ทานอาหารมื้อนี้อย่างช้าๆ เธอละเอียดลิ้มชิมรส จริงๆแล้วอาหารเหล่านี้อาจไม่ใช่เพราะรสชาติที่ดีเพียงอย่าง เดียว แต่เพราะว่าเมนูเหล่านี้ล้วนเป็นเมนูที่เธอชอบทานเมื่อ ตอนยังเป็นเด็ก ความของเธอถูกว่าอย่างนั้น เมื่อโตขึ้นก็ย้อนกลับไปคิดถึงรสชาติที่คุ้นเคยนั้น
ก็เหมือนกับอาหารเหล่านี้ ที่มนต์ตรีทำให้เธอนึกถึง เรื่องราวมากมาย คุณแม่ คุณน้ารนารีย์ อีกทั้งความสุขที่ เคยมีเมื่อตอนยังเป็นเด็ก
วีร้องไห้?”
สายตาของมนต์ตรียังไม่ละออกไปจากใบหน้าของจารวี แม้แต่วินาทีเดียว เธอทานอาหารไปเรื่อยๆ อยู่ๆน้ำตาไหล ออกมา
เขายื่นกระดาษทิชชูให้เธอยังห่วงใย จารวีรับกระดาษ มาซับน้ำตา พลางฉีกยิ้ม
“คงเพราะไม่ได้กินเผ็ดนาน น้ำตาก็เลยไหลน่ะค่ะ
งั้นก็ไม่ต้องกินแล้ว ดื่มซุปไก่นี่ดีกว่า” ”
มนต์ตรียื่นซุปไก่ไปตรงหน้าของจารวี พลางเพลงที่ถ้วย ใบเล็กของเธอ
เมื่อสุรีย์วัลย์เห็นมนตรีเอาใจใส่จารวี พลันความหวังในใจ ของเธอก็ประทุขึ้นมาเล็กน้อย
ในตอนที่เธอเคยอยู่ใกล้ชิดสนิทสนมกับเขา ก็ยังไม่เคย เห็นเขาเอาใจใสใครขนาดนี้มาก่อน
แต่ถึงเป็นเช่นนี้สุริย์วัลย์ก็ยังรักเขาอย่างไม่มีข้อแม้ รัก เขาทั้งหมดของหัวใจ
“อืม ไม่เป็นไรแล้วค่ะพี่มนต์ อิ่มแล้ว “จาร ลุกขึ้นยืน เธอ ไม่อยากทานต่อไปแล้ว
ว้ เราออกไปดูโทรทัศน์กันเถอะ!”
อังคณาวางจานกับตะเกียบลง พลางจูงมือของจาร ออก ไป
ในห้องอาหารจึงเหลือเพียงแค่มนต์ตรีกับสุรีย์วัลย์
“มนต์ สรีย์วัลยจ้องมองมนตรี พลันดวงใจของเธอก็นึก ย้อนไปถึงความทรงจําอันลึกซึ้ง ที่สองคนเคยได้อยู่ด้วยกัน พลันความปวดร้าวในหัวใจของเธอก็พรั่งพรูออกมา ทําให้ นํ้าตาของเธอแทบจะไหล
ว่าไง”มนตรีทานข้าวอย่างสุภาพเรียบร้อย ดวงตาสี น้ำตาลของเขาจ้องมองไปยังด้านหน้า ไม่รู้ว่าในใจกำลังคิด อะไรอยู่
“มนต์ ฉันรู้ว่าฉันเคยทําผิด ความผิดของฉันมันไม่น่าให้ อภัย แต่ฉันก็จมอยู่กับความทุกข์ทรมาณที่ตัวเองเคยก่อไว้ มานานมากๆ คุณจะให้อภัยฉันได้ไหม?คุณหนูที่เคยเย่อหยิ่ง และชอบวางอ่านาง ยอมศิโรราบ ต่อหน้าคนรักของตัวเอง
มนต์ตรีเงยหน้าขึ้นพลางยิ้มอย่างอ่อนโยน วัลย์ คุณรู้ว่าฟวเอง ดแล้วหรอ?”
คะ ต่อไปนี้ฉันจะไม่ทําร้ายจารอีกแล้ว ได้โปรดอภัยให้ ฉัน พวกเรามาคืนดีกันใหม่ได้ไหม?”สุรีย์วรรณเอยอย่างร้อน ใจ
ในตาของมนต์ตรี ขลับ เขาพยักหน้ารับเบาๆ โอเค
ถึงแม้น่าเสียงของเค้าจะหลบต่ำ แต่ก็จุดประกายหัวใจ ตายด้านของสุริยวัล ให้มีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
สุริยวัล วางตะเกียบในมือลง พรางโผเข้าสู่อ้อมกอดของ มนต์ตรี เบ้าตาทั้งสองข้างเต็มไปด้วยน้ำตา สองมือของเธอ กอดเขาไว้แน่น เธอได้กลิ่นกายที่คุ้นเคยจากอ้อมกอดของ เขา เธอรู้สึกได้ถึงความอบอุ่น เธอรักเขา รักเขา อย่างสุด หัวใจ
“มนต์ คุณรู้มั้ยว่าฉันรอวันนี้มานานมากๆ ฉันคิดถึงคุณ ทุกๆ คืนฉันเอาแต่คิดถึงคุณ คิดถึงช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน คิดถึง เสียงที่คุณเคยพูด คิดถึงสายตาของคุณ แต่ว่า ไม่ว่าฉัน จะคิดถึงคุณแค่ไหน แต่พอท้องฟ้าสว่าง ฉันก็ต้องทนทุกข์ ทรมานกับความจริงที่ว่าฉันเสียคุณไปแล้ว ฉันรับไม่ไหว ฉัน รับไม่ไหวจริงๆ”
หยดนํ้าตาแห่งความตื้นตันใจ ไหลลงมาอาบสองข้างแก้ม เขาใช้นิ้วมือเช็ดน้ำตาให้เธอเบาๆ
ไม่ต้องร้องแล้ว เราคืนดีกันแล้วไม่ใช่หรือไง? มนตรีเอ่ย เสียงเรียบ
สุริย์วัลย์ยิ้มทั้งน้ำตา เธอใช้มือเช็ดน้ำตาออกไป”มนต์ฉันรู้ว่าจะราวคือน้องสาวของคุณ ต่อไปนี้ฉันจะรักเขาเหมือน ที่คุณรัก คุณเขื่อนนะ”
ความเจ็บปวดปรากฏออกมาจากนัยน์ตาของมนต์ตรี เขา เงยหน้าขึ้น พลางเสมองออกไปด้านนอก
“คุณไปทานข้าวต่อเถอะผมยังมีธุระที่ต้องจัดการ”
เขาดันเธอออกเบาเบา พลางหันหลังเดินไปยังห้องครัว
สุริยวัลย์ตะลึงงัน คว้ากระเป๋าพลางวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ เธอถูกความสุขมากมายถาโถมเข้าใส เธอจึงจําเป็นต้องหา วิธีทําให้จิตใจของตัวเองสงบลง
ในเวลากลางคืน จารวีนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนสํารอง เพียงคนเดียว เธอจมอยู่กับความมืด ไม่ได้กดเปิดไฟแต่ อย่างใด สายตาจ้องมองไปยังความมืดมิดบนเพดาน ความ คิดของเธอกวัดแกว่งไปมา
ยศพลจะยอมปล่อยเธอไปไหม? คนบ้านโพธิสูงจะยอม ปล่อยเธอไปหรือเปล่า? แล้วในอนาคตเธอควรจะทําอย่างไร
คําถามมากมายประเดประดังเข้ามาในหัวของเธอจนปวด หน็มไปหมด
เธอลืมตารอให้ฟ้าสว่าง
ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าเบาเบาดังเข้ามาจากหน้าประตู จาร ตกใจเป็นอย่างมาก” ใครน่ะ!!”
พี่เอง ไม่ต้องตกใจนะ เสียงอ่อนโยนของมนต์ตรี ง เล็ดลอดเข้ามา ยังไม่นอนอีกหรอ?”
– มนต์ ดึกขนาดนี้พี่ยังไม่นอนอีกหรอคะ?”จารวีลุกขึ้นนั่ง พลางกดเปิดไฟหัวเตียง
ภายใต้แสงไฟ เธอมองเห็นมนต์ตรีสวมใส่ชดเป็น ระเบียบเรียบร้อย เขายืนอยู่ที่หน้าประตู พลางมองมาที่เธอ ใบหน้าแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มจางๆ
อั้ม พี่มาดูว่า หลับหรือยัง จะถือสาไหม ถ้าพี่จะขอเข้า มาคุยกับ ?
จารวีคิดไปคิดมา พี่มนต์คงจะไปส่งสรี วัลกลับบ้าน ถึง เพิ่งจะกลับมา เธอพยักหน้าช้าๆ
ได้ค่ะ ยังไงก็นอนไม่หลับ”
มนต์ตรีเดินมายังเก้าอีด้านหน้าของจารวี เขานั่งลงพลาง มองเธอด้วยรอยยิ้ม
– ถา คินดีกับสุริยวัลย์ วีจะขับไล่พี่ไปให้พ้นไหม?”
คืออย่างนี้นะคะพี่มลย์ วิก็ต้องอยากให้พี่มีความสุขอยู่ แล้ว ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ใช่พี่ชายแท้ๆของวี วีก็จะอวยพร ”
อวยพรงั้นหรอ? ในใจของมนต์ตรีรู้สึกผิดหวัง ที่สุดแล้ว ก็ไม่มีความรักเข้ามาปะปนเลยแม้แต่น้อย
เธอไม่เคยรักเขาเลย สักนิดก็ไม่มี
หลังจากที่เลิกกัน เธอสามารถลบเขาออกไปจากใจได้ อย่างสะอาดหมดจด แต่เขากลับจมอยู่กับอดีต อย่างถอน ตัวไม่ขึ้น
เขาตั้งใจจ้องมองเข้าไปในดวงตาของผู้หญิงคนนี้
ใบหน้าขาวบริสุทธิ์ผุดผ่อง ดวงตากลมโต ผมยาวสลวย สีดำคลับ เธอนั่งอยู่นิ่งๆตรงหน้าของเขาราวกับตุ๊กตา กระเบื้อง
พลันเขาก็ลุกขึ้นยืน พลางดึงจารวีเข้ามากอดไว้แน่น
* มนต์ พี่จะทําอะไรคะ?”
ให้พี่ได้กอด เป็นครั้งสุดท้ายเถอะนะ”
น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความอ้อนวอน การวิงวอน ขอที่ดูด้อยค่า คนที่ผิดหวังในความรักคนหนึ่งกำลัง อ้อนวอนขอความเห็นใจจากฝ่ายตรงข้าม
ดวงตาคู น อ้อมกอดนั้น รวมถึงรอยยิ้มนั้นของเธอ ล้วน ทําให้เขารู้สึกถึงความสุขอันล้นเหลือ
เขาโน้มตัวไปข้างหน้าและสวมกอดเธอเบาๆ ร่างกายของ ทั้งสองไม่ได้แนบชิดติดกัน
เขาไม่กล้าเข้าใกล้เธอมากเกินไป ด้วยกลัวว่าเธอจะรับ ไม่ได้
ดวงใจของจารวี สั่นไหวเล็กน้อย มนต์คะ ฟีมนต์ของเธอ พี่มนต์ที่ปกป้องเธอมาตั้งแต่วัยเด็ก
เขาร้องขอ อมกอดสุดท้ายจากเธอ
เธอค่อยๆ กางแขนออกช้าๆ พลางกอดตอบเขา
เนิ่นนาน มนต์ตรีคลายมือออกจากการโอบกอดเธอ พลางกลับไปนั่งตรงที่นั่งของตัวเองตามเดิม
เขายิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน ” 3 ให้เรื่องที่ไม่มีความสุข ทั้งหมดมันผ่านไปเถอะนะ รับปากว่า ให้อภัยสุรีย์วัลย์แล้ว เพราะฉะนั้น ต่อไปนี้เวลาอยู่ต่อหน้าพี วีก็ไม่ต้องต่อต้านพี่ แล้วนะ”
จาร รู้สึกละอายใจ ฉันไม่ได้ต่อต้านพี่สักหน่อย พี่แหละ คิดมากเกินไป
“โอเค งั้นวินอนเถอะ “มนต์ตรียืดตัวเต็มความสูง เตรียมตัว ที่จะเดินออกไปจากห้อง
* มนต์ จารวีร้องเรียกเขาไว้
อยากรู้ว่า คุยอะไรกับยศพล? ทําไมเขาถึงยอมให้ ค้างที หนึ่งวัน?”
มนต์ตรีมบางๆ” พี่ก็แค่บอกเขาว่าวีท้อง เพื่อให้เขา ใจเย็น เดี่ยวพรุ่งนี้ตอนเช้าเขาจะมารับ
เวลานี้มีรถโรลสรอยส์สีดำคันหนึ่ง เพิ่งขับมาจอดอยู่ที่ หน้าประตูบ้านของคฤหาสน์มนต์ตรี
ราวกับว่าสายตา คลับของเขา สามารถมองฝ่าความมืด ไปยังจารวีที่อยู่ในห้องได้จารวิถูกเสียงเอะอะโวยวายอย่างรีบร้อมปลกให้ตื่นตั้งแต่ เช้าตรู่ เธอลืมตาขึ้นแล้วพบว่าฟ้าเพิ่งจะสว่างได้ไม่นาน
เสียงของยศพลตะโกนร้องเรียกเธออยู่ที่ด้านนอก” จาร โผล่หัวออกมาเดี๋ยวนี้!!
จารวีเหงื่อตกผู้ชายคนนี้ทําตัวเหมือนเด็กเสียจริง เอะอะ โวยวายมาถึงที่นี่
เมื่อรู้ว่าเธอค้างอยู่ที่นี่ เขาก็ไม่สามารถทำใจให้สงบลงได้
จารวีรีบลุกพรวดพราด ขึ้นสวมเสื้อผ้า พลางดึงประตูให้ เปิดออก มนตรียืนอยู่ที่หน้าประตู เมื่อเห็นเธอเปิดประตูมา เขาก็ตกใจเล็กน้อย พลางก็ถอยหลังไปหนึ่งเก้า” ยังเช้าอยู่ เลย ทําไมรีบตื่นล่ะ?”
จารวีเม้มปากเป็นเส้นตรง” ข้างนอกเสียงดังเอะอะ โวยวายซะขนาดนั้น ถ้าวียังหลับลง วีก็คงจะเป็นเทพแล้วล่ะ ค่ะ!”
เธอสายหัวไปมายังจนปัญญา หลังจากนั้นจึงเดินลงไป ด้านล่าง” ขอโทษนะคะ มนต์ที่สร้างความลำบากให้พี่
หลังจากที่จารวีก้าวออกไปจากประตู อังคณาที่สวมชุด นอนเดินออกมาจากห้องนอนของเธอ
เธอบศีรษะไปมาพลางบ่นอย่างไม่พอใจคุณยศพล น่ากลัวจริงๆ ร้องครามยังกะสิงโต”
จารวีไหวไหล่ พลันเธอก็นึกอะไรขึ้นได้ ทําไมพีมนต์ถึง อยู่ที่หน้าประตูของเธอล่ะ อย่าบอกนะว่าเขายืนอยู่อย่างนั้นทั้งพัน!
จะราวีหันหน้ากลับไปมองเขาใบหน้าของมนต์ตรีถูก ประดับไปด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน เขาสบเข้ากับในตาของเธอ พลางเอ่ยออกมา” หัวหรือยัง? ทานข้าวก่อนแล้วค่อยไป
อังคณา นริมฝีปากพลางเอ่ย” ฉันว่าแกรีบออกไปเดี่ยว นี้เลยเถอะยับ ไม่งั้นเขาคงพังประตูเข้ามาแน่!”
จารวีหันไปยิ้มให้มนตรีอย่างจําใจ” ฉันไปก่อนนะคะ มนต์ ดูแลตัวเองดีๆด้วยนะคะ!”
จารมองเห็นศพลที่กำลังโมโหอยู่ที่หน้าประตู เขาน่าจะ ไม่ได้นอนทั้งคืน ใบหน้าของเขาค่อนข้างด้าคล้า จนทําให้คน ตกใจ
จารวีเดินเข้าไปหาเขาอย่างช้าๆ คนงานดึงประตูรั้วเหล็ก ให้เปิดออก
ยศพลยืนอยู่ที่หน้าประตู ไม่ได้เดินเข้ามาแต่อย่างใด ดวงตาของเขามองมาทีจารรอย่างมืดครึ้ม” ทำไมไม่รีบโผล่ หัวออกมา? อาลัยอาวรณ์ที่นักหรือไง? หรือว่าจะอยากจะ รื้อฟื้นความสัมพันธ์กับมันล่ะ! ”
คําพูดเสียดแทงใจที่ถูกพ่นออกมาของเขา ทำให้จารวี รู้สึกลําบากใจ
เธอหันหน้ากลับไปมอง ก็เห็นมนต์ตรีกับอังคณายืนอยู่ ไม่ห่างจากหน้าประตูใหญ่มากนัก เธอคิดว่าถ้อยคำเหล่านี้ คงจะดังเข้าสู่ใบหูของเขาทั้งสองเป็นที่เรียบร้อย
จาร เ นออกมาอีกเพียงไม่กี่ก้าว ก้าวพ้นบ้านของมนต์ ตรี เธอยืนอยู่ที่ก้านหน้าของยศพล พลางใช้สายตาไม่พอใจ มองไปที่เขา
* คุณใช้คําพูดให้มันดีดีหน่อยได้ไหมยศพล? พี่มนต์คืนดี กับคุณสุรีย์วัลย์แล้ว หรือคูณอยากให้พวกเขาเลิกกันอีก?
ศพลส่งสายตาเกลียด งไปยังมนต์ตรี ผู้หญิงพรรค นั้นน่ะหรอ? ไ มนต์ตรียังจะไปคืนดีกับเธออีกหรือไง เป็นไป ไม่ได้มั้ง!!
ขอร้องล่ะ คุณสุรีย์วัลย์เธอเกิดในชาติตระกูลที่ดี หน้าตาของเธอก็สะสวย ไม่มีเหตุผลอะไรที่ มนต์จะไม่ชอบ เธอ”
ยศพล จูงมือของจารวีเดินไปยังตัวรถ
ถ้าไอ้มนต์มันรักยัยสุรีย์วัลยนะ ฉันยอมเอาหัวให้เธอเตะ เล่นแทนลูกบอลเลย”
ยศพลเอ่ยอย่างดูถูกเหยียดหยาม
แล้วทําไมคุณถึงคิดว่าพี่มนต์จะรักคุณสุรีย์วัลย์ไม่ได้ ล่ะ” ยศพลเริ่มต้นบังคับพวงมาลัยพลางเอ่ยอย่างเย็นชา ใช้ความรู้สึกของผู้ชายด้วยกัน ชัยสุริย์วัลย์วันมีคุณค่าตรง ไหน เขาก็เป็นผู้ชาย เพราะฉะนั้นเขามองตาของมนต์ตรี ออก ว่าไอ้ผู้ชายคนนี้จริงๆแล้วกำลังคิดอะไรอยู่
แต่ไม่ว่าสิ่งที่ไอมนต์ตรีคิดคืออะไร ล้วนเป็นความฝันลมๆ แล้งๆ ไม่มีใครสามารถแย่งจารวีไปจากเขาได้ทั้งนั้น
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ