ยอดหญิงอันดับหนึ่ง

ตอนที่ 75-2 พกยาพิษติดตัว



ตอนที่ 75-2 พกยาพิษติดตัว

ก่อนมา ถึงฮูหยินได้เตรียมใจไว้เผื่อ กรณีที่ไปเสวี่ยฮุยโวยวาย ใหญ่โตขึ้นมาตามลักษณะนิสัยของนาง ก่อนจะกอดขาตน ร้องไห้ฟูมฟายไม่หยุดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ตอนนี้พอ เห็นนางสงบนิ่ง ก็ผิดคาดอยู่บ้าง ทว่าก็มิได้ลังเลใจนาน ล้วง หนังสือหย่าออกจากอกเสื้อ ทิ้งลงบนโต๊ะ

ไป๋เสวี่ยฮุยเหลือบมองหนังสือหย่า แล้วยิ้มเย็นชาที่มุม ปาก ให้ความรู้สึกเหมือนดอกไม้ริมหน้าผาที่ถูกลมพัด จะร่วง ไม่ร่วงแหล่ เป็นความอนาถใจในความสิ้นหวังอย่างหนึ่ง

“นี่เป็นความประสงค์ของท่านพ

“แม้แต่ลายมือเจ้ารอง เจ้าก็จำไม่ได้ เจ้ารองเขียน หนังสือหย่าบนโต๊ะกินข้าวด้วยตัวเอง โดยที่ไม่มีใครพูดกำกับ แม้แต่คำเดียว” ถงฮูหยินตอบอย่างเย็นชา นี่นางยังปล่อยวาง ไม่ได้อีกหรือ

พอไปเสงี่ยฮุยรู้ว่าเป็นความประสงค์ของอวิ๋นเสวียนนั่ง ก็ หน้าเปลี่ยนสีทันที คล้ายกำลังหัวเราะ แต่ก็แฝงความเย็นยะ เยียบของหิมะที่กลมกลืนกันจนดูไม่ออก แต่ยังคงมิได้ร้องไห้ ฟูมฟาย คล้ายความโกรธแค้นและความรู้สึกไม่เป็นธรรม ทั้งหมดได้หลอมรวมกับความเจ็บปวดตอนแท้งลูกและค่อยๆ มลายหายไปในหลายวันต่อมาแล้ว นางไม่เคลื่อนไหว ได้แต่นั่งอยู่ข้างเตียง

“เด็กๆ จับมือไปฮูหยิน พิมพ์ลายนิ้วมือหน่อย” ถึงฮูหยิน เห็นนางไม่ขยับ ก็หันไปสั่งบ่าว

มอมอสองคนจึงก้าวเข้าไป คนหนึ่งกดไหล่ของไปเสงี่ยฮุย ไว้ อีกคนจับมือนางขึ้นมา ด้วยแรงที่แทบจะหักมือนางได้ ก่อน แกะนิ้วเรียวยาวบนฝ่ามือนางออก แล้วจับนิ้วหัวแม่มือ กดลง ไปในดินสีแดง จากนั้นก็เคลื่อนไปบนกระดาษ

ตอนนี้ไปเสงี่ยฮุยถึงคล้ายตกใจตื่นจากความฝัน จึงดิ้นไป มาอย่างแรง พลางกรีดร้อง

“ไม่ ข้าไม่พิมพ์ลายนิ้วมือ ไม่พิมพ์เข้าเป็นฮูหยินรองเจ้า กรม ใครก็แย่งตำแหน่งนี้ไปจากข้าไม่ได้ ในจวนรองเจ้ากรม ข้าใหญ่สุด ท่านที่รักข้ามากสุด…ข้าไม่พิมพ์

ถงฮูหยิน “พิมพ์ลงไป! อย่าไร! รถม้ารออยู่ด้านนอก

รถม้าด้านนอก ไปเสวี่ยฮุยนิ่งไปชั่วขณะ นางไม่มีญาติ ต่างถิ่น รากฐานของนางได้หยั่งลึกไว้ที่จวนรองเจ้ากรมในเมือง หลวงแล้ว ถ้าหนังสือหย่ามีผล บ้านสกุลอวิ๋นย่อมไม่อยากขาย หน้า จึงไม่อนุญาตให้นางอยู่ในเมืองหลวง ต้องนำตัวนางไป ทิ้งไว้ในที่ห่างไกลผู้คน….และไม่แน่ว่าอาจให้คนคอยจับตาดู นางด้วย

ไป๋เสงี่ยฮุยไม่รู้เอาแรงมาจากไหน เกร็งมือยันเอาไว้

ทําให้มอมอกดไม่ลง
แต่พอเห็นสีหน้าผู้อาวุโส มอมอที่คิดจะหักมือนางอยู่ ก็ไม่ ลังเลใจอีก เค้นแรงที่มีอยู่ทั้งหมด หักมือไปเสวี่ยฮุยเสียง ดัง แก๊ก และมอมอก็ไม่รอให้นางร้องโหยหวนออกมา แข็ง ใจจับนิ้วหัวแม่มือนางกดลงตรงที่ว่างด้านล่างของหนังสือ หย่า…

ด้านนอก เสียงฝีเท้าดังมา ตามด้วยเสียงเรียกขานของ บ่าว “นายท่าน….

อนหวานชิ้นเอะใจ บิดากลับมาแล้วหรือ เขายกเรื่องนี้ ให้ท่านย่าจัดการแล้ว ด้วยคร้านที่จะเผชิญหน้า

กับเรื่องยุ่งยากใจและเสียความรู้สึกเช่นนี้ แต่ตอนนี้พลัน ปรากฏตัวขึ้น หรือเกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรอีก

อวิ๋นเสวียนนั่งสาวเท้าเข้ามาในห้องน้อยที่ทั้งเตี้ยและอับ ขึ้น โดยไม่แม้กระทั่งมองไปฮูหยินที่นั่งอยู่ข้างเตียง ก้าวเข้าหา ถงฮูหยินทันที ก่อนกดเสียงพูดลงต่ำ “ท่านแม่ หย่าไม่ได้

เสียงแม้เบา แต่ห้องแคบ ทุกคนจึงได้ยินอย่างชัดเจน

ไปเสงี่ยฮุยคล้ายถูกหมอเทวดาฝังเข็มกระตุ้นหัวใจให้ใน พริบตา รีบดึงวิญญาณคืนกลับ แววตาที่ล่องลอยแต่เดิม สุกใสขึ้นทันที ริมฝีปากที่แห้งแตกสั่นน้อยๆ ตื่นเต้นจนหยุดไม่ อยู่

ถงฮูหยินหน้าเปลี่ยนสี “เจ้ารอง ผู้หญิงแบบนี้ ถ้าปล่อย ให้กินตำแหน่งฮูหยินรองเจ้ากรมต่อ ก็จะเอาแต่จะคิดชั่ว ส่งคนลอบทําร้ายทายาทฮูหยินคนก่อนอีก นางเป็นคนเห็นแก่ตัว และโลภ มีความผิดครบถ้วนตามเกณฑ์การปลดออกจาก ตำแหน่ง อย่าว่าแต่หย่าเลย ถ้าตอนนี้ข้านำตัวนางไปฟ้องร้อง ยังที่ทำการอำเภอ ให้นางติดคุกหรือถูกประหาร ก็ไม่มีปัญหา แต่อย่างใด เจ้ายังอาลัยอาวรณ์อะไรนางอีก นางเลี้ยงลูกสาว เจ้าจนโตมาเป็นแบบนั้น ทำให้เจ้าโงหัวไม่ขึ้นต่อหน้าสกุลมห รง เจ้าก็น่าจะรู้ดีว่า ผู้หญิงคนนี้ใช่คนดีที่ไหน!

“ท่านแม่ ลูกมิได้อาลัยอาวรณ์นาง” ในห้องมีทั้งบ่าวทั้ง นายมากมาย อวิ๋นเสวียนนั่งพูดมากไปไม่ดี จึงกดเสียงให้ ลงอีก “เชิญท่านแม่ไปที่ห้องรับแขก ลูกจะค่อยๆ อธิบายให้ ฟัง”

อีกนิดเดียวเท่านั้น ถงฮูหยินก็จะขับไล่สะใภ้เลวๆ ออก จากบ้านได้แล้ว ตอนนี้แม้ไม่อยากทำตามที่ลูกว่า แต่ก็รู้นิสัย ของลูกดี จึงสะบัดแขนเสื้อ แค่นเสียงเย็นชา แล้วก้าวออกจาก ห้องไป

พอเห็นหญิงชราจากไป ไปเสงี่ยฮุยที่อยู่ในห้องก็ร้องไห้

โฮออกมา คิดจะโผเข้าไปกอดขาสามี แต่ยังไม่ทันเรียก “ท่าน

พี่” อวิ๋นเสวียนนั่งก็มีท่าทีหวาดกลัวเมื่อเห็นสภาพสกปรกของ

นาง จึงก้าวถอยหลังสองก้าว ขมวดคิ้ว พลางสั่งอาเถากับมอ

มอทันที

“รีบหน่อย อาบน้ำสระผมให้นาง หวีผมเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ด้วย ยังมี มีอนางเป็นอะไร หักหรือเปล่า? รีบเอาผ้ามาพันไว้ อย่าให้ใครดูออก….สรุปแล้ว ทำให้นางดูเป็นผู้เป็นคนปกติเดี๋ยวจะมีแขกมา

มือขวาของไปเสงี่ยฮุ่ยหัก เพราะถูกหญิงชราบังคับให้ ประทับลายนิ้วมือ ซึ่งเมื่อครู่ไหนเลยจะมีใครสังเกตเห็น พออา เถากับมอมอหันไปมอง ก็เห็นว่าบวมเปล่งแล้ว จึงรีบทำตามที่ นายสั่ง ไปตักน้ำ ไปหยิบเสื้อผ้า ไปหยิบผ้าพันแผล วิ่งวุ่นกัน แล้ว

ทุกคำพูดของบิดา ล้วนสะท้อนเข้าหูอนหวานชิ้นที่ยืนอยู่ หน้าประตู มีแขกมา? นางกวักมือเรียกเดี่ยวเอ๋อร์ให้เข้าหา ก่อนกำชับเสียงเบา “เฝ้าดูอยู่แถวนี้หน่อย เมี่ยวเอ๋อร์เข้าใจ “เจ้าค่ะ”

อนเสวียนนั่งสั่งการเรียบร้อย ก็เดินออกมา

พอถึงฮูหยินเห็นลูกชายออกมา ก็ให้อวิ๋นหวานชื่นกับหวง น้าสี่พยุงซ้ายขวา ไปที่ห้องรับแขก

หน้าห้องรับแขก เมื่ออวนเสวียนนั่งเห็นสองสาวพยุง มารดามา และมีทีท่าว่าจะเข้าไปด้วย ก็ลังเลใจ ก่อนยับยั้งไว้ “ท่านแม่ เรื่องนี้ ให้ลูกพูดกับท่านสองต่อสองจะดีกว่า…

ดูท่า ต้องทำเรื่องน่าอายอะไรมาแน่ หาไม่แล้วทำไมต้อง กันไม่ให้ใครรู้ด้วย อวิ๋นหว่านชิ้นยิ้มเย็นชาที่มุม

ปาก

ถงฮูหยินจึงส่งสายตาให้หวงน้ากับบ่าวและมอมอที่ตาม มา ให้ถอยออกไปก่อน แต่กลับจับแขนของหลานสาวไว้แน่นตบเบาๆ แล้วว่า

“อืม ให้น้ากลับไปก่อน แล้วให้ชิ้นเอ๋อร์อยู่เป็นเพื่อนข้า

ถงฮูหยินก็เดาได้เช่นกันว่า อาจมีเรื่องอะไรหรือใครมา ขวางไม่ให้ลูกชายหย่าเมีย มีคนอยู่อีกคน ย่อมมีผู้ช่วยเพิ่ม หลานสาวกับตนยืนอยู่ข้างเดียวกัน เป็นคนสกุลอวิ๋นเหมือนกัน ต้องให้อยู่ด้วย มีอะไรจะได้ช่วยกันพูด หรือมีอะไรที่ตนไม่ เข้าใจ จะได้ให้นางอธิบายให้ฟัง

เมื่อเห็นมารดายืนกราน อวิ๋นเสวียนนั่งก็ได้แต่ตอบรับ

ทั้งสามเดินเข้าห้องรับแขก อวิ๋นหว่านในปิดประตู หน้าต่างให้เรียบร้อย แล้วเดินมายืนข้างกายท่านย่า

พอบิดาเห็นประตูปิดลง สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นอีกแบบ ยินดี

ปรีดายิ่ง

“ท่านแม่ วันนี้ตอนเข้าประชุมขุนนาง ฝ่าบาทมองมาที่ลูก ด้วย เพราะลูกอยู่ในรายชื่อนำเสนอ เรื่องเจ้ากรมคนใหม่น่ะ มี สิทธิ์เป็นไปได้แปดถึงเก้าในสิบส่วน ต่อไปลูกจะได้เป็นขุนนาง ชั้นสอง เป็นเสนาบดี ท่านก็จะได้เป็นแม่เสนาบดีแล้ว! ไว้วัน หลังลูกจะขอพระราชโองการแต่งตั้งฮูหยินอาวุโส ให้เป็น เกียรติแก่วงศ์ตระกูลเรา!

“โอ้ จริงหรือ” พอได้ยิน ลงฮูหยินก็ลืมเรื่องคับใจแถว ห้องบูชาบรรพชนไปชั่วคราว พลอยดีใจจนตัวสั่นไปด้วย “ข้า ว่า ลูกชายที่ข้าเลี้ยงมากับมือ ต้องเก่งอยู่แล้ว! แม้เป็นเด็กบ้านนอก ไม่มีภาษีเทียบเท่าลูกขุนนางเหล่านั้นแล้วไง ลำพัง ความสามารถส่วนตัว ไม่พึ่งพาคนนอก ก็สามารถเหนือกว่าลูก ท่านหลานเธอพวกนั้นได้! ยังไม่ถึงสี่สิบก็ได้เป็นเจ้ากรม กลาโหมแล้ว มีสักกี่คนที่ทำได้! ดี ดี ลูกข้าเก่งมาก

อนหวานชิ้นหงอยลง ดูจากลักษณะท่าทางของบิดาแล้ว ตำแหน่งเจ้ากรมนั่นน่าจะอยู่ใกล้แค่เอื้อมเต็มที่ เมื่อวานยังมี สภาพเหมือนสุนัขตกน้ำ หายใจพะงาบๆ อยู่เลย วันนี้ทำไมถึง ได้กลายเป็นนกยูงรำแพนที่ได้รับคัดเลือกไปได้

อีกทั้ง…มีชื่ออยู่ในรายชื่อนำเสนอด้วย

นางเคยได้ยินมาว่า รายชื่อนำเสนอก็คือรายชื่อเจ้ากรม คนใหม่ ซึ่งเจ้ากรมคนก่อนเขียนขึ้นเองกับมือเพื่อนำเสนอให้ ฝ่าบาทพิจารณาในช่วงที่ใกล้เกษียณ จากนั้นก็พูดแนะนำ บุคคลในรายชื่อให้ฝ่าบาทฟังต่อหน้าพระพักตร์ ทว่า ฉันชวน เนี่ยนะ นำเสนอชื่อบิดา

หลังจากเรื่องผูกดวง อวิ๋นหว่านชิ้นก็พอจะรู้ว่า อวิ๋นเสวี

ยนนั่งต้องหงุดหงิดใจตอนไปทำงานที่กรมกลาโหมแน่ เพราะ

ต้องถูกฉิน ชวนกดดันในทุกๆ ด้าน ด้วยฉันชวนเป็นคนเจ้า

คิดเจ้าแค้น ชั่วชีวิตกลัวก็แต่ถูกคนทำร้าย แล้วจู่ๆ เหตุใด

ถึงใจกว้างขึ้นมา ช่วยผลักดันบิดา ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้

เล่า

ต่อเนื่องกับเรื่องหย่าของไปเสงี่ยฮุยถูกขัดขวาง บวกกับ เรื่องจวนโหวรับอนหว่านเฟยเข้าจวน ดวงตาของอวิ๋นหว่านชิ้นก็ค่อยๆ สว่างขึ้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ