเธอว่าเรื่อง แต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ ล้อเล่นไม่ได้
เธออยู่กับตัวเองก็ได้รับความลำบากมามากพอแล้ว จะเอา เรื่องแต่งงานของเธอก็ทุ่มเข้าไปด้วยไม่ได้

หลินกั๋วอันพึงปุ๊บ ในใจกังวลว่าหลินซินเหยียนจะถูกจวงจื่อ จิ่นโน้มน้าวแล้วไม่ยอมแต่ง เขาจึงรีบพูดว่า “ได้ ขอแค่แกยอม แต่งงานเข้าตระกูลนั้น ฉันก็จะให้แกกลับประเทศ”

“แล้วสินสอดทองหมั้นของแม่ล่ะ?” หลินซินเหยียนมองพ่อใน นามของเธอ พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาสุดๆ

ตอนที่จวงจื่อจิ่นแต่งงานกับเธอ มีสินสอดทองหมั้นไม่น้อย จริงๆ มันเป็นเงินจำนวนที่ไม่น้อยเลย ตอนนี้ให้หลินกั๋วอันเอา ออกมามันช่างเจ็บใจจริงๆ

“พ่อ น้องสาวคนนั้นของฉันคงจะหน้าตาสวยมาก เธอควรจะ ได้ครอบครองสิ่งที่ดีกว่า ถ้าแต่งกับผู้ชายที่ไม่สมประกอบ ทั้ง ชีวิตก็จบเห่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น พ่อกับแม่ของฉันก็หย่ากันแล้ว พ่อน่าจะคืนทรัพย์สินที่แม่เอาไปที่ตระกูลหลินกลับมานะ”

สายตาของหลินกั๋วอันลุกลี้ลุกลน ร้อนตัวจนไม่กล้ามองเธอ

เธออยู่ต่างประเทศมานาน รู้ได้ยังไงว่าคุณชายใหญ่ของ ตระกูลจงเป็นคนที่ร่างกายไม่สมประกอบ?

หลินกั๋วอันจะรู้ได้ยังไงว่าหลินซินเหยียนแค่เดาเฉยๆ
พอนึกถึงคนที่เธอจะต้องแต่งงานด้วยคือผู้ชายที่ไม่ปกติ หลินกั๋วอันกัดฟัน “รอให้แกแต่งงานไปแล้ว ฉันก็จะคืนให้แก เอง”

ลูกสาวคนเล็กของเขาสวยงามดั่งดอกไม้ดั่งหยกงาม จะ

แต่งงานกับผู้ชายที่มีเรื่องอย่างว่าไม่ได้ๆอย่างไง? ถึงจะสูงศักดิ์แค่ไหน ไม่สามารถทำกิจกรรมของสามีภรรยา

ได้ ต่างอะไรกับคนพิการ?

พอนึกถึงตรงนี้ หลินกั๋วอันก็ไม่ได้รู้สึกไม่สบายใจขนาดนั้น แล้ว

แต่ในใจก็รู้สึกเกลียดหลินซินเหยียนเพิ่มขึ้นอีกหลายส่วน ใน

ใจคอยคิดแต่อยากจะฉกเงินไปจากเขาอยู่ได้

หลินกั๋วอันมองเธออย่างเย็นชาทีนึง “แม่แกไม่สั่งสอนแกดีๆ

ไง ไม่มีมารยาทเลย!”

หลินซินเหยียนอยากพูดจังเลยว่าแล้วคุณที่เป็นพ่อไม่มี หน้าที่สั่งสอนหรือไง? ทิ้งเธอไว้ที่นี่แล้ว ก็ไม่เคยสนใจ ไม่เคย เหลียวแลอีกเลย

แต่เวลานี้เธอพูดไม่ได้ ข้อต่อรองของเธออ่อนเกินไป ยั่วโมโห หลินกั๋วอันไม่มีผลดีกับเธอเลย

“เตรียมตัวหน่อย กลับไปพรุ่งนี้”หลินกั๋วอันสลัดแขนเสื้อเสร็จก็ได้ออกจากห้องผู้ป่วยเลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ