ตอนที่ 72-3 แม่เลี้ยงแท้ง คุณหนูเปิดร้าน
เรือนตะวันตก
ถึงฮูหยินรออย่างใจจดใจจ่ออยู่ครึ่งค่อนคืน ในที่สุดผล ออกมาว่า…สะใภ้ไปแท้งลูก ไม่สามารถรักษาเด็กเอาไว้ได้
หญิงชราถอนหายใจยาวๆ ออกมา ตาค้างอยู่พักหนึ่ง รู้สึกเศร้า ไม่ใช่เพราะสงสารสะใภ้ไป แต่สงสารทายาทอัน บอบบางคนที่สองของเจ้าของ
“เฮ้อ…เมียของเจ้ารองแต่ละคนไม่เก่งเหมือนเจ้า ต่างคน ต่างเอาแต่อยู่ในบ้าน ทำให้ที่ผ่านมามีลูกชายแค่คนเดียว โอกาสติดลูกว่ายากแล้ว แต่ก็ยัง….
หวงน้าได้ยินก็เสียวสันหลังวาบ ขนลุกซู่ เรื่องนี้ไม่ว่าจะ พูดอย่างไร ตนก็มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ เพื่อไม่ให้เกิดความ ลำบากใจในภายหลัง มิยอมรับก่อนจะดีกว่า
นางก็ฉลาดเหมือนกัน จึงกลอกตาไปมา แล้วคุกเข่าลง จับเข่าหญิงชรา
“ท่านแม่ ล้วนเป็นเพราะข้าไม่ดีเอง ถ้าข้าไม่ไปที่นั่น ครรภ์ของน้องสะใภ้ก็อาจไม่กระทบกระเทือน และอาจไม่แท้ง น้องรองต้องเกลียดข้าไปจนตายแน่!
ก่อนหน้านี้ถึงฮูหยินเห็นใจสะใภ้ใหญ่ โกรธสะใภ้รอง ตอนนี้ไหนเลยจะโทษสะใภ้ใหญ่ได้ พอได้ยินนางบอกว่า ถ้า ข้าไม่ไปที่นั่น ก็รู้สึกว่า หรือตนก็ผิดเหมือนกัน เพราะตนเดิน ตามนางไป จึงรีบดึงนางลุกขึ้น แล้วว่า
“ทำไมถึงโทษตัวเองอีกล่ะ เจ้านะเจ้า ทำไมถึงได้เปลี่ยน ไปจนคล้ายเมียน้อยเข้าไปทุกทีๆ ที่ชอบบอกว่าอะไรๆ ก็ตนผิด เอง คำนี้อย่าเที่ยวพูดเป็นอันขาด เจ้ารองไม่มีอะไรหรอก แต่ ถ้าได้ยินคำนี้เข้าก็อาจคิดมากได้ นางแท้งแล้วเกี่ยวอะไรกับ เจ้า เป็นนางเองชัดๆ ที่ไม่ได้เรื่องสักนิด ไม่เพียงลงมืออำมหิต กับจีนจังข้า กระทั่งครรภ์ตัวเองก็ยังรักษาไว้ไม่ได้ นางใกล้จะ สามสิบแล้ว และนี่ก็ไม่ใช่ท้องแรก ยิ่งไม่ใช่เด็กสาวที่ไม่เคย คลอดลูกมาก่อน แต่กลับไม่ระมัดระวังตัวเอง! แสดงให้เห็นว่า นางไม่ใส่ใจเรื่องสืบทอดสกุลอวิ๋นเรา! เฮ้อ…นึกแล้วข้า เกลียดนัก เด็กอยู่ดีๆ ก็ถูกนางทำให้ตายเสีย
หวงน้าถอนหายใจออกมาทีหนึ่ง แล้วรีบเข้าไปบีบนวดที่ ไหล่ของหญิงชรา พูดปลอบโยนพลางไม่ลืมที่จะเหยียบไปเส
“ท่านแม่ น้องรองยังหนุ่มอยู่ สามสิบกว่าเอง ยังไม่ถึง สิบ ยังไม่แก่สักหน่อย ตาแก่ข้าเมื่อปีกลายยังมีอาชิงเพิ่มให้ ท่านได้ ท่านใยต้องร้อนใจไป มิใช่ยังมีอนุฟางหรอกหรือ แม้ นางไม่น่าดึงดูดใจและมีเสน่ห์อย่างน้องสะใภ้ แต่หน้าอกใหญ่ บั้นท้ายสะบึม น่าจะติดลูกง่ายคลอดง่าย หรือถ้ายังไม่สำเร็จ ท่านก็ยังอยู่ในเมืองหลวง ไม่มีทางกลับในเร็วๆ นี้แน่ เมืองหลวงมิใช่มี…สมาคมมาผอม [1]อะไรหรอกหรือ ในนั้นมีสาวๆ ที่สะอาดบริสุทธิ์ สามารถมีลูกได้ ไว้ขายให้คนนำไปเป็นอนุ มากมาย ถึงตอนนั้นท่านแม่ก็เลือกอนอีกคนให้น้องรอง น้อง รองจะได้มีทายาทสืบสกุลเพิ่ม รับรองว่าปีหน้าต้องมีเด็กกอง หนึ่ง มาเรียกท่านว่าท่านย่าแน่
“เจ้านะเจ้า ปากหวานจริงๆ” ถึงฮูหยินถูกแซวจนอารมณ์ดี ขึ้นมาก สะใภ้ใหญ่พูดไม่ผิด เมื่อตนมาที่นี่ทั้ง
ที ก็ควรทำอะไรดีๆ ให้เจ้ารองบ้าง สมาคมมาผอม? วัน หลังต้องไปดูสักหน่อย
ทว่านางอารมณ์ดีได้ไม่ทันไร พอนึกถึงเรื่องสะใภ้ไปคิด ฆ่าอนจิ้นจัง ก็ไม่สบายใจอีก วางถ้วยชาร้อนที่สะใภ้ใหญ่ใน ให้ลงบนโต๊ะอย่างโมโห
“สะใภ้ไปนี่ ทำข้าอารมณ์เสียจริงๆ! คนที่สวยแต่รูปแบบ นี้ มีคุณสมบัติเป็นฮูหยินรองเจ้ากรมรี! เฮอะ ข้าว่าเจ้ารองเรียน เก่ง สอบเป็นขุนนางได้ก็จริง แต่เรื่องเลือกเมียใหม่กลับมึน เลือกนางมาได้อย่างไร
หวงน้าสี่เห็นหญิงชราบ่นถึงไปเสงี่ยฮุยมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ ลอบดีใจ แต่ไหนแต่ไรมา มีสามีภรรยาคู่บ้างที่สามารถ เอาชนะการแทรกแซงของแม่สามี นับประสาอะไรกับไปเส วียฮุยในตอนนี้ ที่ไม่ได้เป็นคนโปรดอันดับหนึ่งของน้องรอง แล้ว จึงเปลี่ยนความคิด ฉวยโอกาสใช้ไปเสวี่ยฮุยดึงหญิงชรา ให้มาเป็นพวกตนดีกว่า จึงหัวเราะราวกับกำลังคุยเล่นกัน
“ก็อาจใช้ ข้าเคยได้ยินมาว่า การเลื่อนอนุเป็นฮูหยินนั้น โดยทั่วไปไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องตามประเพณี คนจึงมักเอาไปพูด ลับหลัง ซึ่งที่น้องรองปฏิบัติกับน้องสะใภ้เช่นนี้ ถือว่าดีมาก แล้ว เลื่อนนางให้ขึ้นมาเป็นฮูหยิน โดยไม่สนใจคำครหานินทา เพียงแต่น้องสะใภ้ไม่ฉลาดเอง เฮ้อ….ตอบแทนบ้านสกุลอวิ๋น สักนิดก็ไม่มี”
คำพูดนี้โดนใจลงฮูหยินยิ่ง นางกำมือ ทุบโต๊ะ ก่อนด่าว่า ไปเสวี่ยฮุยออกมาอีกชุดหนึ่ง ค่อยนับว่าระบายอารมณ์ออกมา จนหมด
ด้านพี่เฉียว ถูกบ่าวในบ้านลากตัวมาที่ห้องบูชาบรรพชน ขณะฝนตก
ลานหน้าห้องด้านหน้าติดตั้งกระโจมชั่วคราว เอาไว้ใช้ทำ กิจกรรมต่างๆ ตะเกียงน้ำมันซึ่งแขวนไว้ที่หัวเสาส่ายไปมา ทำท่าว่าจะหล่น เปลวไฟในตะเกียงท่ามกลางความมืดและลม ฝนจึงวูบไหวตาม
พี่เฉียวถูกมัดคว่ำหน้าบนเก้าอี้ยาว พอเห็นผู้คุมกฎกล้าม เป็นมัดๆ ถือไม้ตียาวราวหนึ่งศอกเหนือด้ามจับเดินเข้ามา ก็ ตื่นตกใจ
“พี่ชาย คุณหนูใหญ่ว่า ขอเพียงข้าสารภาพ ก็จะลงโทษ สถานเบา ท่านอย่าลืมเป็นอันขาดเชียว! เข้าไม่ได้ก็พอ
ผู้คุมกฎสบตากับบ่าวที่ยืนอยู่อีกด้านในกระโจม แล้วชาย กำยำทั้งสองคนก็หัวเราะขึ้นพร้อมกัน รอยยิ้มของทั้งสองขณะอยู่ใต้แสงสีส้มของตะเกียง ร้ายกาจและมืดมนสุดจะเปรียบ ทำให้พี่เฉียวรู้สึกหนาวเหน็บ
“ยังคิดจะรับโทษสถานเบา? เจ้าลองไปถามแต่ละบ้านดูซิ ว่า มีบ้านไหนที่บ่าวคิดฆ่านายแล้วถูกลงโทษสถานเบาบ้าง คุณหนูใหญ่พูดว่า ถ้าเจ้าพูดความจริง ก็จะทรมานน้อยลง ไม่ ได้พูดว่าต้องตีให้น้อยลง บ่าวคนหนึ่งหัวเราะ
“ก็ไม่ต่างอะไรกัน…ทรมานน้อยลง ก็คือลงโทษสถานเบา ตีให้น้อยลงไง!” พอพี่เฉียวเห็นไม้ยื่นเข้ามาใกล้ ก็ร้องเสียง ดัง แหวกเสียงฝน
ผู้คุมกฎจึงพูดดูถูก “ที่คุณหนูใหญ่ว่า ทรมานน้อยลงก็คือ ตีให้หนักหน่อย ส่งเจ้าให้ขึ้นสวรรค์ก่อนห้าสิบไม้ของผู้อาวุโส คุณหนูใหญ่ดีกับเจ้าจริงๆ นา เห็นอกเห็นใจเจ้าแบบนี้ ยังไม่ สํานึกบุญคุณอีก!”
พี่เฉียวเบิกตากว้าง “คุณหนูใหญ่…” เล่นลิ้นกับตน
บ่าวอีกคนมองมาอย่างดุดัน บอกใบ้ว่าไม่ต้องพูดจาไร้ สาระกับคนตายแล้ว
“เจ้าเฉียว ข้าว่านะ เจ้านะโง่มาทั้งชีวิต ซึ่งเขียนบนเรือ สำราญว่านชุนถูกเจ้าซื้อตัวมา นับว่านางได้ดื่มความสุข อย่างเต็มที่แล้ว!”
ผู้คุมกฎหัวเราะเยาะอย่างมีเลศนัย ก่อนเปลี่ยนสีหน้า ยก ไม้ฟาดลงไปแรงๆ!
นอกห้องบูชาบรรพชนของบ้านสกุลอวิ๋นอันเงียบสงัด เสียงร้องโหยหวนแทรกเสียงไม่กระทบเนื้อ ท่ามกลางพายุฝน ในค่ำคืนฤดูใบไม้ร่วง จึงดังเป็นพิเศษ
ยังไม่ถึงสิบไม้ เสียงร้องอันน่าสังเวชใจก็เบาลง จากนั้นก็ ค่อยๆ หายไปในความมืดแห่งรัตติกาล
ไม่ไกลจากห้องบูชาบรรพชน หงเขียนยืนถือร่มข้างพุ่มไม้ ใหญ่ คิ้วโค้งปลายดั่งต้นหลิวของนางขมวดเข้าหากัน เสียงฝน ดังเปาะแปะอยู่ข้างเท้า กระเด็นใส่กระโปรงจนเปียกแฉะ นาง ถอนหายใจยาวๆ
ตอนเห็นพี่เฉียวถูกลากตัวมา หงเขียนก็รู้แล้วว่า เขาจบ สิ้นลงแล้ว เสียอย่างก็ตรงที่เขายังหวังอยู่ว่าครั้งนี้อาจรอดชีวิต ไปได้ เขาไม่เห็นหรือไงว่า รอยยิ้มของคุณหนูใหญ่บ้านอน แฝงเจตนาสังหารอยู่
หงเยียนฉวยจังหวะที่บ้านสกุลอวิ๋นยุ่งวุ่นวาย ไม่มีใคร สังเกตเห็น เดินเงียบๆ มาที่นี่
นางมิได้มีความรักอะไรในตัวพี่เฉียว และไม่เพียงไม่รัก ยังแค้นมากด้วย
เดิมที ซึ่งเขียนเป็นลูกสาวขุนนางฝ่ายบู๊ชั้นล่างในแนว หน้า ซึ่งรบแพ้แคว้นเหมิงหนูเมื่อหลายปีก่อน ทำให้ต้าเซวียน สูญเสียดินแดนส่วนหนึ่งไป ผู้บัญชาการในสนามรบทุกคนใน ตอนนั้น จึงถูกกังขังหรือไม่ก็ถูกสังหาร
โชคไม่ดี บิดานางเป็นหนึ่งในนี้
ส่วนนางกับครอบครัวถูกเนรเทศไปที่ทะเลทรายทางตอน เหนือ ระหว่างเดินทาง คนในครอบครัวพากันล้มตายไปทีละ คนสองคน นางอาศัยปณิธานอันแน่วแน่และจิตวิญญาณอัน เข้มแข็งเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลงและความทุกข์ทรมาน จนรอดชีวิตมาได้
ตอนใกล้ถึงสถานที่ร้างราผู้คน หรือก่อนเข้าสู่ทะเลทราย นรก ไม่รู้ว่านางโชคดี หรือโชคร้ายกันแน่ ผู้มีหน้าที่ควบคุม และนำส่งครอบครัวขุนนางนักโทษคนหนึ่งเกิดโลภ แวะเข้า บ่อนและเสียพนันไปมาก พอเห็นหงเขียนหน้าตาดี จะส่งไป ทำงานหนักในทะเลทรายก็เท่ากับเสียของไปเปล่าๆ จึงลอบน่า ตัวนางออกมา เปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามเสียใหม่ ให้หลุดจาก ชื่อนักโทษ แล้วขายนางให้กับพ่อค้าคนกลางเป็นการส่วนตัว หลังจากชะตาชีวิตพลิกไปพลิกมาอยู่หลายตลบ นางก็ถูกขาย ให้กับเรือสำราญว่านชุน ในเมืองหลวง
ตั้งแต่ขึ้นมาอยู่บนเรือสำราญว่านชุน หงเขียนก็ใช้ความ ฉลาดและความกล้าหาญต่อสู้กับแมงดามาตลอด จนไม่ต้อง เข้าห้องกับแขก โดยยอมใช้แรงงานเป็นเวลาสิบชั่วยามใน ทุกๆ วัน นั่งดื่มเป็นเพื่อนแขกและทนให้แขกแต๊ะอั๋งนิดๆ หน่อยๆ แต่ให้ตายอย่างไรก็ไม่ยอมก้าวเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย หรือทำลายแนวป้องกันสุดท้ายของตัวเอง
นางถือกำเนิดในครอบครัวทหาร จึงฝึกวรยุทธ์กับบิดามา แต่เด็ก มีพลังและแรงมากอยู่ ทุกครั้งที่พวกแมงดาทั่วไปในหอนางโลมนางไม่ได้ ก็จะจับนางมัดและเฆี่ยนตี นางจึงต้อง กัดฟันทน ถึงเจ็บก็ไม่ร้องสักแอะ
พอแมงดาตัวพ่อบนเรือสำราญว่านซุนเห็นนางดื้อด้าน ก็ เกรงว่าวันหนึ่งวันใด ถ้านางคิดไม่ตก กัดลิ้นตัวเองหรือผูกคอ ตายขึ้นมา เงินที่ลงทุนไปก็เท่ากับเสียเปล่า จึงไม่บีบบังคับนาง ชั่วคราว
จนถึงวันนั้น วันที่พี่เฉียวขึ้นเรือมาแล้วถูกใจนาง จึงนำ เงินที่มีอยู่ในบ้านทั้งหมดมาวาง บอกว่าอย่างไรก็จะเปิดห้อง กับนาง เหล่าแมงดาเห็นเงินก็ตาลุกวาว ไม่ยอมตามใจหง เขียนอีก แต่พอรู้ว่านางไม่เชื่อฟัง คืนนั้นก็แอบผสมยาให้นาง ดื่ม แขนขานางจึงอ่อนแรง ต่อสู้ไม่ได้ พี่เฉียวจึงสมปรารถนา ในที่สุด
แม้รู้ว่า เมื่อเป็นคนของหอนางโลม ก็ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะ มีวันนี้ แต่พอตื่นขึ้น หงเขียนก็ยังคงเกลียดชังพี่เฉียว
เนื่องจากนางพยายามรักษาความบริสุทธิ์มาโดยตลอด แต่กลับถูกพี่เฉียวทำลายจนหมดสิ้น และต่อให้แทงพี่เฉียวตาย ทุกอย่างก็กลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีก นางยังต้องถูก ตัดสินประหารชีวิต จึงต้องอดทนไปก่อน
ซึ่งต่อมา หงเขียนก็ถูกไถ่ตัว แล้วถูกพาไปไว้กับป้าสี่ของ พี่เฉียวชั่วคราว นางจึงตัดสินใจว่า ถ้าวันใดสบโอกาส ต้อง หนีออกไปแน่ ไม่คิดว่า วันนั้น ในที่สุดก็มาถึง
[1] สมาคมมาผอม () สมาคมฝึกฝนหญิงสาว อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
บริสุทธิ์ให้เป็นอนุภรรยา สำหรับผู้ที่อยากมีอนได้คัดเลือก
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ