ยั่วรักคุณเมีย

บทที่101 ทำลายเธอ



บทที่101 ทำลายเธอ

ที่นี่ไม่เหมือนบาร์ แล้วก็ไม่เหมือนร้านอาหารด้วย การ ตกแต่งสวยงาม สะอาดสะอ้าน มีคนสองคนเดินผ่านมา บ้าง

หลินซินเหยียนงุนงง “นี่มันคือที่ไหนกันแน่นะ? ”

“บาร์” เหอรุ่ยเจ่อดึงเธอ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องรับรอง ที่อยู่ลึกที่สุด

หลินซินเหยียนขมวดคิ้วเป็นปม “มีบาร์ที่เงียบขนาดนั้น ด้วยเหรอ แทบไม่เคยเจอเลยนะ”

“นี่เป็นบาร์ส่วนตัว ไม่ได้เปิดให้ใครเข้ามาก็ได้ มัน สำหรับคนเพียงบางกลุ่มเท่านั้น” เหอรุ่ยเจ๋ออธิบาย “ที่นี่ มันเงียบมาก

“อ๋อ”

เพียงไม่นานก็มาถึงห้องรับรอง เหอรุ่ยเจ๋อเปิดประตูของ ห้องรับรองออก ก็เห็นว่ามีแสงสีเหลืองนวล ในห้องรับรอง มันใหญ่มาก ทางด้านหลังนั้นเป็นโซฟาหนังสีดำ ทางด้าน หน้ามีไวน์แดงและแก้วไวน์สองขวด

หลินซินเหยียนมองไปทางเหอรุ่ยเจ๋อ “คุณจองเอาไว้ก่อนแล้วเหรอ? ”

สีหน้าท่าทีของเหอรุ่ยเจ๋อนั้นนิ่งไป เพียงไม่นานก็กลับ มาพูดเหมือนเดิม “ฉันเป็นแขกVIPของที่นี่ นี่เป็นฉันห้อง รับรองที่จัดเอาไว้เพื่อฉัน เหล้าข้างในนี้เป็นของที่ฉันเก็บ เอาไว้เอง”

หลินซินเหยียนเดินเข้ามา “ฉันจำได้ว่าคุณไม่ชอบดื่ม”

เหอรุ่ยเจ๋อยืนอยู่หน้าประตู ก่อนจะมองเงาบางของเธอ ก่อนจะรู้สึกไขว้เขวเล็กน้อย “คนเราจะเปลี่ยนไปอยู่แล้ว ไม่ใช่เหรอ? พี่ก็เป็นคน ก็มีความรู้สึกมากมาย แล้วก็เศร้า ใจเป็น เพราะรักที่ไม่ได้ครอบครอง

เขาพูดอย่างมีความหมายซ่อนอยู่

หลินซินเหยียนฟังสิ่งที่อยากจะสื่อออกเหมือนกัน

เธอทําท่าทีเหมือนไม่มีอะไร ก่อนจะมองห้องรับรอง พลางยื่นมือไปแตะโคมไฟ แล้วก็เคาะขวดเหล้า ก่อนจะ วางแก้วไวน์ลง “โลกนี้มีคนมากมาย คนที่ได้เจอนั้นก็นับ เป็นพรหมลิขิตทั้งนั้น สำหรับพรหมลิขิตนั้น มีคำโบราณ ว่าไว้ สิ่งที่เป็นของเรามันก็เป็นของเราวันยังค่ำ แต่สิ่งที่ มันไม่ใช่ของเรา ถึงจะแลกด้วยชีวิตก็เอามันมาไม่ได้”

เหอรุ่ยเจ๋อก้มหน้ายิ้ม “คุณยังคมคายเหมือนเดิม ไม่ยอมให้พี่ชายเลย ไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่แล้วใช่ไหม? ”

หลินซินเหยียนหันกลับมา ก่อนจะยิ้มให้เขา “คุณยังไม่ แก่ ในสายตาฉัน คุณยังคงเป็นเด็กที่ใส่ชุดกาวน์ แล้วก็ ใส่แว่น พลางถามอาการคนไข้ด้วยท่าทีอ่อนโยน ดูแลฉัน เหมือนพี่ชาย ฉันจำได้ดี”

เหอรุ่ยเจ่อเปิดขวดออก ก่อนจะรินเหล้า “เราเลิกพูด เรื่องในสมัยก่อนกันเถอะ”

เขากลัวว่าตัวเองจะใจอ่อน แล้วลงมือไม่ลง

แต่ว่า ถ้าไม่ทำลายเธอ เหอรุ่ยหลินกับจงจิ่งห้าวก็คงทำ ไม่ได้ และก็ไม่สามารถใช้การแต่งงานมาทำให้ตระกูลมี อนาคตที่ดี

เขารินเหล้าลงแก้วสองแก้ว “ไม่ต้องดูแล้วล่ะ มาดื่มกับพี่ เถอะ”

หลินซินเหยียนนั่งลงบนโซฟา ก่อนจะหยิบแก้วที่เหอรุ่ ยเจ๋อรินให้ขึ้น มันมีสีแดงสด กลิ่นล้ำลึก มันเป็นไวน์แดง ระดับสูง เหอรุ่ยเจ๋อยกแก้วขึ้นมาก่อนจะชนแก้วกับเธอ จนเกิดเสียงใสขึ้น “วันนี้ ไม่เมาไม่กลับกันนะ”

“ฉันดื่มไม่ค่อยเก่ง คงจะอยู่ดื่มกับคุณจนเมาไม่ไหว คง ต้องรีบกลับก่อนนะ เสี่ยวลุ่ยอยู่ห่างจากฉันไม่ได้หรอก”หลินลุยซีนอนก็เพราะเธอมาตลอด ถ้าเกิดว่าเธอไม่อยู่ คืนนี้ ไม่รู้ว่าจะทําให้จวงจื่อจีนวุ่นวายหรือเปล่า

เหอรุ่ยเจ๋อไม่ได้ตอบอะไร แต่ยกดื่มจนหมด

เขาถือแก้วเปล่าให้หลินซินเหยียนดู “พี่กินหมดแล้ว ตา คุณแล้วล่ะ”

หลินซินเหยียนเลยต้องดื่มไปด้วย

ไวน์แดงไม่เหมือนกับไวน์ขาว ที่เร่าร้อน ไวน์แดงนั้นอ่อน นุ่ม ไม่มีทางรู้สึกไม่เข้ากันอย่างแน่นอน

เหอรุ่ยเจอรินให้เธออีก “นี่เป็นครั้งแรกที่เราสองคนได้ อยู่ด้วยกันในที่เงียบๆ แบบนี้เลยนะ มีแต่พวกเราสองคน ที่ดื่มด้วยกันนะ”

“อือ” หลินซินเหยียนผลุบตาลง ก่อนจะจ้องท่าทีตอนที่ เขารินไวน์ แววตาก็เริ่มเบลอ ก่อนจะมีเงาที่ทับซ้อนกัน เธอกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะพูด “ใช่น่ะสิ แต่ถึงมันจะอ่อน นุ่ม แต่กลับร้อนแรงไม่เบาเลยล่ะ”

เหอรุ่ยเจ๋อมองเธอ พลางถาม “งั้นเหรอ?

“ใช้” หลินซินเหยียนรู้สึกมึนเมาขึ้นมา
“ไม่ใช่เพราะไม่อยากจะดื่มด้วยกัน เลยหาข้ออ้างนะ? ” เหอรุ่ยเจ๋อตั้งใจพูดออกมา

“เปล่า เปล่าเลย” หลินซินเหยียนนวดขมับเล็กน้อย แต่ อาการมึนนั้นก็ยังไม่หายไป แต่กลับรู้สึกหนักขึ้นเรื่อยๆ

เหอรุ่ยเจ๋อยื่นแก้วที่เต็มไปด้วยเหล้าให้เธอ “อย่าคิดจะอู้ นะ คุณบอกเองว่าจะดื่มเป็นเพื่อนฉัน”

หลินซินเหยียนกะพริบตาปริบๆ เพราะอยากจะมองเขา อย่างชัดเจน แต่ว่าก็ยังคงมองไม่ชัดเจนเหมือนเดิม มัน เหมือนมีหมอกบังอยู่ด้านหน้าอย่างไรอย่างนั้นเลย

เธอดื่มหมดแก้วอีกครั้งเพราะการเร่งเร้าของเหอรุ่ยเจ๋อ

เหอรุ่ยเจ๋อรินให้เธอต่อ

“ฉันดื่มต่อไม่ได้แล้ว ฉันเมาแล้วล่ะ ฉันอยากกลับไป แล้ว เสี่ยวซีกับเสี่ยวลุยยังรอฉันกลับบ้านอยู่นะ” พูดไป เธอก็ลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินโซเซไปได้เล็กน้อย ภาพก็ตัด ทุกอย่างมืดดำไปหมด ก่อนจะล้มลงกับพื้นทันที

ทั้งหมดนี้ เหอรุ่ยเจ๋อนั่งอยู่ที่โซฟาโดยไม่ได้ขยับไปไหน เลย เหมือนจะรู้ว่าเธอไม่มีทางเดินออกจากห้องรับรองได้ แน่นอน
เขาดื่มหมดก่อนจะวางแก้วลง จากนั้นก็ลุกขึ้นมา พลาง อุ้มหลินซันเหยียนที่นอนไม่ได้สติอยู่ที่พื้นขึ้นมา วางบน โซฟา

เธอผอม ตัวเบา เขาแทบจะไม่ต้องใช้แรงเลย

เขาวางหลินซินเหยียนให้ดี จากนั้นก็นั่งข้างเธอ แล้วลูบ ผมของเธอ “คุณอย่าโทษฉันเลย คุณบังคับให้ฉันทำเอง ต่างหากล่ะ”

ตอนมาก็ได้วางแผนทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว

เพียงแค่ในใจเขาไม่แน่วแน่มากพอ เลยถูกเหอรุ่ยหลิน บังคับต่ออีก

หลังจากที่ได้ยินเสียงของหลินซินเหยียนพูด เขาก็ไม่

ลังเลแล้ว

เขาลูบใบหน้าเธออย่างอ่อนโยน “คุณไม่สนใจฉันเลย แล้วทำไมฉันต้องสนใจคุณอีกล่ะ? ”

หลินซินเหยียนไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น และไม่ได้ยินสิ่งที่เขา พูดด้วย

เขาค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อของเธอ ผิวของเธอนั้นขาวผ่อง ละเอียดลออ เหมือนกับเครื่องเคลือบสีขาว มือของ เขาลูบใบหน้าของเธอ คอของเธอ…

ลูกกระเดือกนั้นขยับขึ้นลง

“ฉันรู้ว่าเมื่อคุณตื่นขึ้นมาแล้วจะต้องเกลียดฉัน แต่ว่าพี่ ไม่มีทางถอยแล้ว คุณดื่มน้ำเปล่าที่พี่ใส่ยาลงไป ก็ไม่มี ทางให้ถอยแล้ว ในเมื่อคุณไม่มี ฉันเองก็ไม่มีเหมือนกัน” ในน้ำเปล่านั้นมียากระตุ้นใส่เข้าไป ส่วนไวน์แดงเองก็มี แอลกอฮอล์ที่สูง เมื่อรวมกัน มันยิ่งทำให้มึนเมาเร็วขึ้น

ถ้าถูกจับได้ก็ตรวจสอบไม่ได้อยู่ดี เพราะผลจะออกมา เพียงแค่ว่าเมาไปเท่านั้นเอง

เสื้อของเธอนั้นถูกเหอรุ่ยเจ๋อถอดออก มีชุดชั้นในสีดำ ห่อหุ้มเอาไว้ และขยับเล็กน้อยตามการหายใจของเธอ มันทําให้เร่าร้อนเสียเหลือเกิน

หน้าท้องของเธอนั้นราบแบนมาก แถมรอยหน้าท้องก็มี ไม่มากด้วย มันเป็นรอยที่เหลือเอาไว้จากตอนที่เธออุ้ม ท้องหลินซีเฉินกับหลินลุยซี

ตอนที่เด็กสองคนนั้นคลอดออกมานั้นตัวไม่ใหญ่เท่า ไหร่ หน้าท้องของเธอเลยมีลายไม่เยอะเท่าไหร่ไม่เหมือน กับคนอื่นที่มีรอยจนน่ากลัว ของเธอนั้นเบาบาง ดูไม่น่า เกลียดเท่าไหร่ ออกจะเซ็กซี่ด้วยซ้ำ
มีใหญ่ของเขากุมอยู่ตรงบริเวณหน้าท้องของเธอ “หลิน หลินบอกว่า ผู้หญิงทุกคนต่างมีเซนส์ในตัวเองอยู่แล้ว ถ้าเกิดว่าได้พบกับผู้ชายคนแรกของตัวเองแล้วจะต้องมี เซนส์นั้นแน่นอน ถ้าคุณรู้ว่าคนคนนั้นคือจงจิ่งห้าว จะยัง รักเขาอยู่ไหม? *

“ไม่สิ คุณหวั่นไหวไปแล้วใช่ไหม? ” เหอรุ่ยเจ๋อก้มหน้า ยิ้ม ก่อนจะพูดเสียงต่ำกว่าเดิม “หลังจากที่เขาเห็นคุณ ก็คงจะยกเลิกการหมั้นกับหลินหลินแน่นอน ส่วนคุณไม่ ยอมกลับมาสักที แต่หลังจากที่ได้เจอเขา ก็กลับมา มัน เป็นเพราะว่าเขาใช่ไหม? ”

เขาจูบปากของเธอ “นี่เป็นครั้งแรก ที่คุณไม่ขัดขืนฉัน แล้วให้ฉันจูบคุณ”

แต่ก่อนเขาก็เคยจูบเธอ แต่ทุกครั้งเธอจะปฏิเสธเขาทุก ครั้งทันเวลาพอดี

เขารู้ว่ากำลังกีดกันที่จะให้เขาสนิทมากขึ้น

เพราะว่าไม่ชอบ ถึงปากจะตอบตกลง แต่ร่างกายนั้นก็ อดไม่ได้ที่จะปฏิเสธเขาอยู่ดี

เขากระซิบข้างหูเธอ “บางทีหลินหลินอาจจะพูดถูก ถึง แม้ว่าคุณจะไม่รู้ว่าคนคนนั้นคือจงจิ่งห้าว แต่ว่าพวกคุณก็ เคยมีสัมพันธ์กัน ก็คงจะรู้สึกอะไรกันบ้าง และคงเป็นความรู้สึกใต้จิตสำนึก

“ถ้าฉันรู้สึกกับคุณ คุณจะรู้สึกอะไรกับฉันบ้างหรือ

เปล่า? เหยียนเหยียน…

เขาพูดไป พลางแกะกระดุมกางเกงของเธอ

ก่อนจะรูดซิปลงมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ