ยั่วรักคุณเมีย

บทที่2 ท้อง



บทที่2 ท้อง

“เหยียนเหยียน เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ทั้งชีวิตเลยนะ แม่ ไม่อนุญาตให้ลูกทำแบบนี้” จวงจื่อจิ่นรู้เจตนารมณ์ของหลินซิ นเหยียน

หลินซินเหยียนวางข้าวกล่องลงที่ชั้นวางของตรงหัวเตียง เธอ หยิบกล่องอาหารออกมาด้วยพร้อมพูดด้วยว่า “ที่หนูแต่งด้วย ก็ไม่ใช่คนนอกนี่คะ เป็นลูกชายของเพื่อนแม่ไม่ใช่เหรอคะ ”

“เธอจากไปตั้งนานแล้ว แม่ไม่รู้เกี่ยวกับลูกชายของเธอเลย สักนิด ถึงจะผิดคำพูด แม่ก็จะให้ลูกแต่งงานกับคนที่ชอบ แต่ ไม่ใช่เอาเรื่องแต่งงานไปเป็นตัวต่อรอง ถ้าเป็นแบบนั้น แม่ยอม อยู่ที่นี่ทั้งชีวิตดีกว่า”

คนที่ชอบ?

ถึงต่อไปได้เจอคนที่ชอบ เธอก็ไม่มีสิทธิ์แล้ว

เธอก้มหน้าไว้ แต่งกับคนอะไรล้วนไม่สำคัญ ที่สำคัญคือเอา ทุกอย่างที่ถูกคนอื่นแย่งไปกลับมา

จวงจื่อจีนไม่สามารถพูดโน้มน้าวให้หลินซินเหยียนเปลี่ยนใจ ได้ วันถัดมาพวกเธอก็ได้กลับประเทศเลย
หลินกั๋วอันรังเกียจเธอสองแม่ลูก ไม่ได้ให้พวกเธอเข้าบ้าน ของตระกูลหลิน แต่ได้ให้พวกเธอเช่าห้องอยู่ข้างนอก พอถึง วันแต่งงาน ให้หลินซินเหยียนกลับไปก็พอ

พอดีเลย หลินซินเหยียนเองก็ไม่อยากกลับไปเหมือนกัน ถ้า กลับไป แม่ก็จะต้องเผชิญหน้ากับเมียน้อยที่ทำลายชีวิตคู่ของ เธอ แทนที่อยู่อย่างอึดอัดสู้อยู่ที่นี่ดีกว่า

เงียบสงบ

จวงจื่อจิ่นก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี “เหยียนเหยียน ถ้านี่เป็นการ แต่งงานที่ดี คงไม่มาตกอยู่ที่ตัวลูกหรอก ถึงแม่กับคุณนายจง เคยมี——มิตรภาพที่ดี”

หลินซินเหยียนไม่อยากพูดคุยเรื่องพวกนี้กับแม่ ก็เลยเปลี่ยน ประเด็น “แม่คะ รีบกินอะไรหน่อยค่ะ”

จวงจื่อจิ่นถอนหายใจ เห็นได้ชัดว่าหลินซินเหยียนไม่อยาก พูดเรื่องนี้ เธอลำบากมาพร้อมกับตัวเอง ตอนนี้แม้แต่ชีวิตคู่ก็ ยังต้องเสียสละอีก

ในมือของหลินซินเหยียนถือตะเกียบไว้ แต่กลับไม่รู้สึกอยาก อาหารเลย แค่รู้สึกคลื่นไส้

“ลูกไม่สบายเหรอ?” จวงจื่อจิ่นถามด้วยความเป็นห่วง

หลินซินเหยียนไม่อยากให้เธอเป็นห่วง จึงได้โกหกไปว่านั่งเครื่องบินจนไม่อยากอาหาร พอวางตะเกียบลงก็ได้เดินเข้าไป

ในห้องนอน

ปิดประตูห้องนอน เธอพิงอยู่ที่ประตู ถึงแม้เธอไม่เคยตั้ง ครรภ์ แต่เธอเคยเห็นตอนที่จวงจื่อจั่นตั้งครรภ์ ท่านจะคลื่นไส้ และกินข้าวไม่ลง

ตอนนี้เธอก็มีอาการแบบนี้เลย

จากวันนั้นก็ผ่านมาหนึ่งเดือนกว่าแล้ว นี่ก็เลยเวลามาสิบกว่า วันแล้ว ประจำเดือนของเธอยังไม่มาเลย——

เธอไม่กล้าคิดต่อไปอีก คืนนั้นก็อัปยศมากพอแล้ว ถ้าไม่ใช่ เพราะแม่กับน้องชาย เธอไม่ขายตัวเองหรอก

เธอตัวสั่น……

“คุณท้องได้หกสัปดาห์แล้วครับ”

ออกมาจากโรงพยาบาล ในหัวของหลินซินเหยียนยังมีแต่คำ ว่า “คุณท้องแล้ว”ของหมอวนเวียนอยู่

หลังจากหลินซินเหยียนปิดบังจวงจื่อจิ่น

มาตรวจที่โรงพยาบาล ผลก็คือแบบนี้ อารมณ์ของเธอสับสน มาก ไม่รู้ควรจะทำยังไงดี จะคลอดออกมา หรือว่าท่าแห้ง?

มือของเธอจับที่หน้าท้องอย่างควบคุมไม่ได้ ถึงแม้เหนือความ คาดหมาย แม้กระทั่งอับอายขายหน้า ไม่คิดเลยว่าเธอจะค่อน ข้างตัดใจทำแท้งไม่ได้

มีความสุขและความคาดหวังของคนที่ได้เป็นแม่ครั้งแรก

แววตาเธอเหม่อลอย

กลับมาถึงที่พัก หลินซินเหยียนเก็บใบอัลตร้าซาวด์เสร็จถึง ผลักประตูออก

แต่แล้ว หลินกั๋วอันก็อยู่ พริบตาเดียวสีหน้าของเธอก็ห้อยลง

มาลง

เขามาทำไม?

สีหน้าของหลินกั๋วอันก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ดูหมือนเพราะมา แล้วไม่เจอเธอ ให้เขารอนานไป จึงได้พูดอย่างเย็นชาว่า “ไป เปลี่ยนเสื้อผ้าหน่อย

หลินซินเหยียนขมวดคิ้ว “ทำไมคะ?”

ในเมื่อจะแต่งเข้าตระกูลจงแล้ว แกกับคุณชายใหญ่ของ ตระกูลจงก็ต้องเจอหน้ากันอยู่ดี” หลินกั๋วอันสำรวจเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า “แกจะไปเจอเขาอย่าง

โทรมแบบนี้เลยเหรอ? อยากจะขายหน้าฉันรึไง?”

เจ็บคือความรู้สึกยังไง?

เธอนึกว่าขายตัว น้องชายตาย ก็ทำให้เธอเจ็บจนด้านชาไป

แล้ว

แต่พอได้ยินคำพูดแล้งน้ำใจของหลินกั๋วอัน หัวใจก็ยังเจ็บ อยู่ดี ไม่ได้ด้านชาเลย

เขาส่งเธอกับแม่ไปยังประเทศที่ค่อนข้างยากจนของตะวัน ตก ก็ไม่เคยสนใจเธออีกเลย

เธอจะเอาเงินมาจากไหน?

ถ้าเธอมีเงิน น้องชายจะตายเพราะรักษาล่าช้าได้ยังไง?

มือที่ห้อยอยู่ข้างกายเธอกำแน่นเป็นหมัด

เหมือนหลินกั๋วอันก็คิดจุดนี้ได้ สีหน้าของเขาค่อนข้างอึดอัด “ไปเถอะ คนของตระกูลจงน่าจะถึงแล้ว ให้พวกเขารอจะไม่ดี”

“เหยียนเหยียน…… จวงจื่อจิ่นเป็นห่วง ยังอยากเกลี้ยกล่อมหลินซินเหยียนอีก เธอสูญเสียลูกชายไปแล้ว ตอนนี้แค่อยาก ดูแลลูกสาวให้ดีๆ เงินทองมันไม่สำคัญแล้ว

ไม่อยากให้ลูกสาวเข้าไปเหยียบที่ตระกูลหลินหรือว่าตระกูล จงอีก

ตระกูลไฮโซมันซับซ้อน อีกอย่างยังไม่รู้ว่าคุณชายใหญ่ของ ตระกูลจงคนนั้นเป็นคนยังไงเลย

เธอเป็นห่วง

“แม่คะ” หลินซินเหยียนส่งสายตาปลอบโยนให้เธอทีนึง ให้ เธอวางใจ

“รีบไปเร็ว” หลินกั๋วอันเร่งอย่างหงุดหงิด กลัวหลินซินเหยียน จะเปลี่ยนใจ แถมยังได้ผลักเธอทีนึง

หลินกั๋วอันยังไงก็ไม่ชอบขี้หน้าเธอ หลินซินเหยียนก็ไม่มี ความผูกพันใดๆกับพ่อคนนี้เลย

แปดปี สายใยผูกพันทั้งหมดได้ถูกขจัดไปจนหมดสิ้นแล้ว

การแต่งกายของหลินซินเหยียนช่างโทรมจริงๆ อีกทั้งคนที่ เจอยังเป็นคนของตระกูลจงด้วย หลินกั๋วอันพาเธอไปที่ร้าน เสื้อผ้าสตรีไฮคลาส ซื้อเสื้อผ้าที่ดูดีหน่อยให้เธอ
เข้ามาในร้าน พนักงานเดินมาซ่อนเร้น เล่นหัวอันผลักหลับ ในเหยียนไปด้านหน้า “แยกเสียที่เราไม่ได้

พนักงานมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า อยู่แล้วว่าเธอใส่ ไชสอะไร “เชิญมากับฉันเลยค่ะ

พนักงานยื่นเดรสสีน้ำเงินยาวให้เธอ “คุณไปลองที่ห้องลอง เสื้อดูค่ะ”

หลินซินเหยียนรับมา และเดินไปที่ห้องลองเสื้อ

“อะห้าว คุณจะต้องแต่งงานกับผู้หญิงของตระกูลหลินเหรอ คะ?” เสียงของผู้หญิงแฝงด้วยความกล้ำกลืนอย่างยิ่งๆ

จู่ๆหลินซินเหยียนได้ยินเสียง สายตาจึงมองไปที่ห้องข้างๆ หลินซินเหยียนมองผ่านช่องโหว่ประตูก็เห็นผู้หญิงกอดคอ ผู้ชายไว้แล้วคอยออดอ้อน “คุณอย่าแต่งงานกับหญิงอื่นได้มั้ย คะ?”

จงจิ่งห้าวมองผู้หญิงไว้ ดูเหมือนค่อนข้างจะจนปัญญา นี่เป็น งานแต่งที่แม่ของเขาตกลงเอาไว้ กลับค่าไม่ได้

แต่พอนึกถึงคืนนั้น เขาก็แข็งใจให้เธอผิดหวังไม่ได้ “คืนนั้น เจ็บมากเลยใช่มั้ยครับ?”

หนึ่งเดือนกว่าก่อนหน้านี้ เขาได้เดินทางไปประเทศที่ล้าหลัง ประเทศหนึ่ง ไปสำรวจโปรเจคนึง ปรากฏถูกสวาทชนิดหนึ่งกัดเข้า งูชนิดนั้นมีพิษร้ายแรงมาก ถ้าไม่ระบายที่

ร่างกายผู้หญิง ก็จะร้อนระอุจนตาย

ไป๋จวู่เวยเป็นยาถอนพิษให้เขา

ตัวเขารู้ดีว่าตอนนั้นเขาควบคุมตัวเองไม่ได้มากแค่ไหน

ต่างก็บอกว่าครั้งแรกของผู้หญิงเจ็บมาก เขาก็ไม่ทะนุถนอม เลย แค่คิดก็รู้แล้วว่าเธอจะต้องเจ็บมากแน่ๆเลย

แต่เธอก็อดทนมาก ไม่เคยส่งเสียงออกมาเลยสักนิด แค่ตัว สั่นอยู่ในอ้อมกอดเขา

ไปจวู่เวยชอบเขา เขารู้มาโดยตลอด แต่กลับไม่เคยให้ โอกาสเธอเลย หนึ่งคือไม่ได้รักเธอ สองคือแม่ได้ตกลงการ หมั้นหมายให้เขาแล้ว

แต่เธอมักจะอยู่เคียงข้างเขาอย่างเงียบๆ หลังจากครั้งนั้น เขารู้สึกเขาควรจะให้ฐานะชื่อเสียงกับผู้หญิงคนนี้

จนถึงตอนนี้เขายังจำคราบแดงนั้นได้ว่ามันแดงสดมากแค่

ไหน

ไปัจจู่เวยซบอยู่ที่อกเขา หลุบตาเล็กน้อย และตอบอืมอย่างเขินอาย
เธอชอบจงจิ่งห้าว หลายปีมานี้ อาศัยฐานะเลขาอยู่ข้างกาย เขามาโดยตลอด แต่เธอไม่ใช่สาวเวอร์จิ้นตั้งนานแล้ว เธอให้ จงจิ่งห้าวรู้ไม่ได้ เธอรู้ดีว่าผู้ชายแคร์ความบริสุทธิ์ของผู้หญิง คนหนึ่งมากแค่ไหน เพราะฉะนั้น คืนนั้นเธอได้จ่ายเงินไปก่อน หนึ่ง และหาผู้หญิงที่ยังเป็นเวอร์จิ้นส่งไปที่ห้องนั้นผ่านผู้อยู่ อาศัยในตัวเมือง

หลังจากผู้หญิงคนนั้นออกไปแล้ว เธอถึงเข้าไปสร้าง ภาพลวงตาว่าผู้หญิงในคืนนั้นคือเธอ

“ชอบเสื้อผ้าของที่นี่ ก็ซื้อหลายตัวหน่อย”จงจิ่งห้าวขยี้ศีรษะ เธอแล้วพูดอย่างเอ็นดู

“ห้องนั้นคือห้องvip คุณเข้าไปไม่ได้นะคะ คุณไปที่ห้องขวา ห้องนั้นค่ะ” พนักงานเตือนหลินซินเหยียน

ร้านเสื้อผ้าไฮคลาสแบบนี้ ห้องลองเสื้อล้วนเป็นห้องเดี่ยวๆ ส่วนห้องvipยิ่งไฮคลาสกว่า ในห้องลองเสื้อสามารถลองเสื้อผ้า นอกห้องสามารถให้เพื่อนนั่งรอหรือว่าพักผ่อน

“อ๋อ ค่ะ” หลินซินเหยียนถือเสื้อผ้าเดินไปที่ห้องฝั่งขวา

เปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ในห้องลองเสื้อ หลินซินเหยียนยังนึกถึงชาย หญิงคู่นั้น ในคำพูดของพวกเขาเหมือนจะเอ่ยถึงตระกูลหลิน ด้วย

หรือผู้ชายคนนั้น——


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ