ตอนที่ 69-1 แสดงเป็นนางจิ้งจอก
อนหวานชิ้นทอดถอนใจ แม่เล็กฟางไหนเลยจะคาดคิดว่า รัชทายาทที่นางชื่นชมนักชื่นชมหนา ความจริงแล้วเป็นเจ้านาย ที่ทำอะไรไม่เหมือนเจ้านายคนอื่น
กับอิสตรี เขาย่อมอ่อนโยนละมุนละไมด้วย แต่ต้องอยู่ใน เงื่อนไขที่ว่า ห้ามรบกวนเวลาดูละครของเขา
อนหว่านลงร้องไห้เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ
รัชทายาทก็ยิ่งขุ่นเคืองใจ จนใบหน้าแดงไปหมด และอด ไม่ได้ที่จะทุบอกตนเอง
“ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นว่าเจ้าเป็นผู้หญิง เจ้าแหลกคามือเรา
เสียงร้องไห้ทำให้ผู้หญิงสกุลออื่นที่อยู่ห้องข้างๆ ตื่น
ตระหนก
อนุฝางวิ่งออกมาก่อน พอเห็นประตูห้องข้างๆ เปิดอ้าซ่า เห็นลูกสาวของตนนั่งร้องไห้กระซิกๆ อยู่กับพื้น ส่วนรัชทายาท ก็หน้าแดงถึงใบหู ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกปีติยินดี คิดว่าเรื่องสำเร็จ แล้ว จึงก้าวเข้าไปกอดลูกสาวไว้ แล้วแสร้งทำเป็นตกอกตกใจ “เป็นอะไรถึงเอ๋อร์ เกิดอะไรขึ้นระหว่างเจ้ากับรัชทายาท…
เมี่ยวเอ๋อร์หัวเราะเยาะ แล้วจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้อนุฟางฟังคร่าวๆ จากนั้นก็รอดูว่านางจะมีปฏิกิริยาเช่นไร
และเมื่ออนุฟางฟังจบ สีหน้าของนางก็ราวกับดื่มน้ำ ปัสสาวะเข้าไป ทั้งม่วงทั้งเขียว อีกทั้งเต็มไปด้วยความเสียใจ แต่พอได้สติ ก็รีบดึงมือลูกสาวให้คุกเข่าลง พลางพูดวกไปวน มา
“รัชทายาทเพคะ คุณหนูสามไม่ประสีประสา ขอทรงอภัย ให้นางด้วย รัชทายาทเพคะ”
ไปเสงี่ยฮุยดูถึงตรงนี้ ก็เข้าใจเรื่องราวแล้ว จึงยิ้มเย็นชา ออกมา ที่แท้ฟางเย่ว์หรงพาลูกสาวออกนอกห้อง ก็เพื่อมาทำ เรื่องลับๆ ล่อๆ ที่น่าอายเช่นนี้นี่เอง ล่อลวงกระทั่งรัชทายาท สงสัยไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วมั้ง แต่ที่สำคัญคือ อนุฟางล่วงเกิน รัชทายาท สกุลอวิ๋นย่อมปัดความรับผิดชอบไม่พ้น ไปเสงี่ยฮุย จึงยังคงถอนสายบัว แล้วพูดอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
“เป็นเพราะหม่อมฉันเข้มงวดกวดขันได้ไม่ดีพอ คุณหนู สามถึงได้ล่วงเกินรัชทายาท ขอทรงประทานอภัย หลังจาก กลับถึงบ้าน หม่อมฉันต้องลงโทษนางตามกฎของบ้านแน่!
หวงน้าสู่จูงมือเด็กทั้งสองยืนดูอยู่ห่างๆ คิดว่า กำลังดู ละครสนุกๆ เรื่องหนึ่ง
รัชทายาทเหลือบมองอวิ๋นหว่านถึงที่กำลังสะอึกสะอื้น แล้วจึงหันมองอวิ๋นหวานชื่น ความเดือดดาล ในใจค่อยคล้าย น้ำในทะเลสาบที่กระเพื่อมเมื่อถูกลมพัด นับว่าสงบนิ่งลงบ้าง จึงนวดหน้าอกไปมา แต่ก็ยังไม่สบอารมณ์เล็กน้อย เหมือนเด็กๆ ก็มิปาน ริมฝีปากบางๆ ยื่นยาวออกมาจนเกือบจะแขวน ของได้
“คุณหนูอนว่าอย่างไร เราก็อยากจะเห็นแก่เงินและคุณ หนูอขึ้นเหมือนกัน แต่เราก็ยังรู้สึกไม่พอใจที่ไม่ได้ดูละครฉาก นั้น!”
ปากตรงกับใจเสียจริงนะท่านรัชทายาท อวิ๋นหวานชื่นยก มุมปากข้างหนึ่งขึ้น
แต่ก็ยังดี ที่เขาดูตาม้าตาเรืออยู่บ้าง ไม่ได้เรียกตนว่าชิ้น เอ๋อร์ต่อหน้าผู้อื่น หาไม่แล้ว ต่อให้มีร้อยลิ้นก็ไม่
สามารถอธิบายให้ชัดเจนได้
อนหวานชื่นกลอกตากลมๆ ไปมา กวาดตามองอวิ๋น หว่านลง แล้วยิ้มบางๆ
“เมื่อคุณหนูสามทำให้รัชทายาทพลาดชมการแสดง ก็ ต้องให้คุณหนูสามแสดงให้รัชทายาทดแทน ไม่ทราบว่าเช่นนี้ พอจะทำให้รัชทายาทอารมณ์ดีขึ้นหรือไม่เพคะ”
“โอ้? เจ้าลองว่ามาชิ” พอรัชทายาทได้ยิน ก็สนใจทันที หน้าที่อยู่ แดงกลับมาหลายส่วน ขณะบอกให้นางพูดต่อ
“ฮือๆ…หม่อมฉัน หม่อมฉันเล่นละครไม่เป็นเพคะ” อวิ๋น หว่านลงแอบอยู่ในอกอนุฟาง เหมือนกระต่ายน้อยที่ยังไม่หาย ตื่นตกใจ
“คุณหนูสาม ได้โอกาสทำคุณไถ่โทษให้รัชทายาทแล้วยังเลือกนั่นเลือกนี่อีก?” สวมเงินยืนพูดด้วยท่าทีสบายๆ อยู่ Gานช้าง
ไปเสงี่ยฮุยถลึงตามองมา อวิ๋นหว่านลงจึงเงียบเสียงลง
อวิ๋นหว่านในชี้ไปที่เวทีด้านล่าง “หม่อมฉันดูลำดับการ แสดงในวันนี้แล้ว เรื่องต่อไปเหมือนจะเป็นเรื่อง สังหารปีศาจ จิ้งจอก เช่นนั้นก็เพิ่มตัวละครตัวหนึ่ง แทรกเข้าไปให้คุณหนู สามเล่น”
“สังหารปีศาจจิ้งจอก? เรื่องนี้ดี! นักเขียนเขียนได้เก่งมาก บทละครก็สนุกน่าติดตาม! แต่…นางจะแสดงเป็นใครล่ะ” รัชทายาทลูบคางไปมาอย่างใจจดใจจ่อ
เรื่อง สังหารปีศาจจิ้งจอก เป็นนิยายยอดนิยม ในยุคนี้ เริ่มมีชื่อเสียงเมื่อปีกลาย เป็นนิยายที่โรงละครทุกแห่งต้องนำ มาทำเป็นละคร เพราะผู้คนแห่มาชมกันเต็มทุกรอบ บทละคร มีชื่อเสียงไม่แพ้กัน เสียดายที่ไม่ทราบแน่ชัดว่าใครเป็นผู้แต่ง มิฉะนั้นเขาย่อมโด่งดังเป็นพลุแตก ชนิดเจ้าของโรงละครไม่รู้ มากมายเท่าไหร่ต้องตามตัวให้มาเขียนบทละครกันวุ่นวาย
โดยนิยายประเภทเทพนิยายพื้นบ้านนี้ เล่าเกี่ยวกับสามี ภรรยาคู่หนึ่ง ที่แม้มีฐานะยากจน แต่ก็รักใคร่ปรองดอง พึ่งพา ซึ่งกันและกัน ชายหนุ่มนั้น หน้าหนาวก็ห่มผ้าให้หญิงสาว หน้า ร้อนก็จุดยากันยุงให้ ปีไหนที่แห้งแล้ง ก็ไม่สนใจตัวเอง ยก อาหารที่มีอยู่ให้หญิงสาวทั้งหมด สรุปก็คือ รักภรรยามาก ส่วนหญิงสาวก็พยายามเก็บเงินให้ชายหนุ่มนำไปใช้สอบขุนนางในเมืองหลวง เข้าออกไปทำงานในไร่ เย็นกลับมา ทํางานบ้านต่อ เหน็ดเหนื่อยจนสายตัวแทบขาด
ทว่าขณะชายหนุ่มเร่งรีบเดินทางไปสอบ ก็ได้พบกับสาว สวยในคราบปีศาจจิ้งจอกแปลงกายมา นางมองออกว่าชายผู้ นี้คือดาวนำโชคมาจุติ ต่อไปต้องเจริญรุ่งเรืองอย่างแน่นอน นางอยากดื่ม เกียรติยศชื่อเสียงและความมั่งคั่ง จึงเนรมิต ภาพมายา พร้อมหว่านเสน่ห์ล่อลวง จนชายหนุ่มค่อยๆ หลงใหลจนถอนตัวไม่ขึ้น ลบภาพทรงจำของความรักที่มีต่อ ภรรยาจนหมดสิ้น
หลังจากสอบผ่าน ชายหนุ่มก็ตั้งรกรากในเมืองหลวงเป็น ขุนนางใหญ่ฝ่ายบัน โดยไม่สนใจว่ายังมีภรรยาอีกคนหนึ่งใน ชนบทอยู่ ส่วนปีศาจจิ้งจอกก็สมปรารถนา กลายเป็นสาวงาม เคียงข้างบัณฑิต หรือฮูหยินขุนนางที่ถูกต้องตามกฎหมาย
หญิงสาวเข้าเมืองตามหาสามี ถึงได้รู้ว่าสามีถูกเสน่ห์ ยาแฝด ตัวนางเองยังถูกปีศาจจิ้งจอกลอบสังหารในทุกวิถี ทาง ทว่าด้วยความช่วยเหลือของนักพรตเฒ่า หญิงสาวจึง รอดพ้นภยันตรายมาได้ และสุดท้ายก็สังหารปีศาจจิ้งจอก สำเร็จ เผยร่างจริงของมันให้ทุกคนเห็น
สุดท้าย พอชายหนุ่มฟื้นคืนสติ ก็เสียใจในสิ่งที่ทำลงไป จึงจัดเกี้ยวขนาดใหญ่ชนิดแปดคนหาม และบ่าวอีกนับร้อย ไป รับภรรยาให้มาอยู่ในจวนขุนนางด้วยกัน โดยจัดงานแต่งงาน อย่างใหญ่โตขึ้นอีกครั้ง ทุกคนต่างยินดีปรีดา จบบริบูรณ์ อย่างมีความสุข
อนหวานชื่นยิ้มอย่างมีเลศนัย ก่อนตอบกลับรัชทายาท
“พระนางบทสนทนามากเกินไป ในระยะเวลาอันสั้น คุณ หนูสามไหนเลยจะท่องจำได้ทั้งหมด ย่อมต้องแสดงเป็นปีศาจ จิ้งจอกแล้ว”
“ดี! ดี!” รัชทายาทปรบมือ ก่อน โบกมือเรียกคน “พานาง ไปแต่งหน้า เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเอาขึ้นเวที
อนหว่านลงยังไม่ทันแม้แต่จะร้อง ก็ถูกผู้คุ้มกันลากตัว ออกไปแล้ว
“ไม่ได้นะเพคะ ไม่ได้” อนุฟางเพิ่งได้สติ จึงร้องขึ้น “คุณ หนูจวนรองเจ้ากรมที่สง่างาม จะขึ้นเวทีไปเป็นนักแสดงได้ อย่างไรกัน ถ้ามีคนรู้เข้า ต่อไปจะมีหน้าพบใครได้อีก!
พลางคิด นี่มิสู้กลับบ้าน ปิดประตูเฆี่ยนตีไม่ดีกว่าหรือ คนแสดงละครเป็นพวกเต้นกินรำกิน เป็นชนชั้นล่าง ระดับเดียว กับนางโลมหอโคมเขียว แต่อนหว่านลงเป็น…เป็นความหวัง หนึ่งเดียวของนาง ถ้าขึ้นเวทีแสดงละคร ต่อไปใครเขาจะ แต่งงานด้วย
อนหวานชื่นจึงว่า “แม่เล็กคิดมากไปแล้ว ตอนอยู่บนเวที นักแสดงแต่ละคนแต่งหน้าแต่งตากันอย่างหนา ขอเพียงท่าน ไม่ตะโกนเรียกเปะปะ ก็ไม่มีใครดูออกหรอก
อนุฟางรีบเอามือปิดปาก ไม่ส่งเสียงอีก
ไปเสวี่ยฮุยเหลือบมองฟางเย่ว์หรง ก่อนแค่นเสียงเย็นชา
หี ถูกเด็กสาวอายุสิบกว่าขวบเล่นงานเสียจนอยู่หมัด ขาย
หน้าจริงๆ แบบนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเหยียบซ้ำแล้ว จึงหันกาย กลับไปดูละครต่อที่ห้อง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ