ยอดหญิงอันดับหนึ่ง

ตอนที่ 67-1 เหล่าสะใภ้ห้ำหั่นกัน



ตอนที่ 67-1 เหล่าสะใภ้ห้ำหั่นกัน

อนหวานชื่นจึงก้าวเข้าไป ย่อตัวลง “ท่านย่าเดินทางลำบาก แล้ว”

“ชินเอ๋อร์โตขนาดนี้แล้วหรือ ตอนที่ย่าเห็นเจ้า เจ้ายังตัว

เล็กเท่าเขาย่าเอง

อวิ๋นหวานชิ้นเป็นหลานสาวเพียงคนเดียวที่ลงฮูหยินเคย เห็น ตอนนั้นเป็นช่วงตรุษจีน อวิ๋นเสวียนนั่งอุ้มอวิ๋นหวานชื่น กลับไปเยี่ยมบ้านเกิดด้วย

“ชิ้นเอ๋อร์ก็จำท่านย่าได้เจ้าค่ะ ก่อนท่านย่าจะมา ชิ้นเอ๋อร์ ยังเคยคิดว่า ท่านย่าจะตัวกว้างขึ้น หรือตัวแคบลง ตอนนี้ดูไป แล้ว ก็ไม่อ้วนไม่ผอม ยังเหมือนเดิมเงียบ!” อวิ๋นหวานชื่น หยอดคําหวาน

ถงฮูหยินถูกเยินยอจนหัวเราะเสียงดังออกมา นี่มิใช่แฝง ความนัยว่าตนนั้นยังไม่แก่ ยังสาวอยู่เลยหรอกหรือ จึงกอด หลานสาวไว้ในอ้อมอก หอมไปหนึ่งที แล้วจับมือไว้ ไม่ยอม ปล่อย

“เทพธิดาตัวน้อยของย่า…

ไปเสงี่ยฮุยดูหมิ่นในใจ ตอนกลับบ้านนอก อวิ๋นหวานชื่น อย่างมากก็แค่สามขวบ จะจำได้อย่างไรว่าถงฮูหยินรูปร่างผอมหรืออ้วน จะโกหกทั้งที ก็น่าจะเนียนหน่อย! แย่ที่คนแก่อยู่มา จนปูนนี้แล้ว ยังเชื่อว่าจริงอีก

พออวิ๋นหวานชื่นเห็นสีหน้าของไปเสงี่ยฮุย ก็อดไม่ได้ที่จะ เบะปากยิ้ม

จวนรองเจ้ากรมไม่มีผู้อาวุโสอาศัยอยู่ จุดแข็งของไปเส วี่ยฮุยคือการปรนนิบัติบุรุษ นางจึงไม่เคยมีประสบการณ์ใน การปรนนิบัติผู้สูงวัย โดยเฉพาะท่านย่าที่ค่อนข้างดื้อรั้นและ รับมือยากเช่นนี้

เมื่อชาติที่แล้ว ช่วงที่ตนอยู่กับสิ่งฮูหยิน หรือฮูหยินท่าน โหวอาวุโสนั้น ผู้สูงวัยมีนิสัยอย่างไร ตนชัดเจนดี ถึงคำหวาน เป็นคำโกหก ก็ใช้เป็นกุญแจที่ไขประตูได้ทุกบาน

พอถึงฮูหยินคุยกับหลานสาวคนโตได้สองสามประโยค หันไปมองอวิ๋นจีนจังอีก ก่อนจับตัวเขาเข้ามาถามไถ่สารทุกข์ สุกดิบอย่างละเอียดลออ ชนิดรักเท่าไหร่ก็ไม่รู้จบ

ท่านย่ามีหลานชายสามคน อาชิงยังเล็ก ส่วนน้องเม่า เป็นเด็กผู้ชายตามชนบทที่ชอบเที่ยวเล่นซุกซน แต่อลิ้นจีนจัง นั้นต่างออกไป เขาเป็นเด็กผู้ชายที่น่ารักไร้เดียงสา อ่อนโยน มีมารยาท และสง่างามแบบคุณชายน้อยในเมือง

วันนี้พอเห็นอวิ๋นจีนจ้ง ที่ผิวขาวเนียนนุ่มนิ่ม สะอาด สะอ้าน หน้าตาหล่อเหลา ก็รู้สึกว่าเขาเหมือนเด็กผู้ชายศิษย์รับ ใช้ข้างกายพระโพธิสัตว์กวนอิมอย่างไรอย่างนั้น เห็นชัดว่า ถงฮูหยินรักเข้าเส้น จนน้ำตาไหลออกมา
“หลานที่น่ารักของย่า เจ้าเกือบทำให้ยาหัวใจวายตาย แล้วรู้ไหม ไปรักษาตัวอยู่ดีๆ ไหงตกเขาไปได้ล่ะ บาดเจ็บตรง ไหนหรือเปล่า” เหมือนนึกอะไรขึ้นได้ จึงหันมองอวิ๋นหวานชื่น พลางขมวดคิ้ว

“ได้ยินว่าชิ้นเอ๋อร์เป็นคนเสนอให้ไปบ้านสวนรักษาตัว หรือ เฮ้อ…อย่าหาว่าย่ามาถึงก็ตำหนิเจ้าเลย รักษาตัวอยู่แต่ ในบ้านไม่ได้หรือ ทำไมต้องออกไปเที่ยวเล่นด้วย เจ้าเป็นผู้ หญิงยิงเรือ อายุก็ไม่เท่าไหร่ ออกนอกบ้านไปโดยเฉพาะป่าลึก แบบนั้น ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา เจ้าจะรับมืออย่างไร ถ้า ไม่ใช่เพราะ…. โชคดีที่บรรพบุรุษเรา

ทำบุญไว้มาก ถึงได้ไม่เป็นไร ถ้าเกิดเป็นไรขึ้นมา เจ้าจะ ทําอย่างไร”

บรรยากาศในห้องพลันตึงเครียดขึ้น

ไปเสวี่ยฮุยลอบหัวเราะ เฮอะ ปากหวาน รู้จักเอาอก เอาใจคนแก่แล้วไง ในใจท่านย่า อย่างไรหลานชายก็มาก่อน หรือว่า กำลังจะถูกด่าแล้ว คิกคิก

“ท่านย่า” พออวิ๋นจีนจึงเห็นท่านย่ามีท่าทีว่าจะตำหนิพ สาวต่อ ก็เกร็งกล้ามแขน ให้เห็นว่าตนนั้นแข็งแรง

“ท่านดูสิ ร่างกายหลานแข็งแรงดี ที่ท่านถามว่าจะรับมือ อย่างไร นับว่าถามถูกทางแล้ว ท่านที่รับมือได้สบายมาก! รีบ ติดต่อไปยังที่ว่าการอำเภอหลิงอวิ๋น เจ้าหน้าที่จึงขึ้นเขา กระจายกำลังกันค้นหา ประหยัดเวลาไปมาก ถ้าไม่ใช่ท่านพี่หลานคงไม่ใช่แค่ผิวถลอกนิดหน่อยแล้ว แต่ท่านพี่กลับต้อง ตกลงไปเพราะช่วยหลาน ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมถึงต้องไปบ้าน สวน นี่ก็ไม่ใช่เพราะท่านพี่ดึงดันจะไป แต่ท่านหมอบอกว่า ใน จวนมีคนป่วย หลานยังเด็ก ร่างกายอ่อนแอ ถ้าอยู่รวมกัน อาจติดเชื้อได้ ไปรักษาตัวในสถานที่อีกแห่งจะดีกว่า ซึ่งถ้าอยู่ ในจวน เกรงว่าตอนนี้อาจยังไม่หายป่วยด้วยซ้ำ!

อวิ๋นจิ๋นจงพูดน้ำไหลไฟดับ คล่องแคล่วในหู จนถึงฮูหยิน ตะลึงงัน

นางก็ได้ยินมาก่อนเช่นกันว่า อวิ๋นหวานชิ้นเป็นคนดึง

หลานขึ้นมา แต่ตนเองกลับตกลงไปแทน ผ่านไปสองสามวัน ถึงได้หาตัวเจอ ตอนนี้พอได้ยินหลานรักพูด ความคิดที่จะทำ หนือวิ๋นหวานชิ้นก็มลายหายสิ้น แววตากลับเปลี่ยนเป็นชื่นชม และยกย่อง พลางยิ้มให้

พูดก็พูด เชื้อเพลิงก็คือไปเสงี่ยฮุย ถ้าไม่ใช่เพราะนาง ป่วยเป็นโรคติดต่อ หลานทั้งสองไหนเลยต้องออกจากบ้านไป

ถึงฮูหยินเม้มปาก ขมวดคิ้วขาว ก่อนพูดทำนองบ่นไปเส วียฮุย “เมื่อสะใภ้รองป่วยเป็นโรคที่ติดต่อกันได้ ก็น่าจะพัก รักษาตัวอยู่แต่ในห้อง ถ้าคิดถึงผู้อื่น ก็ควรบอกก่อนว่า ไม่ต้อง ให้เด็กๆ มาเยี่ยม แล้วทำไมถึงเรียกจิ๋นจงไปพบที่ห้องละ

พออนุฟางเห็นท่านย่าเริ่มอบรมไปเสงี่ยฮุย ก็รู้สึกสะใจ เหมือนได้ระบายอารมณ์ไม่ดีในหลายวันนี้ออกมา จึงนั่งเงียบ คอยดูฉากต่อไป
ไปเสงี่ยฮุยกะพริบตาปริบๆ ด้วยคาดไม่ถึงว่า เชื้อเพลิงจะ ย้ายมาอยู่ที่ตนเองได้ จึงรู้สึกไม่เป็นธรรม รีบอธิบายเสียงออด อ้อน

“ท่านแม่ จะโทษลูกก็ไม่ได้ จีนจึงเป็นคนไปหาลูกที่ห้อง

เอง”

เสียงออดอ้อนสั่นเครือเช่นนี้ อาจทำให้บุรุษเห็นใจ แต่ สําหรับคนแก่ กลับให้ผลตรงข้าม

ถงฮูหยินเป็นคนตรงไปตรงมา ค่อนข้างปากจัด พอเห็น หยินรองแสร้งทำตัวน่าสงสาร ก็รู้สึกขัดหูขัดตา จึงเอ็ด

“จีนจึงสิบขวบ เจ้าล่ะกี่ขวบ เขาไม่รู้เรื่อง เจ้าก็พลอยไม่รู้ เรื่องด้วยหรือ เขาไม่รู้อาการป่วยของเจ้า ถึงไปเยี่ยมเจ้าด้วย ความกตัญญู แต่เจ้าในฐานะแม่ ทำไมไม่บอกเขาไปล่ะ ว่าไม่ ต้องมา

ไปเสวี่ยฮุยรู้แล้วว่า ตอนนี้ยิ่งพูดมากก็ยิ่งผิดมาก จึง กล้ำกลืนฝืนทน ไม่พูดจาอีก ก้มศีรษะลง คุ้นชินกับ

การเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับที่หางตา แสดงให้เห็นว่าตน คือผู้บริสุทธิ์

หวงน้าสี่กำลังแทะเมล็ดทานตะวันอย่างเมามัน พอเห็น ท่าทางนาง ก็ยิ้มแล้วว่า

“น้องสะใภ้ ถ้าท่านแม่อบรมพี่ พี่ต้องดีใจแทบไม่ทันแล้ว การที่ท่านแม่อบรมลูกหลาน ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ถ้าท่านแม่ว่าผิด ลูกหลานก็ต้องผิด น้องสะใภ้จะร้องไห้ไปทำไม ท่านแม่ พูดผิดหรือ อย่าทำเป็นอ่อนแอไปเลย มาๆ มาแทะเมล็ด ทานตะวันกัน”

พอถึงฮูหยินได้ยินคำพูดของสะใภ้ใหญ่ ก็ยิ่งไม่ชอบใจ สะใภ้รอง แต่ก็คร้านที่จะสนใจ กลับดึงอวิ๋นจิ๋นจงและอวิ๋น หวานชิ้นเข้าไปพูดคุยต่ออย่างสนิทสนม

แม่สามีมาวันแรก ก็อบรมตนไปหนึ่งรอบ ต่อหน้าบ่าว อนุ และเด็กๆ กระทั่งหวงน้าสี่ สะใภ้ชาวบ้านที่หยาบคายก็กำลัง ยิ้มเยาะตน คืนนั้นทั้งคืน ไปเสงี่ยฮุยจึงนอนคิดฟุ้งซ่านจนรู้สึก ไม่ค่อยสบาย

โดยไม่คิดว่า นี่เป็นเพียงวันแรกเท่านั้น

การเดินดูทั่วจวนของย่าถง ทำให้กฎระเบียบในจวน เปลี่ยนแปลงไปบ้าง

ทุกเช้า ก่อนอรุณรุ่ง ไปเสงี่ยฮุยต้องพาคนในบ้านไปเรือน ตะวันตก คารวะผู้อาวุโส ช่วงพลบค่ำ ก็ต้องเข้าไปคารวะอีก รอบ และทุกวันนางก็ต้องเรียกบ่าวรับใช้ของเรือนตะวันตกมา ถามดูว่า อาหารการกิน และการนอนหลับพักผ่อนของย่าง เป็นอย่างไรบ้าง

ไปเสวี่ยฮุยไม่เคยดูแลคนเฒ่าคนแก่ โดยเฉพาะถงฮูหยิน ที่มาจากชนบทและไม่คุ้นชินกับชีวิตประจำวัน ในจวนรองเจ้า กรม เช่น อาหารถ้าไม่ใส่พริกก็ไม่ถูกปาก หมาล่าใส่น้อยไป เตียงแข็งๆ ยังนอนสบายกว่า
เหล่านี้ไปเสวี่ยฮุยโต้แย้งไม่ได้ ได้แต่อำนวยความสะดวก ให้ ไม่เปลี่ยนให้ใหม่ ที่เพิ่มเข้าไป หลายวันต่อมา นางจึงปวด เอวปวดหลัง เมื่อยล้าไปหมด จิตใจที่คิดไปปรนนิบัติสามีจึง หายไปครึ่งหนึ่ง

ถ้าดูแลเฉพาะคนแก่ยังพอไหว แต่นี่มีครอบครัวพี่ใหญ่

ผู้ใหญ่หนึ่งเด็กสาม ให้ต้องดูแลอีก ไปเสวี่ยฮุยจึงปวดเศียร เวียนเกล้ายิ่ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ