ยอดหญิงอันดับหนึ่ง

ตอนที่ 83-3 มาติดตามข้า ดีไหม



ตอนที่ 83-3 มาติดตามข้า ดีไหม

หญิงสาวขยับมือแล้วหมุนไปมาเพื่อให้ออกจากมือของเขา

อนหวานซิ่นตีนจากห้วงภวังค์ที่ปล่อยใจไป ชาติก่อน คำ บอกรักของมู่หรงไม่หวานและกินใจกว่าของเขาเป็นไหนๆ แล้ว สุดท้ายล่ะ…

นางรู้ว่าไม่ควรบริโภคของหวานจนสำลัก เกรงว่าพอเขารู้ ความจริงเข้า จะรับไม่ได้แล้วย้อนกลับมาทำร้ายนาง อีกอย่าง ชายผู้นี้ นางตอแยไหวหรือ

อาการต่อต้านและลังเลใจของหญิงสาว ทำให้แววตาเขา ยิ่งลึกล้ำ ดวงตาที่ลึกอยู่แต่เดิม ตอนนี้จึงยิ่งลึกจนยากแท้หยั่ง ถึง

และในตอนนี้เอง วันทีหนุ่มที่ยืนยามอยู่ตรงระเบียงก็วิ่ง

เข้ามา

“ท่านสาม! พระสนมเอกส่งคนให้มาตามคุณหนูอน

แล้ว…”

ตอนนี้จึงจะเป็นสนมเอกเชื่อเหลียนจริงๆ ที่ส่งคนมาตาม ด้วยทรงเห็นว่ารัชทายาทไปที่ศาลาปทุมหอมแล้ว และละคร เฉลิมพระชนม์ก็เริ่มขึ้นแล้ว แต่กลับไม่เห็นอวิ๋นหวานชื่น จึงไม่ ไว้วางใจ
ขันที่หนุ่มยังพูดไม่ทันจบ ก็อึ้ง เพราะเห็นองค์ชายสามจับ ข้อมือของคุณหนูอนไว้ จึงรีบยกมือขึ้นปิดตาอีกครั้ง ในวังมี เรื่องบางอย่าง ไม่ควรเห็นเป็นดีที่สุด ถ้าไม่อยากเดือดร้อน

อนหวานซิ่นจึงฉวยโอกาสดึงมือกลับ แล้วถอยหลังสอง

ก้าว

“ท่านอ๋อง หม่อมฉันขอกลับไปงานเลี้ยงก่อน เพื่อไม่ให้ พระสนมเอกต้องเป็นห่วง

ครั้งนี้ อย่าโหวซื้อถึงไม่ขวางนางอีก สีหน้ากลับเป็นปกติ ดังเดิม ปล่อยแขนเสื้อกว้าง ให้พลิ้วตามแรงลมของฤดูใบไม้ ร่วง ก่อนว่า

“ต่อไป อย่าคบหากับรัชทายาทอีก

เป็นคำสั่ง ไม่ใช่หรือ

อนหว่านในทำปากเบี้ยว ต่อไปถ้าขึ้นนั่งบัลลังก์มังกรได้ ก็ออกคำสั่งกับขุนนางไป อย่ามายุ่งกับข้าอีก

เขาเห็นนางเงียบไปไม่พูดจา ก็เลิกคิ้วเข้มขึ้น พูด “ข้า ไม่ได้หึง” ชะงักเล็กน้อย “รัชทายาทไม่น่าไว้ใจ เขามิได้ใสซื่อ บริสุทธิ์อย่างที่เจ้าเห็น

คนที่ไม่น่าไว้ใจคนหนึ่งกลับบอกว่าอีกคนหนึ่งไม่น่าไว้ใจ ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง อวิ๋นหว่านในอดไม่ได้จริงๆ ที่จะ หัวเราะออกมา

“หัวเราะอะไร” ชายหนุ่มเชิดหน้าขึ้น ไม่สบอารมณ์อยู่บ้าง“ข้ากำลังพูดเรื่องจริงจัง

อนหวานชื่นค่อยถอนสายบัวอย่างนิ่มนวล “เพคะ หม่อม ฉันไม่หัวเราะแล้ว

รอจนอวิ๋นหวานชื่นกับวันที่หนุ่มจากไป ซื้อเหยาอันก็ก้าว ออกมาจากหลังซุ้มประตูโค้งตรงห้องหลานซิน ก่อนพูดเสียง เบา

“ท่านสามมิได้หึง เพราะเห็นรัชทายาทกับคุณหนูอนใกล้ ชิดกันจริงหรือ

เรื่องส่วนตัวของผู้อื่นเจ้าไม่ควรยุ่งเกี่ยว เขานึกในใจ พลางมองค้อนด้วยสายตาที่เย็นชาดุจคมมีด

ซื้อเหยาอันจึงได้แต่ขมวคิ้ว แล้วเงียบเสียงลง

รอจนอวิ๋นหวานชิ้นไปถึงศาลาปทุมหอม งานเลี้ยง ดำเนินไปกว่าครึ่งแล้ว ละครเรื่องแปดเซียนถวายพระพรของ รัชทายาทก็แสดงมาถึงฉากสุดท้ายพอดี

นางรู้สึกว่าถูกหลอกไปพูดคุยไม่กี่คำเอง ทำไมถึงนาน ขนาดนี้ได้

พอสนมเอกเฮอเหลียนเห็นนางวิ่งหอบแฮ่กๆ มา ใบหน้า แดงระเรื่อ ก็ไม่ได้ถามมากความ เพียงบอกให้นั่งลง แล้วห้าม ไม่ให้ไปไหนอีก

อนหวานชื่นพยักหน้ารับ ก่อนหน้านี้ นางยังไม่ทันกินอิ่ม ก็ถูกรัชทายาทเรียกตัวไป ตอนนี้ท้องจึงร้องขึ้นมา สนมเอกเชื่อเหลียนเห็นนางขมวดคิ้วพลางจับท้อง ก็สงสารพลางยิ้ม วัยรุ่น มักทนความหิวไม่ได้ จึงบอกคนในวังว่าให้ไปนำกับข้าวชาววัง ที่ตนเก็บเผื่อไว้ให้นางออกมา

เมื่อละครปิดฉากลง ผู้คนก็ปรบมือเกรียวกราว

และพอนางเงยหน้าขึ้น ชายผู้นั้นก็เดินกลับเข้ามาพอดี ช่างกะเกณฑ์เวลาได้เหมาะเจาะยิ่ง ไม่เร็วเกินไป และไม่ช้าเกิน ไป เขามีสีหน้าเคร่งขรึม ก้าวย่างพลิ้วไหว คล้ายไม่มีอะไรเกิด ขึ้น

ขณะนั่งลง ก็ดึงดูดสายตาของเหล่าคุณหนูผู้สูงศักดิ์ให้หัน มามอง

ในศาลาปทุมหอมริมทะเลสาบ เจียไทเฮาเห็นฉินอ๋องกลับ มาแล้วเช่นกัน จึงเอ่ยเสียงสูง

“เจ้าสามไร้วาสนา ดันออกไปก่อนหน้านี้ จึงไม่ได้ดูละคร เฉลิมพระชนม์ที่ชื่อจุนซ้อมมาอวยพรย่า ชื่อจุนแสดงเป็นหล ตั้งปืน เข้าถึงบทบาทเซียนมาก หล่อไม่บรรยะบรรยังเลย!

แล้วจึงหันหาหลานๆ พระบรมวงศานุวงศ์ วันเกิดของ ข้าในปีนี้ นอกจากสุราลูกหลานบ่มของพวกเจ้าแล้ว ก็มีละคร ของรัชทายาทนี่ล่ะ ที่โดนใจข้ามากที่สุด!

พระบรมวงศานุวงศ์ของต้าเซวียนชอบชมละครกันอยู่แล้ว ในวังก็มักจัดแสดงละครให้ชนชั้นสูงชม จนกลายเป็นความ บันเทิงที่ขาดไม่ได้ การเล่นละครของรัชทายาท ขอเพียงไม่กระทบงานหลัก ทุกคนก็อนุโลมให้ได้

พอได้ยินคำพูดของไทเฮา อย่าโหวซื้อถึงก็ลุกขึ้น ก้าว เข้าไปยืนด้านล่างของบันไดหยกในศาลา ยกชุดยาวขึ้น คุกเข่าลงบนพรมแดง

“สุราลูกหลานบ่มเกือบทำร้ายไทเฮา! เพราะความ ประมาทของหลานพ่ะย่ะค่ะ!”

พอคำพูดนี้หลุดออกจากปาก ผู้คนก็ส่งเสียงฮือฮา เจียไทเฮาหน้าเปลี่ยนสี จูซันจึงรีบก้าวเข้าไปหาฉินอ๋อง “ทรงหมายความว่าอะไร

“สุราในบ้านของหลาน หลังจากถูกสาดออก แล้วเปลี่ยน ป้านมาใหม่ ก็มีคนในวังรายงานให้ฟังว่า จาก

การตรวจสอบ พบว่าสุราก่อนหน้านี้ คือสุราดอกท้อ ตอน

นั้นหลานเหงื่อเย็นหลั่งไหล รู้สึกโชคดีที่พระพุทธองค์

ทรงคุ้มครอง ไม่ให้ไทเฮาดื่มสุราบ้านนั้นเข้าไป เรื่องนี้จึง ไม่รายงาน ไม่ได้!”

พอฉินอ๋องพูดจบ ก็หันไปว่าชับให้คนในวังไปหยิบป้าน สุราที่ตกพื้นนั้นมา

อวิ๋นหว่านในกำลังคืบแผ่นเนื้อได้หนึ่งแผ่น แต่พอได้ยิน ฉินอ๋องพูด แผ่นเนื้อก็ตกลง

สนมเอกเฮอเหลียนหน้าเปลี่ยนสี
เว่ยอ๋องลนลาน ก่อนทำขรึม ตรวจพบแล้วไง ต่อให้รู้ว่า ตนเป็นคนสับเปลี่ยน แล้วมีหลักฐานหรือเปล่า

เจียไทเฮารับป้านสุรามาดู แล้วหน้าก็เปลี่ยนสีทันที

สุราดอกท้อถูกสาดออกไปจนหมด ในบ้านจึงแห้ง เหลือ ร่องรอยอยู่เพียงเล็กน้อย เป็นเกสรดอกไม้ชิ้นเล็กๆ ติดอยู่ พอ เอาเข้ามาคม ใกล้ๆ ก็รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวแล้ว ขึ้นดื่มลงไป จริงๆ ผลจะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ได้ ขนาดปีก่อนแค่สัมผัสถูกเกสร ดอกไม้ ก็ทำให้มือเท้าชาไปหมด หายใจไม่ออก ถ้าวันนี้ดื่ม เข้าไป ยังจะเหลือหรือ

พอจูซันเห็นไทเฮาหน้าซีด ร่างโงนเงินไปมา ก็รีบนำบ้าน สุราเจ้าปัญหาออกไป

เจียงฮองเฮากับมเหสีรองเหวยรีบกุลีกุจอเข้าไป แยกกัน

บีบนวดไทเฮาซ้ายขวา พลางปลอบประโลม จากนั้น เจียง

ฮองเฮาก็หันมาต่อว่ามองฉินอ๋อง

“เจ้า ทำไมถึงทำเช่นนี้

เจียไทเฮาแม้ตกใจ แต่สมองยังแจ่มใส รีบยกมือปราม ไม่ให้ฮองเฮาตำหนิฉินอ๋อง เนื่องจากฉินอ๋องกล้าเปิดโปงเรื่อง ราวต่อหน้าสาธารณะชน ก็แสดงว่าเขาไม่รู้ว่าบ้านสุราของตน มีสุราดอกท้ออยู่ เขาจึงไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้

“ฉินอ๋องมีเรื่องอะไร ก็ว่ามาตามตรง” เจียไทเฮาพูดอย่างสงบนิ่ง
ซย่า โหวชื่อถึงจึงค่อยๆ พูด “บ้านใส่สุราดอกท้อเมื่อครู่ ไม่ใช่ของหลาน ของหลานจริงๆ ถูกสับเปลี่ยนกับของคนใน งานเลี้ยง”

บ้านสุราของฉินอ๋องก็คือบ้านสุราสีทองสลักลายมังกร หงส์ที่เหล่าองค์ชายใช้ใส่สุราโดยเฉพาะ ถ้าถูกสับเปลี่ยน ก็ได้แต่ต้องสับเปลี่ยนกับองค์ชายทั้งหลายแล้ว เจียไทเฮาจึง ขมวดคิ้ว

“บ้านสุราทุกบ้านก็เหมือนๆ กันหมด ทำไมฉินอ๋องถึงได้ แน่ใจว่าถูกสับเปลี่ยน และถ้าถูกสับเปลี่ยนจริง แล้วฉินอ๋อง หรือไม่ว่าใครเป็นคนสับเปลี่ยน

เดิมทีเวียฮ่องกำลังกลั้นหายใจ แต่พอฟังถึงตรงนี้ ค่อย ระบายลมหายใจออกมายาวๆ

บ้านสุราบนโต๊ะของเหล่าองค์ชายเหมือนกันหมดจริงๆ ด้วยทําจากช่างฝีมือในสำนักพระราชวังคนเดียวกัน เป็นบ้าน สุราชุบทอง แกะสลักลายมังกรและหงส์ ถ้านำมาวางไว้ด้วยกัน ก็แยกไม่ออกแล้วว่า ของใครต่อของใคร

กลุ่มคนจึงกลั้นหายใจ รอฟังคำตอบจากฉินอ๋อง

สนมเอกเฮอเหลียนหน้าซีด ร่างโอนเอนคล้ายจะเป็นลม แต่อวิ๋นหว่านชิ้นกลับไม่กังวลใจ จึงแอบกระซิบข้างหูพระ สนมเอกว่า ทรงวางพระทัย เมื่อฉันอ๋องกล้าบีบตัวเองให้ไปถึง สุดขอบหน้าผา ก็ต้องมีเชือกเตรียมพร้อมไว้ที่จะพาตนเองลง จากหน้าผาอย่างปลอดภัย
ซย่าโหวชื่อถิงยืดเอวบางๆ ขึ้น ลำตัวตั้งตรงดุจหน่อไม้ไผ่ ตง ร่างสูงยาว หน้าตาหล่อเหลา เปล่งรัศมีราศีจับ และพูดได้ อย่างทรงพลังดุจโยนก้อนหินลงไปในน้ำแล้วก่อให้เกิดคลื่น

“เรียนไทเฮา ดูจากภายนอก บ้านสุราของหลานกับของพี่ น้องทุกคนเหมือนกันหมดก็จริง แต่ภายในกลับไม่เหมือนกัน หลานทนทุกข์จากพิษในร่างมานานหลายปี คนทั้งเมืองหลวง ล้วนรู้ดี แต่เล็กจนโต หลานจึงไม่แตะต้องสุรา เรื่องนี้คนใน จวนอ๋องเป็นพยานได้ แต่ในงานเลี้ยง ย่อมต้องดื่มสุราตาม ประเพณี หลานเกรงว่าจะทำให้ไทเฮาและเสด็จพ่อเสียความ รู้สึก จึงใช้ให้คนไปบอกช่างฝีมือที่สำนักพระราชวังว่า ช่วย แก้ไขบ้านสุราให้หลานหน่อย ทุกครั้งที่มีงานเลี้ยง หลานจะได้ ใช้แต่ป้านสุรานี้…

“โอ้? แก้เป็นแบบไหน เจียไทเฮายึดคอขึ้นอย่างสน

พระทัย

“แก้เป็นบ้านสุราสองชั้น คือในบ้านจะกั้นเป็นสองวง วงนอกบรรจุน้ำเปล่า วงในบรรจุสุรา ในงานเลี้ยง ถ้าหลาน ต้องดื่ม ก็กดลงที่หนึ่ง ที่รินออกมาก็คือน้ำเปล่า” อย่าโหวชื่อ ถึงค่อยๆ อธิบาย

อวิ๋นหว่านชื่นกระพริบตาปริบๆ อ้อ มีกลไกเช่นนี้จริง ใน ต้าเซวียนไม่ถือว่าแปลก โดยเฉพาะคนในตระกูลใหญ่ๆ จะใช้ กันมากในหน้าร้อน เรียกว่า แก้วน้ำแข็ง โดยวงนอกจะ เป็น** ซึ่ง**นี้ไม่สามารถนำออกมา โดยมีสภาพใกล้เคียง กับสูญญากาศ พอใส่เครื่องดื่มลงไป แล้วนำไปแช่ในถังน้ำแข็งให้เย็น ตอนนำออกมา **ที่อยู่วงนอกจะแข็งดุจน้ำแข็ง สามารถรักษาอุณหภูมิของเครื่องดื่มที่อยู่ด้านในให้ได้นาน เวลาดื่มจึงเย็นสดชื่นเสมอ

ทว่า…เขาไม่แตะต้องสุรา? แล้วผู้ที่เมาจนขาดสติใน หมู่บ้านสกุลเกาคือใคร เฮอะ

ตอนอยู่ต่อหน้าคนในครอบครัว อย่างว่าจริงๆ เขาแสร้ง ทำเป็นพ่อหนุ่มคนดี ว่านอนสอนง่าย ใสซื่อบริสุทธิ์สุดยิ่ง

อนหว่านในเบะปาก กลับผ่อนคลายลงได้ทั้งหมด ที่แท้ เขาก็มีเบื้องหลังเช่นนี้นี่เอง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ