ยอดหญิงอันดับหนึ่ง

ตอนที่ 77-2 แพ้ครีมทาหน้า ชี้แจง



ตอนที่ 77-2 แพ้ครีมทาหน้า ชี้แจง

แถลงไขปัญหา

ทว่าอนหวานชิ้นกลับไม่โกรธและไม่รีบ ค่อยๆ ก้มตัวลงเก็บ กระปุกผ้าแพรใบเล็กขึ้นมา ไม่ผิด นี่เป็นกระปุกผ้าแพรที่ตนใช้ บรรจุเครื่องสำอาง ส่วนครีมที่อยู่ด้านใน ปกตินางก็ใช้กระปุก ทรงกลมเช่นนี้บรรจุ โดยเครื่องสำอางชนิดน้ำกับชนิดผงจะใช้ ขวดกระเบื้องเคลือบคอยาวใบเล็กบรรจุ

พอเปิดออกดู ก็เห็นว่าครีมที่อยู่ด้านใน ตนทำเองกับมือ

เป็นครีมกลิ่นกุหลาบ

ปกติแล้ว หญิงสาวจะทาครีมลงมาถึงลำคอและหลังใบหู เพื่อรักษากลิ่นหอม ให้กระจายออกได้อย่างยาวนานและเป็น ธรรมชาติ มิน่าเล่าบริเวณกรามล่างของหานเจียวถึงได้อักเสบ รุนแรงสุด

พอนำขึ้นสูดดม

ไม่ถูกต้อง

อนหว่านในนิ่งไปสักพัก ในครีมกลิ่นกุหลาบมีส่วนผสม เกินมาหนึ่งอย่าง ซึ่งนางไม่เคยใส่เพิ่มลงไป
กลิ่นออกแนวหวานจางๆ รวมอยู่กับกลิ่นเข้มข้นของดอก

กุหลาบ

อวิ๋นหวานชื่นจึงหันไปกำชับเสียงต่ำกับซูซย่าสองสาม ประโยค แล้วชูซย่าก็เดินเข้าห้องด้านในไป สักครู่ก็รีบสาวเท้า ก้าวออกมา พร้อมอุ้มกล่องใส่ของใบเล็กไว้ในมือ ขณะ เดียวกันก็ส่งของสิ่งหนึ่งให้คุณหนูใหญ่

อวิ๋นหวาน นก้าวลงบันได เดินรอบตัวหานเจียวหลาย รอบ เพื่อประเมินรอยบวมแดงที่บริเวณแก้มและลำคอของนาง ก่อนยื่นมือเข้าใกล้ใบหน้าหานเจียว

แสงสีเงินบนนิ้วมือเรียวยาววาบผ่าน โดยที่หานเดียวยัง ไม่ทันตั้งตัว พอล่างแก้มเจ็บแสบ ค่อยรู้สึกตัวว่าถูกอนหว่าน ชิ้นส่วนหน้าไปที่หนึ่ง จึงร้องเสียงดัง ขณะยกมือขึ้นปิดตาม สัญชาตญาณ กลับถูกเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าถึงมือไว้ พลาง ด้วยเสียงอันทรงพลัง ชนิดที่ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธ

“ถ้าไม่อยากให้หน้าเละและอักเสบต่อ อย่าใช้มือจับ!

หานเจียวตกใจ แต่ก็เจ็บไปแล้ว ช่วยไม่ได้ จึงได้แต่ทำ ตามคำพูดของอวิ๋นหวานชื่น ค่อยๆ ลดมือลง

อนหวานชื่น ใช้เข็มเงินยาวราวสองนิ้วจิ้มเข้าที่เม็ดหนอง หลายเม็ดบนใบหน้าหานเจียว เพื่อให้น้ำหนองไหลออกมา ก่อนชูมือขึ้น

ซูซย่ารีบนำกล่องใส่ของใบเล็กเข้ามา แล้วหยิบถุงมือเยื่อไหมที่คุณหนูใหญ่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งเวลาทำเครื่องสำอางออก มา

อนหวานชิ้นใส่ถุงมืออย่างรวดเร็ว หยิบก้อนสำลีที่ใช้ซับ เวลาทำเครื่องสำอางขึ้นมาหนึ่งก้อน แล้วนำไปกดที่ปาก แผลของหานเจียว

“เจ้า นี่เจ้าจะทำอะไรน่ะ” หานเจียวรู้ว่านางพยายามรักษา ตน แต่ไม่รู้ว่านางกำลังจะทำอะไรกันแน่ จึงถามเสียงสั่นเล็ก น้อย ถ้ารู้แต่แรกว่านางจะเอาเข็มจิ้มหน้า ตนต้องไม่กล้าให้ นางทำแน่ ไหนเลยจะคิดว่า คุณหนูใหญ่สกุลอวิ๋น พอมาถึงก็ ลงมือก่อนค่อยรายงานที่หลัง ไวแท้

จื่อเหินกับเหมยเซียนก็ตะลึงงันเช่นเดียวกัน เห็นเพียงเข็ม เงินของคุณหนูอวิ๋นจิ้มเข้าที่ตุ่มหนองเล็กใหญ่หลายตุ่มอย่าง รวดเร็ว แล้วน้ำหนองสีเหลืองแดงก็ทยอยกันไหลออก แม้ดู เหมือนตุ่มหนองยุบลง ผิวหนังเรียบลง แต่ผิวหนังรอบๆ ก็ เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มอย่างน่าตกใจในทันที ซึ่งไม่รู้ว่าจะกลาย เป็นแผลเป็นหรือเปล่า

พอสองสาวได้สติ ก็เริ่มส่งเสียง ด้วยการก้าวเข้ามา คิดที่ จะดึงมือของอวิ๋นหว่านชิ้นลง แต่กลับไม่กล้า จึงได้แต่พูด “ระวังให้ดีล่ะ อย่าทำหน้าที่สาวเราลายเชียว!

“เสียงจุกจิกเยอะแยะอะไรอีก อุตส่าห์ทำดีกลับไม่ได้ดี ถ้า

ไม่เชื่อใจคุณหนูเรา ก็เชิญออกไปตอนนี้ยังได้! ไม่มีใครขวาง พวกเจ้าหรอก!” เมี่ยวเอ๋อร์ตอกกลับ
เมื่อสองสาวเห็นสาวใช้สกุลอวิ๋นขนาดนี้ ก็ค้อนให้หนึ่ง ขวับ แล้วไม่พูดอะไรอีก

พอกดปากแผลเพื่อห้ามเลือดเสร็จ อวิ๋นหวานชื่นก็คบสำลี อีกก้อน ใส่ลงไปในขวดกระเบื้องเคลือบลายนก คล้ายพุ่มไว้ สักพัก ค่อยคีบออกมา ทว่าขณะนำก้อนสำลีชุ่มๆ เข้าใกล้ ใบหน้าหานเจียวๆ ก็ร้อง เพราะได้กลิ่นแปลกๆ “นี่มันอะไร อีก…”

“สารสกัดจากพืช ใช้ต้านการอักเสบและบวม

หานเจียวรู้สึกว่ากลิ่นออกเย็นๆ คล้ายเพิ่งนำออกมาจาก ถังน้ำแข็งอย่างไรอย่างนั้น ไม่หอมมาก มีกลิ่นเหม็นเขียว อ่อนๆ ค่อยวางใจลง รอจนก้อนสำลีชุมแปะลงบนแผล ความ เจ็บก็ค่อยๆ ทุเลาลง ไม่รู้สึกตึงอีก กลับรู้สึกว่าผิวหน้าเย็น สบายขึ้นมาก

ผ่านไปสักพัก ขณะอนหว่านในจะเอาออก หานเจียว กลับเสียดาย “แปะต่ออีกหน่อยก็ได้…”

เมื่อเห็นน้ำเสียงนางดีขึ้นมาก ไม่มีวี่แววว่าจะหาเรื่องอีก อนหวานชิ้นก็ได้แต่ยิ้ม

จากนั้นก็คืบก้อนสำลีที่ใช้แล้วทิ้ง แล้วหันไปเทผงอะไร บางอย่างออกจากขวดกระเบื้องเคลือบใบเล็ก ลงบนกระดาษ เนื้อบาง ก่อนใช้นิ้วเกลี่ยเบาๆ แล้วแต้มลงบนแผลของหาน เจียวทีละจุด สุดท้าย ค่อยว่า
“เดี่ยวเอ๋อร์ หยิบคันฉ่องมา

หานเจียวรับคันฉ่องมาส่องดู พลันตกใจ เวลาผ่านไปไม่ ถึงหนึ่งถ้วยชา วิธีจิ้ม กด ซับ ทา ของคุณหนูอน ทำให้ตุ่มใส บริเวณกรามของตนหายไปอย่างไร้ร่องรอย ปื้นแดงก็พลอย หายไปด้วย เหลือเพียงรอยเล็บที่เกิดจากการเกาของตน ซึ่งก็ มองไม่ค่อยเห็นแล้ว โดยเฉพาะตอนนี้ที่ตนโปะแป้งฝุ่นทับไป ชั้นหนึ่ง ผิวหน้าก็ดูขาวสะอาดขึ้นมาก ถ้าไม่เข้ามาดูใกล้ๆ ก็ ไม่มีทางเห็นในที่น่าตกใจแบบเดิมอีก

“ซูซย่า เวชสำอางสองชนิดที่ข้าใช้เมื่อครู่ออกมาชนิด ละสองขวด ให้แม่นางหานเจียวไป

กำชับเสร็จ อวิ๋นหว่านชิ้นก็หันหาทานเจียว “พอกลับไป ให้ทาวันละสองครั้งเช้าเย็น ใช้สำลีก้อนจุ่มชนิดที่เป็นของเหลว แล้วเช็ดก่อน ค่อยใช้ชนิดผงทาที่แผล เช่นนี้ไม่กี่วัน ก็น่าจะ หาย”

“ไม่กี่วันก็หายหรือ คุณหนูอน… ใช้วิธีอะไรกับข้า ยาสอง ชนิดนี้คืออะไร ทำมาจากอะไร

หานเจียวพูดตะกุกตะกัก ครั้งนี้นางเรียกขานได้นอบน้อม ขึ้น แม้ไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็ไม่เชื่อไม่ได้ ด้วยเมื่อครู่หน้านาง บวมมาก คล้ายจะพึงมีพังแหล่

อนหวานชื่นจึงว่า “ใบหน้าของแม่นางหานเจียวรับของที่ ไม่ถูกกับร่างกายเข้ามา ผิวหน้าจึงบวมแดง ต่อมาก็กันจนทน ไม่ไหว ต้องใช้มือเกาบ่อยๆ แม้ล้างมือแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะสะอาดหมดจด โดยเฉพาะอาการบวมแดงบนใบหน้าแม่นาง มีแผลเล็กๆ ปนอยู่ พอไม่ทันระวัง ถูกมือที่สกปรกเกาเข้า แผล บนผิวหน้าก็ขยายใหญ่ จนกลายเป็นหนอง เมื่อครู่ข้าเห็นว่า มันสุกเต็มที่แล้ว ถ้าปล่อยไป ทุ่มก็จะค่อยๆ ฝ่อ กลายเป็น สะเก็ดหนาแข็ง ข้าจึงใช้เข็มเจาะให้น้ำหนองไหลออกมา

“เพราะมือไม่สะอาด คุณหนูอนถึงต้องใส่ถุงมือคู่นั้นหรือ ถุงมือที่ข้าเห็นเป็นประจำทั้งใหญ่ทั้งกว้าง แต่ของคุณหนูอวิ๋น ไม่เหมือนกัน ถุงมือคู่นั้นทั้งบางและนุ่มมาก ใส่แล้วติดเป็น หนึ่งเดียวกับมือ และเห็นนิ้วมือทั้งห้าอย่างชัดเจน

อนหวานชิ้นพยักหน้า “เป็นถุงมือเชื่อไหมที่ข้าสั่งทำขึ้น โดยเฉพาะ ใช้สะดวก ไม่เทอะทะ เห็นสิ่งสกปรกชัดเจน เนื่องจากต้องป้องกันการติดเชื้อรอบสอง พอปล่อยน้ำหนอง ข้าก็ใช้ก้อนสำลีชุบสารสกัดจากดอกสายน้ำผึ้งกดหน้าเจ้าไว้

“สารสกัดจาก…ดอกสายน้ำผึ้ง

อนหวาน นว่า “ดอกสายน้ำผึ้ง มีกลิ่นหอมสดชื่น ฤทธิ์ เย็น ขับร้อนถอนพิษ ช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนและตึงที่แผล สุดท้ายค่อยแต้มผงดอกกุหลาบ ดอกกุหลาบช่วยให้เลือดไหล เวียน ลดอาการบวม ป้องกันไม่ให้เลือดเหนียว

พอฟังถึงตรงนี้ หานเจียวก็รู้แล้วว่าเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้ามี ความสามารถจริงๆ และพอนึกถึงตอนแรกที่ตนเสียมารยาท เอะอะโวยวายไป ก็รู้สึกผิดขึ้นมา และในตอนนี้เอง จื่อเห็นที่ อยู่ข้างๆ ก็กระซิบเสียงเบา
“ต่อให้นางรักษาหน้าที่ได้ ก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว ใคร ทํา ใครก็ต้องรับผิดชอบ เป็นเรื่องธรรมดา

อวิ๋นหว่านชิ้นได้ยินก็ไม่โกรธ ควักครีมกุหลาบในกระปุก ขึ้นมาดู ยกกระปุกขึ้นเขย่าไปมา แล้วว่า

เมื่อจัดการเรื่องสำคัญเสร็จ เช่นนั้น ข้าก็อยากถามอีก หน่อยว่า แม่นางหานเจียวแพ้น้ำผึ้ง ใช่หรือไม่ หรือพูดอีกอย่าง ก็คือ ทุกครั้งที่ทานน้ำผึ้ง จะรู้สึกไม่ค่อยสบาย

หานเจียวตะลึงงันอยู่ครึ่งค่อนวัน ก่อนตอบ “เจ้า เจ้ารู้ได้

อย่างไร”

จื่อเหินกับเหมยเซียนก็อึ้งเช่นเดียวกัน หานเจียวกินน้ำผึ้ง ไม่ได้จริงๆ กินแล้วจะอาเจียนและท้องเสีย รู้สึกแน่นท้อง ไม่ สบายไปหมด เรื่องนี้พี่น้องบนเรือสำราญว่านชุน รวมทั้ง แมงดาและมาม่าซังล้วนรู้ดี แต่คนนอกอย่างนางรู้ได้อย่างไร

“เช่นนี้ก็ชัดเจน” อวิ๋นหว่านชิ้นนำกระปุกครีมกุหลาบตัด ใส่มือหานเจียว “หมอที่เจ้าไปหาพูดไม่ผิด ในครีมไม่มีพิษ เพียงแต่ ถูกใครบางคนเติมน้ำผึ้งลงไป” ว่าแล้วก็หันไปหยิบ ครีมกุหลาบกระปุกที่เหมือนกันส่งให้ทานเกี่ยวกับน้องๆ

“นี่ก็คือครีมกุหลาบที่ข้าทำเหมือนกัน แม่นางหานเจียว มองแวบเดียวก็รู้ ในกระปุกดั้งเดิมคือครีมกุหลาบบริสุทธิ์ ที่ ไม่มีน้ำผึ้งเป็นส่วนผสม ถ้าไม่เชื่อ ก็นำกลับไปแล้วให้คนที่ ไว้ใจ ตรวจสอบอย่างละเอียดดูได้
หานเจียวอึ้ง เข้าใจแล้ว จึงสะบัดแขนเสื้อ โกรธจนเลิกคิ้ว ดั่งต้นหลิวขึ้น

“หรือเด็กรับใช้ที่ไปซื้อเครื่องสำอางนั้น จงใจทำร้ายข้า

อนหวาน นว่า “พอแม่นางหานเจียวกลับไปแล้ว ก็ลอง เรียกเด็กรับใช้มาสอบถามดู น่าจะพอรู้อะไรระแคะระคายอยู่ แต่ไม่ว่าใครคิดทําร้ายแม่นาง อย่างไรก็ไม่ใช่ช้า ที่ไม่เคย โกรธแค้นอะไรแม่นางเลย ที่ข้าให้แม่นางเข้ามา และรักษา หน้าให้แม่นาง ก็เพราะอยากให้เข้าใจว่า อย่าได้หลงกลใคร หรือตกเป็นเครื่องมือของใครได้ง่ายๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ