ยอดหญิงอันดับหนึ่ง

ตอนที่ 81-4 ท่านสามควบคุมตัวเองไม่ได้



ตอนที่ 81-4 ท่านสามควบคุมตัวเองไม่ได้

นางมาร นางคือนางมารตนหนึ่ง

ยากที่เขาจะควบคุมตนเองได้อีก พอเสียงจากลำคอดัง ในที่สุดเขาก็ใช้สัญชาติญาณดิบ จับมือเล็กๆ ของนางแล้วขึ้น ให้ไปหยุดอยู่ตรงนั้นสำเร็จ

ครั้นพอตื่น ไหนเลยจะเห็นเงาร่างสาวงาม พอเลิกผ้าห่ม ขึ้น นั่นไง มีแต่ความยุ่งเหยิง

ทว่าพฤติกรรมเช่นนี้ ก็ยังไม่สามารถบรรเทาความร้อนใน

ร่างกายได้หมด ซึ่งมันกำลังค่อยๆ ปะทุขึ้นอีก

ผลของคืนนั้นก็คือ อย่าโหวซื้อถึงลุกขึ้นไปอาบน้ำเย็น อย่างหดหู่ใจ อีกทั้งกรอกน้ำเย็นลงคอไปสามเหยือก ค่อย หยุดยั้งลงได้

รุ่งเช้า พอหรุ่ยจือเข้ามาเก็บกวาดห้อง เห็นผ้าปูที่นอน ยุ่งเหยิงกว่าปกติ และเห็นนายหน้าแดงถึงใบหู ก็ กระวนกระวายใจไม่หยุด

นี่เป็นครั้งแรกที่ซย่า โหวซื่อถึงควบคุมตัวเองไม่ได้อย่าง สิ้นเชิง
ตอนนี้ในงานเลี้ยง เขาจึงดื่มจับเลี้ยงไปหลายถ้วย แล้ว พยายามหลีกเลี่ยง ไม่หันไปมองทิวทัศน์อันสวยงามที่อยู่เบื้อง ไปทางฝั่งตรงข้ามอีก เช่นนี้ ค่อยถอนพลังความร้อนขุมนั้น ออกไปได้

ส่วนเรื่องที่จู่ๆ ทำไมมีคุณชายลูกขุนนางในตึกใจซึ่งหลาย คนมาประจบประแจง อย่าโหวซื้อถึงแทบไม่ต้องขบคิดก็รู้ว่า เพราะนางในตอนนี้ ดึงดูดสายตาของชายหนุ่มที่กำลังนั่งอยู่ ในงานเลี้ยงไม่น้อย

องค์ชายแปดเยี่ยนอ๋องที่รู้ใจเสด็จพี่สามดุจหนอนในท้อง เรื่อยมา หลังจากสังเกตเห็นอาการ ก็หันไปแซวทันที “บอกให้ น้องใช้แผนขี่ม้าตีคลีล่อให้คุณชายทั้งหลายออกไปนั้น ที่แท้

เสด็จพี่สามทำท่าจะเอาเรื่อง เยี่ยนอ๋องค่อยทำปากยื่น ปากยาว ไม่กล้าพูดต่ออีก

ขณะเดียวกัน เจียไทเฮาก็อยากช่วยหลานบางคนคลาย ความกระอักกระอ่วนจากความสับสนและกระวนกระวายใจ จึง พูดขึ้น “ทำไมเจ้าห้ายังไม่มาสักทีล่ะ

หมู่นี้พอเรื่องเหมืองแร่ที่เขาชิงเหอแดง และเว่ยอ๋องถูก ร้องเรียนว่าฝ่าฝืนกฎระเบียบราชสำนัก จ้างคนงานให้ขุดเจาะ เหมืองแร่เป็นการส่วนตัว เพื่อกอบโกยผลประโยชน์มหาศาล เข้ากระเป๋าตัวเอง

ซึ่งเรื่องนี้ เจียไทเฮาก็ได้ยินมาเช่นกัน ตอนนี้พอเห็นว่าสายป่านนี้แล้วเขายังไม่มา ก็เริ่มไม่พอใจ หน้านิ่วคิ้วขมวด ซุ่นจึงรีบตอบ

“อาจมีธุระที่ทำให้ล่าช้าก็เป็นได้ บ่าวเพิ่งบอกให้คนไป เชิญที่ห้องเดียวหลานแล้วพ่ะย่ะค่ะ

“ยังจะมีธุระอะไรอีก” เจียไทเฮาถอนหายใจ แล้วส่ายหน้า “หรือเพราะถือว่าเป็นคนโปรดของฝ่าบาท ถึงได้ไม่เห็นใครอยู่ ในสายตา” พูดพลางเหลือบมองมเหสีรองเหวย

ถึงมเหสีรองเหวยร้ายกาจเพียงใด ก็ไม่กล้าต่อกรกับไท เฮาแน่ จึงรีบกลืนคำพูดลงไปทั้งๆ ที่กำลังพูดคุยเสียงสูงพลาง ยิ้มหัวอยู่

อนหวานชิ้นเริ่มเบื่อ เมื่อไม่มีอะไรทำ จึงหันมองไปรอบๆ เก็บภาพตรงหน้าไว้ ดูไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคน

ธรรมดาหรือเชื้อพระวงศ์ ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างแม่ สามีกับลูกสะใภ้ล้วนเกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น และเกรงว่ายิ่งเป็นเชื้อ พระวงศ์ ปัญหาก็ยิ่งซับซ้อน ดูออกว่า เจียไทเฮามิได้ชื่นชม มเหสีรองคนโปรดเสียเท่าไหร่ กระทั่งไม่พอใจในบางเรื่องด้วย ซ้ำ จึงเหมารวมไปถึงโอรสที่เกิดจากมเหสีรองเหวยอย่างเว่ย อง นางก็ไม่ค่อยชอบเช่นกัน

ผ่านไปราวครึ่งชั่วยาม วันที่น้อยที่ไปเชิญเว่ยอ๋องจาก ที่พักองค์ชายก็กลับมา เสียงฝีเท้าลนลานเล็กน้อย โดยรีบเดิน จากด้านหลังของกลุ่มคน เข้ามารายงานข้างกายจูซัน
พออนหวานชิ้นเห็นจูซันหน้าเปลี่ยนสี ก่อนสูดหายใจเข้า ครึ่งค่อนวันก็ยังไม่ผ่อนออก ใจนางจึงเต้นแรงทันที คล้ายมี ลางสังหรณ์บางอย่าง

เจียไทเฮาเป็นคนฉลาด พอเห็นขันที่น้อยที่ไปเชิญคนกลับ มา แล้วเห็นจูซุนหน้าเปลี่ยนสี ก็เรียกให้เข้ามาหา จูนจึง ปกปิดไม่ได้อีก ได้แต่กระซิบที่ข้างหูไทเฮา

พอไทเฮาได้ยิน ก็เลิกคิ้วขึ้น ก่อนขมวดคิ้วแน่นขึ้นเรื่อยๆ และหันไปจ้องมองมเหสีรองเหวย

ผ่านไปอีกราวครึ่งชั่วยาม อวิ๋นหวานชื่นก็ได้ยินเสียงฝีเท้า ที่รีบร้อนดังมาจากซุ้มทางเข้างานเลี้ยง ตามด้วยเสียงรายงาน ที่แหลมและลากยาวของขันที “องค์ชายห้าเว่ยอ๋องเสด็จ

เสียงฝีเท้าของเวยอ๋องยุ่งเหยิงขณะเดินเข้ามาในงานเลี้ยง พร้อมบ่าวรับใช้กลุ่มหนึ่ง โดยเกือบจะเดินเซไปมาด้วยซ้ำ ใบหน้าอันหล่อเหลาแดงระเรืออย่างน่าสงสัย แววตาเลื่อนลอย คล้ายคนเพิ่งตื่นจากการผลอยหลับ อวิ๋นหว่านลงก็เดินมากับ กลุ่มนางในที่อยู่ด้านหลังด้วย นางเดินกระย่องกระแย่ง และ หน้าแดงระเรื่อเช่นกัน เสื้อผ้าแม้ดูเรียบร้อย แต่เครื่องประดับ บนศีรษะไม่เหมือนตอนเข้าวังมา คล้ายถูกประดับเข้าไปใหม่

“คุณหนูใหญ่” เมี่ยวเอ๋อร์ตกใจ นั่งยองๆ ลง “คุณหนูสามทำไม…ทำไมอยู่กับเว่ยอ๋องได้ พวกเขาสองคน…”
อวิ๋นหวานชิ้นกลับไม่ตื่นตระหนก นี่มิใช่วัตถุประสงค์ที่อ วันหว่านลงเข้าวังมาในวันนี้หรือ ให้ตายอย่างไรก็ต้องจับ ผู้ชายชั้นสูงให้ได้ เพียงแต่คิดไม่ถึงว่า นางจะจับเว่ยอ๋อง แต่ นางถูกฉินอ๋องเรียกตัวไปมิใช่หรือ ทำไมถึงอยู่กับเว่ยอ๋องได้ล่ะ

อนหว่านลงเห็นสายตาของพี่ใหญ่มาแต่ไกล จากความ เฉลียวฉลาดของพี่ใหญ่ เมื่อเห็นตนกับเว่ยอ๋องมาด้วยกัน ก็น่า จะเข้าใจแล้วว่าตนทำอะไรลงไป แม้ตนรู้สึกอายจนหน้าแดง แต่ก็ให้กำลังใจตัวเองในใจว่า ถ้าตนได้ดี จะกลัวพี่ใหญ่ไป

ตอนขันที่น้อยไปเชิญคนที่ห้องเดียวหลานนั้น วันที่ข้า งกายเว่ยอ๋องเห็นว่าสายมากแล้ว ทั้งสองก็ยังไม่ออกมาอีก จึง ไปเคาะประตู เมื่อไม่มีเสียงตอบ ก็เกรงว่าอาจเกิดอะไรขึ้น จึง ผลักประตูเข้าไป แล้วก็เห็นเยอ๋องนอนถ่ายอยู่กับสาวใช้ที่พา มาเที่ยวตำหนักองค์ชาย เสื้อผ้าไม่เรียบร้อย แต่กลับนอนหลับ เสียสนิท!

เว่ยอ๋องถูกบ่าวรับใช้ปลุก จึงตื่นขึ้นอย่างสะลึมสะลือ พอ เห็นภาพตรงหน้า ก็ตะลึงงัน

ยาที่อนหว่านลงกินเข้าไปมีปริมาณน้อย นางจึงตื่นนาน แล้ว ตอนนี้พอเห็นคนมาถึงและได้เห็นสิ่งที่ควรเห็นหมดเรียย ร้อย ก็แกล้งตื่นขึ้นเพราะถูกเสียงรบกวน ขยี้ตาไปมา ลืมตาขึ้น จากนั้นลำคอก็กระตุก สะอื้นไห้ออกมาทันที

ขันที่น้อยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ที่แท้เยอ๋องเอาแต่ใหาความสำราญในที่พักองค์ชาย จนลืมเวลาสำคัญไป พอเห็น ว่าสถานการณ์ไม่ถูกต้อง จึงรีบทิ้งคำพูดเอาไว้

“ไทเฮาเร่งให้กระหม่อมมาเชิญองค์ชายห้า ขอองค์ชาย

ห้าสวมฉลองพระองค์ให้เรียบร้อยแล้วรีบเสด็จ มิเช่นนั้นไทเฮา อาจกริ้วได้!” พูดจบ ก็กลับออกมารายงานไทเฮาก่อน

และพอเว่ยอ๋องตื่นดี ก็โมโห เตะเก้าอี้ลอยออกไปไกล แล้วชี้หน้าอวิ๋นหว่านลง

“เจ้าใช่ไหมที่วางยาข้า

กลับทำให้อวิ๋นหว่านลงร้องไห้เสียงดังขึ้นอีก

เวยฮ่องไม่ใช่คนโง่ เขาพูดคุยอยู่ดีๆ แต่กลับมานอนหลับ อุตุไปได้ ย่อมรู้ว่าต้องมีปัญหา แต่น้ำชาในถ้วยกับในกาน้ำชา ได้ถูกอวิ๋นหว่านลงเททิ้งจนเกลี้ยงแต่แรกแล้ว ตอนนี้ท่าทางขอ งอวิ๋นหว่านลงก็คือเหยื่อคนหนึ่ง ตีให้ตายอย่างไรก็ต้องพูดว่า ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น เว่ยอ๋องจึงลังเลใจ ด้วยรู้ตัวเช่นกันว่า ตนเอง ก็กร่างไปทั่ว ทั้งในวังและนอกวัง จึงมีคู่แค้นอยู่ไม่น้อย เท่านั้นที่รู้ว่าใครเป็นคนกลั่นแกล้งตน ไหนเลยจะสืบรู้ได้ใน ระยะเวลาอันสั้น แต่ดีที่ไม่นับเป็นเรื่องใหญ่อะไร บวกกับการที่ ไทเฮาร้อนใจ ถึงส่งคนมาเร่งรัด เว่ยอ๋องจึงได้แต่แสร้งทำเป็น ไม่มีเรื่องอะไรไปก่อน พอคิดเช่นนี้ ก็รีบแต่งตัวแล้วพาคนไปยัง ศาลาปทุมหอม

และตอนนี้ เวยฮ่องก็เดินนำกลุ่มคนตรงเข้ามาที่ด้านหน้า

ศาลา ก่อนคุกเข่าคารวะ
“หลานมีธุระรัดตัว จึงมาสาย ขอเสด็จย่าทรงอภัย!

กลุ่มคนด้านหลังที่ตามมา ซึ่งมีทั้งขันทีและนางใน ก็

พร้อมใจกันคุกเข่าลง

แม้เจียไทเฮาอายุมาก แต่ดวงตากลับใสกระจ่าง หัว สมองก็แจ่มใส เห็นปกเสื้อของเว่ยอ๋องมีรอยแดงๆ คล้ายชาด ทาปากของหญิงสาว กวาดตามองอีกครั้ง ก็เห็นว่า ในบรรดา หญิงสาวที่ตามมา หนึ่งในนั้นแต่งกายไม่เหมือนนางใน ดู สะดุดตาเป็นพิเศษ ร่างก็สั่นน้อยๆ ใบหน้ามีคราบน้ำตา พอ มองไปอีกที ชาดที่ริมฝีปากนางเป็นสีแดงสด แดงเดียวกับที่ เลอะปกเสื้อของเว่ยอ๋องไม่มีผิด

เจียไทเฮาเข้าใจแล้ว หญิงสาวนางนี้น่าจะเป็นหญิงสาวที่ คลุกอยู่กับเว่ยอ๋องในที่พักองค์ชายก่อนจะมาที่นี่ จึงโมโหขึ้น มาทันที หน้าเว่ยอ๋อง

“ธุระรัดตัว? ย่าว่าเจ้าเล่นสนุกจนเสียธุระมากกว่า

แขกในงานต่างกลั้นหายใจ ไม่กล้าส่งเสียง โดยแรกเริ่ม นั้น ต่างก็หันหน้ามาถามไถ่และซุบซิบกัน จนพอจะเดาอะไร ออกบ้างแล้ว เพียงแต่เห็นแก่หน้าเชื้อพระวงศ์ จึงแกล้งทำเป็น ใบ้ไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ