ยอดหญิงอันดับหนึ่ง

ตอนที่ 75-1 พกยาพิษติดตัว



ตอนที่ 75-1 พกยาพิษติดตัว

และแล้วภายใต้การนำของวันที่น้อย ฉันชวนก็ไปถึงห้องน้ำ หลังพระที่นั่งอี้เจิ้งได้ทันท่วงที

ผ่านไปครึ่งก้านธูป ฉันชวนค่อยตัวเบาลง พอสวม กางเกงและรัดผ้ารัดเอวเสร็จ ก็ก้าวออกมาพลางสวดยับ บ้า จริง ทั้งๆ ที่ใกล้เกษียณกลับบ้านเลี้ยงหลานแล้ว ยังต้องมา ขายหน้าฝ่าบาทกับพวกขุนนางซึ่งหน้าอีก นี่มันเรื่องอะไรกัน ท้องไส้ข้าไม่ได้แย่แบบนี้นี่

เพิ่งก้าวออกจากห้องน้ำ ขันที่น้อยที่ยืนรออยู่ก็จ้องมองตน พร้อมรอยยิ้มล้ำลึก

“ท้องไส้เจ้ากรมฉิน ในตอนนี้ ไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม?

เฒ่าเจ้าเล่ห์อย่างฉันชวนย่อมรู้ดีว่า ขันที่น้อยมิได้พูด เสียดแทงตน จึงนิ่งไป น้ำชานั่น…หรือว่าน้ำชานั่นมีปัญหา

“เป็นเจ้า?”

“โอ้ ข้าน้อยไหนเลยจะมีขวัญกล้าเทียมฟ้าเยี่ยงนี้ กลัวถูก ประหารจะแย่” ขันที่น้อยหัวร่องอหาย ก่อนสะบัดแส้ขนหาง จามรีในมือ ก้าวเข้าหา แล้วล้วงสมุดพับเล่มหนึ่งออกจากแขน เสื้อ

“แต่มีผู้สูงส่งในวังคนหนึ่งอยากให้ใต้เท้าเสนาบดี ช่วยเปลี่ยนโผรายชื่อหน่อย

ในห้องประชุม

พอเห็นฉัน ชวนไปห้องน้ำ อวิ๋นเสวียนนั่งแม่สะใจ แต่ก็ รู้สึกเหมือนเวลาผ่านไปช้ามาก ทั้งๆ ที่รู้ว่ารายชื่อที่ฉันชวน นำเสนอ ไม่มีชื่อตน แต่ก็ยังไม่วางใจ ต้องได้ยินเขาประกาศ ออกมาก่อน จึงจะสบายใจ มิเช่นนั้น ในใจก็เหมือนมีหินก้อน หนึ่งทับไว้

ครึ่งชั่วยามผ่านไป ฉันชวนก็กลับเข้ามา

ขุนนางหลายท่านเห็นเขาแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะหันไปป้อง ปากพูดข้างหู บ้างก็แอบหัวเราะ

ทว่าตอนนี้ ฉันชวนมิได้รู้สึกอับอายเช่นเมื่อครู่อีก เขา เดินเข้ามาอย่างเหม่อลอย พอเดินถึงกลางห้อง ก็กล่าวขออภัย กับหนังซีฮ่องเต้ ที่เสียมารยาทเมื่อครู่

เมื่อเห็นเขาเข้าห้องน้ำเรียบร้อย แต่สีหน้ากลับซีดขาว ฝีเท้าก็ช้าลง หนังซีฮ่องเต้จึงคิดว่าเขาอาจไม่สบายจริงๆ และ เห็นแก่ที่เขาเป็นขุนนางสองรัชสมัย เป็นผู้อาวุโสที่อายุมาก แล้ว จึงมิได้ตำหนิติเตียน คร้านที่จะเสียเวลาอีก จึงว่า “เมื่อไม่ เป็นไรแล้ว ท่านฉันก็รีบส่งโผรายชื่อมาให้ข้าเถิด”

ฉันชวนล้วงสมุดพับออกจากแขนเสื้อ ส่งให้เหยาฟูโซ่ว ด้วยมืออันสั่นเทา เหยาฟูโซ่วจึงนำสมุดพับถวายให้หนึ่งฮ่องเต้

อวิ๋นเสวียนนั่งกําหมัดแน่น คับแค้นใจยิ่ง ตำแหน่งเจ้า กรมอยู่ใกล้แค่เอื้อมแท้ๆ แต่กลับหลุดลอยไปแบบนี้ ตนเป็น ถึงรองเจ้ากรม นอกจากฉันชวนแล้ว ตนก็ใหญ่สุด ประสบการณ์ก็หลากหลาย เคยบังคับบัญชากองทัพด้วยตัวเอง มาแล้วหลายสมรภูมิ ไม่มีใครมีคุณสมบัติเทียบเท่าตน ที่พอจะ นั่งในตำแหน่งนี้ได้ แต่กลับ…

อวิ๋นเสวียนนั่งกัดฟันกรอด ลอบกอดอก ถอนหายใจ

ผ่านไปพักใหญ่ เห็นเพียงหนึ่งซีฮ่องเต้ถือสมุดพับไว้ใน มือ เงยหน้าขึ้น แล้วมองมาที่ตนด้วยสายตาค่อนข้างพินิจ พิจารณา

อนเสวียนยั่งยืนนิ่ง ในที่สุดฝ่าบาทก็เห็นตนอยู่ใน สายตา…แต่ยังไม่ทันมีปฏิกิริยาใดๆ หนังซีฮ่องเต้ก็หรี่ พระเนตรที่เปี่ยมอำนาจบารมี แล้วหันพระพักตร์ไปเล็กน้อย

“เราว่า ท่านอนไม่เลวจริงๆ เป็นหนึ่งในสามรายชื่อเจ้า กรมที่เราเลือกไว้ในใจแต่แรก แสดงว่าท่านฉินกับเราใจตรง กัน”

กบาลคล้ายถูกอะไรไปที่หนึ่ง เห็นแสงสีเงินระยิบระยับ อนเสวียนนั่งตื่นตกใจ มีตนอยู่ในรายชื่อด้วยหรือ? เป็น ไปไม่ได้…

พอฉันชวนเห็นว่าฝ่าบาทมองอวิ๋นเสวียนนั่งไว้แต่แรก ก็ยิ่งต้องพายเรือตามน้ำ เหลือบมองอวิ๋นเสวียนนั่ง แล้วว่า

“พ่ะย่ะค่ะ เสวียนนั่งอยู่ในกรมกลาโหมมาหลายปี เป็น บุคลากรที่หาไม่ได้ง่ายๆ ในกรมทั้งซ้ายและขวา ต้องสามารถ บังคับบัญชากรมกลาโหมต้าเซวียนได้อย่างแน่นอน สมควรที่ จะได้รับตำแหน่งเสนาบดี

แววตาไม่ได้รู้สึกจากใจจริงทั้งหมด คล้ายถูกบังคับอยู่

บ้าง

ของขวัญหล่นลงจากฟากฟ้า ใส่กบาลอวิ๋นเสวียนนั่ง ทำให้เขาไม่ทันได้คิดอะไร สมองยังมึนงง ขณะรีบลุกขึ้นยืน “กระหม่อมรู้สึกละอายใจ ที่อายุราชการยังน้อย แต่ถ้าได้เป็น เสนาบดี ย่อมต้องอ่อนน้อมถ่อมตน ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทำงานหนักอย่างสุดความสามารถ เพื่อต้าเซวียนเรา

เลิกประชุม

ฝ่าบาทจากไปก่อน เหล่าขุนนางทยอยกันเดินออกจาก พระที่นั่งอี้เจิ้ง

อนเสวียนนั่งจงใจออกเป็นคนสุดท้าย เขาเดินเข้าหาฉัน ชวน ตาเฒ่า จะมาไม้ไหนอีก ไม่มีทางที่จู่ๆ จะค้นพบ สัจธรรมแน่

แต่เขายังไม่ทันได้เข้าใกล้ ฉันชวนก็กุมท้อง แต่จริง สลอดในน้ำชานั่นแรงมาก ยังถ่ายออกมาไม่หมด ปวดท้องอีกแล้ว พอเห็นอนเสวียนดั่งเดินเข้ามา ก็สะบัดแขนเสื้อ แล้วพูด น้ำเสียงดูหมิ่น

“อาศัยเส้นสายเมีย เครือข่ายญาติ ต่อให้ได้เป็นเสนาบดี ก็เท่านั้น! โอ๊ย ท้องข้า…ไม่ไหว… ว่าแล้วก็วิ่งไปห้องน้ำทันที

อวิ๋นเสวียนนั่งคิดไปคิดมา ก็พอจะเข้าใจอะไรบางอย่าง แล้ว ขณะเดียวกัน ขันน้อยชุดแดงคนหนึ่งก็เดินจากระเบียง พระที่นั่งเข้ามาหาเขา

คุ้นหน้าจริง ขันที่น้อยผู้นี้คล้ายยืนอยู่ด้านหลังของฉัน ชวนตอนอยู่ในห้อง

วันที่น้อยมอบจดหมายฉบับหนึ่งให้อวิ๋นเสวียนนั่ง

***

เวลาเดียวกัน ที่จวนสกุลอวิ๋น

หลังเที่ยง เดี๋ยวเอ๋อร์ก้าวเข้ามาในเรือนผู้หญิง “คุณหนู ใหญ่ ตอนนี้ผู้อาวุโสอยู่ที่ห้องน้อยข้างห้องบูชาบรรพชน พร้อมคนกลุ่มหนึ่ง นางบอกให้ท่านไปที่นั่นด้วย

อนหวานซิ่นไม่พูดพร่ำทำเพลง วางมือลงจากงานที่ทำ

แล้วเดินนำเมี่ยวเอ๋อร์ไปทางห้องบูชาบรรพชน

ห้องน้อยข้างห้องบูชาบรรพชน ที่ไม่มีใครถามถึงมาหลาย

ไปเสงี่ยฮุยดวงแข็งมาก ที่รอดชีวิตจากการถูกลงโทษในครั้งนี้ บาดแผลส่วนล่างไม่อักเสบเพิ่ม สองวันนี้ปากแผลจึงปิด สนิท ไข้ก็ลดแล้ว พอได้ยินว่าหญิงชรามา ก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องดีแต่ อย่างใด แต่จําต้องข่มความกลัวไว้ แล้วให้อาเถาไปเอา กระจกกับหวี

พออาเถากลับมา ไปเสงี่ยฮุยก็นั่งหน้ากระจก หวีผมรก รุงรังให้เรียบแล้วมวยขึ้น ล้างหน้าล้างตา เช็ดตัวคร่าวๆ ให้ สะอาดด้วยน้ำหนึ่งกะละมัง จากนั้นก็นั่งอยู่ข้างเตียง

หวงน้ามาเป็นเพื่อนถึงฮูหยิน พอเห็นน้องสะใภ้หน้า ซีดเซียวยามไร้เครื่องสำอาง ก็แอบตกใจอยู่บ้าง นึกถึงตอน เห็นน้องสะใภ้ครั้งแรกที่มาเมืองหลวงใหม่ๆ นางเหมือน นางฟ้าก็มิปาน รักษาตัวเป็นอย่างดี และสวยแบบสาวรุ่น ผิว พรรณเนียนละเอียดสะอาดสะอ้าน ดวงตาอ่อนโยนมีเสน่ห์ ผม แต่ละเส้นก็หวีอย่างเรียบร้อยหมดจด เสื้อผ้าตลอดทั้งตัว รอย ยับสักรอยก็ไม่มี ไหนเลยจะเหมือนสาวใหญ่อายุเฉียดสามสิบ ถ้าอยู่บ้านนอก ใครๆ ก็นึกว่าอายุสิบแปดสิบเก้า แต่ตอนนี้ ใบหน้าเหลืองตอบ เรื่องเนื้อตัวมีกลิ่นยากจะทานทนไม่ต้องพูด ถึง รอบดวงตาที่เหม่อลอยบุ๋มลงไปคล้ายเบ้าเล็กๆ ร่องจมูกทั้ง สองข้างลึกลงไปมาก ทำให้นางดูแห้งเ** ยวเหมือนผู้สูงอายุ

ผู้หญิงอย่าหยุดสวย เฉกเช่นดอกไม้ที่ต้องบำรุงดูแลรักษา เสมอ แต่การแก่ชรา กลับทำได้ในเวลาไม่กี่วัน เพียงเจ็บปวด ใจ กลุ้มใจ ตรากตรำทำงานหนัก ผ่านเหตุการณ์เปลี่ยนชีวิต เพียงครั้งเดียว กลับสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ได้ เร็วยิ่งกว่า การแปลงโฉมเสียอีก
อนหวานชื่นยืนอยู่ด้านหลังท่านย่า แววตาเฉยชาขณะ จ้องมองไปเสวี่ยฮุย ลักษณะเช่นนี้ของไปฮูหยิน นางไม่เคยเห็น มาก่อน ชาติที่แล้ว ตนต่างหากที่มีลักษณะเช่นนี้ แล้วสองแม่ ลูกก็คงจ้องมองตนเองด้วยสายตาเช่นนี้

พอนึกได้แบบนี้ ก็คิดว่าการเป็นคนไม่อ่อนไหวง่ายก็ดี เหมือนกัน อย่างน้อยก็ไม่ต้องเอะอะอะไรก็ร้องไห้เสียใจให้กับ ผู้ชายใจโลเล กลุ้มใจที่มีลูกสาวอกตัญญู และโกรธเพราะถูก ปล้นสมบัติพัสถาน

ถงฮูหยินกับหวงน้าสี่ก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ตกใจเล็กน้อยกับ ท่าทางอิดโรยของไปฮูหยิน ช่วงระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน นาง ผอมลงไปมาก ดูราวกับต้นไม้แห้งเ** ยว ยิ่งเปลี่ยนเป็นชุดผ้า เนื้อหยาบสีขาวล้วนแบบเรียบๆ ผมเผ้าก็มวยแบบลวกๆ จน ย้อยห้อยลงต่ำ ไม่มีชีวิตชีวาอย่างเห็นได้ชัด ทรุดโทรมกว่า บ่าวรับใช้ในบ้านเสียอีก

เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ