ยั่วรักคุณเมีย

บทที่73 ปีนั้นทำไมถึงกำหนดการหมั้นล่ะ



บทที่73 ปีนั้นทำไมถึงกำหนดการหมั้นล่ะ

จงจิ่งห้าวหน้านิ่ง ” ถ้าไม่ได้ร้อนรนอะไร ก็กลับไปเสีย ดีๆ”

มือที่อยู่ข้างลำตัวทั้งสองข้างของเธอกุมกันอย่างแนบ แน่น ในใจเต็มไปด้วยอารมณ์ที่สับสนแปรปรวน ” คุณ บอกฉันสิ ว่าคุณทำแบบนี้ทำไม ”

เธอไม่รู้ว่าที่เขาทำแบบนี้ จริงๆแล้วกำลังพูดออกมาเป็น นัยว่า ผมขอบคุณ

แต่จริงๆในใจของเธอรู้ดี ว่าจงจิ่งห้าวไม่มีทางมาชอบ ผู้หญิงอย่างเธอ แต่การกระทำของเขา มันทำให้เธอไม่ เข้าใจเช่นกัน

เธอหาคำอธิบายอื่นๆสำหรับเรื่องนี้ไม่ได้แล้ว

จงจิ่งห้าวยืนขึ้นมา

ทำไมน่ะเหรอ

เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่รู้แค่ว่า อยากให้ผู้หญิงคนนี้ กลับไปอยู่ตำแหน่งเดิม ” คุณเป็นผู้หญิงที่แม่ผมเลือก ไว้ให้เป็นภรรยา ผมไม่อาจเนรคุณ ดังนั้นก็ต้องทำตาม เจตนารมณ์ของคนที่จากไปแล้วสิ ”
หลินซินเหยียนอยากขำ แต่ก็ขำไม่ออก

ขณะนั้นเธอไม่รู้ว่าตัวเองควรจะแสดงสีหน้าแบบไหน ออกมา จะดีใจ หรือเสียใจดี

แค่เพราะว่า ฉันคือคนที่แม่ของคุณกำหนดเอาไว้ว่าจะ หมั้น คุณก็เลยอยากให้ฉันกลับไปเนี่ยนะ ” หลินซินเหยี ยนสับสนจนไม่รู้จะตอกกลับยังไง

เธอไม่รู้ว่าท่าไมตัวเองถึงคาดหวังให้เขาพูดคำว่า ไม่ใช่ ออกมา

จงจิ่งห้าวหันหลังให้กับเธอ อารมณ์จากใบหน้านั้น ถูกซ่อนไว้กับแสงจากภายนอกที่ตกกระทบเข้ามาจาก หน้าต่าง เขาตอบอีมเบาๆ

นี่คือหนึ่งในคําตอบที่คาดว่าจะต้องได้ยิน

แต่เธอกลับรู้สึกผิดหวังแบบแปลกๆ

เธอยิ้มเจื่อนๆ ” คุณคิดว่าถ้าฉันยืนอยู่ในตำแหน่งที่ว่า นั่นจริงๆ มันเหมาะสมงั้นเหรอ อีกอย่างคุณไม่ได้ได้หมั้น กับเหอรุ่ยหลินแล้วหรือไง คุณจะมาหลอกฉัน มาเล่นกับ ฉัน มันสนุกนักรีไง ”
เส้นแสดงอารมณ์บนใบหน้าของเขา ตึงราวกับสายธนู

เขาพยายามที่จะมองข้ามเรื่องบางเรื่องไป นั่นก็คือเรื่อง ที่หลินซินเหยียนเคยผ่านผู้ชายและเคยมีลูกมาแล้ว

นี่คือสิ่งที่เขาไม่อยากเอ่ยถึง หรือไปคิดอะไรมากมาย แต่เมื่อโดนเธอพูดออกมาแบบนี้ เข้าก็จำเป็นที่จะต้อง เผชิญหน้าเช่นกัน

” ผมจะไม่แต่งงานกับเหอรุ่ยหลินแน่นอน แต่คุณก็ไม่ เห็นว่าจะมีอะไรที่ไม่เหมาะสมกับต่าแหน่งนี้เลยหนิ ” ขำ ตอบด้วยน้าเสียงราบเรียบ

หลินซินเหยียนแค่นขำ” ไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสมเหรอ คุณพูดจริงดิ ”

จงจิ่งห้าวหันกลับมา ก่อนจะมีแสงอ่อนๆ จากข้างนอก ส่องผ่านตัวเขา เขามองผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงข้าม ” คุณ ไม่ใช่หญิงสาวที่บริสุทธิ์ ผมก็ไม่ใช่ผู้ชายที่ดีเด่นอะไร พวกเราก็เหมือนกัน เราจะรังเกียจกันไปทําไม ”

ที่แท้ก็รู้เรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าทำไมได้ยินเขาพูดออก มาเองกับตัว ในใจถึงรู้สึกผิดหวังแบบแปลกๆ

เขาเป็นผู้ชายปกติทั่วไป เหอรุ่ยหลินอยู่ข้างๆเขามานาน ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย ถือว่าเป็นเรื่องแปลก

เธอรู้

เธอเข้าใจ เข้าใจอย่างดีเลยล่ะ

แต่ไม่รู้ว่าทำไมพอคิดว่าเขาเคยนอนกับผู้หญิงคนอื่นมา ก่อน ในอกมันจุกไปหมด รู้สึกได้ถึงความทรมานข้างใน ใจ

” วันนี้ผมต้องกลับไปแล้ว ” ที่เขามาหาเธอในวันนี้เพราะ ต้องการบอกเรื่องนี้

” อืม ” หลินซินเหยียนหันหนี ไม่ได้มองไปที่เขา เธอทำเป็นเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไร

อืด มืด…

โทรศัพท์ของหลินซินเหยียนที่วางอยู่บนโต๊ะสันขึ้นมา เธอหันไป ก็เห็นว่าเป็นชื่อของลูกชายตัวเอง จึงยื่นมือไป หยิบขึ้นมา

” เสี่ยวเฉิน ”
” หม่ามี้ วันนี้มารับผมที่โรงเรียนได้ไหมครับ ” หลินซีเฉิน ถาม

” ได้สิจ๊ะ ” ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าลูกของเธออีกแล้ว เธอมองไปยังนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ” ให้ไปกี่โมงล่ะ ”

* ตอนนี้ได้ไหมครับ ”

“…ได้จ๊ะ ”

“งั้นผมจะรอนะฮะ ”

” โอเค ”

ปลายสายวางโทรศัพท์ไป หลินซินเหยียนจึงวางหูลง เธอเก็บแบบที่อยู่บนโต๊ะ เตรียมตัวที่จะไป เมื่อเห็นจงจิ่ง ห้าวที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอ ก็นึกขึ้นได้ว่า ยังมีคนอยู่ที่นี่

จะออกไปเหรอ ”

หลินซินเหยียนเม้มปาก ” ลูกชายของฉันอยากให้ฉันไปรับแกน่ะ ”
จงจิ่งห้าวก็พึ่งได้ยินไป เมื่อนึกถึงลูกชายของเธอที่ทำตัว เป็นปรปักษ์ต่อเขาแล้ว ก็เลยอดไม่ได้ที่จะถาม ” คุณพูด อะไรไม่ดีเกี่ยวกับผมให้เขาฟังรึเปล่า ”

หลินซินเหยียนเมื่อได้ยินก็ฉงน ” พูดไม่ดีเกี่ยวกับคุณ

เนี่ยนะ

” ถ้าคุณไม่ได้พูด ทําไมลูกชายคุณถึงทำตัวเป็นศัตรูกับ

ผมขนาดนั้น ”

ครั้งนี้ทำให้หลินซินเหยียนเข้าใจขึ้นมาทันที

แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรไป เลยตั้งใจที่เปลี่ยนหัวข้อสนทนา ” คุณต้องรีบไปให้ทันเที่ยวบินนี่ ฉันต้องไปแล้วล่ะ ”

เธอบอกไม่ได้เหมือนกันว่าหลินซีเฉินคงเห็นเขาจูบเธอ อย่างดุดัน เลยอาฆาตเขาหรือเปล่า

เธอเดินไปถึงหน้าประตู แล้วหันกลับมามองเขา ” ไม่ไป เหรอ

เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังหลบเลี่ยงประเด็นนี้ แต่จงจิ่งห้าว ก็ไม่ได้ค้านอะไร เลยตามน้ำเธอไป เขาถามเธอว่า ” ลูกชายคุณเรียนที่ไหนล่ะ ”
” AC”

ACงั้นเหรอ

เขาชักสายตากลับไปกลับมา รู้ว่าเด็กคนนั้นฉลาด ครั้ง ก่อนเขาโดนเจ้าเด็กนั่นก็ใส่ร้ายว่าเขาเรียนฆ่าไถ่ ดูก็รู้ว่า สติปัญญาของเด็กนั่นเหลือล้น รู้จักใช้ความเป็นเด็กของ ตัวเองเป็นจุดแข็ง ทำให้คนอื่นเห็นใจ เพื่อให้ได้อย่างที่ ตนหวัง

ความฉลาดเป็นกรดแบบนี้ ไม่ใช่เด็กห้าขวบทั่วไปที่จะ

ทำได้

รู้ว่าเด็กคนนี้ฉลาด แต่ไม่นึกเลยว่า เขาอายุน้อยแบบนี้ก็ สามารถเข้าไปเรียนในACได้

เมื่อพูดถึงลูกชาย หลินซินเหยียนก็ดูภูมิใจมาก ” เขา ฉลาดมาก บางทีก็มากประสบการณ์เกินผู้ใหญ่ไปแล้ว ทั้ง ยังดูแลน้องสาวได้ด้วย ”

ขณะที่พูด ใบหน้าของเธอก็เปี่ยมไปด้วยความสุขและ ความมีชีวิตชีวาเธอดูภูมิใจในตัวลูกชายของเธอมาก
จงจิ่งห้าวทําเสียงไม่พอใจ แล้วสาวเท้าเดินไปยังรถของ ตัวเอง

จะให้พูดว่าไม่รู้สึกอะไรเลย ก็คงดูหลอกเกินไปหน่อย

เขาอายุสามสิบกว่า คนมากมายที่อายุประมาณนี้ก็มีลูก เป็นของตัวเองกันแล้วทั้งนั้น

ตอนนี้ เขากลับต้องมานั่งฟังภรรยาของตัวเองกำลัง สาธยาย ว่าเธอไปมีลูกกับคนอื่น ลูกฉลาดยังไง รู้เรื่องนุ่น นี่ยังไง ถ้ามีความสุขเขาคงเป็นผีบ้าไปแล้ว

หลินซินเหยียนรู้สึกว่าเขาแปลกไป

เหมือนเขาทำเรื่องมากมาย จนทำให้คนไม่เข้าใจว่าจุด ประสงค์คืออะไรอย่างไงอย่างงั้น

หลินซินเหยียนไม่อยากคิดมาก เลยเดินไปยังรถของตัว

เอง

ไม่นาน เธอก็ขับรถไปถึงโรงเรียนของลูกชาย หลินซี เฉินเดินออกมาจากห้องเรียน ยืนอยู่ในประตูเหล็กของโรงเรียน

หลินซินเหยียนจอดรถ ลงมาแล้วเดินไปหาเด็กน้อย
” หม่ามี ”

เมื่อเห็นว่าหลินซินเหยียนมาถึง หลินซีเฉินก็ตะโกนออก มาอย่างขันแข็ง

ยามที่เห็นว่าหลินซินเหยียนเดินมา จึงเปิดประตูนั้น ให้ หลินซีเฉินออกมาข้างนอก

หลินซินเหยียนยื่นมือมาให้หนูน้อย ” มาโรงเรียนได้ยัง ไงกัน ”

ถึงเขาจะสอบผ่านแล้ว แต่เพราะเขาอายุยังน้อย อาทิตย์หนึ่งมีเรียนแค่สามวัน คือวันจันทร์ พุธ และศุกร์ วันนี้เป็นวันอังคาร

” ผมมีเรื่องขอคําแนะนำจากครูฮะ หลินซีเฉินพูดอย่างมุ่

ถ้าว่างๆ หม่ามี้ต้องเชิญครูไปเลี้ยงข้าวแล้วแฮะ เขาดี กับลูกขนาดนี้ ” หลินซินเหยียนกำลังคิดว่า วันนี้จะโทรไป ถามเขาว่าว่างไหม จะไปกินข้าวด้วยกันได้รึเปล่า

ครูลูกยังอยู่ในโรงเรียนหรือเปล่าล่ะ ” หลินซินเหยียนถาม
” ไม่ฮะ เขามีธุระ เลยออกไปแล้ว ”

หลินซินเหยียนล้มเลิกความคิดไป ก่อนจะอุ้มลูกชายสุด ที่รักขึ้นรถ แล้วใส่เข็มขัดนิรภัย

หลินซินเหยียนขับรถกลับถึงบ้าน ก็เขอเข้ากลับจวงจื่อจิ่ นที่พึ่งพาหลินเสี่ยว กลับมาจากซื้อของที่บ้านพอดี

เธอรีบลงจากรถ แล้วไปช่วงถือของในมือของจวงจื่อจิ่น

” หม่ามี้ หม่ามี้ ” หลินเสี่ยวซีท่าทีตื่นเต้นสุดๆ เด็กน้อย ยื่นมือทั้งสองข้างออกมา อยากให้หลินซินเหยียนอุ้มเขา

” เข้าบ้านก่อน ค่อยอุ้ม ”

” ไม่เอา “หลินเสี่ยวเอื้อมมือมากอดขาของหลินซินเหยี ยนไว้ ไม่ให้เธอเดินไปไหน อยากให้เธออุ้มเสียให้ได้

จวงจื่อจิ่นขำพลางส่ายหัวอย่างเสียไม่ได้ ” ลูกอุ้มเถอะ ”

หล่อนแย่งของในมือเธอกลับไป
” เสี่ยวลุ่ยเรานี่ช่างลืมคุณคนเสียจริง เลี้ยงยังไงก็ไม่รู้ จักโต ในสายตามีแต่แม่ ไม่เคยมียายอยู่เลย ”

” แต่คุณยายมีผมนะ ” หลินซีเฉินยื่นมือไปกุม จวงจื่อจั่น แล้วยิ้ม

” บ้านเรามีเสี่ยวเฉินที่รู้เรื่องที่สุดแล้วล่ะ ” จวงจื่อจั่นยิ้ม

หลินเสี่ยวซีไม่สนใจอะไร เด็กน้อยนอนเกยลงบนไหล่ หลินซินเหยียนอย่างพอใจ

ดื่ม กับความสุขของการได้อยู่ในอ้อมอกของแม่

เมื่อเข้ามาในบ้าน จวงจื่อจิ่นก็เข้าไปจัดเรียงของที่พึ่งซื้อ มาวันนี้ในครัว หลินซินเหยียนล้างมือให้กับลูกสาว เผื่อ ไปสัมผัสเชื้อโรคจากข้างนอกเข้ามา

” หม่ามี้ หนูอยากกินพุดดิ้ง ” หลินเสี่ยวซีเงยหน้าขึ้น ตา โตใสๆนั่นเปล่งประกาย เด็กน้อยกำลังออดอ้อนอยู่ใน อ้อมอกของหลินซินเหยียน

จ้ะ ” หลินซินเหยียนตอบรับแบบขำๆ

เมื่อล้างมือให้ลูกสาวเสร็จแล้ว หลินซินเหยียนก็อุ้มเธอไปไว้ที่ห้องรับแขก แล้วไปหยิบพุดดิ้งจากตู้เย็น

หลินเสี่ยว เป็นเด็กที่ชอบกินจริงๆ แค่มีของกินก็จะอยู่ เงียบๆ

หลินซินเหยียนให้หลินซีเฉินดูแลน้องสาว จากนั้นเธอก็ เดินเข้าห้องครัวไปช่วยจวงจื่อจิ่นเตรียมมื้อค่ำ

” แม่ ทำไมตอนนั้นทำไมแม่ถึงตกลงเรื่องงานหมั้นกับคุณนายจงล่ะ ”

นี่คือเรื่องที่เธอแปลกใจมาโดยตลอด แต่ไม่มีโอกาสได้เอ่ยถาม

วันนี้พอจงจิ่งห้าวพูดขึ้นมา หลินซินเหยียนเลยอยากรู้ขึ้นมาจริงๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ