บทที่33 แผนการของเสิ่นซิ่วฉิง
สองวันก่อนเธอไปที่ดื่มเหล้าคนเดียวที่ผับ แล้วเจอกับ หลินหยู่หานที่นั่น
โต๊ะของทั้งสองอยู่ข้างๆกัน ตอนนั้นหลินหยู่หานก็ดื่มไป เยอะพอสมควรแล้ว เพราะเห็นว่าจงจึงห้าวไม่ได้พิการ และพลาดโอกาสที่จะแต่งงานเข้าตระกูลจง
ไป๋จวู่เวยเลยทำทีเข้าไปตีสนิทด้วย ละได้รู้มาจากเธอว่า นางก็เป็นคนของตระกูลหลินเหมือนกัน และเกลียดหลิน ซินเหยียนเช่นกัน
ไป๋จวู่เวยอยู่กับจงจิ่งห้าวทุกวัน ถ้าเธอลงมือจัดการกับ หลินซินเหยียนเองกับมือละก็ ต้องโดนจับได้แน่ๆ
ดังนั้นในตอนนั้นเธอจึงตัดสินใจที่จะใช้หลินหยู่หานเป็น เครื่องมือ
ถึงแม้หลินหยู่หานนั้นได้มีหน้าตาเหมือนกับเสิ่นซิ่วฉิง แต่กลับไม่มีสมอง สภาพจิตใจของเด็กอายุสิบเจ็ดนั้นไม่ ได้โตขนาดนั้น
ไป๋จวู่เวยนั้นก้าวเข้ามาในสังคมก่อนแล้ว ยิ่งอยู่กับจงจิ่ง ห้าว การพูดนั้นก็ถือว่าไม่เลว
เธอบอกกับหลินหยู่หานว่าตัวเธอนั้นได้ทำงานอยู่ในว่าน เชิงกรุ๊ป สามารถที่จะช่วยเธอจัดการกับหลินซินเหยียน ได้
หลินหยู่หานที่ได้ยินคำพูดโน้มน้าวของไป๋จวู่เวยแล้วก็
ตกลงช่วยกัน และในตอนนี้ที่หลินหยู่หานกลับไปแล้ว ก็ไปพูดความ
เห็นของตัวเองกับเสิ่นซิ่วฉิง
เสิ่นซิ่วฉิงก็กลัวว่าหลินซินเหยียนจะใช้อำนาจมาล้าง แค้นเหมือนกัน
แปดปีก่อน เธอได้ตั้งครรภ์เด็กชายตัวเล็กๆเลยได้ขึ้น มายังตำแหน่ง แล้วเพราะเด็กคนนี้ทำให้เธอนั้นถูกต้อง ตามกฎหมาย ทำให้หลินกั๋วอันส่งสองแม่ลูกนั้นออกไป
ฉะนั้นหลินหยู่หานที่เสนอขึ้น เงินซิ่วฉิงก็ตอบตกลง ทันที
ทั้งสองได้จ้างผู้ชายคนหนึ่ง วางแผนเอาตัว หลินซินเหยี ยนไปที่ที่ไม่มีคน ข่มขืนเธอแล้วถ่ายรูปไว้ ทำลายเธอ ให้ จงจิ่งห้าวนั้นเกลียดเธอ
แต่คิดไม่ถึงว่าเธอนั้นหนีพ้นไปเสียได้
หลินหยู่หานที่ได้รับสายจากไปจวู่เวยก็วิ่งลงตึก อยาก ที่จะคุยกับเสิ่นซิ่วฉิงว่าขั้นต่อไปจะทำอย่างไรกับหลิน ซินเหยียน แต่กลับพบว่าบรรยากาศในห้องรับแขกนั้น ตึงเครียดไปหมด
สีหน้าของหลินกั๋วอันและเสิ่นซิ่วฉิงนั้นไม่ค่อยดีนัก
เธอเดินเข้ามา นั่งลงข้างๆเสิ่นซิ่วฉิง ควงแขนเธอไว้ “แม่ คะ มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
เสิ่นซิ่วฉิงเรียบตึง ไม่พูดอะไร
สีหน้าของหลินกั๋วอันนั้นก็เรียบตึงเช่นกัน เขาพูดขึ้น ด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ผมก็ไม่ได้ให้คุณทำอะไร แค่ให้ คุณขอโทษนาง ให้นางนั้นไม่ถือสากับเรื่องราวในอดีตที่ ผ่านมา ตอนนี้บริษัทกำลังประสบปัญหา ต้องการความ ช่วยเหลือจากนาง!”
พูดให้ถูกก็คือต้องการความช่วยเหลือจากจงจิ่งห้าว
เหมือนว่าหลินซินเหยียนนั้นได้รับความชื่นชอบจากจง จึงห้าว เขาเลยต้องใช้หลินซินเหยียนเป็นตัวช่วย
วันนั้นที่ฟังน้ำเสียงของหลินซินเหยียนแล้ว รู้สึกว่าเธอ นั้นยังคงถือเรื่องในตอนนั้นอยู่
หลินกั๋วอ้นยังคงมีความรู้สึกกับเสิ่นซิ่วฉิง ถ้าไม่ถึงขั้น บานปลายก็ไม่ได้คิดที่จะหย่ากับเธอ
“พ่อคะ พ่อจะให้แม่ขอโทษใครเหรอคะ?” หลินหยู่หาน งงไปหมด
“ลูกก็ด้วย เหยียนเหยียนเป็นพี่สาวของลูก หลังจากนี้ก็ ดีกับนางหน่อย” หลินกั๋วอันมองไปที่เสิ่นซิ่วฉิง “คุณคิด ให้ดีๆละกัน ฉันจะโทรไปหานางเรียกมาทานข้าวเย็นด้วย กัน”
หลินหยู่หานนิ่งไม่ได้เหมือนเสิ่นซิ่วฉิง พอได้ยินว่าให้แม่ ขอโทษหลินซินเหยียนก็ลุกพรวดขึ้นมาจากโซฟาทันที “พ่อคะ ทําไมแม่ต้องขอโทษเธอด้วยคะ?”
ตาของหลินกั๋วอันกระตุกทันที ลูกสาวที่ปกติจะทำตัวน่า รักเชื่อฟังนั้น ตอนนี้กลับเถียงกลับแบบนี้ทำให้เขาชะงัก ไปเล็กน้อย
“ฉันเป็นพ่อของแก มันสมควรแล้วเหรอที่ลูกพูดแบบนี้ กับพ่อน่ะ?” เธอทำให้หลินกั๋วอันโกรธจนได้ “ฉันจะบอก อะไรให้นะ ถ้าคุณยอมพูดขอโทษโดยดี เราก็จะพูดกัน ง่ายหน่อย ถ้าไม่ยอมพูดละก็ งั้นเราก็หย่ากันซะ! ”
ถ้าให้เลือกระหว่างผู้หญิงกับบริษัท เขาเลือกบริษัทอยู่แล้ว
ถ้ามีฐานะในสังคม อยากได้ผู้หญิงแบบไหนที่จะไม่มี?
ไม่มีเงิน ไม่มีฐานะในสังคม แบบนั้นแหละที่เรียกว่าไม่มี อะไรเลย!
“พ่อคะ——”
“หานหาน!” เสิ่นซิ่วฉิงพูดขัดลูกสาวตัวเองขึ้นมา เรื่องนี้ แสดงให้เห็นชัดแล้วว่าหลินกั๋วอันเลือกบริษัท ยังไว้หน้า เธอที่ไหนกัน?
ถ้าเขาจริงจังขึ้นมาก็คงจะหย่ากับเธอจริงๆ
เขาก็เคยเป็นสามีภรรยากับจวงจื่อจิ่นมาตั้งหลายปี ยัง บอกว่าหย่าก็หย่าเลย
หลินหยู่หานโกรธจนกระทืบเท้าลงพื้น“ทำไมล่ะคะ พ่อ? หลินซินเหยียนมันคือใครกัน ทำไมต้องขอโทษเธอ ด้วย?!”
ปัง!
เสียงดังสนั่นไปทั่ว แก้วน้ำบนโต๊ะถูกหลินกั๋วอันขว้าง ออกไป เขามองเสิ่นซิ่วฉิงด้วยดวงตาแดงก่ำ “นี่นะเหรอ ลูกสาวที่คุณสั่งสอนออกมา?”
เจิ่น วฉงรีบลุกยืนขึ้น”กั่วอ้น หานหานคงไม่อยากให้ฉัน เสียหน้า เธอไม่ได้ตั้งใจหรอกค่ะ” พูดแล้วก็ดึงหลินหยู่ หาน “รีบขอโทษพ่อเดี๋ยวนี้”
หลินหยู่หานไม่ยอม เธอไม่รู้สึกว่าตัวเองผิด
“เร็วเข้า!” เสิ่นซิ่วฉิงพูดเสียงดุ ปกติยอมให้ก็แล้วไป ตอนนี้มันอยู่ในสถานการณ์ไหนแล้ว?
เธอทําแบบนี้ ยิ่งจะทำให้หลินกั๋วอันโกรธ พอถึงเวลา โดนไล่ออกจากบ้านจริงๆตอนนั้นแหละแย่แน่!
หลินหยู่หานหายใจฟืดฟัด ไม่ยอมพูด
เสิ่นซิ่วฉิงโกรธจนตีเข้าที่แผ่นหลังเธอทีหนึ่ง “ปกติแม่ สอนลูกแบบนี้เหรอ? รีบบอกพ่อสะว่าลูกผิดไปแล้ว! ”
ตอนที่เสิ่นซิ่วฉิงกำลังพูดนั้นก็ส่งสายตาบอกเธอไปด้วย
หลินหยู่หานก็ยังคงไม่ยอมอยู่ดี แต่พอสังเกตเห็นถึง ความรุนแรงของเรื่องนี้เข้า “พ่อคะ หนูผิดไปแล้วค่ะ”
หลินกั๋วอันคร้านที่จะยืดเยื้อกับทั้งสอง”เตรียมอาหาร เย็นให้หรูหราด้วย”
เขาเดินออกจากบ้านไป แล้วทิ้งคําพูดไว้แค่นั้น ที่บริษัท ยังมีเรื่องมากมายรอให้เขาจัดการ
พอเดินไปถึงตรงประตูก็หันกลับมามองอีกรอบ เรื่องใน บริษัท พวกคุณช่วยอะไรผมไม่ได้ ได้แต่ใช้เงินไปวันๆ ถ้าเรื่องแค่นี้พวกคุณยังทำได้ไม่ดี แล้วพวกคุณจะยังมี ประโยชน์อะไรอีก?”
แท้จริงแล้วหลินกัวอันก็ยังเป็นคนที่โหดเหี้ยมไร้ความ ปราณีอยู่ดี
แม้จะชอบเสิ่น วฉิงก็ตาม
เมื่อยามอยู่หน้าผลประโยชน์แล้วก็ย่อมที่จะสละได้
หลินหยู่หานโกรธจนกัดฟันดังกรอด “นี่พ่อเป็นบ้าไป แล้วเหรอ?!”
เสิ่นซิ่วฉิงทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา บอกอย่างเยาะเย้ยว่า “เขาใช่เป็นบ้าที่ไหนกัน?พ่อของลูกฉลาดจะตายไป ตอน นี้เขาเห็นว่าหลินซินเหยียนนั้นเป็นที่ชื่นชอบของจงจิ่งห้าว เลยอยากใช้เธอเป็นเครื่องมือในการที่จะให้จงจิ่งห้าวช่วย บริษัทเขาพ้นจากช่วยวิกฤต”
ได้ยินดังนั้นแล้วหลินหยู่หานยิ่งโกรธเข้าไปอีก”ถ้าหนู เป็นคนแต่งงานกับจงจิ่งห้าวพ่อก็คงไม่ทำแบบนี้กับเราหรอก!”
เสิ่นซิ่วฉิงมองลูกสาวตัวเอง ลูกสาวเธอก็ไม่ได้แย่กว่า หลินซินเหยียนสักหน่อย
เธอดึงหลินหยู่หานมานั่งลงข้างตัวเอง”ตอนนี้ไม่ใช่เวลา ที่จะมานั่งโมโห”เธอหันไปหาลูกสาวของเธอ”ลูกชอบจง จิ่งห้าวไหม?”
นี่มันพูดเพ้อเจ้อไม่ใช่เหรอ?
หลินหยู่หานที่พอนึกถึงจงจิ่งห้าว บนแก้มของเธอก็ แดงระเรื่อ เธอยังอายุน้อย ยังเก็บอารมณ์ความรู้สึกไม่ ค่อยเก่ง ก้มหน้าด้วยความเขินอาย พูดยอมรับเสียงเบา
เสิ่นซิ่วฉิงจับมือลูกสาวของเธอไว้แน่น“ที่จริงแล้วก็ใช่ว่า จะไม่มีโอกาส”
“โอกาสอะไรเหรอคะ?” หลินหยู่หานดีใจ
ในใจของเสิ่นซิ่วฉิงได้คิดแผนการไว้แล้ว เธอมองไปที่ ลูกสาว“โอกาสอะไรลูกไม่ต้องสนหรอก ลูกแค่มีหน้าที่ แต่งตัวสวยๆก็พอ ที่เหลือปล่อยให้แม่เป็นคนจัดการเอง”
ก่อนเลิกงานหลินซินเหยียนได้รับสายจากหลินกั๋วอัน ว่า ให้เธอกลับไปทานข้าวเย็นด้วยกันที่บ้าน บอกว่าให้พาจง จิ่งห้าวไปด้วย
หลินซินเหยียนไม่รู้ว่าหลินกั๋วอันเกิดความสงสัยหรือไม่ เลยจงใจสบความสัมพันธ์ของเธอกับจงจิ่งห้าว
ถ้าให้หลินกั๋วอันรู้เข้าว่าเธอนั้นไม่ได้รับความชื่นชอบ ของจงจิ่งห้าวละก็ การที่จะแย่งของคืนและแก้แค้นที่เสน ซิ่วฉิงเคยทําร้ายเธอนั้นก็จะยากขึ้น
แต่การที่จะให้จงจิ่งห้าวยอมตกลงกลับตระกูลหลินกับ เธอเหมือนว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
เอกสารฉบับสุดท้ายแปลเสร็จแล้ว หลินซินเหยียน นั่งอยู่ที่โต๊ะ กำลังคิดว่าจะพูดยังไงให้จงจิ่งห้าวยอมกลับ บ้านกับเธอ
เธอนั่งคิดไปนานมาก ก็คิดวิธีอะไรไม่ออกอยู่ดี
ไป๋จวู่เวยเพราะมีหน้าที่ต้องทำเลยไม่ได้อยู่ตำแหน่ง ทำงานของเธอ หลินซินเหยียนใช้โอกาสที่เธอไม่อยู่นี้ เดินเข้าไปคุยกับจงจิ่งห้าว
เธอลุกขึ้นจากที่นั่งตัวเอง รู้สึกว่าเดินเข้าไปแบบนี้ก็ไม่มี เหตุผลอะไรเข้าไป สายตาของเธอเลยไปตกอยู่ที่เอกสารที่เธอแปลเสร็จ ถือขึ้นไว้ในมือ
ปกติแล้วไปจวู่เวย์กันเพื่อไม่ให้เธอกับจงจิ่งห้าวได้มี ปฏิสัมพันธ์อะไรกัน เอกสารที่เธอแปลเสร็จแล้วไป๋จวู่เวย จะเป็นคนเอาเข้าไปให้จงจิ่งห้าวเอง
ถึงหน้าห้องทำงาน เธอยืนสูดหายใจเข้าลึกๆ ถึงจะ ยกมือขึ้นเคาะประตู
ได้ยินคำอนุญาตแล้วเธอถึงจะดันประตูเข้าไป
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ