ยอดหญิงอันดับหนึ่ง

ตอนที่ 76-3 เลือกอนุ



ตอนที่ 76-3 เลือกอนุ

จากนิสัยแบบนั้นของบิดา ที่ลอบมีอะไรกับหญิงอื่นช่วงที่เมีย ตนตั้งท้องนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลก ด้วยไม่ใช่ครั้งแรก และการมี อนุเพิ่มก็เป็นเรื่องปกติ เพียงแต่พักหลังๆ ที่สองแม่ลูกสกุลไป มาจวนโหวนั้น นางก็ได้ข่าวมาอีกว่า อนุรองที่แต่งเข้ามาใหม่ นั้นเป็นที่ชื่นชอบของบิดามาก จนแทบจะหมกตัวอยู่กับนางทุก คืน

เนื่องจากอนุรองนางนั้น แม้อายุยังน้อย แต่กลับรู้ กาลเทศะยิ่ง ใจดี อ่อนโยน ไม่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกับใคร อ่อนน้อมถ่อมตนกับไปฮูหยินและอนุฟางราวกับเป็นสาวใช้ก็มี ปาน พอเห็นท่านพี่มาหาแต่นาง ยังเตือนสติให้ไปหาฮูหยินกับ อนุฟางบ้าง จึงทำให้อวิ๋นเสวียนนั่งยิ่งเอ็นดูนาง ซึ่งบ่าวหลัง เรือนต่างก็พูดกันว่า อนุรองมีบางส่วนคล้ายไปฮูหยินตอน สาวๆ กระทั่งฝีไม้ลายมือจัดจ้านกว่าด้วย

เดิมทีอวิ๋นหว่านชิ้นก็ไม่ค่อยรู้จักอนุรองมากนักหรอก เพราะนางแต่งเข้าบ้านหลังจากที่ตนแต่งออกจากบ้านไปแล้ว รู้ แต่ว่าหลังบ้านของบิดามีผู้หญิงเพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่ง เติบโต จากสมาคมมาผอม จึงมีสถานะต่ำต้อย แม้อวิ๋นหว่านในยังอยู่ ที่บ้าน ก็คงไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรกับนางมาก อย่าว่าแต่ออกจาก บ้านไปแล้วเลย จนกระทั่งช่วงที่อวิ๋นหว่านชิ้นสงสัยว่าตนมิได้ เป็นหมันโดยกำเนิด จึงให้ชูซย่าไปสืบดู ถึงได้รู้ว่าแม่เลี้ยงเริ่มวางยาตนตั้งแต่ก่อนออกเรือน ต่อมาชูซย่าก็เล่าให้ฟังว่า แรกๆ ยังไม่มีเบาะแส ต่อมาค่อยมีจดหมายฉบับหนึ่งส่งมา จากผู้ไม่ประสงค์ออกนาม บอกให้นางไปถามจากมอมอกับแม่ ครัวที่ดูแลเรื่องอาหารการกินของอวิ๋นหวานชื่น นางจึงไปสืบ ตามเบาะแสดังกล่าว ถึงได้รู้ว่าของบำรุงที่ไปเสงี่ยฮุยให้กิน ก่อนออกเรือนนั่นล่ะที่มีปัญหา

ส่วนผู้ไม่ประสงค์ออกนามที่ส่งจดหมายมาเมื่อชาติก่อน นั้น อวิ๋นหวานชื่นมิได้ไปสืบหา เพราะลำพังการหาโอกาสแก้ แค้นจากเวลาที่เหลืออยู่ก็แทบจะไม่ทันแล้ว…แต่ตอนนี้มาคิดๆ ดู ต้องเป็นคนในบ้านสกุลอวิ๋นแน่ อนุฟางเกรงกลัวไปฮูหยิน ตอนรู้ว่าไปฮูหยินว่าวางยาตน ก็ไม่กล้าบอกใคร ด้วยกลัวว่า ตนเองจะมีภัย

แล้วยังจะเป็นใครได้อีก

คิดไปคิดมา ผู้ที่เป็นไปได้มากสุด ก็คืออนุรอง ซึ่งใครๆ บอกว่าเป็นคนใจดี อ่อนโยน ไม่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น โดยถ้า เป็นเช่นนี้ อนุรองก็ไม่ใช่คนหัวอ่อนใจดีแล้ว แต่เป็นแบบไปเส วียฮุยตอนสาวๆ จริงๆ ที่มีใจมุ่งมั่นว่าต้องได้เลื่อนตำแหน่ง โดยใช้ตนเป็นเครื่องมือสกัดเมียหลวง

เพียงแต่อนุรองคิดไม่ถึงว่า วิธีแก้แค้นของคุณหนูใหญ่ มิใช่แค่ไปร้องห่มร้องไห้ฟ้องบิดาที่บ้าน แต่เป็นการเก็บ รวบรวมหลักฐานแล้วเข้าร้องเรียนกับฮ่องเต้โดยตรง ทำให้คน ทั้งบ้านตนและบ้านสามีฉิบหายวายวอดไปพร้อมๆ กับตน
พอนึกถึงตรงนี้ อวิ๋นหว่านชิ้นก็เก็บความรู้สึกนึกคิดคืน กลับ แม้ตนไม่เคยพบเจออนุรอง แต่สิ่งที่ได้ยินได้ฟังมา ก็พอ จะรู้ว่า วิธีการที่อนุรองใช้พลิกชีวิต ต้องไม่ด้อยไปกว่าไปเส วียฮุยแน่ เผลอๆ อาจมารยาสาไทยยิ่งกว่าไปเสงี่ยฮุยตอน สาวๆ ด้วยซ้ำ อนุรองที่เขาพูดๆ กันนั้น เหมือนดอกไม้ป่า ภายนอกดูสวยงามไม่มีพิษไม่มีภัย ทำให้คนไม่ทันระวังตัว

ถ้าชาตินี้ อนุรองต้องแต่งเข้าบ้านมาจริงๆ ก็คงเป็นไป ตามที่ซูซย่ากังวลใจ ไปฮูหยินเพิ่งสงบลงได้ไม่ทันไร คนใหม่ก็ จะมาก่อเรื่องอีก เช่นนี้จะมีวันสงบหรือไม่

แต่ในฐานะลูกสาว ถ้าบิดากับท่านย่ามีความคิดที่จะรับ คนใหม่เข้ามา นางก็ไม่สามารถขัดขวางซึ่งๆ หน้าอยู่แล้ว

ก่อนพลบค่ำ ทางเรือนตะวันตกแจ้งมาว่า ถงฮูหยินกับ หวงน้าสี่กลับจากสมาคมมาผอมแล้ว และอยากพบคุณหนู

ใหญ่

พอไปถึงเรือนตะวันตก อวิ๋นหวานชิ้นเพิ่งเลิกผ้าม่านขึ้น ถงฮูหยินที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนเตียงก็กวักมือเรียกพลางยิ้ม “ชิ้นเอ อร์มาแล้ว มาๆๆ

อนหว่านในเดินเข้าไปโค้งกาย “ท่านย่า

หลังจากนั่งลง ลงฮูหยินก็ยิ้มแล้วว่า “วันนี้ย่ากับป้าสะใภ้ เจ้าไปสมาคมมาผอมมา เลือกสาวๆ มาจำนวนหนึ่ง ดูๆ ไปก็สวยน่ารักไปหมด เลยไม่รู้จะเลือกคนไหนดี จึงซื้อกับป้าหลิว มาสามคน ตัดสินใจพาเข้ามาทำความคุ้นเคยในเรือนหลัก โดยให้เป็นสาวใช้ก่อน จากนั้นค่อยเลือกออกมาคนหนึ่ง ถ้า ไม่ดีพอ ก็เอาไว้เป็นสาวใช้แทน เจ้ามาพอดีเลย เจ้าตาดี มา ช่วยย่าดู แล้วให้ความคิดเห็นหน่อย

ว่าแล้วก็หันไปบอกให้สาวใช้พาคนเข้ามา

สักครู่ สาวใช้ก็เดินนำสามสาวเข้ามา

หญิงสาวในสมาคมมาผอมส่วนใหญ่มีอายุไม่มากนัก อย่างที่เรียกกันว่าอนน้อย ซึ่งปกติแล้วจะมีไว้รองรับแขกที่ชอบ เด็กสาวเอ๊าะๆ ซึ่งมากกว่าครึ่งอายุเพียงสิบสามสิบสี่ สิบปีก็มี อยู่ไม่น้อย ถึงเจ็ดแปดปีก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ทั้งหมดต้อง สะอาดบริสุทธิ์ งดงาม มีไหวพริบดี หลังจากเข้าสมาคมฯ ต้อง เริ่มเรียนดนตรี ดีดสีตีเป่า บทเพลงบทกลอน ค้นคว้าว่าทำ อย่างไรจึงจะมัดใจชายโดยเฉพาะ สรุปคือ ต้องการอบรมอนุ ให้ได้มาตรฐาน หรือต้องการให้เป็นแหล่งรวมนางบำเรอชั้น หนึ่ง

และส่วนใหญ่ก็เป็นเจ้าใหญ่นายโตที่ซื้อพวกนางไป โดย ทำแบบถึงฮูหยิน ให้ลองเป็นสาวใช้ข้างกายดูก่อน ค่อยเป็น ค่อยไป แล้วพอนายถูกใจ ก็จะมีห้องส่วนตัวให้ แล้วค่อยเลื่อน ขั้นเป็นอนุ

แม้บอกว่าอนุมีสถานะต่ำกว่าลูกสาวเจ้าบ้าน แต่อน หว่านชิ้นก็ยังหวั่นว่าถงฮูหยินจะเลือกเอาเด็กสาวอายุเจ็ดแปดปีกลับมา แต่ผิดคาด สามสาวตรงหน้าดูไปแล้ว มีอายุ มากกว่าที่นางคิด บางคนคล้ายอายุมากกว่านางสองสามปี ด้วยซ้ำ

ที่ลงฮูหยินซื้อคนอยากเป็นอนุมา ก็เพราะอยากให้ลูกชาย ได้ชุ่มชื่นใจ และเมื่อลูกชายอยู่ในวัยใกล้สี่สิบ ถ้าเลือกหญิง สาวที่อายุน้อยเกินไป ก็เกรงว่าจะดูแลได้ไม่ทั่วถึง จึงไม่คิดซื้อ เด็กสาวแรกแย้มที่ยังโตไม่เต็มที่มา เลือกมาก็แต่หญิงสาวร่าง สูงและดูเป็นผู้ใหญ่ จึงไม่ง่าย กว่าจะได้มาสามคน

ถงฮูหยินยิ้มแล้วว่า “พวกเจ้าทั้งสาม ยังไม่ทักทายคุณหนู ใหญ่อีก

พอทั้งสามได้ยินว่าเด็กสาวตรงหน้าคือคุณหนูจวนรองเจ้า กรม ก็พร้อมใจกันตั้งสติ ไม่กล้ารอช้า

คนที่ตัวสูงสุด สวมชุดกระโปรงสีเขียวอ่อน มวยผม

ประดับลูกปัดดอกไม้ ใส่ต่างหูตุ้งติ้ง หน้าตาออกแนว

น่ารัก ดวงตาสุกสกาวสดใสขณะกลอกตาไปมา ดูแล้วรู้ กาลเทศะสุด อีกทั้งประจบประแจงเก่ง พอได้ยินหญิงชราพูด ก็ ก้าวไปข้างหน้าบังอีกสองคนไว้ ย่อตัวลงเป็นคนแรก สองมือที่ รักษาดูแลได้อย่างเนียนขาวประสานไว้ที่เอว ทำตามมารยาทที่ ป้าหลิวสอนไว้ ทำความเคารพ ก่อนแย่งพูด

“ข้าน้อยเถาฮวา คารวะคุณหนูใหญ่

ถงฮูหยินพูดแทรก “เถ้าฮวาอายุมากสุด
อีกคนสวมเสื้อคลุมตัวเล็กลายดอกไม้ดอกเล็กๆ ปฏิกิริยา ช้ากว่าหน่อย ประหม่าเล็กน้อย พอได้ยินเถาฮวาพูดจบ ก็พูด ต่อเสียงสั่นและตะกุกตะกักอยู่บ้าง

“ข้า ข้าน้อยฮุยหลาน คารวะคุณหนูใหญ่

ฮุยหลานผิวคล้ำกว่าหน่อย แต่รูปร่างอวบอิ่ม และนี่ก็คือ สาเหตุที่ลงฮูหยินเลือกนาง ถ้าลูกชายถูกใจนาง ก็เจริญพันธุ์ ได้ง่ายหน่อย

แต่ถงฮูหยินกลับพูดเสียงต่ำ น้ำเสียงเสียดายอยู่บ้าง “ฮุย หลานมีส่วนคล้ายสาวบ้านนอกอย่างเราๆ เพียงแต่พูดไม่ค่อย คล่อง มือเท้าก็ใหญ่กว่าเมื่อเทียบกับอีกสองคน ป้าหลิวว่า เป็นเพราะนางเข้าสมาคมฯ ช้าสุด จึงดูแลรักษาผิวพรรณ ไม่ทัน

รอจนเอาฮวากับฮุยหลานแนะนำตัวเสร็จ คนสุดท้ายค่อย ก้าวออกมาเบาๆ

หญิงสาวสวมชุดกระโปรงสีชมพูอ่อน ผูกผ้าคาดเอวเป็น ทรงหูกระต่ายเล็กๆ ผมดำคลับไร้ซึ่งเครื่องประดับ เพียงหนีบที่ หนีบผมรูปดอกไม้เล็กๆ ไว้ แต่งหน้าเรียบๆ ดูไม่มีเสน่ห์ แต่ถ้า คนตาถึงจะรู้ว่า นางเป็นคนละเอียดอ่อนสุด และตอนนี้นางก็ ก้มหน้าลง พลางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนตามธรรมชาติ

“ข้าน้อยเหลียนเหนียง ยินดีที่ได้พบ ขอให้คุณหนูใหญ่ สุขภาพแข็งแรงและโชคดี”
เหลียนเหนียง? อวิ๋นหวานชิ้นเอะใจ ชื่อของอนุรองคนนั้น รู้สึกจะมีคำว่าเหลียนเหมือนกัน

หอหย่าจื้อ เหลียนเหนียง

เป็นอนุรองเมื่อชาติที่แล้วหรือ

แม้นางไม่เคยคุยกับอนุรองเมื่อชาติที่แล้ว แต่เหลียน เหนียงที่อยู่ตรงหน้า มีพฤติกรรมคล้ายกับที่เคยได้ยินมามาก รู้จักอ่านใจคน ไม่รีบร้อนแย่งชิง รู้ว่าถ้าเทียบกับการเป็นคน แรกแล้ว คนสุดท้าย น่าจะทำให้ผู้คนประทับใจได้มากกว่า

พอเอ่ยปากพูด ก็พูดไม่เหมือนคนอื่น ยิ่งทำให้โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์

เป็นคนสุขุมที่ค่อนข้างเจ้าเล่ห์

อวิ๋นหว่านชื่นมองนางอย่างล้ำลึก พลางพูดเสียงเรียบ “ทำไมต้องก้มหน้าก้มตาขนาดนั้น หน้าของเจ้านายไม่ได้อยู่ ที่พื้นสักหน่อย ทางสมาคมฯ สอนเจ้ามาว่า มารยาทขณะพบ หน้าเจ้านาย ต้องก้มหน้าพูดอย่างเอียงอาย เช่นนั้นหรือ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ